หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 11 สัมผัสสังหาร

บทที่ 11 สัมผัสสังหาร

บทที่ 11 สัมผัสสังหาร

ท่านหานรู้สึกว่านี่เป็นปัญหาอย่างหนึ่ง จึงได้หยิบยกขึ้นมาพูด

“เรื่องนี้ง่ายมาก ก่อนจะเริ่มการประมูล ข้าจะเป็นคนอธิบายให้ฟังว่า ผู้ที่สามารถชนะการประมูล ข้าจะเป็นผู้ตั้งรหัสลายนิ้วมือให้กับเขา นอกจากเขาแล้ว แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถเปิดออกได้”

หลานเยาเยาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย แต่กลับทำให้ดวงตาของผู้จัดการร้านเป็นประกาย

ถึงแม้จะมีบางอย่างที่เขาฟังไม่ค่อยเข้าใจ แต่โดยรวมแล้วก็พอจะเข้าใจได้ จริงๆแล้วสิ่งที่นางถามไปนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เป็นปัญหาเลย

อีกทั้งในความรู้สึกลึกๆแล้ว ยังรู้สึกหลานเยาเยาจะต้องเป็นคนที่โดดเด่นอย่างแน่นอน

“ถ้าอย่างนั้นตกลงตามนี้”

ขณะที่ท่านหานกำลังจะเดินออกไป เสียงอันไพเราะของหลานเยาเยาก็พูดขึ้นว่า “รบกวนท่านช่วยเตรียมหมวกผ้าคลุมให้ข้าสักหนึ่งใบ”

ถึงแม้ว่าจะมีหลายคนในร้านประมูลเสินตู เคยเห็นใบหน้าของนาง แต่นั่นเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เพราะนางเข้าใจถึงหลักการข้อหนึ่งว่า ผู้ที่โดดเด่นเกินไปมักจะนำภัยมาสู่ตัว

ดังนั้น!

นางจึงไม่อยากให้ใครเห็นตัวตนที่แท้จริงของนางมากเกินไป

ท่านหานพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ไม่นานก็ให้คนนำหมวกผ้าคลุมมาให้ และยังฝากชุดกระโปรงมาให้อีกหนึ่งชุด

หลานเยาเยารู้สึกเลื่อมใสในวิสัยทัศน์ของท่านหานมาก

เพราะจริงๆแล้วหมวกผ้าคลุมกับงอบ มีลักษณะที่ใกล้เคียงกัน มีปีกหมวกกางออกคลุมทั้งสี่ด้าน ภายใต้ปีกหมวกเย็บด้วยผ้าบางสีชมพู คลุมยาวลงมาจนถึงเอว เหมาะแก่การอำพรางใบหน้า อีกทั้งรูปแบบของชุดกระโปรงก็ไม่ซับซ้อน เมื่อใส่ร่วมกับหมวกแล้วช่างดูเข้ากันอย่างมาก อีกทั้งการสวมใส่ก็ไม่ยุ่งยาก

นางชอบชุดที่ไม่ยุ่งยากเช่นนี้

ดังนั้นนางจึงแอบรู้สึกชื่นชมท่านหานอย่างมาก

เมื่อแต่งตัวเสร็จ ก็เริ่มการประมูลอย่างรวดเร็ว

วันนี้ของที่จะใช้ประมูลมีทั้งสิ้นแปดชิ้น ของทุกชิ้นล้วนแต่มีราคาสูงและหายาก ของเหล่านั้นค่อยๆถูกประมูลออกไปทีละชิ้น บางชิ้นมีราคาประมูลหลายแสนเหรียญเงิน

เหรียญเงินมากมายขนาดนั้น ทำให้หลานเยาเยารับอย่างไม่หวาดไม่ไหว

เป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง

เมื่อสิ้นเสียงเคาะค้อนประมูลครั้งสุดท้ายของผู้ควบคุมการประมูล ของชิ้นสุดท้ายก็ถูกประมูลออกไป มีผู้ร่วมประมูลหลายคนที่พลาดการประมูลกำลังเตรียมตัวกลับ

ถึงตอนนี้!

ท่านหานได้เดินขึ้นไปบนแท่นประมูลอย่างสง่างาม ใช้มือลูบเคราอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วพูดด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้ม

“ช้าก่อนแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ของที่เราเตรียมไว้สำหรับการประมูลทั้งแปดชิ้น ได้ถูกประมูลไปหมดแล้ว แต่วันนี้ เพื่อที่จะให้ทุกท่านได้เห็นเป็นบุญตา ทางร้านประมูลของเราได้เตรียมสมบัติลึกลับหายากอีกชิ้นหนึ่ง ไว้ให้แก่ผู้ร่วมประมูลทุกท่าน”

หลังจากนั้น ท่านหานก็กล่าวนำเสนอกล่องพยาบาลอย่างน่าสนใจ และทำให้ดูลึกลับน่าค้นหา เมื่อดึงดูดความสนใจของเหล่านักประมูลได้แล้ว จึงให้หลานเยาเยานำกล่องพยาบาลออกมา

“ตอนนี้เราจะนำสมบัติหายากออกมาให้ทุกท่านได้ชมเป็นบุญตา”

เมื่อท่านหานพูดจบ ก็มีหญิงสาวถือถาดวางของประมูลออกมา นางแต่งกายด้วยชุดผ้าโปร่งสีขาว เผยให้เห็นรูปร่างอันสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายใน

ผ้าคลุมหน้าบางเบาคล้ายดั่งหมอกจางๆ ยิ่งทำให้ดูลึกลับน่าค้นหา ทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเป็นนางฟ้าที่ลงมาจากสรวงสวรรค์

งาม ช่างงามจริงๆ!

และแน่นอน หญิงผู้นี้คือ ผู้ที่ใครหลายๆคนไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของนาง

หลานเยาเยา

เพียงแค่ถือกระเป๋าพยาบาลคลุมด้วยผ้าไหมออกมา ก็ถูกจับจ้องด้วยสายตานับไม่ถ้วน

นางกำลังจะส่งยิ้ม แต่ทันใดนั้น สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองนาง ราวกับว่าจะมองทะลุเข้าไปในกระดูก ทำให้นางรู้สึกเย็นวาบไปทั่วแผ่นหลัง อีกทั้งนางยังรู้สึกถึงแรงสังหารบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง กลับมองหาที่มาของสายตาคู่นั้นไม่เจอ แต่ยิ่งรู้สึกว่า ดวงตาคู่นั้นมองมาด้วยความโกรธแค้นมากขึ้น เป็นสายตาที่เหมือนกับว่ากำลังจ้องมองดูเหยื่อ ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง

นางเดินขึ้นไปบนแท่นประมูล ใช้มือสัมผัสที่กระเป๋าพยาบาล แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้น จึงให้ผู้ร่วมประมูลขึ้นมาสัมผัสกระเป๋าพยาบาล กลับมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นทันที

ทำให้ทุกคนประหลาดใจเป็นอย่างมาก!

หลังจากนั้น หลานเยาเยาก็กดปุ่มบนกระเป๋า กระเป๋าพยาบาลก็เปิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

“ว้าว……”

บางคนรู้สึกตกตะลึงจนยืนขึ้นอย่างไม่รู้ตัว บางคนก็กล่าวว่ามันช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

ในที่สุด หลานเยาเยาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลชวนฟังว่า:

“เมื่อของชิ้นนี้ถูกประมูลเรียบร้อย ข้าจะเป็นผู้ตั้งรหัสลายนิ้วมือ ให้แก่ผู้ที่ประมูลได้ด้วยตนเอง และของชิ้นนี้ ก็จะกลายเป็นของเขาผู้นั้นแต่เพียงผู้เดียว แม้แต่ตัวข้าเอง ก็จะไม่สามารถเปิดมันออกได้อีก ขอให้ทุกท่านร่วมประมูลด้วยความสบายใจ”

พูดจบ!

นางรีบลงจากแท่นประมูลอย่างรวดเร็ว แต่กว่าที่จะกลับถึงห้องส่วนตัว การประมูลก็เริ่มขึ้นก่อนแล้ว

“ห้าพันเหรียญเงิน!”

“หนึ่งหมื่นเหรียญเงิน!”

“สี่หมื่นเหรียญเงิน!”

“……”

การประมูลเป็นไปอย่างดุเดือด จนหลานเยาเยา ลืมความรู้สึกที่สัมผัสถึงแรงอาฆาตเมื่อก่อนหน้านี้จนสิ้น ตอนนี้กำลังใจจดใจจ่ออยู่ที่เหรียญเงิน

บนโลกกว้างใหญ่นี้ เงินคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

โอ้สวรรค์!

นางกำลังจะรวยขึ้นในชั่วข้ามคืน

เพียงไม่นาน ราคาประมูลก็ขึ้นสูงถึงเก้าแสนเหรียญเงิน แต่ยังมีผู้ประมูลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

ถึงตอนนี้!

มีเสียงที่ฟังดูนุ่มนวลเสียงหนึ่งพูดขึ้นว่า “หนึ่งล้านเหรียญทองคำ”

พอได้ยินคำว่าทองคำ ดวงตาของหลานเยาเยาก็ลุกวาวเป็นประกาย เกิดความอยากได้ใคร่มีขึ้นมา ภายหลังจึงเข้าไปยังระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อหาว่ายังพอมีสิ่งของอะไรที่จะนำมาขายได้อีกบ้าง

แต่ว่า……

เสียงที่นุ่มนวลนั้นไม่ใช่เสียงขององค์ชายหรอกหรือ

แท้จริงแล้ว เขาก็ร่ำรวยไม่เบา

ปกติแล้วจะไม่ค่อยเผยตัว แต่เมื่อเผยตัวกลับทำให้ตกตะลึง ทำให้อยู่ดีๆบรรยากาศในการประมูลเงียบลงทันที

สิ่งที่องค์ชายเซียวต้องการ ต่อให้พวกเขาอยากได้ขนาดไหน ก็ต้องอดใจไว้ เพราะในที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องเงินและเรื่องอำนาจ ก็ไม่สามารถสู้ได้

“หนึ่งล้านเหรียญทองคำครั้งที่หนึ่ง!”

“หนึ่งล้านเหรียญทองคำครั้งที่สอง!”

“หนึ่งล้าน……”

ยังไม่ทันที่จะพูดจบ ผู้ควบคุมการประมูลก็เตรียมเงื้อมือทุบค้อนปิดการประมูล

ทันใดนั้นเอง !

“มุกเย่หมิงหนึ่งเม็ด!” เป็นน้ำเสียงที่ดึงดูดใจ แต่ก็ฟังดูเย็นชา

เมื่อเสียงนี้ปรากฏขึ้น ทุกคนที่นั่งอยู่ก็รู้สึกเกิดความหวาดกลัว บรรยากาศเริ่มอึมครึม ไม่มีใครกล้าส่งเสียง เพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนมือสังหารคนใดเข้า

เสียงนี้……ช่างคุ้นหูนัก!

เป็นใครกัน?

เพียงแค่เสียงนี้ดังขึ้น ในใจของหลานเยาเยาก็รู้สึกสั่นไหว

ความกลัวเข้าครอบงำในจิตใจ นางลุกขึ้นยืนเพื่อมองหาที่มาของเสียงนั้น

บนชั้นสอง ในห้องส่วนตัวฝั่งตรงข้าม มีผ้าม่านบางๆ กั้นบดบังสายตาของทุกคนอยู่

มุกเย่หมิง!

มุกเย่หมิงโบราณ เป็นสมบัติที่ประเมินค่ามิได้ ปกติจะมีเพียงราชนิกุลขั้นสูงที่จะมีไว้ในครอบครอง อีกทั้งยังเป็นเครื่องแสดงถึงสถานะและตำแหน่งอีกด้วย

“ที่แท้คือท่านอ๋องเย่นี่เอง ไม่พบกันนานเลย!”

เซียวจิ่นหยูยืนขึ้น แล้วหันหน้าไปโค้งคำนับทางห้องส่วนตัวของอ๋องเย่

“อืม!”

เขาตอบกลับมาเพียงคำเดียวสั้นๆ ดูเหมือนว่าการพูดเกินกว่าหนึ่งคำ สำหรับอ๋องเย่แล้ว เป็นเรื่องที่ดูจะเป็นการสิ้นเปลือง

ทุกคนต่างไม่รู้สึกสงสัย เซียวจิ่นหยูเอง ก็ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร ดูเหมือนว่าจะชินกับความเย็นชา และไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตาเช่นนี้

“ในเมื่ออ๋องเย่ต้องการ กระหม่อมก็จำต้องตัดใจแล้ว!”

ถึงแม้เซียวจิ่นหยูจะมีความสนใจในกระเป๋าพยาบาลอย่างมาก และอยากได้มาครอบครอง แต่ก็รู้ว่าตนเองไม่สามารถเอาชนะอ๋องเย่ได้ และไม่อยากยั่วโมโหเขา จึงเลือกที่จะยอมแพ้

“ดีมาก!”

อ๋องเย่?

ใช่ท่านอ๋องที่ถูกขนานนามว่า เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามรึเปล่า?

หลานเยาเยารู้สึกมีลางสังหรณ์ในใจ!

แม้แต่องค์ชายเซียวยังไม่กล้าต่อกรด้วย คนอื่นก็ยิ่งไม่กล้าเช่นกัน กระเป๋าพยาบาลจึงถูกอ๋องเย่ประมูลไปด้วยมุกเย่หมิงหนึ่งเม็ด

การประมูลสิ้นสุดลง ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับ

หลานเยาเยาเหมือนลูกบอลที่หมดลม ฟุบลงไปบนโต๊ะอย่างไร้เรี่ยวแรง ยกหัวไม่ขึ้น

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก……”

“แม่นาง เจ้านำกระเป๋าพยาบาลไปที่ห้องส่วนตัวของอ๋องเย่ได้แล้ว หลังจากเสร็จสิ้น อ๋องเย่ก็จะมอบมุกเย่หมิงเพิ่มให้แก่เจ้า” ท่านหานยืนพูดอยู่ด้านนอกด้วยท่าทีชอบกล

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท