บทที่ 1467 เมามายมากเกินไป

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,467 เมามายมากเกินไป

“โอ๊ะ… พรวด!”

แล้วหลินเป่ยเฉินก็อาเจียนออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว

น่าขยะแขยง

เขาเมามายมากเกินไปแล้ว

นี่เขาดื่มมากเกินไปแล้วหรือ?

หลินเป่ยเฉินยันมือกับขอบโต๊ะเพื่อจะลุกขึ้นยืน แต่แขนกลับไม่มีแรง ตัวคนจึงล้มพับไปหมดสติอยู่บนพื้นดินตรงนั้นเอง

นักพรตหญิงชินขมวดคิ้ว โบกสะบัดแขนเสื้อ คราบสกปรกทั้งหมดเลือนหายไปในพริบตา

นางโบกสะบัดแขนเสื้ออีกครั้ง

และคลื่นพลังสายหนึ่งก็ช้อนร่างหลินเป่ยเฉินขึ้นมาในอากาศ ร่างของเด็กหนุ่มลอยตามหลังนักพรตหญิงชินตรงไปยังห้องนอนที่ตั้งอยู่ทางด้านหลังวิหาร

เมื่อเข้ามาถึงด้านในห้องนอน ร่างของหลินเป่ยเฉินก็ถูกวางลงบนเตียง

นักพรตหญิงชินเดินเข้ามานั่งลงที่ขอบเตียง ดวงตากระจ่างสดใส จ้องมองเด็กหนุ่มผู้เมามายไม่ได้สติ ก่อนที่นางจะยื่นมือไปลูบไล้ใบหน้าของเขาแผ่วเบา

มือที่ขาวเนียนของนางสัมผัสไปที่แก้มของหลินเป่ยเฉิน ต่อด้วยจมูก หน้าผาก คิ้วและเส้นผม

การเคลื่อนไหวนุ่มนวลราวกับว่านักพรตหญิงชินกำลังจับต้องสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในโลก

คลื่นพลังร้อนอุ่นแผ่ออกมาจากปลายนิ้วมือ

“ช่างคล้ายคลึงกันเหลือเกิน”

นางพูดกับตนเอง

ก่อนที่จะส่ายศีรษะอีกครั้ง “แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่”

นักพรตหญิงชินลุกขึ้นยืนและจ้องมองใบหน้าหลินเป่ยเฉินอยู่ในความเงียบ

สุรารัตติกาลเมามายมีฤทธิ์แรงกล้า ต่อให้เป็นผู้ที่ฝึกวิชาห้าธาตุหลอมวิญญาณก็ยังต้านทานพลังของมันไม่ได้

แต่สำหรับนักพรตหญิงชิน นางไม่ได้ดื่มเพื่อรอเวลาให้หลินเป่ยเฉินสลบ

แต่ว่า… นักพรตหญิงชินดื่มเพื่อหวังว่าเมื่อตนเองเมามาย นางจะกล้าทำบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เคยกล้าทำ

แต่เห็นได้ชัดว่า…

หลินเป่ยเฉินเมามายจนสลบไสลไปแล้ว

แต่นางยังไม่เมา

นอกจากยังไม่เมา นักพรตหญิงชินยังมีสติแจ่มใสมากกว่าเดิมอีกด้วย

หากนางไม่เมา แล้วนางจะทำเรื่องน่าอายเช่นนั้นได้อย่างไร?

นักพรตหญิงชินฝึกจิตติดอยู่กับสมาธิมาช้านาน พฤติกรรมผิดทำนองคลองธรรมจึงไม่เคยอยู่ในความคิดของนางมาก่อน ยิ่งกาลเวลาผ่านไป นักพรตหญิงชินก็แทบไม่หลงเหลือความรู้สึกใด ๆ ของมนุษย์ผู้หนึ่งอีกแล้ว

นางเคยเข้าใจว่าตนเองสามารถลบเลือนความรู้สึกได้โดยสมบูรณ์

แต่ขณะนี้ นางค้นพบแล้วว่าความคิดบางอย่างได้ถูกกักเก็บไว้อยู่ในส่วนลึกของจิตใจ เมื่อมีปัจจัยบางอย่างกระตุ้นเตือน ความคิดและความรู้สึกเหล่านั้นก็ถูกปลดปล่อยออกมาโดยไม่รู้ตัว และนั่นก็ทำให้นักพรตหญิงชินหวนคืนถึงความรู้สึกแห่งความสุขในเรื่องราวจากอดีต ซึ่งสมควรแตกสลายกลายเป็นม่านฝุ่นไปนานแล้ว

ไม่ทราบเลยว่าผ่านไปนานเท่าไหร่

หลินเป่ยเฉินพลันลืมตาขึ้นมา

หูได้ยินเสียงนกร้อง ได้ยินเสียงกิ่งไม้เสียดสีตามแรงลม

เมื่อสติสัมปชัญญะกลับคืนสู่ร่างกาย เขาก็รีบยืดตัวขึ้นทันที

แสงแดดแยงตา

ดวงตาพร่าเลือนและมึนงง

แต่เมื่อสายตาสามารถปรับตัวกับแสงสว่างได้แล้ว หลินเป่ยเฉินจึงพบว่าตนเองนอนฟุบหน้าหลับอยู่บนโต๊ะสุรานั้นเอง

“นี่เราเมาหลับไปจริง ๆ เหรอวะเนี่ย?”

หลินเป่ยเฉินยกมือแตะหน้าผากตนเอง เขารู้สึกมึนหัว จึงต้องนำผลกวนเจี๋ยออกมารับประทานเพื่อฟื้นฟูกำลัง

สุราที่นักพรตหญิงชินให้เขาดื่มสามารถทำให้เขาเมามายจนสลบไสลได้จริง ๆ หรือ?

เมื่อความคิดดำเนินมาถึงตรงนี้ หลินเป่ยเฉินก็รีบก้มหน้าสำรวจดูความเรียบร้อยของตนเองทันที

เสื้อผ้ายังคงอยู่ดี

ไม่มีร่องรอยของการถูก…

นับว่าโชคดีแล้ว… โชคดีอย่างยิ่ง

เพียงแต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเมามายจนหลับไปกลางอากาศ หลินเป่ยเฉินจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง

เด็กหนุ่มคิดไม่ถึงว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้จริง

เพราะผู้ที่มีขั้นพลังระดับสูงอย่างเขา นี่คือเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้

จังหวะนั้น หูของเขาได้ยินเสียงชายเสื้อปะทะแรงลม

เมื่อหลินเป่ยเฉินหันหน้ากลับไปมอง จึงได้เห็นนักพรตหญิงชินผู้งามสง่าราวกับเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ไปยืนอาบแดดอยู่ที่ริมหน้าผาทางด้านหลังวิหาร ลมทะเลโชยพัดเส้นผมสีเงินยาวสลวยปลิวไสว เกิดเป็นความงดงามเฉิดฉายราวกับภาพวาดของจิตรกรเอก

ดูเหมือนนี่จะเป็นยามบ่ายของวันใหม่แล้ว

ดูเหมือนเขาจะเมาหลับนานเกินไปจริง ๆ

หลินเป่ยเฉินรีบตั้งสติ ลุกขึ้นเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างกายนักพรตหญิงชินที่ริมหน้าผา “ข้าเมาหลับไปใช่หรือไม่?”

นักพรตหญิงชินพยักหน้า

หลินเป่ยเฉินสอบถามว่า “นั่นคือสุราชนิดใด?”

นักพรตหญิงชินตอบว่า “เจ้าต้องการจะออกไปตามหาตัวไป๋ชินอวิ๋นหรือไม่?”

หลินเป่ยเฉินนึกขึ้นมาได้ถึงเรื่องราวก่อนที่ตนเองจะเมาหลับ “ข้าต้องไปถามจากปากนางให้แน่ชัด เพื่อให้แน่ใจว่านางไม่ได้ถูกผู้อื่นหลอกใช้”

ดวงตาที่เฉยชาของนักพรตหญิงชินจ้องมองไปยังท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่เป็นประกายระยิบระยับสะท้อนกับแสงตะวัน “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปเถอะ”

หลินเป่ยเฉินตกตะลึงไม่น้อย “อาจารย์ไม่ห้ามข้าหรือ?”

“ไม่ห้าม”

นักพรตหญิงชินตอบเสียงเรียบ

หลินเป่ยเฉินจ้องมองท้องทะเลอันกว้างใหญ่ตามสายตาของอีกฝ่าย

ผิวน้ำทะเลยามบ่ายเป็นประกายระยิบระยับราวกับการสะท้อนแสงของกระจกบานยักษ์

“สรุปว่า ท่านเพียงต้องการบอกข้อมูลทั้งหมดนั้นให้ข้ารู้?” เขาถามด้วยความสงสัย

นักพรตหญิงชินถามกลับมาว่า “แล้วมันเป็นเรื่องที่เจ้าไม่ควรรู้หรือ?”

“ย่อมเป็นเรื่องที่ข้าสมควรรู้ แต่ว่า…”

หลินเป่ยเฉินอยากจะบอกออกไปว่าเขาไม่ได้สนใจข้อมูลเหล่านั้นเลย เขาไม่สนใจหรอกว่าพวกเทพเจ้าจะรักจะเกลียดกันอย่างไร เพราะเขามาที่นี่ก็เพื่อรับประทานอาหารใต้แสงเทียนและได้มองหน้าอันงดงามของนางก็เท่านั้น…

หลินเป่ยเฉินมาที่นี่ด้วยความจริงใจ

แต่นางกลับมาบอกเขาเช่นนี้

หลินเป่ยเฉินรู้สึกเหมือนตนเองกำลังดูภาพยนตร์ในโทรทัศน์ แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีโฆษณาขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแทรกเข้ามา

ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คนดูต้องการ

“แต่อะไร?”

นักพรตหญิงชินหันกลับมาสบตามองหน้าหลินเป่ยเฉิน “เจ้าอยากหลับนอนกับข้าหรือ?”

“หากเป็นไปได้…”

หลินเป่ยเฉินกำลังจะพูดความในใจออกไป แต่แล้วเขาก็เห็นว่าขนตาของนักพรตหญิงชินเริ่มจับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็ง หัวใจของเด็กหนุ่มกระตุกวูบ แต่สีหน้าของหลินเป่ยเฉินไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ย่อมไม่ใช่อย่างนั้นขอรับ ท่านอาจารย์อย่าได้มองข้าในแง่ร้ายเช่นนั้นเลย”

นักพรตหญิงชินพลันยิ้มออกมาราวกับมวลบุปผาบานสะพรั่ง

หลินเป่ยเฉินพยายามหัวเราะกลบเกลื่อน ไม่รู้เลยว่าตนเองสมควรทำตัวอย่างไร

“ช่างน่าเสียดายนัก”

นักพรตหญิงชินกล่าวออกมาแผ่วเบา

เดี๋ยวก่อนนะ?

นี่หมายความว่าอย่างไร?

หลินเป่ยเฉินสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ

ดูเหมือนเขาจะพลาดโอกาสสำคัญในชีวิตไปเสียแล้วสิ

หลังจากนั้น เด็กหนุ่มก็นำบุหรี่ออกมาจุดสูบ แต่สูบไปได้ไม่เท่าไหร่ เขาก็ดีดก้นบุหรี่ทิ้งลงไปในทะเล ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ…

“เจ้าทำอะไรของเจ้า?”

ความสงสัยปรากฏขึ้นในแววตาของนักพรตหญิงชิน

หลินเป่ยเฉินตอบไปว่า “ข้ากำลังตั้งสติขอรับ”

“ตั้งสติ?” ความสงสัยในแววตาของนักพรตหญิงชินยิ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

“ใช่ ท่านดูบุหรี่มวนนั้นสิขอรับ มันเป็นสิ่งที่มีค่ามาก มันทำให้ข้าสามารถตั้งสติได้ แต่ข้าก็ไม่อยากสูบมัน แต่เมื่อข้าสูบมันเข้าไปแล้ว ข้าถึงได้ถามตนเองว่าข้าจะสูบมันต่อไปเพื่ออะไร? ดังนั้นข้าจึงทิ้งมันไป” หลินเป่ยเฉินมีสีหน้าที่บอกถึงความวุ่นวายใจ

นักพรตหญิงชินมองหน้าเขาและหัวเราะออกมา

นี่เป็นการหัวเราะโดยไม่รู้ตัว จนนางต้องยกมือขึ้นมาปิดปาก

หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความไม่เข้าใจ

นักพรตหญิงชินรีบปรับเปลี่ยนความรู้สึกของตนเอง ดูเหมือนนางเพิ่งจะรู้ตัวว่าตนเองแสดงออกมากเกินไป ใบหน้าที่ขาวเนียนจึงกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ

“ไปเถอะ จงไปตามหานางให้เจอ”

นักพรตหญิงชินไล่หลินเป่ยเฉินทางอ้อมด้วยการออกคำสั่ง

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

Status: Ongoing

หืมมม วิชานี้น่าสนใจดี แชะ ! ติ๊งง คุณได้รับแอพพลิเคชั่นวิชากระบี่ทะลวงจันทร์ ต้องการติดตั้งหรือไม่ ! ด้วยสมาร์ทโฟนในมือของเจ้าแกะดำหลิวเป่ยเฉิน ทำให้เขาสามารถผงาดบนโลกจอมยุทธ์นี้ได้อย่างง่ายดาย…. แต่ข้าไม่เอาหรอก ใครมันจะอยากอยู่โลกแบบนี้กัน YouTube ก็ไม่มี Facebook ก็เข้าไม่ได้ ข้าขอกลับโลกเดิมไปนั่งเล่นเกมในห้องแอร์เย็น ๆ ดีกว่าโว้ยยย !!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท