ตอนที่ 289 กลับภูเขา
เผชิญหน้ากับสีหน้าสงสัยของรองนายอำเภอหยาง ซินโย่วยิ้มกล่าวว่า “ย่อมเพราะกล่อมด้วยความรู้สึก ตระหนักด้วยเหตุผล หลอกล่อด้วยผลประโยชน์”
แค็กๆ สาเหตุหลักก็เพราะมีเงินทอง
รองนายอำเภอหยางพยักหน้าช้าๆ แววตาที่มองซินโย่วเต็มไปด้วยความชื่นชม
คุณชายซินท่านนี้ร้ายกาจมาก อาศัยเพียงหลักการก็กล่อมโจรได้
“รองนายอำเภอหยาง ท่านมีคนที่ใช้งานได้บ้างหรือไม่” เฮ่อชิงเซียวถาม
รองนายอำเภอหยางเข้าใจสภาพการณ์ในอำเภอพอสมควร จึงตอบทันทีว่า “หัวหน้าหลูที่เป็นเจ้าหน้าที่คุมนักโทษ แม้มีความสัมพันธ์กับเจิ้งหมิงไม่เลว แต่ในยามคับขันน่าจะพอใช้งานได้…”
เจ้าหน้าที่คุมนักโทษประจำอำเภอเดิมก็คือขุนนางทำงานทั่วไป รับหน้าที่ทำการจับกุมคนร้าย แม้ว่าต่ำต้อย แต่ก็นับว่าเป็นเจ้าหน้าที่ในอำเภอ
“กำลังคนที่ต้องการใช้ ข้าจะรวบรวมด้วยตนเอง” รองนายอำเภอหยางประสานมือ
แผนการแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มโจรภูเขาที่ดำเนินการได้ยากนั้น คุณชายซินทำได้แล้ว การปราบโจรเดิมก็เป็นหน้าที่ของทางการท้องถิ่นรับผิดชอบ หากไม่มีแม้แต่กำลังคนให้ เขาก็ไม่ต้องเป็นรองนายอำเภอแล้ว
ฤดูร้อนฟ้ามืดช้า เส้นทางภูเขาไปยังค่ายเมฆาดำเงียบสงัด มีเพียงคนผู้หนึ่งกำลังวิ่งอย่างคลุ้มคลั่งมา
“ผู้ใด” โจรภูเขาที่รับหน้าที่เฝ้าประตูกำลังสัปหงก ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็ผุดลุกขึ้นยืนทันที พลางยกตะเกียงขึ้นส่อง
“ข้าเอง หัวหน้าหก!”
โจรภูเขาเฝ้าประตูมองอย่างละเอียดก็จำได้ “หัวหน้าหก เหตุใดท่านกลับมาคนเดียว”
“ให้ข้าเข้าไปก่อนค่อยพูดกัน!”
โจรภูเขาที่เฝ้าประตูกระโดดลงจากหอซุ้มเฝ้า รีบมาเปิดประตูค่าย
“หัวหน้าหก พี่น้องอื่นๆ ล่ะ”
หัวหน้าหกปาดหน้าผากทีหนึ่งก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ตายหมดแล้ว!”
“หา?” โจรเฝ้าประตูเบิกตากว้างอย่างตกใจ
หัวหน้าหกก้าวเข้าไปด้านในทันที “ไม่ได้การแล้ว รีบเรียกรวมพลพี่น้องมาหารือกันเร็ว”
เสียงระฆังในค่ายโจรภูเขาดังขึ้น ดังไกลออกไปทั่วผืนภูเขาทอดยาว ไม่รู้ว่าทำให้สิ่งมีชีวิตตกใจกันมากมายเพียงใด
คนในค่ายโจรภูเขากำลังจะพักผ่อน ยังไม่ทันได้พักผ่อน ยามนี้ล้วนพากันรีบเร่งเดินทางมายังโถงประชุม
“หัวหน้าหกกลับมาแล้ว ผลประโยชน์เป็นอย่างไรบ้าง”
พวกเขาปล้นทรัพย์ ส่วนใหญ่ไม่ได้ปล้นในละแวกค่ายโจรภูเขา สมบัติที่ปล้นชิงมาได้ค่อนข้างมาก ออกจากค่ายไปสองสามวันค่อยกลับมาก็เป็นเรื่องปกติ
หัวหน้าหกสะบัดมือถอนหายใจ “อย่าได้พูดถึงอีก เกิดเรื่องแล้ว!”
“เกิดเรื่อง? หรือว่าพลาด?”
“ใช่ ไม่เห็นพวกเจ้าแปด…”
…
หัวหน้าหกถูกพี่น้องรุมล้อมถามไม่หยุด จนกระทั่งรองหัวหน้ามาถึง
“เจ้าหก เกิดเรื่องอันใดขึ้น”
โจรภูเขาที่กำลังรุมล้อมหัวหน้าหกพากันไปยืนด้านหลังหัวหน้าหกทันทีด้วยสัญชาตญาณ ฝั่งรองหัวหน้าเป็นพวกที่มาจากนอกค่าย
คนอื่นๆ ไม่คิดมาก หัวหน้าหกรับรู้ได้ถึงปฏิกิริยาพี่น้องเก่า จึงรู้สึกมั่นใจในเรื่องที่จะทำมากขึ้น
“ไม่ได้การแล้ว เกิดเรื่องแล้ว พวกหัวหน้าใหญ่ตายหมดแล้ว!”
หัวหน้าหกเอ่ยเช่นนี้ออกไป ทุกคนพากันส่งเสียงแตกตื่นตกใจ
หัวหน้าห้ารีบพุ่งเข้าคว้าคอเสื้อหัวหน้าหก “พวกหัวหน้าใหญ่เป็นอันใดไป เจ้าเล่ามาให้ละเอียด!”
หัวหน้าใหญ่กับหัวหน้าสี่นำคนสนิทไปหาความสำราญในอำเภอหลิง พวกรองหัวหน้าล้วนรู้ดีกว่า รอพวกหัวหน้าใหญ่กลับมา ก็จะเปลี่ยนพวกเขาไปหาความสำราญต่อ
ยามนี้ผู้นำในค่ายโจรภูเขาก็คือรองหัวหน้า หัวหน้าสามและหัวหน้าห้า รวมหัวหน้าหกที่เพิ่งกลับมา
“แค็ก แค็ก ข้าก็เพิ่งรอดชีวิตกลับมา พี่ห้าปล่อยมือก่อน!”
“เจ้าห้า”
พอรองหัวหน้าเอ่ยเรียก หัวหน้าห้าก็ปล่อยมือ จ้องมองหัวหน้าหกด้วยสีหน้าดำทะมึน
หัวหน้าหกส่งเสียงไอสองที ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “สองวันก่อนข้าพาพี่น้องไปปล้นขบวนพ่อค้าหนึ่ง ไม่คาดว่าด้านหลังมีคนขี่ม้ามากันหลายคน คนพวกนั้นถึงกับมีธนู มาถึงก็ยิงสังหารพี่น้องเรา ข้าเห็นท่าไม่ดีก็รีบให้ถอย คิดไม่ถึงสุดท้ายมีข้าหนีรอดมาได้คนเดียว…”
เล่าถึงตอนปะทะกับพวกซินโย่ว แม้หัวหน้าหกโกหก แต่สีหน้าหวาดกลัวและแตกตื่นตกใจนั้นจริงแท้อย่างที่สุด
รองหัวหน้าขมวดคิ้วถามขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นเรื่องเมื่อสองวันก่อน เหตุใดเจ้าเพิ่งกลับมา”
หัวหน้าหกทำใจให้สงบลงแล้วก็เอ่ยว่า “ข้าถูกคนพวกนั้นไล่ล่า ตอนชุลมุนหนีไปอีกทางแยก เสียเวลาอ้อมไปนานกว่าจะพบว่าไม่ไกลจากอำเภอหลิง”
หัวหน้าหกตบฝุ่นเปื้อนตามตัวก่อนจะยิ้มเฝื่อน “ข้าคิดแล้วก็ไม่เข้าเมืองดีกว่า ไปพักอยู่เพิงน้ำชานอกเมืองหาอะไรรองท้องก่อนค่อยกลับค่าย คิดไม่ถึง…”
เอ่ยถึงตรงนี้ ใบหน้าเขาก็กระตุกเกร็ง พยายามระงับความหวาดกลัวอย่างที่สุด
พวกรองหัวหน้ารอเขาพูดต่อไปพร้อมกับอดกลั้นลมหายใจตามไม่ได้
“ข้าถึงกับเห็นคนเหล่านั้นอีก!” หัวหน้าหกสูดลมหายใจเฮือกหนึ่ง เสียงยังคงสั่น “พวกเขาแต่งการชุดขุนนางแลดูน่าเกรงขามมาก บนหลังม้าแต่ละตัวมีคนพาดอยู่ พี่ใหญ่ พี่สี่ เจ้าเจ็ด…”
หัวหน้าหกเอ่ยที่ละชื่อ สีหน้าก็ซีดขาวลงหนึ่งส่วน
รองหัวหน้าเผยสีหน้าดำทะมึน แววตาเยียบเย็น “ต่อมาล่ะ”
“ข้าแอบหลบเข้าเมือง ไปปะปนมุงดูอยู่บนถนนหน้าที่ทำการอำเภอกับฝูงชน คนเหล่านี้สำแดงสถานะ ผู้ที่นำขบวนมาถึงกับเป็นผู้บัญชาการสำนักเป่ยเจิ้นฝู่ซือกองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน!”
ได้ยินว่าเป็นกองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน โจรภูเขาก็พากันส่งเสียงฮือดัง
“หุบปากให้หมด!” หัวหน้าห้าตวาดขึ้น
ในโถงเงียบลงดังเดิม รอหัวหน้าหกเล่าต่อ
“นายอำเภอออกมาต้อนรับ ถึงกับถูกดาบของกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินฟันศีรษะกระเด็น บอกว่านายอำเภอกับสมคบคิดหัวหน้าใหญ่ รับสินบนหัวหน้าใหญ่จึงไม่ปราบโจร…”
รองหัวหน้าพากันสบตากันไปมา
เรื่องเบิกทางกับทางการก็คือพี่ใหญ่กับพวกเขาหารือกันส่วนตัว ไม่ได้ให้พวกเดิมในค่ายเมฆาดำรู้ เพราะเหตุนี้ พวกเขาจึงได้วางใจผลัดกันไปหาความสำราญในเมือง
เจ้าหกเอ่ยเช่นนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องจริง
“กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินนั่นตัดศีรษะนายอำเภอเลยหรือ” รองหัวหน้ายังคงไม่อยากเชื่อ
นายอำเภอเป็นถึงหัวหน้าขุนนางประจำอำเภอ เป็นขุนนางราชสำนัก กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินถึงกับเหิมเกริมเพียงนี้หรือ
“ตอนศีรษะนายอำเภอกระเด็นลอยไป ข้าเห็นกับตา ในกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินยังมีคุณชายซินท่านหนึ่ง มีป้ายทองคำพระราชทาน!”
ป้ายทองคำพระราชทาน?
รองหัวหน้าเริ่มเคร่งเครียดขึ้นมาทันที รู้สึกถึงลางร้ายที่ไม่อาจบรรยาย
ดังคาด หัวหน้าหกเล่าต่อว่า “พวกเขาบอกว่าจะเคลื่อนกำลังกองกำลังหนิงซานมาปราบค่ายเมฆาดำให้ราบ!”
ทุกคนในห้องโถงต่างสีหน้าแปรเปลี่ยน
“รองหัวหน้า พวกเราจะทำอย่างไรดี”
รองหัวหน้าเผชิญกับคำถามของทุกคนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไม่มีคำตอบ
“พี่รอง อีกไม่นานกองกำลังหนิงซานก็จะมาถึง พวกเรารับมืออย่างไรดี ท่านต้องรีบตัดสินใจนะ” หัวหน้าหกเอ่ยเร่ง
รองหัวหน้าขมวดคิ้วมองสีหน้าแตกตื่นตกใจของทุกคน เอ่ยเสียงเข้มว่า “อย่าเพิ่งตื่นตกใจกันไป พรุ่งนี้พี่น้องทุกหน่วยอย่าเพิ่งลงเขา ถึงตอนนั้นค่อยหารือกัน”
วาจาแม้กล่าวเช่นนี้ แต่พอทุกคนกลับกันไป รองหัวหน้า หัวหน้าสามกับหัวหน้าห้าก็แอบมาหารือกันเอง
“พี่รอง พวกเราทำอย่างไรดี” หัวหน้าห้าถามขึ้น
“อย่างไรเจ้าหกก็เป็นพวกเดิมของค่ายโจรภูเขา คำพูดเขาไม่อาจเชื่อได้ทั้งหมด พรุ่งนี้ข้ากับเจ้าสามจะไปปลอบใจทุกคนในค่าย เจ้าห้าแอบลงเขาไปสืบความในเมืองมาหน่อย”
เช้าวันต่อมา หัวหน้าห้าลอบลงจากเขาไปเงียบๆ
ตอนคนในค่ายที่มีระดับพอสมควรมารวมตัวกัน มีคนถามขึ้นว่า “หัวหน้าห้าล่ะ”
หัวหน้าสามถอนหายใจ “เจ้าห้าผูกพันกับพี่ใหญ่มาก เมื่อคืนไข้ขึ้นสูง พวกเราหารือกันก่อน ให้เขาพักผ่อนให้มาก”
หัวหน้าหกไม่แสดงสีหน้าใด ในใจแอบคิดว่าพวกนี้เป็นดังที่คุณชายซินคาดไว้ ยามนี้รู้สึกเลื่อมใสยิ่ง
รองหัวหน้าส่งคนไปสืบข่าวในเมืองจริงดังคาด แสดงให้เห็นว่าไม่เชื่อใจเขา
ยิ่งแสดงให้เห็นว่าการเลือกของเขานั้นถูกต้อง พี่น้องเขาไม่อาจเป็นหนึ่งเดียวกับพวกรองหัวหน้าได้