ตอนที่ 285 ประหาร
กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินจับตัวนายอำเภอเจิ้งไว้ทันที ทำให้ทุกคนตื่นตะลึง
นายอำเภอเจิ้งไม่สนใจความเจ็บปวด ถลึงตาจ้องมองเฮ่อชิงเซียว “ผู้บัญชาการเฮ่อ นี่ท่านหมายความเช่นไร”
เฮ่อชิงเซียวมองเขาเอ่ยด้วยสีหน้าเยียบเย็น “นายอำเภอเจิ้งหมิง รับสินบนหัวหน้าใหญ่ค่ายเมฆาดำ ดำรงตนวางเฉยต่อภัยโจร ปล่อยให้ชาวบ้านถูกโจรภูเขาสังหาร…”
ได้ยินเฮ่อชิงเซียวประกาศความผิดนายอำเภอเจิ้งด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น ชาวบ้านก็พากันส่งเสียงฮือดัง
“อะไรนะ นายอำเภอถึงกับสมคบกับโจรภูเขา?”
“มิน่าคนมากมายถูกโจรภูเขาปล้นฆ่า ทางการกลับไร้การเคลื่อนไหว ที่แท้รับผลประโยชน์จากโจรนี่เอง…”
…
นายอำเภอเจิ้งรู้ว่าไม่อาจปล่อยให้อีกฝ่ายพูดเพียงฝ่ายเดียว ก็ตะโกนใส่ชายหนุ่มที่มีใบหน้างามเยียบเย็นว่า “เหลวไหล! เห็นชัดว่าพวกเจ้าแอบอ้างเป็นกองกำลังองครักษ์จิ่น ใส่ร้ายข้า คิดก่อกบฏ! ทหาร…”
เสียงเจ้าหน้าที่กรูกันดังเข้ามาจากหน้าประตู ในมือถืออาวุธแต่ลังเลไม่กล้าเข้าใกล้
ไม่ว่าแอบอ้างเป็นกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินหรือไม่ นายอำเภอก็อยู่ในมือคนเหล่านี้
ซินโย่วนั่งอยู่บนหลังม้า ยิ้มเยียบเย็นกล่าวว่า “เจ้าขุนนางทุจริตแซ่เจิ้ง เวลานี้แล้ว เจ้ายังตลบตะแลง!”
นางยกมือขึ้นสะบัดคำให้การที่หัวหน้าใหญ่ลงนามประทับลายนิ้วมือตอนอยู่ในป่าออก พร้อมกับชี้ไปทางทหารองครักษ์จิ่นหลินนายหนึ่งที่คุมตัวหัวหน้าใหญ่ไว้ “คนผู้นี้ก็คือหัวหน้าใหญ่ค่ายเมฆาดำ นี่คือคำให้การที่เขาลงนามประทับลายนิ้วมือด้วยตนเอง มีรายชื่อขุนนางสุนัขที่ติดต่อกับโจรและขุนนางสุนัขที่รับผลประโยชน์ระบุไว้ชัดเจน!”
ชาวบ้านได้ยินว่าโจรภูเขาที่ถูกมัดแน่นเป็นก้อนก็คือหัวหน้าใหญ่ ก็อดเบียดกันเข้ามาดูไม่ได้ อยากจะดูให้ชัดเจน
“ทุกคนอย่าได้เชื่อคนพวกนี้ พวกเขาจับตัวคนมั่วซั่วบอกว่าเป็นโจรภูเขา คิดจะอาศัยโอกาสนี้ยึดที่ทำการอำเภอ ก่อการจลาจล!” นายอำเภอเจิ้งตาแดงก่ำพร้อมกับตะโกนดัง
เจ้าหน้าที่ในที่ทำการอำเภอ นอกจากพวกหน้าเหม็นไม่เข้าพวกและนิสัยแข็งกร้าว ก็ล้วนเคยได้ลิ้มชิมรสหวานล้ำไปแล้ว ยามนี้ย่อมเชื่อฟังคำสั่งของเขา คนกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินเพียงสิบกว่าคน หากกำจัดทิ้งไปในนามพวกแอบอ้างปลอมตัวมา วันหน้าค่อยหาทางกลบเกลื่อน หรือแอบหนีไป อย่างไรก็ดีกว่าถูกจับตอนนี้เพราะความผิดสมคบคิดกับโจร
นายอำเภอเจิ้งถูกคุมตัวไว้เริ่มลนลาน แต่กลับไม่ยอมรับชะตากรรม
ทหารในที่ทำการอำเภอมีหลายร้อย ร่วมกันจับกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินสิบกว่านาย
“เจิ้งหมิง เจ้าสิสมคบคิดกับโจรภูเขา คิดการไม่ซื่อ!” ซินโย่วยื่นมือล้วงเข้าไปในอกเสื้อ ชูของสิ่งหนึ่งขึ้นสูง “ป้ายทองคำพระราชทานอยู่ที่นี่ นายอำเภอหลิงเจิ้งหมิงเป็นขุนนางดังบิดาชาวบ้าน กลับรับสินบนโจรภูเขา ไม่เห็นความเป็นความตายของราษฎรในสายตา ความผิดสมควรประหาร!”
พอประกาศจบ ตอนทุกคนกำลังตกใจที่ได้เห็นป้ายคำสั่งส่องประกายสีทองวาว ทหารองครักษ์จิ่นหลินนายหนึ่งที่คุมตัวนายอำเภอเจิ้งไว้ยกดาบขึ้นสะบัด ศีรษะหนึ่งก็กระเด็นลอยขึ้นไปสูง
ศีรษะที่กระเด็นลอยขึ้นไปตกลง ศีรษะที่ดวงตายังเบิกโพลงของนายอำเภอเจิ้งกลิ้งไปหลายตลบ สีหน้ายังคงแข็งทื่อแทบไม่อยากเชื่อ
“อ๊าก!”
เสียงตกใจดังขึ้นทั่วทุกสารทิศ ร่างที่ไร้ศีรษะล้มลงกับพื้น นายอำเภอสูงส่งในใจราษฎรแดดิ้นลงเช่นนี้
“นายอำเภอ!” เจ้าหน้าที่หลายคนต่างแตกตื่นคิดก้าวเข้าไป แต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้
เจ้าหน้าที่ทางการในมือถือไม้พลองก็พากันมารวมตัวกันด้วยสัญชาตญาณไม่รู้ควรทำเช่นไรต่อ
ในบรรดาคนเหล่านี้มีหลายคนที่ปกติมักทำตัวโอหังวางอำนาจ แต่ไม่เคยนึกภาพศีรษะนายอำเภอถูกดาบฟันเช่นนี้มาก่อน
นี่คือขุนนางสูงสุดของอำเภอ บอกว่าจะสังหารก็สังหารไปแล้วหรือนี่
พริบตาเดียว คนในที่ทำการอำเภอที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดก็พากันนิ่งอึ้งไม่ขยับเขยื้อน
นี่คือสิ่งที่ซินโย่วคาดเอาไว้
ที่ทำการอำเภอมีกำลังทหารสองสามร้อยคนได้ หากไม่จัดการนายอำเภอเจิ้งในทันที พวกเขาก็จะตกเป็นฝ่ายรับ ทันทีที่นายอำเภอเจิ้งตายไป คนเหล่านี้กลับตกอยูในสภาพสับสนไร้หนทางในทันที
ในยามนี้เอง อำนาจสองฝ่ายย่อมประลองกำลัง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งย่อมได้เปรียบ
“โจรภูเขามีทั้งตายแล้วและยังมีลมหายใจ คำให้การมีลงนามประทับลายนิ้วมือ ผู้บัญชาการสำนักเป่ยเจิ้นฝู่ซือเฮ่อก็มีป้ายแสดงสถานะ” ชายหนุ่มบนหลังม้าร่างบางใบหน้างามกระจ่าง แต่น้ำเสียงกลับทรงพลัง แววตาเยียบเย็นค่อยๆ กวาดตามองบรรดาเจ้าหน้าที่ที่มีสีหน้าแตกต่างกันไป “พวกท่านเห็นป้ายทองคำพระราชทานไม่คุกเข่า เป็นพวกเดียวกับขุนนางสุนัขเจิ้ง ทำร้ายชาวอำเภอหลิง คิดก่อการกบฏหรือ”
คำถามเอาเรื่องของชายหนุ่มทรงพลังอย่างยิ่ง จุดประกายเพลิงแค้นของราษฎรขึ้นมาทันที
ราษฎรเหล่านี้เป็นพวกอ่อนแอ ถูกกระตุ้นอารมณ์ได้ง่าย
พวกเขากลัวขุนนาง กลัวโจร กลัวศพที่เปื้อนคาวโลหิต แต่ก็รู้ว่าศพตรงหน้าก็คือโจรภูเขาและขุนนางสุนัข จึงไม่คิดกลัวอีกแล้ว
ก็มิใช่ไม่กลัว แต่เพราะเพื่อชีวิตสงบสุขในวันหน้า ไม่อาจสนใจความกลัวอีกแล้ว
“ขุนนางสุนัข!”
“สังหารได้ดี!”
เสียงด่าทอของชาวบ้านกับชายหนุ่มที่ถามเอาเรื่อง เจ้าหน้าที่นายหนึ่งไม่อาจต่อต้านความกดดันนี้ได้อีก คุกเข่าลงต่อหน้าป้ายทองคำ
พอเขาลงคุกเข่า พริบตาก็ทำให้บรรยากาศตึงเครียดนี้จบลง เสียงคุกเข่าดังไปทั่ว มีหลายคนที่ยังลังเลก็ยังต้องคุกเข่าตามคนส่วนใหญ่
เห็นบรรดาพวกที่ถือไม้พลองอยู่ด้านหลังเจ้าหน้าที่ลงคุกเข่าตาม ซินโย่วสบตากับเฮ่อชิงเซียว ริมฝีปากแย้มยกเล็กน้อย
เจ้าหน้าที่เหล่านี้ต่อหน้าราษฎรนับหมื่นพันยอมรับสถานะพวกเขา สถานการณ์ก็ย่อมตกอยู่ภายใต้การควบคุม
ป้ายทองคำเยียบเย็นในมือ ภาพตอนฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ยัดป้ายทองคำนี้ใส่มือแวบขึ้นมาในห้วงความคิด
จำต้องยอมรับว่าป้ายทองคำที่เตรียมไว้เผื่อยามฉุกเฉินได้จังหวะนำออกมาใช้งานแล้ว
นางลงจากหลังม้า ก้าวไปยังศีรษะที่ยังเบิกตาโพลง ตั้งใจถามขึ้น “ใต้เท้าเฮ่อ ศีรษะนี้ควรจัดการอย่างไร”
เฮ่อชิงเซียวสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก “จัดการเสร็จก็ให้แขวนไว้ที่ประตูเมือง รอให้ปราบค่ายเมฆาดำ ค่อยเดินทางกลับเมืองหลวง”
ปราบค่ายเมฆาดำ?
ชาวบ้านได้ยินก็พากันส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดัง
“สมควรแล้วที่เป็นใต้เท้าจากเมืองหลวง ต้องการช่วยพวกเราดับภัยร้าย”
“ขอบคุณใต้เท้าเฮ่อ ขอบคุณคุณชายซิน!”
เสียงตื่นเต้นยินดีของชาวบ้านดังกระหึ่ม แต่เจ้าหน้าที่หลายคนสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
เจ้าหน้าที่นายหนึ่งอดเอ่ยขึ้นไม่ได้ “ค่ายเมฆาดำบนเขาอูอวิ๋น อยู่ในชัยภูมิป้องกันง่ายโจมตียาก โจรภูเขาหลายร้อย…”
คนของที่ทำการอำเภอที่นำมาใช้งานได้ไม่ได้มากเท่าโจรภูเขา หรือจะส่งพวกเขาไปตาย
เฮ่อชิงเซียวกวาดตามองเจ้าหน้าที่ที่ส่งเสียงดังขึ้น ก่อนจะประกาศเสียงดัง “ข้าจะส่งสารไปยังกองกำลังหนิงซาน อย่างเร็วก็สามถึงห้าวัน อย่างช้าก็เจ็ดแปดวัน ก็จะมีทหารกองใหญ่มาที่นี่ ถึงตอนนั้นก็จะได้ร่วมแรงกันปราบโจรภูเขาให้ราบคาบ”
รองนายอำเภอหยางได้ยินก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
กองกำลังปราบโจรกับเวลาที่จะปราบเป็นความลับทางการ เหตุใดจึงได้ประกาศต่อหน้าผู้คนตามอำเภอใจเช่นนี้กัน
“ข้าน้อยรองนายอำเภอของอำเภอหลิง หยางเชิน คารวะคุณชายซิน ใต้เท้าเฮ่อ เชิญทั้งสองท่านเข้าไปพูดคุยในที่ทำการอำเภอ”
ซินโย่วพยักหน้ากับเฮ่อชิงเซียว ตามรองนายอำเภอหยางเดินเข้าไปในที่ทำการอำเภอ
ด้านหลังนางมีเชียนเฟิงกับผิงอันตามประกบ กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินรับหน้าที่จัดการเรื่องโจรภูเขา
ได้เห็นศพที่มีสภาพน่ากลัวเหล่านี้ถูกลากออกไปทีละศพ ชาวบ้านที่ออกกันอยู่หน้าที่ทำการก็ยังไม่ยอมสลายตัว
“ได้ยินไหม ใต้เท้ามาจากเมืองหลวงบอกว่าอย่างมากอีกเจ็ดแปดวันก็จะนำกำลังทหารมาปราบโจร ถึงตอนนั้นพวกเราก็จะมีชีวิตที่สงบสุขกันแล้ว”
“เฮ้อ ช่างน่าเสียดายตระกูลอู๋ หากใต้เท้าจากเมืองหลวงมาเร็วกว่านี้ก็คงดี…”
“ก็ใช่น่ะสิ ยังดีที่วันหน้าจะมีชีวิตสงบสุขแล้ว”
…
หาได้ยากยิ่งที่เจ้าหน้าที่ที่ทำการจะไม่ทำสีหน้าดุดันเยียบเย็นขับไล่ชาวบ้าน มีเจ้าหน้าที่บางคนถึงกับแอบคาดหวังว่าทางการจะมาปราบโจร แต่มีเจ้าหน้าที่เป็นกังวลมากกว่า
พวกเขาไปปราบโจร คงไม่ได้เอาชีวิตน้อยๆ ไปทิ้งกระมัง
ที่ทำการอำเภอหลิงมีการจัดการพื้นที่ไม่ต่างจากที่อื่นมากนัก ห้องโถงกลางเป็นห้องทำงานของนายอำเภอ รองนายอำเภออยู่ห้องด้านข้าง ยามนี้นายอำเภอเจิ้งไร้ศีรษะแล้ว ทุกคนก็ย่อมเข้ามาคุยกันในโถงกลาง