ตอนที่ 1538 พระตำหนักพักผ่อน
ไป๋ชิงเหยียนวางจดหมายของไป๋ชิงอวี๋ลงบนโต๊ะ จากนั้นเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด หรือว่าเสี่ยวซื่อชอบซือหม่าผิงมากกว่าอย่างนั้นหรือ
ทว่า อาอวี๋ไม่ได้เขียนเล่าเรื่องระหว่างเสี่ยวซื่อกับซือหม่าผิงให้นางรับรู้ในจดหมาย
ไป๋ชิงเหยียนหรี่ตาแคบลง ในเมื่อหลู่หยวนเผิงหมั้นหมายแล้ว เหตุใดเขาจึงติดตามไป๋จิ่นจื้อมาที่ต้าเยี่ยนอีก
นี่คือเรื่องของเด็กๆ ต่อให้ไป๋ชิงเหยียนคือพี่หญิงใหญ่ของไป๋จิ่นจื้อก็ไม่อาจเข้าไปแทรกแซงได้ นางเชื่อว่าเสี่ยวซื่อเป็นคนมีศีลธรรมและเหตุผล ในเมื่อหลู่หยวนเผิงหมั้นหมายแล้ว น้องสาวของนางไม่มีทางเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหลู่หยวนเผิงอีกแน่นอน
ตอนนี้ต้าโจวอนุญาตให้สตรีทำงานในราชสำนักได้ วันหน้าเด็กทั้งสองต้องทำงานร่วมกันอีกนาน คนทั้งสองจะตัดขาดกันเพียงเพราะหลู่หยวนเผิงงเคยชอบเสี่ยวซื่ออย่างนั้นหรือ
เมื่อไป๋ชิงเหยียนคิดได้จึงหยิบจดหมายขึ้นอีกครั้ง นางเผาจดหมายด้วยเปลวไฟของตะเกียงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ หญิงสาวมองไฟค่อยๆ กลืนกินจดหมาย จากนั้นนึกถึงไป๋จิ่นถงขึ้นมา…
ครั้งนี้องครักษ์ลับคนหนึ่งเสี่ยงตายขโมยสูตรยารักษาโรคระบาดที่ต้าเยี่ยนคิดค้นขึ้นได้มาให้ไป๋ชิงเหยียน เขากล่าวว่านี่ไม่ใช่คำสั่งของไป๋จิ่นถง เขาทำลงไปโดยพลการ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนก็ยังไม่วางใจอยู่ดี
ไป๋จิ่นถงอยู่ในเมืองหลวงของต้าเยี่ยนดังนั้นไป๋ชิงเหยียนจึงไม่ได้เป็นห่วงว่าน้องสาวของนางจะติดโรคระบาด ทว่า นางกลัวว่าไป๋จิ่นถงจะเป็นคนสั่งให้องครักษ์ลับนำสูตรยามาให้นาง เช่นนั้นฐานะของไป๋จิ่นถงอาจถูกเปิดโปงได้
หมอของต้าโจวเห็นสูตรยาของต้าเยี่ยนแล้ว พวกเขาคิดว่ายานี้ค่อนข้างแรงเกินไปสำหรับโรคระบาด แม้จะรักษาโรคระบาดได้เช่นกัน ทว่า เป็นการรักษาแบบรีบร้อน ทำให้ร่างกายเสียหายหนักเกินไป สู้ยาที่อ่อนโยนต่อร่างกายซึ่งท่านหมอหงคิดค้นขึ้นมาไม่ได้
ไป๋ชิงเหยียนแสร้งทำเป็นไม่ได้รับสูตรยาของต้าเยี่ยน นางสั่งให้คนนำสูตรยาที่ท่านหมอหงคิดค้นได้ไปแจกจ่ายให้เมืองของต้าเยี่ยนที่อยู่ใกล้เคียงกับเขตการปกครองของต้าโจว นอกเหนือจากความไม่ถึงของเจ้าเมืองและแม่ทัพของเมืองเหล่านั้นแล้ว พวกเขายังรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจและความเมตตาของจักรพรรดินีต้าโจวมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ต้าโจวกำลังเดิมพันกับต้าเยี่ยนอยู่ พวกเขาไม่คิดว่าจักรพรรดินีต้าโจวจะใจกว้างถึงขนาดมอบสูตรยารักษาโรคระบาดให้พวกเขาเช่นนี้
คนที่ไป๋ชิงเหยียนส่งไปบอกกับคนเหล่านั้นว่าต้าโจวรู้นานแล้วว่าหมอของต้าเยี่ยนคิดค้นสูตรยารักษาโรคระบาดได้แล้ว ทว่า ยานั้นมีผลข้างเคียงต่อร่างกายในระยะยาว ส่วนยาของท่านหมอหงอ่อนโยนต่อร่างกายมากกว่า ให้พวกเขาทดลองใช้ดู คนของไป๋ชิงเหยียนยังกล่าวอีกว่าเมื่อหวังว่าสองแคว้นจะควบคุมโรคระบาดให้สิ้นสุดลงหลังสิ้นปีโดยเร็วที่สุด
คนต้าเยี่ยนคิดว่าต้าโจวควรซ่อนสูตรยานี้ไว้เหมือนกับที่ต้าเยี่ยนทำเมื่อได้สูตรยามาถึงจะถูก
นี่คือสิ่งที่ไป๋ชิงเหยียนอยากเห็น
เว่ยจงถือนมหมักเข้ามาด้านใน จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนเสียงเบา
“ฝ่าบาทเสวยสักนิดเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
“ได้…”
ไป๋ชิงเหยียนรับคำ จากนั้นใช้ช้อนเงินตักนมหมักเข้าปากแล้วกล่าวกับเว่ยจง
“ปีใหม่ปีนี้พวกเราคงยังอยู่ในต้าเยี่ยน ทุกคนไม่ได้ฉลองกันอย่างเต็มที่ เดี๋ยวเจ้าไปบอกกับทหารทุกคนว่าเมื่อกลับไปถึงต้าโจวเราจะตบรางวัลให้พวกเขาอย่างงาม!”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยจงรับคำ
“เมื่อสองแคว้นรวมเป็นหนึ่งทุกอย่างจะดีขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า
ชาวบ้านและขุนนางของต้าโจวและต้าเยี่ยนล้วนรอคอยวันที่สองแคว้นรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทว่า แน่นอนว่าทุกคนย่อมอยากให้แคว้นของตัวเองเป็นคนได้ครอบครองใต้หล้าอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมองทางด้านใดต้าโจวก็มีโอกาสชนะต้าเยี่ยนมากกว่าทุกด้าน
“เว่ยจง เจ้าไปพักผ่อนเถิด ตอนนี้ข้างกายของข้ามีเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าต้องลำบากทำอีกหลายเรื่อง”
ไป๋ชิงเหยียนวางช้อนเงินลงอย่างไม่อยากทานอีกต่อไป
เว่ยจงรับคำแล้วถือถ้วยนมหมักเดินจากไป ไป๋ชิงเหยียนใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมปาก จากนั้นเขียนจดหมายขึ้นฉบับหนึ่ง เมื่อประทับตราบนจดหมายเรียบร้อยจึงเอ่ยเรียกขึ้นเสียงเบา
“เหว่ยซู่…”
แสงไฟกระพริบเล็กน้อย ไม่นานเหว่ยซู่ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน
“ข้าอยู่นี่ขอรับ”
“ต้องรบกวนเจ้าพาทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่งเดินทางไปยังเมืองหลวงของต้าเยี่ยนแล้ว เจ้าลองไปสืบดูก่อนว่ากิจการของตระกูลชุยในต้าเยี่ยนเป็นเช่นใดบ้าง หากสถานการณ์ไม่ค่อยดี…”
ไป๋ชิงเหยียนเม้มปากเล็กน้อย หญิงสาวหยิบป้ายคำสั่งที่เคยมอบให้หานเฉิงอ๋องวางลงบนจดหมาย
“หากสถานการณ์ไม่ค่อยดีเจ้าจงหาทางช่วยคนออกมา หากช่วยไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืน เจ้าจงนำจดหมายลายมือของข้าและป้ายคำสั่งนี้ไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิต้าเยี่ยนในฐานะทูตของต้าโจว บอกกับเขาว่าชุยเฟิ่งเหนียนคือคนที่ข้าต้องการตัว หากพวกเขายอมปล่อยตัวชุยเฟิ่งเหนียน เราจะปล่อยตัวแม่ทัพเซี่ยสวินของต้าเยี่ยนคืนให้แก่พวกเขา เจ้ากล้าหรือไม่”
เหว่ยซู่เพิ่งกลับมาอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนได้ไม่นาน เดิมทีไป๋ชิงเหยียนไม่ควรให้เหว่ยซู่ไป ทว่า หากเทียบเรื่องวรยุทธ์แล้ว เหว่ยซู่คือคนที่เก่งที่สุดรองจากซิงเฉิน ที่สำคัญเหว่ยซู่เป็นองครักษ์ลับมาโดยตลอด ไม่มีผู้ใดรู้จักเขาดังนั้นต้าเยี่ยนไม่มีทางสืบเรื่องอันใดจากเขาได้แน่นอน
เหว่ยซู่ตะลึง เขาเป็นเพียงองครักษ์ลับเท่านั้น ให้เขาไปเป็นทูตของต้าโจวอย่างนั้นหรือ…
“หากคนในราชสำนักต้าเยี่ยนสงสัยฐานะของเจ้า เจ้าจงบอกพวกเขาว่าเจ้าคือทูตพิเศษของต้าโจว ยังไม่ได้รับตำแหน่งในราชสำนักต้าโจวอย่างเป็นทางการ”
เหว่ยซู่เงยหน้าขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขากล้าสบตากับไป๋ชิงเหยียนตรงๆ
ต่อให้เหว่ยซู่จะไม่ได้ทำงานในราชสำนัก ทว่า เขารู้ความสำคัญของตัวประกันอย่างองค์ชายสองและแม่ทัพเซี่ยสวินของต้าเยี่ยนดี เหว่ยซู่รีบกล่าวตอบทันที
“นายหญิง ข้าจะช่วยคนออกมาให้ได้ขอรับ!”
เขาคือองครักษ์ลับ คือทหารหน่วยกล้าตาย หน่วยกล้าตายมีหน้าที่ทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จต่อให้ต้องตายก็ตาม
ไป๋ชิงเหยียนกลับส่ายหน้า
“ชีวิตของเจ้ามีค่ามากกว่าเซี่ยสวิน ไปเถิด! ทำตามคำที่ข้าบอก ลำบากเจ้าแล้ว!”
ไป๋ชิงเหยียนชี้ไปยังจดหมายและป้ายคำสั่ง จากนั้นกล่าวขึ้น
“ไปได้!”
ไป๋ชิงเหยียนให้ความสำคัญทั้งกับไป๋จิ่นถง เหว่ยซู่และทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่ง
ไป๋ชิงเหยียนคิดว่าคุ้มค่าหากสามารถใช้ชีวิตของเซี่ยสวินแลกกับความปลอดภัยของพวกเขาได้
“ขอรับ”
เหว่ยซู่ก้าวไปหยิบจดหมายและป้ายคำสั่ง จากนั้นจากไปทันที
ไป๋จิ่นถงซึ่งสวมเสื้อผ้าบางๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าคลุมทับด้วยเสื้อขนสัตว์ตัวหนานั่งหลับตาอยู่ในรถม้าไม้ โคมไฟหนังแกะที่สลักคำว่าชุยซึ่งแขวนอยู่ทั้งสี่มุมของตัวรถม้าแกว่งไปมาตามแรงลม แสงจากนอกหน้าต่างส่องเข้าไปในตัวรถกระทบลงบนใบหน้าเยือกเย็นของไป๋จิ่นถงจนพอเห็นอย่างริบหรี่
ตั้งแต่ที่ต้าเยี่ยนเข้าฤดูหนาวก็มีลมหนาวทุกวัน คนบังคับรถม้าที่ห่อร่างตัวเองจนเห็นเพียงแต่ดวงตาหรี่ตาแคบอย่างแทบทนแรงลมไม่ไหว
ไป๋จิ่นถงได้รับรายงานว่าวันนี้ไทเฮาจะเดินทางไปยังพระตำหนักพักร้อน…
เมื่อคนสูงศักดิ์ในงานเลี้ยงเริ่มดื่มจนเมาจึงเผลอหลุดเรื่องนี้ออกมา
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจักรพรรดิต้าเยี่ยนประชวรจากเชื้อโรคระบาด ไทเฮาจำต้องว่าราชการแทนจักรพรรดิต้าเยี่ยน ทว่า ความจริงแล้วจักรพรรดิต้าเยี่ยนไม่ได้ประชวรแต่ถูกไทเฮาวางยาและกักบริเวณไว้ต่างหาก
ไทเฮาต้าเยี่ยนเป็นคนโหดเหี้ยมและใจเด็ดคนหนึ่งทีเดียว ทว่า น่าเสียดายที่สมองของนางไม่ค่อยดีสักเท่าใดนัก
มิน่านับตั้งแต่วังหลวงมีข่าวว่าจักรพรรดิต้าเยี่ยนประชวรออกมาจึงไม่ได้ข่าวใดๆ หลังจากนั้นอีกเลย ที่แท้จักรพรรดิต้าเยี่ยนได้รับการช่วยเหลือหลักจากผู้สำเร็จราชการกลับมาเมืองหลวง จากนั้นขุนนางฝ่ายไทเฮาจึงถูกจัดการตามสมควร ผู้ใดควรถูกสังหารก็ถูกสังหาร ผู้ใดควรถูกกักขังก็ควรถูกกักพร้อมกับไทเฮา