ตอนที่ 1544 เสียใจเมื่อสายไปแล้ว
“เหตุใดเขาจะทรยศต้าเยี่ยนไม่ได้ ท่านไม่ได้ยินไทเฮาตรัสหรือว่าผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนคือบิดาของลูกฝาแฝดของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ขอเพียงมอบต้าเยี่ยนให้ต้าโจว วันหน้าทายาทของเขาก็จะได้ขึ้นเป็นผู้ครอบครองใต้หล้าแห่งนี้!”
เชื้อพระวงศ์บางคนเชื่อคำกล่าวของไทเฮา
“เรื่องดีขนาดนี้เหตุใดเขาจะไม่ทำกัน”
“ทว่า ตอนนี้ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนคือสามีของจักรพรรดินีต้าโจวนะ!”
“นั่นน่ะสิ!”
“ไทเฮาทรงเข้าพระทัยผิดไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
แม้เชื้อพระวงศ์ส่วนใหญ่จะหวาดกลัวว่ามู่หรงเหยี่ยนจะยึดอำนาจในราชสำนักไว้แต่เพียงผู้ใด แม้พวกเขาจะสงสัยว่ามู่หรงเหยี่ยนอยากขึ้นครองบัลลังก์แทนมู่หรงลี่ ทว่า พวกเขาไม่เชื่อว่ามู่หรงเหยี่ยนจะทรยศต้าเยี่ยน
“ทุกท่านยังไม่เชื่อข้าอีกหรือ”
ไทเฮาหันไปมองนางกำนัลข้างกายของตัวเองด้วยแววตาเกรี้ยวกราดราวกับถูกบีบจนไม่มีทางเลือกแล้ว
“ไปหยิบกล่องสมบัติของข้ามา!”
นางกำนัลรับคำและรีบขึ้นไปบนรถม้าทันที นางหยิบกล่องสมบัติของไทเฮาลงมาจากรถม้า จากนั้นยื่นให้ไทเฮาด้วยมือทั้งสองข้าง
ไทเฮาเปิดกล่องสมบัติออก จากนั้นหยิบจดหมายหนังแกะออกมาแล้วกล่าวขึ้นเสียงดังลั่น
“นี่คือจดหมายที่เซียวหรงเหยี่ยนเขียนถึงฝ่าบาทตอนที่เขาออกเดินทางไปทำการค้าตามที่ต่างๆ เขาเขียนด้วยอักขระประจำตระกูลมู่หรงของทุกท่าน อักขระประจำตระกูลมู่หรงที่มีเพียงทายาทไม่กี่คนของตระกูลเท่านั้นที่เขียนได้! ท่านลุงเป็นคนสอนอักขระนี้ให้กับมู่หรงเหยี่ยนตอนเขายังเล็ก ทุกท่านคงเคยเห็นลายมือของมู่หรงเหยี่ยนตอนขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการกันทุกคน ข้าขอให้ทุกท่านช่วยกันพิสูจน์ลายมือที!”
ผู้อาวุโสที่สุดของตระกูลมู่หรงรับจดหมายหนังแกะไปจากมือของไทเฮาด้วยมือที่สั่นเทา จากนั้นสั่งให้บ่าวรับใช้ขยับโคมไฟเข้ามาใกล้อีกนิด
โคมไฟแกว่งไปมาตามแรงลมหิมะ เชื้อพระวงศ์ตระกูลมู่หรงต่างขยับเข้าไปอ่านลายมือในจดหมายท่ามกลางแสงไฟที่ริบหรี่ จากนั้นวิเคราะห์อย่างตั้งใจว่าใช่ลายมือของคนๆ เดียวกันหรือไม่
จดหมายเหล่านี้คือสิ่งล้ำค่าของมู่หรงอวี้ตอนเขายังมีชีวิตอยู่เพราะจดหมายเหล่านี้คือจดหมายที่แสดงความคิดถึงบ้านเกิดของน้องชายของเขา เขาสามารถรับรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของน้องชายผ่านจดหมายเหล่านี้
เมื่อเห็นจดหมายเหล่านี้จะรู้ได้ทันทีว่ามันถูกเปิดอ่านหลายครั้งจดแผ่นจดหมายยับยู่ยี่ ขอบจดหมายเริ่มกลายเป็นสีเหลืองแล้ว
ทว่า มู่หรงอวี้คงไม่เคยคิดมาก่อนว่าจดหมายเหล่านี้จะกลายเป็นหลักฐานสำคัญที่พิสูจน์ว่ามู่หรงเหยี่ยนคือคนๆ เดียวกับเซียวหรงเหยี่ยนพ่อค้าที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งในใต้หล้า!
มู่หรงอวี้เคยกำชับกับไทเฮาว่าให้เก็บเรื่องฐานะของเซียวหรงเหยี่ยนเป็นความลับ ห้ามให้ผู้ใดล่วงรู้ทั้งสิ้น
เสี่ยวอาลี่ล่วงรู้เพราะความฉลาดของเขาเอง
ตอนที่มู่หรงอวี้สอนอักขระประจำตระกูลมู่หรงให้มู่หรงลี่ มู่หรงลี่บังเอิญเห็นจดหมายลายมือของเซียวหรงเหยี่ยนเข้าพอดี เขาลอบจดจำอักขระเหล่านั้นเอาไว้ เมื่อเรียนรู้อักขระได้อย่างคล่องแคล่วเขาจึงรู้ฐานะของท่านอาเก้าขอตัวเองและรับรู้จากบิดาว่าท่านอาเก้าต้องเสียสละสิ่งใดเพื่อแคว้นต้าเยี่ยนบ้าง มู่หรงลี่เคารพนับถือท่านอาเก้าของตัวเองมาก เขาเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ไม่เคยแพร่งพรายให้ผู้ใดล่วงรู้แม้แต่คนเดียว
มู่หรงลี่คงไม่คิดมาก่อนเช่นกันว่าฐานะของเซียวหรงเหยี่ยนจะถูกเปิดโปงต่อหน้าคนในตระกูลมู่หรงด้วยวิธีนี้
“เป็นอักขระของตระกูลมู่หรงของพวกเราจริงๆ”
“นี่…คือลายมือของผู้สำเร็จราชการจริงๆ”
“ในจดหมายเขียนว่าอย่างใดบ้าง”
คนตระกูลมู่หรงที่ไม่รู้อักขระของตระกูลเอ่ยถามขึ้นอย่างร้อนใจ
“จดหมายฉบับนี้เขียนว่าทุกอย่างในแคว้นเว่ยปกติดี เหยี่ยนผูกมิตรกับซีไหวอ๋องได้แล้ว ได้ยินว่าแคว้นเว่ยมีหมอโด่งดังที่ถนัดรักษาโรคของท่านพี่ เหยี่ยนกำลังพยายามตามหาหมอท่านนั้นเพื่อขอให้เขาช่วยรักษาอาการของท่านพี่ เหยี่ยนจะหาตัวหมอผู้นั้นให้พบให้ได้!”
จดหมายฉบับที่สอง…ฉบับที่สาม…
ล้วนเป็นจดหมายที่กำชับบอกให้พี่ชายรักษาสุขภาพให้ดี เขากำลังตามหาหมอผู้นั้นให้พบ
สถานการณ์เหล่านี้ล้วนสอดคล้องกับสถานการณ์ของมู่หรงอวี้กับมู่หรงเหยี่ยน
หากพวกเขาจำไม่ผิดจักรพรรดิองค์ก่อนทรงรักผู้สำเร็จราชการมาก ที่อาการของจักรพรรดิองค์ก่อนดีขึ้นก็เพราะผู้สำเร็จราชการเชิญหมอผู้เก่งกาจท่านหนึ่งมารักษา
“นี่มัน…ผู้สำเร็จราชการคือเซียวหรงเหยี่ยน คือสามีและพ่อของลูกของจักรพรรดินีต้าโจวจริงๆ อย่างนั้นหรือ ทว่า สามีของจักรพรรดินีต้าโจวเสียชีวิตไปแล้วไม่ใช่หรือ จะเป็นผู้สำเร็จราชการได้อย่างใดกัน”
“ถูกแล้ว! หากสามีของจักรพรรดินีต้าโจวไม่ตาย เขาต้องปรากฏตัวในงานเลี้ยงและงานสำคัญทุกงานของต้าโจว ทว่า ผู้สำเร็จราชการอยู่ที่ต้าเยี่ยน เขาจะแยกร่างไปปรากฏตัวที่ต้าโจวได้อย่างใดกัน!”
เชื้อพระวงศ์ที่ก่อนหน้านี้ยังไม่อยากเชื่อเรื่องนี้เริ่มประติดประต่อเรื่องทุกอย่างได้ทันทีที่เห็นหลักฐานที่แน่ชัด
“ไม่ได้นะ! เราจะยกแคว้นต้าเยี่ยนให้ต้าโจวได้อย่างใดกัน ไม่ได้เด็ดขาด พวกเราต้องไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทและทูลเรื่องนี้ให้ฝ่าบาททรงทราบ!”
“ไทเฮา!”
บรรดาเชื้อพระวงศ์คุกเข่าลงตรงหน้าไทเฮา
“ไทเฮาต้องทูลเรื่องนี้ให้ฝ่าบาททรงทราบนะพ่ะย่ะค่ะ ไทเฮาได้โปรดไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทกับพวกกระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ได้โปรดไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทกับพวกกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ไทเฮามองเชื้อพระวงศ์ที่คุกเข่าลงตรงหน้านาง น้ำตาของนางไหลพรากในทันที
“ไม่มีประโยชน์หรอก ข้ากับฝ่าบาทรู้เรื่องนี้นานแล้ว! ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนบอกกับพวกเราว่าเขาตัดขาดความสัมพันธ์กับจักรพรรดินีต้าโจวแล้ว เขาคือน้องชายที่จักรพรรดิองค์ก่อนรักมากที่สุด ก่อนพระองค์จะสวรรคตพระองค์ฝากให้เขาดูแลข้ากับฝ่าบาท ข้าเป็นเพียงสตรีจึงอดที่จะใจอ่อนมิได้ แม้จะรู้ว่าข้าควรเด็ดขาดในเรื่องนี้ ทว่า ข้ากลัวว่าหากกล่าวออกไปมู่หรงเหยี่ยนจะไม่มีหน้าเผชิญหน้ากับทุกคน ทว่า ข้านึกไม่ถึงเลยว่าความใจอ่อนของข้าจะทำให้เขากลายเป็นหมาป่าเนรคุณที่ย้อนกลับมาแว้งกัดต้าเยี่ยนของพวกเราเช่นนี้! เขาถึงกับคิดขับไล่ข้าออกจากวังหลวงเพื่อที่จะได้คุมอำนาจในราชสำนักไว้เองคนเดียว ข้านึกไม่ถึงเลยว่ามู่หรงเหยี่ยนจะมีจิตใจทะเยอทะยานถึงเพียงนี้!”
“เลอะเลือนไปกันใหญ่แล้ว!”
ผู้อาวุโสที่สุดของตระกูลมู่หรงกระแทกไม้เท้าลงบนพื้นด้วยความโมโหอีกครั้ง
“ฝ่าบาททรงพระเยาว์ ไม่แปลกที่จะถูกหลอกได้ง่ายๆ ทว่า เหตุใดไทเฮาจึงถูกเขาหลอกไปด้วยเช่นนี้กัน”
“เป็นความผิดของข้าเอง! ข้าเอาแต่คิดว่าอย่างน้อยมู่หรงเหยี่ยนก็คือคนของตระกูลมู่หรง เขาคงนึกถึงพี่ชายของตัวเอง ตระกูลมู่หรงและแผ่นดินต้าเยี่ยนเป็นอันดับแรก!”
ไทเฮาเปล่งเสียงร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ข้าเป็นคนทำลายต้าเยี่ยนเอง ความเชื่อใจที่จักรพรรดิองค์ก่อนมีต่อมู่หรงเหยี่ยนทำให้ข้าเชื่อใจเขาเช่นเดียวกัน ทว่า ความเชื่อใจของข้ากับจักรพรรดิองค์ก่อนจะเทียบกับสายเลือดแท้ๆ ของมู่หรงเหยี่ยนได้อย่างใดกัน หลานชายอย่างฝ่าบาทจะสำคัญเท่าเมียและลูกของเขาได้อย่างใดกัน!”
ไทเฮาเอามือทุบอกตัวเองอย่างแรงราวกับเสียใจกับการกระทำที่แล้วมาของตัวเองอย่างสุดซึ้ง นางเสียใจจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว
“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว มาเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้ว ไทเฮาร้องไห้ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อันใดหรอกพ่ะย่ะค่ะ เราควรหาทางแก้ไขเรื่องนี้ถึงจะถูกพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะไทเฮา พวกเราควรช่วยกันคิดหาวิธี โชคดีที่ตอนนี้ผู้สำเร็จราชการไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง พวกเรายังพอมีทางแก้ไขสถานการณ์ในตอนนี้พ่ะย่ะค่ะ”