ตอนที่ 595 สงสัย(2)
ซูหว่านอี๋เต็มไปด้วยพลัง เมื่อถึงวันรุ่งขึ้นก็ออกไปข้างนอกแต่เช้า เพียงแต่ยังไม่ถึงสองวันดี อารมณ์ของหล่อนก็ไม่ค่อยดีนัก
“ทำไมเหรอคะแม่ หรือว่าแผนมันติดปัญหาตรงไหน?”
ซูหว่านอี๋ยังไม่ทันพูด เหยาจิ้งจือที่อยู่ข้าง ๆ ก็บ่นขึ้นเสียก่อน “ไม่ใช่หรอก ไม่ได้เกี่ยวกับแผนที่เราวางไว้ แต่เป็นเรื่องของตู้เยว่เอ๋อร์ต่างหาก”
“ตู้เยว่เอ๋อร์ทำไมเหรอคะ?”
“หล่อนเพิ่งส่งคำสั่งซื้อไปเมื่อสองวันก่อนนี้ใช่ไหมล่ะ แต่ตอนนี้ฉันกลับติดต่อไม่ได้เลย หลังจากนี้จะให้ส่งของไปยังไงก็ไม่รู้”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที
และซูหว่านอี๋ก็พูดขึ้นอย่างตรงประเด็น “อาจจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น พวกเราก็ไม่ต้องกังวลหรอก รอดูสถานการณ์ก็ได้”
เหยาจิ้งจือถอนหายใจแล้วกล่าว “ก็ทำได้แค่นั้นแหละ”
โชคดีไม่กี่วันต่อมา ในที่สุดเยว่หรงกรุ๊ปก็ติดต่อมา เพียงแต่ไม่ใช่ตู้เยว่เอ๋อร์ที่เป็นฝ่ายจัดการ เป็นผู้ช่วยคนหนึ่งของตู้เยว่เอ๋อร์แทน แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร ขอเพียงแค่ส่งมอบสินค้าได้ก็ไม่เป็นไร
ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือรู้สึกโล่งใจแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นิดหน่อย
“คนที่มาเป็นผู้ช่วยของตู้เยว่เอ๋อร์ ตอนแรกตู้เยว่เอ๋อร์อยู่ที่เซินเจิ้น แต่ตอนนี้ดิ้นว่าไม่อยู่แล้ว ผู้ช่วยคนนั้นก็เข้มงวดมากเหมือนกัน ไม่ยอมปริปากบอกอะไรเลย บอกแค่ว่าตู้เยว่เอ๋อร์กำลังยุ่งกับการจัดการเรื่องอื่นอยู่ ผู้ช่วยคนนี้จะมาทำงานร่วมงานกับพวกเราจนกว่าจะถึงปีหน้า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตู้เยว่เอ๋อร์ไปยุ่งอยู่กับเรื่องอะไรแทน”
ฉินมู่หลานได้ฟังคำพูดนี้ ก็แค่นหัวเราะก่อนจะเอ่ย “คงไม่ได้ยุ่งเรื่องงานหรอกค่ะ แต่ตั้งครรภ์ ตู้เยว่เอ๋อร์กลัวว่าพวกเราจะรู้ว่าหล่อนอยู่ที่ไหน และจะเป็นอันตรายต่อตัวหล่อนค่ะ”
“อะไรนะ…ตั้งครรภ์?”
ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือไม่ทราบเรื่องนี้ ตอนนี้เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินมู่หลานกล่าว จึงได้แต่รู้สึกแปลกใจ
ฉินมู่หลานก็ไม่จำเป็นต้องเก็บความลับอีกต่อไป เล่าเรื่องของตู้เยว่เอ๋อร์ให้ฟัง สุดท้ายก็ยังพูดถึงเยวี่ยจงจีที่มาแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ด้วย “นี่คงเป็นเพราะกลัวว่าหนูกับจงจีจะสนิทกัน แล้วขายข้อมูลของหล่อน แต่หนูก็อธิบายทุกอย่างให้ฟังแล้ว แต่หล่อนก็ยังสงสัยในตัวหนู ตอนนี้คงคุยกันไม่ได้แล้วล่ะค่ะ”
ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้แต่รู้สึกโกรธ
“เกินไปแล้ว ตู้เยว่เอ๋อร์ทำไมถึงเป็นแบบนี้ หล่อนตั้งครรภ์ได้ก็เพราะลูกช่วยทั้งนั้น แต่ตอนนี้กลับมาสงสัยในตัวลูก”
ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ค่ะ จากเหตุการณ์นี้ทำให้ฉันมองออกว่าตู้เยว่เอ๋อร์คนนี้ไม่ใช่คนที่ควรคบค้าด้วย” หลังจากพูดจบ เธอก็บอกเรื่องที่หลี่หมิงฮุ่ยเคยเล่าให้ฟังขึ้นอีก “ดูเหมือนว่าจะต้องลองสืบเรื่องของตู้เยว่เอ๋อร์และตระกูลเยว่ให้ละเอียดกว่านี้แล้ว”
“อะไรนะ…ตู้เยว่เอ๋อร์โหดเหี้ยมขนาดนั้นเลยเหรอ หล่อนทำร้ายลูกชายของตระกูลเยว่จริงเหรอ?”
“เรื่องนี้ยังต้องลองสืบดูก่อนค่ะ เรื่องเป็นมายังไงยังไม่แน่ชัด”
ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือต่างก็รู้สึกว่าต้องลองสืบ “มู่หลาน เรื่องนี้ต้องลองสืบให้แน่ชัด ถ้าตู้เยว่เอ๋อร์คนนั้นโหดเหี้ยมไร้ความเมตตาจริง เช่นนั้นพวกเราก็ควรจะระวังตัวให้มากขึ้น เพราะไม่รู้ว่าหล่อนจะลงมือทำอะไรบ้าง”
“แม่คะ หนูรู้แล้ว จะลองสืบให้ละเอียดค่ะ”
หลังจากพูดจบ ฉินมู่หลานก็หันมองทั้งสองด้วยท่าทางสบายใจอีกครั้งแล้วพูดขึ้น “แม่คะ เรื่องธุรกิจกับตู้เยว่เอ๋อร์พวกแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ สิ่งที่พวกแม่ต้องทำตอนนี้ก้คือทำตามแผนที่วางเอาไว้ พัฒนาเคาน์เตอรทสินค้าในไห่เฉิงให้ดี”
บ
“ได้ พวกเราเข้าใจแล้ว”
ฉินมุ่หลานตัดสินใจจะสืบเรื่องตู้เยว่เอ๋อร์ จึงต้องเริ่มจากทางฝั่งฮ่องกง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับทางฝั่งฮ่องกงมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อนบ้านของพวกเขาก็มาจากฮ่องกงไม่ใช่หรือ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยมีปัญหากับข่งฉ่ายหยิงแต่ความสัมพันธ์ของเธอกับเผยเจิ้งผู่ค่อนข้างดี
ในตอนนี้ เผยเจิ้งผู่บังเอิญอยู่ที่เมืองหลวงพอดี มู่หลานจึงรีบไปหาเขาทันที
หลังจากเผยเจิ้งผู่ทราบจุดประสงค์ที่ฉินมู่หลานมาหาแล้ว ก็ยังรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย
ฉินมู่หลานบอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เนื่องจากว่าเราร่วมธุรกิจกัน ก็เลยอยากรู้เรื่องของพวกเขาเพิ่มสักหน่อยค่ะ หนูก็พอจะได้ยินเรื่องเล่ามาบ้าง ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่มันก็ยังคาใจอยู่ ก็เลยอยากให้อาเผยช่วยหน่อยค่ะ”
เผยเจิ้งผู่ได้ยินแบบนี้ก็เอ่ยให้คำมั่นพร้อมรอยยิ้ม “วางใจเถอะ อาจะช่วยสืบให้เธออยู่แล้ว เอาไว้มีข่าวจะมาบอกนะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะอาเผย”
ช
เผยเจิ้งผู่โบกมือแล้วกล่าว “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ยังไงเราก็เป็นเพื่อนบ้านกัน ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว”
หลังจากฉินมู่หลานขอความช่วยเหลือจากเผยเจิ้งผู่แล้ว ก็พักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เพราะซิงหลินถังใกล้จะตกแต่งเสร็จแล้ว ตัวเธอกำลังจะยุ่งอยู่กับการเปิดกิจการ
“มู่หลาน ปิงหรุ่ยปิงชิง พวกลูกคิดว่ายังไง?”
ในที่สุดฉินเจี้ยนเซ่อและเซี่ยเหวินปิงก็ลงมือตกตแ่งสกเสร็จ จนกระทั่งถึงวันสุดท้าย ก็เรียกฉินมู่หลานและคนอื่น ๆ มา ให้พวกเธอลองดูเนื้องาน
เซี่ยปิงหรุ่ยและเซี่ยปิงชิงต่างพยักหน้ากันทั้งคู่แล้วกล่าวว่า “สวยค่ะ สวยมากจริง ๆ รู้วึกว่าเป็นซิงหลินถังที่ควรจะเป็น”
ฉินมู่หลานก็พยักหน้าแล้วกล่าวตามตรง “ใช่ค่ะ ไม่มีปัญหาตรงไหนเลย แบบนี้ดีมากเลยค่ะ”
วันนี้เหลียงถงก็มาด้วยเหมือนกัน เมื่อเขาได้ยินฉินมู่หลานและคนอื่นพูดแบบนี้ ก็อดยิ้มแล้วกล่าวเสียไม่ได้ “พวกเธอพอใจก็ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นต่อไปพวกเราจะได้ย้ายไปทำตรงโรงงานผลิตยา”
หลังจากเสร็จงานวุ่นวายที่ซิงหลินถัง ฉินเจี้ยนเซ่อและเซี่ยเหวินปิงก็ไม่ได้หยุดพักเลย วันต่อมาก็พาทีมก่อสร้างไปทางชานเมืองฝั่งตะวันออก
ฉินมู่หลานรวมถึงเซี่ยปิงหรุ่ยและเซี่ยปิงชิงสองพี่น้องก็เริ่มงานยุ่งเหมือนกัน หลังจากพวกเธอจัดของตกแต่งภายในซิงหลินถังเสร็จแล้ว ก็พร้อมเปิดให้บริการในเดือนหน้า
“มู่หลาน คุณอาฉางกู่ผลิตยาออกมาได้เยอะมากแล้ว ล้วนเป็นพวกยาที่เคยใช้มาก่อนแล้ว ช่วงนี้ฉันกับปิงชิงได้ผลิตยาเพิ่มอีกสองอย่าง พวกเรากำลังทดลองอยู่ ถึงเวลาที่ซิงหลินถังก็จะมียาออกมาวางขายมากขึ้นเรื่อย ๆ”
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วพักหน้าเมื่อได้ยินแบบนี้ “ใช่ ซิงหลินถังจะขายยาทั้งหมดที่พวกเราผลิตออกมาเอง ต่อไปจะต้องดีขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน”
กระทั่งเซี่ยปิงชิงก็อดพยักหน้าไม่ได้ “ใช่แล้ว พวกเราจะต้องก้าวไปได้สวยแน่นอน”
ในช่วงต่อจากนี้ ทั้งสามก็ยุ่งมาก จนกระทั่งถึงเดือนที่สี่ตามปฏิทินจีน ซิงหลินถังก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการ