รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 1035 ฝุ่นละอองจางหาย ปิดฉากศึกใหญ่!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 1035 ฝุ่นละอองจางหาย ปิดฉากศึกใหญ่!

อีกเพียงคืบเดียวศพทั้งสองก็จะฟื้นพลังเต็มที่ พลังที่พวกมันระเบิดออกมาได้เกินจินตนาการแน่นอน!

ตู้ม!

พวกมันโจมตีด้วยพลังอันพลุ่งพล่าน ไอหมอกสีดำปกคลุมทั่วฟ้า กระทั่งปริภูมิเวลายังถูกกัดกิน เป็นช่วงเวลามืดสนิทอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในทุกยุคทุกสมัย!

ศพผู้เบิกทางยกมือคือวิชา ง้างขาคือวิถี วิชานับพันสำแดงฤทธิ์เดช วิถีนับหมื่นกู่ร้องกัมปนาท ไฉนเลยจะนิยามด้วยคำว่าน่ากลัวได้!

พลังนี้เห็นได้ชัดว่าเหนือกว่าคลุมฟ้าวรรณะหนึ่ง อยู่ในระดับคลุมฟ้าวรรณะสอง ศพที่ถูกความมืดมิดกัดกินแล้วย่อมแกร่งกล้าน่าพรั่นพรึงกว่าก่อนตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

รู้หรือไม่ ก่อนผู้เบิกทางตายก็เพิ่งอยู่ในระดับคลุมฟ้าวรรณะสองเท่านั้น

ศพของผู้เบิกทางยังไม่ได้ฟื้นพลังเต็มที่ ประสานเป็นหนึ่งกับศพก็สามารถสำแดงพลังระดับคลุมฟ้าวรรณะสองได้แล้ว ทันทีที่ฟื้นพลังจนประสานได้สมบูรณ์ มันย่อมต้องทรงพลังกว่านี้ เป็นไปได้ว่าอาจถึงขั้นคลุมฟ้าวรรณะสาม!

ศพของศิษย์พี่หญิงผู้เบิกทางน่าครั่นคร้ามยิ่งกว่า พลังที่ปะทุออกมาในเวลานี้เหนือกว่าคลุมฟ้าวรรณะสอง อยู่ในคลุมฟ้าวรรณะสาม!

น่ากลัวเกินไปแล้ว

หากมันฟื้นพลังขึ้นมาเต็มที่ ประสานสมบูรณ์ ย่อมอยู่ในระดับคลุมฟ้าวรรณะสี่ได้ไม่ใช่ปัญหา

ตู้มมม!

มิติระเบิดแหลกเหลว กาลเวลาอันยาวนานเดือดพล่าน ศพทั้งสองจู่โจมด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ใช่เพียงน่ากลัวที่ไหน อาณาจักรทั้งปวง สรรพางค์สิ่งมีชีวิต ต่อให้ห่างออกไปไกลแค่ไหนก็ได้รับผลกระทบ รู้สึกอัดอั้นตันใจ ราวกับมีภูเขาทับอยู่ในอก ระทมนักหนา

นาทีนี้ ทุกอาณาจักรในดินแดนเก่าล้วนมีพลังวิถีกู่ร้อง ศพทั้งสองเหินอยู่บนวิถี ภาพการณ์ชวนให้หวาดผวาเหลือแสน!

ไอหมอกสีดำถาโถมเข้ามาถักทออสูรมืดมิดออกมานับคณา แหงนหน้าคำราม กลิ่นอายอาฆาตสั่นสะเทือนไปทั้งนภา บุกโจมตีใส่ยันต์ทั้งสองแผ่น!

หลังได้เห็นภาพนี้ ต่อให้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงมั่นใจในตัวคุณชายอย่างยิ่งยวด ก็อดกำถ้วยชาแน่นไม่ได้ ท่าทางห่วงกังวล ไม่มีแก่จิตแก่ใจดื่มชากินเมล็ดทานตะวันอีก

ไม่นานนัก ไอหมอกสีดำก็ปกคลุมยันต์ทั้งสองใบ อสูรมืดมิดนับไม่ถ้วนเข้าโถมทับยันต์ทั้งสองใบจนมิด มองไม่เห็นเงายันต์อีก ไม่เห็นแสงสว่างแม้แต่น้อย

ทว่าเพียงครู่เดียวประกายเจิดจ้าก็ทลายไอหมอกสีดำออกมา ประดุจดวงอาทิตย์จรัสสองดวงสาดส่องทำลายความมืดทั้งปวง!

สิ่งมีชีวิตมืดมิดนับไม่ถ้วนมลายหายไปอย่างสิ้นเชิงใต้แสงเจิดจ้าจากยันต์สองใบที่อาบไล้ลงมา!

“ฆ่า!”

ศพของผู้เบิกทางดุดันเป็นพิเศษ มือหนึ่งแทงเข้าไปในแผงอกตนเองดึงกระดูกซี่โครงอันมีลักษณะคล้ายมีดพร้าที่แข็งแกร่งทนทานที่สุดออกมา ก่อนจะบุกไปข้างหน้า!

ศพสตรีซึ่งเป็นศพของศิษย์พี่หญิงผู้เบิกทางดึงกระดูกแขนท่อนหนึ่งออกมาเป็นอาวุธแล้วบุกไปข้างหน้า!

มาถึงระดับพวกมัน ไม่มีศาสตราชิ้นใดเทียบได้กับร่างกายของพวกมันเอง ร่างกายของพวกมันก็คือศาสตราที่กล้าแกร่งที่สุด!

ศึกใหญ่สยดสยองอุบัติอีกครั้งในพริบตา ศพทั้งสองต่างควงกระดูกในกายตนปะทะกับยันต์ทั้งสองแผ่นไม่หยุด!

ทว่าก็ทำได้เพียงแค่นั้น!

ยันต์ทั้งสองแผ่นระเบิดม่านแสงจรัสทะยานฟ้าออกมาในบัดดล ส่องสว่างไปทั่วจักรวาล อักขระบนนั้นว่ายวน กฎระเบียบอันน่าสะพรึงกลัวกู่ก้องสั่นไหว!

แคร่ก!

เสียงกระดูกร้าวดังขึ้น กระดูกสันอกในมือผู้เบิกทางแตกออกทันที จากนั้นกระดูกแขนในมือศพสตรีก็แตกร้าวแหลกละเอียดอย่างสิ้นเชิง!

“อะไรกัน!”

“หรือว่าเขาจะเป็นอาจารย์ของท่านนั้นจริง ๆ?!”

ศพทั้งสองสะท้านเหลือแสน ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

พวกมันระเบิดพลังน่าพรั่นพรึงออกมาถึงเพียงนี้แต่กลับยังแผ้วพานยันต์สองใบนั้นไม่ได้ ความคิดที่ว่าหลี่จิ่วเต้าคืออาจารย์ของท่านนั้นผุดขึ้นอีกครั้งอย่างอดไม่ได้!

เพราะนี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว นั่นเป็นเพียงยันต์สองใบเท่านั้น หากหลี่จิ่วเต้าลงมือเองจะสยดสยองปานใด?!

พวกมันแทบไม่กล้าคิดเลย!

สวรรค์ ยามนี้พวกมันตระหนกอย่างยิ่งยวด คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะชวนผวาได้เพียงนี้!

หวนนึกถึงอดีต พวกมันเคยลงมือกับอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อนหมายจะกำจัดเขา พวกมันช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียจริง!

นี่เพราะว่าพวกมันลงมือกับหลี่จิ่วเต้าไม่หยุดเสมือนแมลงวันตัวหนึ่งจนทำให้อีกฝ่ายรำคาญ แล้วในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวจึงลงมือกำจัดพวกมันให้สิ้นซากใช่หรือไม่?!

พวกมันเย็นวาบไปทั้งใจ รู้สึกว่าความจริงคงเป็นเช่นนี้ ต่อหน้าชายหนุ่ม พวกมันช่างต้อยต่ำไม่ควรค่าแก่การพูดถึง เดิมหลี่จิ่วเต้าคงไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ พวกมันกลับรนหาที่ตายคุกคามอีกฝ่ายหลายต่อหลายครั้ง จนท้ายที่สุดก็สร้างความไม่พอใจต่อหลี่จิ่วเต้า ส่งจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงพร้อมยันต์สอบใบนี้เข้ามากำจัดพวกมัน!

“ฆ่า!”

“ไม่เหลือทางถอยแล้ว ต้องฝืนฟื้นพลัง ฝืนประสานร่าง!”

พวกมันคำราม ในใจใกล้สิ้นหวังเต็มที ยันต์สองใบนี้น่ากลัวจนพวกมันมองไม่เห็นโอกาสชนะสักนิด!

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้นพวกมันก็ไม่เต็มใจยอมแพ้ ไม่เต็มใจถูกลบล้างไปทั้งอย่างนี้!

พวกมันฝืนฟื้นพลัง ฝืนประสานร่างกับศพ แม้ว่าทำเช่นนี้จะช่วยให้พวกมันทรงพลังขึ้นหลายขุม แต่ก็สร้างอันตรายต่อพวกมันในภายหลังอย่างไม่อาจแก้ไข!

วันหน้า พวกมันจะได้รับผลกระทบมหาศาล หรืออาจเป็นการทำลายตัวเองก็เป็นได้

แต่เวลานี้พวกมันไม่มีแก่จิตแก่ใจสนเรื่องนั้นแล้ว

หากไม่ทำเช่นนี้ พวกมันต้องถูกยันต์สองใบนี้ลบล้างแน่นอน!

ฟึ่บ!

ศพสองร่างของพวกมันราวกับถูกจุดไฟโหม เปลวเพลิงมืดมิดทะยานฟ้า พลังปราณพุ่งพรวดอย่างบ้าคลั่งราวกับกลับมามีชีวิต ต่างจากก่อนหน้านี้ลิบลับ!

ศพของผู้เบิกทางยกระดับพลังปราณถึงคุมฟ้าวรรณะสี่ ศพสตรี ศพศิษย์พี่หญิงของเขายกระดับพลังปราณจนถึงคลุมฟ้าวรรณะห้า!

พวกมันบุกเข้าไปอีกครั้ง ปะทะกับยันต์ทั้งสองแผ่น คลื่นพลังเกินจินตนาการระเบิดออกมา!

ศึกนี้ถึงจุดเดือดในเสี้ยวลมหายใจ!

ศพทั้งสองสู้ด้วยทุกอย่างที่มี สำแดงวิชาทั้งหมดโดยไม่ยั้งมือ หมายจะทำลายยันต์สองแผ่นนี้!

กระดานหมากล้อมที่ลอยวนอยู่เหนือหัวจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเสียสมดลไปชั่วขณะ ได้รับแรงกระเทือนจากคลื่นพลังนั้นจนม่านแสงป้องกันเป็นรอยร้าว!

‘คงไม่ใช่ว่าต้านไม่ไหวกระมัง!’

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงใจกระตุกอย่างอดไม่ได้

หากกระดานหมากล้อมต้านไม่ไหวเขาถึงคราวจบเห่แน่ ใต้คลื่นพลังสยดสยองปานนี้ เขาไม่มีทางรอด ต้องตายสนิทแน่นอน!

ยังดี กระดานหมากล้อมมั่นคงขึ้นอย่างรวดเร็ว ม่านแสงจรัสทาบทับลงมาอีกครั้ง หยุดยั้งคลื่นพลังทั้งหมดไว้!

หัวใจที่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ของจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงวางลงได้อย่างสิ้นเชิงเสียที

ส่วนสิ่งมีชีวิตมืดมิดในแดนบูชายัญอันธการสลายเป็นจุณไปนานแล้ว ถูกลบล้างอย่างสมบูรณ์ท่ามกลางคลื่นพลังอันน่าสะพรึงนี้ อันตรธานหายไปอย่างสิ้นเชิง!

ในหมู่พวกมันมีสิ่งมีชีวิตมืดมิดระดับล้ำขีดขั้นสิบห้าแล้ว แต่ก็ยังไม่ไหว

ใต้คลื่นพลังจากศึกใหญ่นี้พวกมันเป็นเพียงตัวตนเล็กจ้อยดุจธุลี ถูกลบล้างไปได้ง่ายดาย ไม่มีพลังต้านทานแม้แต่น้อย!

นี่คือศึกที่จินตนาการไม่ออกสักนิด เปลี่ยนโลกทัศน์ในใจจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงอย่างสิ้นเชิง จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเห็นแล้วสะท้านเหลือแสน สะท้อนใจเป็นหนักหนา!

เส้นทางฝึกตนของเขายังต้องก้าวต่อไปอีกไกลทีเดียว!

ตู้มมม!

เสียงระเบิดดังไม่หยุดหย่อน ที่นี่ต่อสู้กันจนฟ้าถล่มดินทลาย ศพทั้งสองสยดสยองสะท้านโลกันตร์ ไอหมอกสีดำม้วนตัวขึ้นไม่หยุด!

อนิจจา ลงท้ายพวกมันก็สู้ไม่ไหว ไอหมอกสีดำถูกยันต์ทั้งสองใบทลาย วิชาการโจมตีสารพันของพวกมันล้วนไม่อาจแผ้วพานยันต์สองใบนี้แม้เศษเสี้ยว!

สุดท้าย ยันต์ทั้งสองใบลอยเข้ามาแนบเข้ากับหน้าผากบนศพสองร่างนี้!

ไอหมอกสีดำไร้ที่สิ้นสุดพลันไหลย้อนกลับ หลั่งไหลเข้าไปในสองศพนี้ทั้งหมด!

สองศพนี้ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีก ลอยค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ!

“ทั้งหมด…จบลงง่ายเพียงนี้เชียวหรือ!”

“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ หลี่จิ่วเต้าเป็นใครกันแน่ น่าเจ็บใจเหลือเกิน พวกเรายังไม่ได้ทำอันใดเลย!”

เสียงตะโกนใจแทบขาดดังออกจากสองศพนี้ เต็มไปด้วยความเจ็บใจ

พวกมันต้องการให้เปลวเพลิงมืดมิดลุกโชนในทุกอาณาจักร

ทว่าไม่ทันได้ลงมือก็ถูกลบล้างอย่างน่าอนาถ!

“เหตุใดถึงไม่ทำลายสองศพนี้เสีย!? หรือว่าหลี่จิ่วเต้าจะเป็นอาจารย์ของท่านนั้นจริง ๆ!”

ก่อนดวงจิตมืดมิดในศพทั้งสองจะสลาย ศพสตรีก็เอ่ยขึ้น

พลังที่แฝงอยู่ในยันต์สองใบนี้สามารถทำลายศพทั้งสองได้แน่นอน ทว่ายันต์สองใบนี้ไม่ได้ทำเช่นนั้น ไม่ได้ลงมือกับศพ เพียงแต่ลบล้างพลังมืดมิดในสองศพนี้เท่านั้น

มันคิดขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่าการคาดเดาก่อนหน้านี้ของมันอาจเป็นเรื่องถูกต้อง!

หลี่จิ่วเต้าคืออาจารย์ของสองศพนี้ จึงไม่อาจหักใจทำลายศพ เพราะเหตุนี้ถึงเพียงแต่กำจัดพลังมืดมิดในสองศพนี้เท่านั้น

ไม่นานนัก พลังมืดมิดในทั้งสองศพก็ถูกกำจัดจนเกลี้ยง ดวงจิตมืดมิดทั้งสองก็มลายหายไป

ศพทั้งสองไม่ได้มีรัศมีอาฆาตเฉกเช่นก่อนอีก เหลือเพียงความสงบร่มเย็น

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงก้าวออกมา เขารู้ว่าศึกนี้จบแล้ว จิตสำนึกมืดมิดถูกลบล้างหมดแล้ว

“เหตุใดถึงน้ำตาไหล?!”

เขามาถึงด้านศพทั้งสองก็พลันนิ่งอึ้ง เมื่อเห็นว่าในดวงตาปิดสนิทของศพสองร่างนี้มีน้ำตารินไหล

“สองคนนี้ คงไม่ได้เป็นลูกศิษย์คุณชายจริง ๆ กระมัง!”

หัวใจของจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเต้น ‘โครมคราม’ เมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างศพสองร่างนี้

เขาตระหนักได้ว่าสองศพนี้อาจเป็นลูกศิษย์ของคุณชายจริง ๆ!

‘สองคนนี้เก่งกาจทั้งคู่ เป็นผู้บุกเบิกยุคสมัยแห่งการฝึกตน หากว่าผู้ใดเป็นอาจารย์ของพวกเขาได้ คงมีแต่คุณชายเท่านั้น!’

เขาส่งเสียงสะท้อนใจ นั่นคือผู้เบิกทางเชียวนะ ผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกตน แม้มิใช่ผู้ริเริ่มจริง แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเก่งกาจของเขา

ผู้ที่สามารถเป็นอาจารย์ของผู้เบิกทางเช่นนี้ นอกจากคุณชายแล้วเขานึกผู้อื่นไม่ออกจริง ๆ!

“เฮ้อ คนอาภัพทั้งสอง ลำบากมามากแล้ว…”

เวลานั้นเอง เสียงของลานเล็กก็ดังมาถึงที่นี่

เห็นได้ชัดว่ามันรู้อะไรมากกว่านั้น รู้เรื่องภายในไม่น้อย รู้ตื้นลึกหนาบางของสองศพนี้

“เก็บศพของพวกเขาทั้งสองให้ดี พวกเขาจะไม่จบลงเพียงเท่านี้ วันหน้า…พวกเขาจะปรากฏตัวอีกครั้งแน่นอน!”

ลานเล็กกล่าว

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท