บทที่ 909 เจิงมู่ (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

โลก​มาร​สวรรค์​

เขต​ดาว​สัตว์​โบราณ​

ตูม​!

ดาวฤกษ์​ดวง​หนึ่ง​ระเบิด​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ แสงสว่าง​นับไม่ถ้วน​เจิดจ้า​กระจาย​ออก​ไป สาดส่อง​อุกกาบาต​และ​ดาวเคราะห์​โดยรอบ​

แสงระเบิด​เจิดจ้า​แยงตา​คงอยู่​สอง​สามวินาที​ก่อน​จะค่อยๆ​ มืด​สลัว​ลง​ ณ ขอบ​ใจกลาง​การระเบิด​ สัตว์ประหลาด​ตัว​ใหญ่​มหึมา​น่ากลัว​ตัว​หนึ่ง​ กระพือปีก​ ส่าย​หัว​ที่​คล้าย​กับ​เหยี่ยว​ทั้ง​แปด​

สัตว์ประหลาด​ตัว​นี้​มีหัว​เหยี่ยว​แปด​หัว​ ร่างกาย​กำยำ​ดุจ​ราชสีห์​ เปลวเพลิง​สีทอง​ดุจ​ดวงอาทิตย์​ลุกไหม้​ทั่ว​ทั้งตัว​

แม้ร่างกาย​ของ​มัน​จะไม่ใหญ่โต​เท่า​ดาวฤกษ์​ แต่​ก็​เทียบ​ได้​กับ​ดาวเคราะห์​ทั่วไป​

“วิญญาณ​ดาว​บัดซบ​เอ๊ย​ สู้ไม่ได้​ก็​ระเบิด​ตัว​ตาย​หรือ​ น่าสมเพช​!?” อสูร​อินทรี​ราชสีห์​แปด​เศียร​โปมี่ลา​คำราม​สบถ​อย่าง​รังเกียจ​

ความจริง​ใน​เผ่า​สัตว์​โบราณ​ อายุ​ของ​มัน​ถือว่า​ยัง​อ่อนเยาว์​ยิ่ง​ ตอนนี้​อายุ​แค่​สามแสน​ปี นับ​เป็น​เศษเสี้ยว​ของ​พวก​แก่ๆ​ มากกว่า​ร้อย​ล้าน​ปีเหล่านั้น​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​

แต่​เพราะ​อ่อนวัย​ โปมี่ลา​จึงชื่นชอบ​เดินทาง​ไปทั่ว​ หาว่า​มีเรื่อง​สนุก​ๆ อะไร​หรือไม่​

ความเคยชิน​ที่​ไม่ดี​นี้​ ทำให้​เงาฉาย​ของ​มัน​ถูก​มนุษย์​ทำลาย​ไป มัน​ที่​บ้าคลั่ง​ใน​ตอนนั้น​ได้​ใช้ร่าง​จริง​ไปทำลาย​ดาวเคราะห์​ของ​สำนัก​มนุษย์​ดวง​หนึ่ง​ แต่​ก็​ถูก​ผู้​เข้มแข็ง​อนธการ​ของ​สำนัก​นั้น​ทำร้าย​บาดเจ็บ​เช่นกัน​

เดิมที​เป็น​เพราะ​เรื่อง​นั้น​ เขา​จึงถูก​เหล่า​ผู้อาวุโส​ใน​เผ่า​กักบริเวณ​ เพียงแต่​ตอนนี้​เผ่า​สัตว์​โบราณ​เปิดศึก​กับ​พันธมิตร​วิญญาณ​ดวงดาว​เต็มอัตรา​ เหล่า​ผู้ยิ่งใหญ่​ใน​เผ่า​ต่อสู้​กับ​วิญญาณ​ดวงดาว​อย่าง​ดุเดือด​ จึงไม่มีเวลา​มาสนใจ​มัน​

ดังนั้น​โปมี่ลา​เลย​หนี​ออกมา​

หลัง​ขาก​กำจัด​วิญญาณ​ดาว​ที่​ขวางทาง​เสร็จ​ โปมี่ลา​ก็​ตัดสินใจ​หา​สถานที่พักผ่อน​ สั่งสมกำลัง​ แล้ว​ค่อย​ออกเดินทาง​ต่อไป​

ที่​มัน​แอบ​ออกมา​ใน​ครั้งนี้​ ไม่ใช่เพราะ​อยู่​ว่าง​ๆ ไม่มีอะไร​ทำ​ แต่​แอบ​ได้ข่าว​มาว่า​ ไอ้​คน​ที่​ด่า​มัน​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ไม่เพียงแต่​ไม่ตาย​ ทั้ง​ยัง​ใช้ชีวิต​อย่าง​อยู่ดี​มีสุข​ ถึงขั้น​ได้​สัญลักษณ์​แห่ง​ราชัน​แล้ว​!

ถ้าไม่ใช่ใน​เผ่า​มีนิสัย​รวบรวม​จับตา​กลิ่นอาย​เฉพาะตัว​ของ​สัญลักษณ์​แห่ง​ราชัน​มาโดยตลอด​ มัน​ก็​คง​ไม่รู้​ว่า​ ไอ้​มนุษย์​โง่เง่าตอนนั้น​ที่​บอก​ให้​มัน​เรียก​ว่า​บิดา​ ถึงกับ​ยัง​มีชีวิต​อย่าง​สุขี​

นี่​ทำให้​เพลิง​โทสะ​ที่​เคย​ดับ​ไปแล้ว​ของ​โปมี่ลา​ ลุกโชน​ขึ้น​อีกครั้ง​

และ​หลังจาก​ตรวจสอบ​ มัน​ก็​ค้นพบ​อย่าง​งุนงง​ว่า​ มนุษย์​ผู้​นั้น​ไม่เพียง​ได้​สัญลักษณ์​แห่ง​ราชัน​ไป ทั้ง​ยัง​เป็น​ผู้​เข้มแข็ง​อนธ​การคน​หนึ่ง​

หาก​มัน​ดุ่มๆ​ ไปแบบนี้​ ไม่แน่​ว่า​จะจัดการ​ได้​

ดังนั้น​เพื่อ​หา​วิธี​ฆ่าไอ้​สารเลว​นั่น​ โปมี่ลา​จึงมายัง​เขต​ดาว​ที่​เร้นลับ​แห่ง​นี้​ด้วย​ความ​จนปัญญา​ เพื่อ​ตามหา​ซีตี​แห่ง​เผ่า​เต่า​ยักษ์​พัน​ขา​ บิดา​บุญธรรม​ของ​ตนเอง​

โปมี่ลา​กระพือปีก​อยู่​กลาง​ความว่างเปล่า​ ส่งคลื่น​คลุมเครือ​ไร้​รูปร่าง​ออกมา​ คลื่น​นั้น​กระจาย​ออก​ไปนับไม่ถ้วน​ตาม​มิติ​เวลา​

ด้วย​ความเร็ว​ที่​ยิ่งกว่า​แสง เพียง​พริบตาเดียว​ก็​ครอบคลุม​อาณาเขต​มหึมา​หลาย​หมื่น​ปีแสงแล้ว​

สักพัก​หนึ่ง​ ก้อน​กลม​สีเทา​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ท่ามกลาง​ความว่างเปล่า​

ก้อน​กลม​ยืด​ขยาย​และ​ฉีก​ออก​อย่าง​ช้าๆ ไม่นาน​ก็​กลายเป็น​ร่อง​แยก​สีเทา​ที่​แปลกประหลาด​พิสดาร​เส้น​หนึ่ง​ ใน​ร่อง​แยก​คู่​หนึ่ง​ มีดวงตา​ยักษ์​สีเงิน​ริ้ว​เลือด​กระจาย​อยู่​เต็มไปหมด​ จ้องมอง​โปมี่ลาจาก​ใน​ความมืด​

“โปมี่ลา​หรือ​ ตามหา​ข้า​มีธุระ​อะไร​” เสียง​ชาย​ชรา​ราบเรียบ​ดัง​มาจาก​ใน​ร่อง​แยก​

“ท่าน​พ่อ​ ข้า​อยาก​ฆ่ามนุษย์​ชั่ว​ตัว​หนึ่ง​ มัน​ต้องการ​ให้​ข้า​เรียก​มัน​ว่า​บิดา​เชียว​นะ​!?” โปมี่ลา​เอ่ย​อย่าง​ปากคอ​เราะร้าย​

“แค่​มนุษย์​คนเดียว​ มัน​เอา​ความกล้า​ขนาด​นั้น​มาจาก​ไหน​ ถึงกับ​กล้า​หยาม​เกียรติ​ของ​เผ่า​สัตว์​โบราณ​อย่าง​ข้า​! รนหาที่​ตาย​แท้ๆ​! ข้า​ต้องการ​ฆ่ามัน​ ไม่ใช่แค่​มัน​เท่านั้น​ แม้แต่​ระบบ​ดาวฤกษ์​ของ​มัน​ ข้า​ก็​จะกิน​ไปด้วย​!”

“เจ้าจัดการ​เอง​ก็ได้​นี่​ แค่​มนุษย์​ตัว​เดียว​เอง​” ผู้ชรา​ตอบ​อย่าง​ราบเรียบ​

“ไม่…มนุษย์​ตัว​นั้น​คือ​ผู้​เข้มแข็ง​อนธการ​ อีก​ทั้ง​มัน​ยัง​ครอบครอง​สัญลักษณ์​แห่ง​ราชัน​ด้วย​” โปมี่ลา​รีบ​กล่าว​

“สัญลักษณ์​แห่ง​ราชัน​…ใน​ดาราจักร​หนึ่ง​จะมีสัญลักษณ์​แห่ง​ราชัน​ได้​แค่​หนึ่ง​ชิ้น​เท่านั้น​…ผู้ครอบครอง​ต่าง​ได้รับ​ความสนใจ​จาก​ทั้ง​จักรวาล​ ตาม​สัญญาโบราณ​ พวกเรา​ไม่อาจ​ลงมือ​กับ​ผู้ครอบครอง​สัญลักษณ์​แห่ง​ราชัน​ได้​ ต้อง​รอ​ให้​พวกเขา​แสดง​ผลลัพธ์​ออกมา​ก่อน​จึงจะรับมือ​ได้​” ผู้ชรา​เอ่ย​อย่าง​เรียบ​เฉย​

“แต่​ข้า​ทน​การเหยียดหยาม​เช่นนี้​ไม่ได้​” สายตา​ของ​โปมี่ลา​บิดเบี้ยว​ มัน​ไม่เคย​เสียท่า​ขนาด​นี้​มาก่อน​

“อย่างนั้น​เจ้าก็​สร้าง​พันธมิตร​เอง​สิ” ผู้ชรา​ยิ้ม​พลาง​แนะนำ​ “มาตรการ​นภา​ดาว​ไม่ได้​ห้าม​เจ้าสนับสนุน​ผู้ครอบครอง​สัญลักษณ์​แห่ง​ราชัน​คนอื่น​ แม้นี่​จะเป็น​การต่อสู้​ภายใน​เผ่า​มนุษย์​ เผ่าพันธุ์​อื่น​ห้าม​เข้าร่วม​ แต่​เจ้าสามารถ​เข้าร่วม​ในฐานะ​พันธมิตร​ได้​ ไม่ขัด​กับ​กฎ​”

“นอกจากนี้​ คน​ผู้​นั้น​จะต้อง​มีวัตถุ​ล้ำค่า​มากมาย​แน่​ เจ้าไปทำลาย​พวก​มัน​ ก็​เป็น​การแก้แค้น​เหมือนกัน​ไม่ใช่หรือ​” ผู้ชรา​อธิบาย​อย่าง​เรียบง่าย​ ให้​คำแนะนำ​สอง​อย่าง​รวบรัด​และ​มีประสิทธิภาพ​กับ​โปมี่ลา​

“ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ แต่​ข้า​ไม่เพียง​ต้อง​สนับสนุน​ผู้ครอบครอง​สัญลักษณ์​แห่ง​ราชัน​คนอื่นๆ​ เท่านั้น​ ข้า​ต้องการ​ให้​ไอ้​นั่น​จ่าย​ค่าตอบแทน​ด้วย​” โปมี่ลา​ยังคง​ไม่พอใจ​อยู่​บ้าง​

ผู้ชรา​ใน​ร่อง​แยก​ขบคิด​เล็กน้อย​

“ก็ได้​…ใน​เมื่อ​นี่​เป็น​คำขอ​ของ​เจ้า ข้า​จะลงมือ​ด้วยตัวเอง​ จัดการ​เรื่อง​นี้​แทน​เจ้าสักครั้ง​ แต่​ข้า​เอง​ก็​มีหน้าที่​ ทุกๆ​ การเคลื่อนไหว​ของ​ระดับ​ดาว​มรณะ​จะทำให้​พันธมิตร​วิญญาณ​ดวงดาว​เปิดศึก​เต็มอัตรา​ ดังนั้น​ไม่สามารถ​ร่วม​จัดการ​กับ​เจ้าได้​ ทว่า​ขอ​แค่​เจ้าเจอ​เป้าหมาย​ ก็​ให้​โยน​เกล็ด​ที่​ข้า​เคย​มอบให้​เจ้าไปก่อนหน้านี้​ออกมา​ก็​พอ​”

“ขอบคุณ​ท่าน​พ่อบุญธรรม​!” โปมี่ลา​ยินดี​

นี่​คือ​ผู้​เข้มแข็ง​ดาว​มรณะ​เชียว​นะ​!

มัน​เอง​ก็​เป็น​อนธการ​เช่นกัน​ รู้ดี​ว่า​ผู้​เข้มแข็ง​ดาว​มรณะ​แข็งแกร่ง​ขนาด​ไหน​ พวกเขา​ทุกคน​ ต่อให้​เป็น​ภายใน​เผ่า​สัตว์​โบราณ​เอง​ ก็​มีวีร​บุ​รษ​สะท้าน​ภพ​เช่นกัน​

ระดับ​ดาว​มรณะ​อยู่​ใน​จักรวาล​ตลอดเวลา​ เป็น​สัญลักษณ์​ของ​ขีดจำกัด​ระหว่าง​มนุษย์​กับ​อมนุษย์​

มนุษย์​ ไม่ว่า​จะเป็น​มนุษย์​คนใด​ ขีดจำกัด​ทาง​วิญญาณ​ของ​พวกเขา​ก็​คือ​อนธการ​ขั้นสูงสุด​ หาก​คิด​จะขึ้นไป​อีก​ วิธี​เพียง​หนึ่งเดียว​ก็​คือ​ เปลี่ยน​ร่างกาย​ ปรับปรุง​จิตวิญญาณ​โดยสิ้นเชิง​ ทำให้​ตน​ไม่ใช่มนุษย์​อีกต่อไป​

ส่วน​ระดับ​ดาว​มรณะ​ นั้น​หมายถึง​ขีดจำกัด​ของ​ชีวิต​ที่​มนุษย์​ไม่มีทาง​ก้าว​ข้าม​ได้​

โลก​บรรพกาล​

ลู่​เซิ่งกลายเป็น​เมฆเพลิง​สีแดง​สาย​หนึ่ง​ บิน​ผ่าน​เหนือ​ป่าแห่ง​ต้นไม้​ยักษ์​อย่าง​รวดเร็ว​

กลิ่นอาย​แข็งแกร่ง​อ่อนแอ​ไม่แน่นอน​หลาย​สาย​พุ่ง​ผ่าน​ด้านล่าง​เป็นระยะ​ ทำให้​เขา​สะท้อนใจ​ว่า​ ที่นี่​สมกับ​เป็น​สมัย​บรรพกาล​ แค่​ราชา​ปีศาจระดับ​ทารก​กำเนิด​ ระหว่างทาง​ก็​เจอ​ไปสามตน​แล้ว​

ยิ่ง​อย่า​ว่าแต่​ราชา​ปีศาจระดับ​แก่น​ทองคำ​ที่​เหลือ​

พวก​ที่​มีความสำเร็จ​เล็กน้อย​เหล่านี้​ล้วน​ครอง​เขา​ครอง​ถ้ำ ตั้งตัว​เป็น​ราชา​ บ้าง​ก็​ยึด​แม่น้ำ​ตั้งตัว​เป็นใหญ่​

ปีศาจส่วนใหญ่​ต้องการ​หา​สถานที่​ที่​สุขสบาย​ใน​การฝึกฝน​และ​ใช้ชีวิต​

ดังนั้น​ป่าแห่ง​ต้นไม้​ยักษ์​แห่ง​นี้​จึงมีปีศาจไร้​ซึ่งกิเลส​ตัณหา​ ทว่า​มีพลัง​เหี้ยมหาญ​อยู่​มากมาย​

ลู่​เซิ่งบิน​ผ่าน​ทะเลสาบ​ใสแวววาว​ ก่อน​จะทิ้งตัว​ลง​ห่าง​จาก​สัตว์​ยักษ์​ฝูงหนึ่ง​ที่​กินน้ำ​อยู่​

สัตว์​ยักษ์​พวก​นี้​สลัก​คำ​ว่า​มู่ไว้​บน​ตัว​ แสดงให้เห็น​ว่า​มีคน​มาปล่อย​เลี้ยง​ไว้​ที่นี่​

ขนาด​ตัว​ของ​สัตว์​ยักษ์​เหมือนกับ​แรด​สีเขียวขี้ม้า​ หางยาว​หยาบ​ใหญ่​ แต่ละ​ตัว​กำยำ​ ก้าวเดิน​เชื่องช้า​ยิ่งนัก​

ลู่​เซิ่งค่อยๆ​ ลด​ระดับ​ลง​ไปยืน​บน​คาคบ​ต้น​หนึ่ง​

“ใคร​กัน​!?” บุรุษ​ร่าง​บึกบึน​ตัว​สูงใหญ่​ เสียบ​ขนนก​สีดำ​ไว้​บน​ศีรษะ​ สวม​เสื้อผ้า​ฟางและ​กระโปรง​สีดำ​พุ่ง​ออกมา​

“ที่นี่​คือ​อาณาเขต​ของ​เผ่า​เจิงมู่! ไม่ว่า​เจ้าจะเป็น​ปีศาจมาจาก​ไหน​ ขอให้​ออก​ไปทันที​!” บุรุษ​คน​หนึ่ง​ถือ​หอก​หิน​ตวาด​เสียงดัง​

“ที่นี่​คือ​เผ่า​เจิงมู่หรือ​ มาถึงแล้ว​หรือ​นี่​” ลู่​เซิ่งกวาดตา​มอง​รอบ​ๆ สิ่งที่​ทำให้​เขา​ประหลาดใจ​คือ​ สัมผัส​กลิ่นอาย​จิตวิญญาณ​จาก​คน​เผ่า​เจิงมู่เหล่านี้​ไม่ได้​แม้แต่​นิดเดียว​ เหมือนกับ​พวกเขา​มีแต่​กาย​เนื้อ​เท่านั้น​

นอกจากนี้​กลิ่นอาย​ชีวิต​ของ​แต่ละคน​ยัง​แข็งแกร่ง​จน​น่า​ตกใจ​ ทั้งๆ ที่​มอง​ไปเป็น​เพียง​คนธรรมดา​ แต่​ความหนาแน่น​ของ​กลิ่นอาย​ชีวิต​ถึงขั้น​เทียบ​ได้​กับ​ปีศาจระดับ​สร้าง​รากฐาน​

นี่​ทำให้​เขา​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ เมื่อ​ไม่มีจิตวิญญาณ​ ก็​ไม่อาจ​ใช้วิชา​จิตวิญญาณ​อย่าง​วิชา​จิต​โน้ม​นำ​ได้​

“ใน​เมื่อ​เจอ​ตัวการ​แล้ว​…อย่างนั้น​…ก็​เริ่ม​กัน​เลย​” ดวงตา​ลู่​เซิ่งสั่น​ไหว​ สร้าง​ดาบ​เพลิง​ยาว​เล่ม​หนึ่ง​ขึ้น​ใน​มือ​

ดาบ​เพลิง​สีแดงฉาน​ส่องสว่าง​ใน​พริบตา​ ปลดปล่อย​วง​แสงสีทอง​ออกมา​

เป็น​อัคคี​เทพ​ทักษิณ​ ไฟอัน​แข็งแกร่ง​อัน​เป็นตัวแทน​หงส์​เพลิง​

แสงไฟวนเวียน​เริงระบำ​รอบตัว​ลู่​เซิ่งเหมือนกับ​มีชีวิต​

บุรุษ​ใน​เผ่า​เวท​เจิงมู่หลาย​คน​เห็น​ดังนั้น​ หน้า​พลัน​เปลี่ยนสี​ รู้ดี​ว่า​ปัญหา​ได้มา​เยือน​แล้ว​

“เป็นไฟ​พิเศษ​ ลุย​เข้าไป​กำจัด​มัน​พร้อมกัน​!”

ผู้นำ​กลุ่ม​เผ่า​เวท​ยกมือ​ใหญ่​ขึ้น​ บุรุษ​สตรี​ใน​เผ่า​เวท​สิบ​กว่า​คน​พุ่ง​ออก​มาจาก​ป่ารอบ​ๆ

ใน​ฐานะ​เผ่า​เวท​ ไม่ว่า​จะล่าสัตว์​หรือ​จัดการ​คู่ต่อสู้​ ที่แล้ว​มาพวกเขา​มีกำลัง​เท่าไร​ ก็​ใช้กำลัง​เท่านั้น​ ลุย​เข้าไป​ทั้งหมด​

เผ่า​เวท​ทั้งหมด​ยก​มือขึ้น​ ฉับพลัน​นั้น​บน​ต้นไม้​และ​พื้นดิน​ก็​มีเถาวัลย์​แหลม​หยาบ​ใหญ่​หลาย​เส้น​มุด​ออกมา​ พุ่ง​เข้าหา​หมาย​รัด​พัน​ลู่​เซิ่ง

เถาวัลย์​เหล่านี้​รับมือ​ยาก​ถึงขีดสุด​ ไฟทั่วไป​ไม่มีผลต่อ​พวก​มัน​ แต่​นั่น​ไม่นับ​อัคคี​เทพ​ทักษิณ​

ลู่​เซิ่งสะบัด​ข้อมือ​ เปลวเพลิง​บน​ดาบ​ไฟปล่อย​ไฟจำนวนมาก​ออกมา​ ต้านทาน​เถาวัลย์​ทั้งหมด​

ตูม​!

เถาวัลย์​ถูก​เผา​แห้งเหี่ยว​ดำ​เกรียม​

เผ่า​เวท​พา​กัน​ร้อง​คำราม​ เพิ่ม​พลัง​เข้าไป​อีก​ เถาวัลย์​พุ่ง​เข้าใส่​เปลวเพลิง​อย่าง​มืดฟ้ามัวดิน​

อัคคี​เทพ​ทักษิณ​ที่​เพิ่ง​ปล่อย​ออกมา​เมื่อ​ครู่​ถูก​เถาวัลย์​จำนวน​มากกว่า​เดิม​ครอบคลุม​ ไม่นาน​ก็​มอด​ดับ​ลง​

“อ้อ​? มีความสามารถ​นี่​” ลู่​เซิ่งกล่าว​อย่าง​แปลกใจ​ นี่​เป็น​แค่​เผ่า​เวท​ธรรมดา​ แต่กลับ​ดับไฟ​ที่​เขา​ปล่อย​ออกมา​ได้​ ดูเหมือน​เผ่า​เวท​นี้​จะมีดี​อยู่​บ้าง​จริงๆ​

“อีกที​สิ” เขา​ตั้ง​ดาบ​ไฟขึ้น​ แล้ว​สะบัด​เบา​ๆ

ฉับพลัน​นั้น​เปลวเพลิง​สีแดง​ฉายแสง​สีทอง​มากมาย​รวมตัวกัน​ กลายเป็น​นก​พร่ามัว​ตัว​หนึ่ง​

นี่​เป็นการ​รวมตัว​ด้วยตัวเอง​ ลู่​เซิ่งไม่ได้​ควบคุม​ เพียงแค่​รวม​อัคคี​เทพ​ทักษิณ​จำนวนมาก​ไว้​ด้วยกัน​ ก็​กลายเป็น​เช่นนี้​โดยอัตโนมัติ​

“ไป” ลู่​เซิ่งชี้ไปด้านหน้า​ หงส์​เพลิง​โผ​ทะยาน​ออก​ไป พุ่ง​ใส่เผ่า​เวท​เหล่านั้น​พร้อม​เสียง​กู่​ร้อง​สะท้าน​สะเทือน​

เถาวัลย์​นับไม่ถ้วน​ลอย​ขึ้น​ฟ้า หมาย​ขัดขวาง​ แต่​ถูก​หงส์​เพลิง​ทะลวง​อย่าง​ง่ายดาย​ ลุกไหม้​เป็น​ตอ​ตะโก​นับไม่ถ้วน​

เผ่า​เวท​ที่​เมื่อ​ครู่​ต้านทาน​ได้​อย่าง​ฮึกเหิม​ก็​ไม่อาจ​รับมือ​ได้​ทัน​ ถูก​หงส์​เพลิง​โฉบ​กลืน​

พริบตาเดียว​เผ่า​เวท​สิบ​กว่า​คน​ก็​ถูก​เผา​จน​ไม่เหลือ​แม้แต่​กระดูก​

ลู่​เซิ่งถือ​ดาบ​เดิน​เข้าไป​โดยที่​สีหน้า​ไม่เปลี่ยนแปลง​ เขา​สืบเท้า​ออก​ก้าว​หนึ่ง​ก็​ข้าม​ได้​หลาย​สิบ​หมี่​แล้ว​

หงส์​เพลิง​ตัว​นั้น​กลับมา​บิน​วนเวียน​อยู่​รอบกาย​เขา​

กรรซ์!​

สัตว์​ยักษ์​ที่​ดื่ม​น้ำ​อยู่​เมื่อ​ครู่​ต่าง​ตื่นตกใจ​ แตกตื่น​เตลิด​หนี​อย่าง​หวาดกลัว​ นักรบ​ของ​เผ่า​เวท​เจิงมู่จำนวนมาก​เร่งรุด​เข้ามา​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท