หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 47 เคารพผู้อาวุโสและรักเมตตาเด็ก?

บทที่ 47 เคารพผู้อาวุโสและรักเมตตาเด็ก?

บทที่ 47 เคารพผู้อาวุโสและรักเมตตาเด็ก?

เวลานี้ไหล่ของนางถูกมือแห้งเหี่ยวตบเบาๆ จากนั้นเห็นเจ้าของมือที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นเดินตรงไปข้างหน้า ใบหน้าของเขานิ่งสงบดุจน้ำ นัยน์ตากลับมีอารมณ์ที่ต่างออกไป

อากาศวันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม แม้ว่าไม่มีวี่แววว่าฝนจะตก แต่ทว่ามีลมเย็นๆพัดผ่านมา ดั่งมีดเล่มเล็กกรีดเข้าที่หน้า เย็นสบาย แต่ให้ความรู้สึกที่อึดอัด

ภาพสะท้อนในดวงตาของหลานเยาเยาเป็นภาพสถานที่ทิ้งร้างอันกว้างขวาง แต่ทว่าดูออกไม่ยากว่าที่นี่เคยมีความรุ่งโรจน์มากเพียงใด

แต่ว่าไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใดจึงกลายเป็นสภาพเช่นนี้ไปได้

หลานเยาเยายืนอยู่ตรงนั้น มองดูชายชราผมขาวเดินเข้าไปตรงที่เป็นซากปรักหักพังทีละก้าว แผนหลังที่ดูเศร้าๆเหงาๆราวกับว่าได้ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน

เห็นเขาเหยียบใส่ก้อนหินหนึ่งก้อนราวกับว่าจะหกล้ม หลานเยาเยารีบเดินตรงไปหวังว่าจะจับตัวเขาไว้ กลับพบว่าเขายืนนิ่งได้แล้ว และเดินต่อไปข้างหน้า

เป็นตาแก่ที่ดื้อดึงเสียจริง

มือที่ยื่นหวังจะจับตัวเขาไว้ของหลานเยาเยาได้เปลี่ยนทิศไปทางเสาหินด้านข้างที่หักเป็นท่อนๆ สัมผัสที่หนาวๆเย็นๆตรงสู่ก้นบึงหัวใจ

ฝุ่นหนาบางส่วนหล่นลงมาจากเสาหินหลังจากที่นางสัมผัสโดนจากนั้นก็ผสมเข้ากับผงคลีดินบนพื้น

ที่นี่เป็นที่อะไรกันแน่?

ชายชราผมขาวคนนี้คือใครกันแน่?

ความสงสัยมากมายที่ไร้คำตอบปั่นป่วนในจิตใจ แต่ว่านางไม่ได้ไปถามตรงๆ

เมื่อนางปีนขึ้นไปบนเสาหักที่สูงที่สุด นางมองไปที่สถานที่ไม่ไกลจากซากปรักหักพังซึ่งมีอาคารเหลืองอร่ามตระการตาตั้งอยู่ ยืนตระหง่านใต้ท้องนภาอย่างมั่นคง

ในใจของหลานเยาเยายิ่งงงงันหนักขึ้น…

“เว่ย ตาแก่ ตรงนั้นคือสถานที่อะไร?” นางถามขึ้น

“สุสาน”

ชายชราผมขาวตอบกลับทั้งที่ไม่เงยหน้า ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเสียดาย

สุสาน?

ไหงเป็นสุสาน

ถ้าหากที่นั่นคือสุสานที่นี่ก็ต้องเป็นสุสานน่ะสิ ก็แค่คนที่อยู่และยุคราชวงศ์แตกต่างกันก็เท่านั้นเอง

เฮ้อ

คำว่าสุสานในราชวงศ์ยุคก่อนหน้าลอยเข้ามาในหัว

คิดไม่ถึงว่าจะถูกทำลายถึงเพียงนี้…

นี่น่าจะเป็นประจักษ์พยานถึงการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย และเป็นการดูถูกหมิ่นเกียรติจากราชวงศ์ปัจจุบัน

“ออ”

หลังจากที่รู้ว่าสถานที่นี้คืออะไร ในใจของหลานเยาเยาอยู่ไม่นิ่งอีกต่อไป ก็เลยพูดอย่างระมัดระวังว่า “หรือว่า…เราไปกันเถอะ”

“ทำไม? นังเด็กบ้า เจ้ากลัวหรือ?”

ครั้งนี้ ชายชราผมขาวยืนตัวตรง หันหน้ากลับมายิ้มอ่อนๆให้นาง มีสีหน้าแปลกๆ

“กลัวน่ะไม่กลัวหรอก แต่ว่าทำแบบนี้มันเสี่ยงเกินไป หากไม่ระวังตัวถึงขั้นหัวขาดเลยนะ” ไม่ไกลจากนี้ก็คือสุสาน ที่นั่นจะต้องมีคนเฝ้าดูแลอยู่เป็นแน่

หากถูกพวกเขาพบเจอละก็ จะต้องถูกจับแน่เพราะคิดว่าเป็นฝ่ายราชวงศ์ยุคก่อน

ถึงตอนนั้นจะได้ไม่คุ้มเสียนะ

“เหรียญเงินหนึ่งพันตำลึงไม่เอาแล้วหรือ?” ชายชราผมขาวมองจ้องไปที่ใบหน้าซีดเซียวคิ้วโก่งหน่อยๆ

“นี่…เร็วกว่านี้หน่อยได้ไหม?”

แค่ได้ยินคำว่าเหรียญเงิน หลานเยาเยาลังเลทันที

มีเหรียญเงินอ่ะนะ ทั้งยังหนึ่งพันตำลึงเชียว ไม่เอาก็แค่ไม่เอา เอาก็เอาฟรี เอาฟรีๆใครจะไม่เอาล่ะ?

“แน่นอนอยู่แล้ว”

ผ่านไปครู่เดียว ชายชราผมขาวเดินเข้ามาหานาง ในมือถือมุกหนึ่งเม็ดที่เกาะเต็มไปด้วยฝุ่นหนา หลังจากที่เดินมาถึงตัวนาง มุกหนึ่งกำมือถูกวางในฝ่ามือของนาง แล้วพูดขึ้นอย่างเบาๆว่า

“ไปเถอะ”

เออ…

เหรียญเงินหนึ่งพันตำลึงไม่ใช่หรือ?

ทำไมเป็นแค่มุกหนึ่งเม็ดที่ดูแล้วไม่ได้มีมูลค่าอะไรล่ะ

ทว่าหลานเยาเยารีบเช็ดมุกที่มีฝุ่นหนาเกาะบนตัวนาง จากนั้นรีบเดินตามฝีเท้าของชายชราผมขาวอย่างรวดเร็ว

นางถามทั้งที่กำลังจ้องมองมุกสีเลือดไปด้วยและสงสัยไปด้วย

“มุกอันนี้มีมูลค่าถึงหนึ่งพันตำลึงหรือ?”

“วางใจเถอะ มีแต่มากไม่มีน้อย” ชายชราผมขาวเดินไปด้วยส่ายหัวอย่างเอือมๆไปด้วย แม้ว่าสีหน้าดูเหมือนเศร้าโศก แต่ว่ามุมปากกลับมีรอยยิ้มบางๆ

หลังจากที่เขาสองคนจากไป มีเงาร่างสีดำปรากฏหลังเสาหักของสถานที่ซากปรักหักพัง สายตาที่ดุร้ายของเขามองจ้องไปยังแผนหลังของพวกเขาที่ค่อยๆห่างออกไป จากนั้นทำเสียง ฮึ่ม และแอบตามไปอย่างเงียบๆ

——

บ้านที่ถูกปล่อยร้าง โต๊ะเก่าตัวหนึ่งถูกเช็ดจนสะอาดสะอ้าน ข้างบนวางจานสามใบไว้ จานตรงกลางวางหัวหมูที่ต้มแล้ว จานซ้ายกับขาววางผลไม้กับหมั่นโถว

ข้างหน้าจานทั้งสามวางกระถางธูปเล็กๆไว้หนึ่งอัน และข้างบนเสียบเทียนสีแดงยาวยาวหนึ่งเล่มไว้ ซึ่งตอนนี้ได้จุดไฟไว้แล้ว

ชายชราผมขาวนั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะ เขายิ้มกริ่มๆมองไปทางหลานเยาเยาที่ตอนนี้วิ่งเข้าวิ่งออกดูยุ่งมาก

หลานเยาเยาในเวลานี้ดีอกดีใจใหญ่ หลังจากที่กลับจากสุสานหลวงของราชวงศ์ก่อน นางก็ไปที่โรงรับจำนำเพื่อสอบถามราคาของมุกสีเลือด

หลังจากที่รู้ราคา ดีใจจนเปิดตากว้าง และขายมุกในเวลานั้นทันที

ตอนนี้นางก็นับว่าเป็นเศรษฐีคนหนึ่งเลยล่ะ

เฮย เฮย เฮย…

ตอนนี้นะมาทั้งธูปทั้งหัวหมู ก็ใช้เพื่อนับญาติ หลังจากที่ทุกอย่างเข้าที่

หลานเยาเยาถือแก้วชาไว้หนึ่งแก้ว คุกเข้าลงบนเบาะรองเข่า และพูดด้วยความเอาจริงเอาจัง

“คุณปู่ที่เคารพ ขอน้อมรับการไหว้จากหลานสาวด้วยเถอะ นับจากวันนี้ไป ไม่ว่าจะยากดีมีจน ไม่ว่าดีหรือร้าย หลานสาวคนนี้จะเคารพรักต่อท่าน ขอให้ท่านรับแก้วน้ำชาแก้วนี้ด้วยเถอะ”

ก็แค่มีปู่เพิ่มมาอีกคน

ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

“ดีดีดี หลานรัก”

ชายชราผมขาวยิ้มและลูบหัวนางเบาๆ จากนั้นรับแก้วชาไปดื่มจนหมดแก้ว แล้ววางแก้วชาไว้ด้านข้าง หยิบมุกออกมาจากในอกเสื้อหนึ่งเม็ด

ครั้งนี้มุกเม็ดนี้ไม่ใช่สีเลือด แต่เป็นสีขาว

แต่ทว่ากลับเม็ดใหญ่กว่ามุกสีเลือดหลายเท่า ทั้งยังใสเป็นประกายสวยงาม

“มุกเม็ดนี้แม้ว่ามูลค่า จะไม่สูงเท่ามุกสีเลือดก่อนหน้า แต่กลับมีคนที่ชอบเล่นมันมาก”

หลังจากที่เขาตายข้าจึงฝั่งมุกเม็ดนี้ไว้บนเสาหิน โชคดีที่ไม่ถูกพวกหน้าเนื้อใจเสือค้นเจอ

มิเช่นนั้น เขาคงไม่ได้เห็นมุกเม็ดนี้อีกแล้ว

“โอโห้ มุกเม็ดนี้สวยจังเลย ยังมีอีกไหม?”

แค่แวบเดียวหลานเยาเยาก็หลงรักมุกเม็ดนั้นที่ชวนให้คนหลงใหล

“…ไม่มีแล้ว”

นางเด็กบ้านี้ คิดว่านางจะดีใจจนก้มกราบขอบคุณเสียอีก

คิดไม่ถึง…

หลานเยาเยาก็ไม่ได้สนใจว่ามุกยังมีอีกหรือไม่ หลังจากที่ชายชราผมขาวให้นางลุกขึ้น นางก็เล่นมุกนั้นไม่หยุดไม่หย่อน จนกระทั่งท้องของทั้งสองเริ่มประท้วงหิว

“จ๊อก จ๊อก จ๊อก จ๊อก…”

“จ๊อก จ๊อก จ๊อก จ๊อก…”

หลานเยาเยากับชายชราผมขาวต่างลูบที่ท้องของตัวเอง ตามด้วยมองไปที่หัวหมูที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างห้ามไม่ได้

หัวหมูนั้นมีกลิ่นเนื้อหมูหอมอบอวล ทั้งยังร้อนๆ

พวกหิวจนน้ำลายย้อยและกลืนลงคอหลายอึก

“นังหนู หัวหมูอันนี้ใช้เพื่อไหว้ข้าเป็นปู่ของเจ้า ในเมื่อใช้เพื่อกราบไหว้ มันก็ต้องเป็นของข้า”

“เว่ย ตาแก่ หัวหมูอันนี้ข้าใช้เหรียญเงินที่ขายมุกได้ซื้อมันกลับมานะ ตอนซื้อยังสั่งให้คนขายใส่หัวหอมและพวกเครื่องเทศเพิ่มเป็นพิเศษ ข้าเตรียมไว้เพื่อตัวข้าเอง ไหงกลายเป็นของท่านไปได้ล่ะ?”

“ไม่ได้ ข้าน่ะตอนนี้เป็นปู่เจ้า เมื่อครู่เจ้ายังพูดอยู่เลยว่าจะเคารพข้า ตอนนี้เป็นโอกาสให้เจ้าได้แสดงความกตัญญูแล้ว ยังไง พูดแล้วคิดคืนคำงั้นหรือ?”

“ตาแก่ เจ้าแก่จนเพี้ยนไปแล้ว ชีวิตเจ้ายังอยู่ในกำมือข้า ต่อให้เจ้าจะเป็นปู่ข้าแล้ว ก็ไม่อาจแย่งหัวหมูกับหลานสาวได้นะ”

ทั้งสองทะเลาะถกเถียงกันครึ่งค่อนวัน หลังจากที่ไร้ผลสรุปก็ลงมือเองเลย

จับกินหมั่นโถวและหัวหมูต้มสุกที่อยู่ในจาน จนกระทั่งทั้งสองกินจนอิ่มท้องมาก

ภาพเปลี่ยนไปทันที

“คุณปู่แสนดี แอปเปิลลูกนี้คือสิ่งแทนความกตัญญูจากข้า มา ให้ท่านกินนะ”

“ไม่ต้องแล้ว หลานรัก ปู่น่ะเอ็นดูเจ้า เจ้ากินเองเถอะ”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท