ตอนที่ 1,469 บุรุษลึกลับ
“ท่านแม่ ข้ากลัว”
เจิ้งเซวียนเซวียนเด็กหญิงวัยสี่ขวบร้องไห้จ้า
บนเสื้อผ้ามีแต่คราบเลือด
นี่คือชุดที่มารดาซื้อให้แก่นางเมื่อสามวันที่แล้ว เดิมทีมันเป็นชุดกระโปรงยาวที่มีสีชมพูสวยงามราคาแพง แต่บัดนี้ ชุดที่สวยงามกลับเต็มไปด้วยริ้วรอยฉีกขาดและมีแต่ความสกปรกระหว่างการหลบหนี
ที่ขาของเจิ้งเซวียนเซวียนมีแผลถลอกหลายแห่ง โลหิตไหลทะลัก เจ็บปวดจนชา คราบเลือดบางส่วนแห้งกรัง เด็กหญิงมีริมฝีปากแตกระแหง อารมณ์ความรู้สึกหิวโหยและตื่นกลัว
นางซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของมารดาฉู่จิวอี้
ใบหน้าของเด็กหญิงซบกับหน้าอกของผู้เป็นมารดาด้วยความหวาดกลัว
ฉู่จิวอี้ผู้เป็นมารดาก็หวาดกลัวไม่แพ้กัน
นางได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าและบนแผ่นหลังก็มีบาดแผลหลายตำแหน่ง ระหว่างพาบุตรสาวหลบหนีออกมา ฉู่จิวอี้สะดุดหกล้มนับครั้งไม่ถ้วน กระดูกชายโครงแตกร้าว ดวงตามีแต่รอยฟกช้ำ ฉู่จิวอี้ไม่สามารถหลบหนีได้อีกแล้ว
นางทำได้เพียงนั่งกอดบุตรสาว ซ่อนตัวอยู่ในมุมบ้านร้างหลังหนึ่ง พยายามปกปิดร่องรอยหลักฐานการมีอยู่ของตนเอง
ความทรงจำที่เลวร้ายผุดขึ้นมาในสมอง
สามีของฉู่จิวอี้เป็นผู้มีพลังขั้นเซียน เป็นแม่ทัพผู้เก่งกล้าของจักรวรรดิต้าเกี๋ยน ซึ่งเสียชีวิตไปในสนามรบเมื่อสามปีก่อน ฉู่จิวอี้ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาหม้ายของผู้ที่พลีชีพเพื่อแผ่นดิน ดังนั้น นางจึงได้รับเงินชดเชยก้อนใหญ่ ทำให้สามารถเลี้ยงดูบุตรสาวมาเพียงลำพังได้อย่างราบรื่นและมีความสุข
แต่หนึ่งชั่วยามที่แล้ว ความสงบสุขกลับพังทลายลงอย่างไม่มีสัญญาณเตือน
ตอนที่ฉู่จิวอี้รู้สึกได้ถึงแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง นางออกมาเห็นกับตาว่าบิดามารดาของสามีถูกเท้าขนาดใหญ่ยักษ์เหยียบทับลงมาร่างกายแหลกเหลว บ้านช่องพังพินาศ คนรับใช้และองครักษ์หลบหนีด้วยความตื่นกลัว…
โลกแห่งความสงบสุขสลายหายไปในพริบตา
ฉู่จิวอี้กอดบุตรสาววิ่งหนีออกมาตามท้องถนนด้วยความหมดหวัง
เมืองทั้งเมืองตกอยู่ในความวุ่นวายโกลาหล
ทุกคนวิ่งหนีด้วยความแตกตื่น แต่ไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าตนเองสมควรหลบหนีไปที่ใด
ฉู่จิวอี้ยังโชคดีอยู่บ้าง
แม้จะสะดุดหกล้มหลายครั้งระหว่างการหลบหนี แต่สุดท้าย นางกับบุตรสาวก็หนีรอดมาได้สำเร็จ
แต่บัดนี้ นางถูกความเจ็บปวดเล่นงานจนแทบขยับตัวไม่ได้อีกแล้ว
ดังนั้น ฉู่จิวอี้จึงพาบุตรสาวมาหาที่ซ่อนตัว โดยหวังว่าจะสามารถรอดพ้นมหันตภัยครั้งนี้ได้ตลอดรอดฝั่ง
บ้านร้างที่พังถล่มลงมาครึ่งหลังแห่งนี้มีแสงไฟสลัวและเต็มไปด้วยเศษฝุ่น
หญิงสาวขดตัวอยู่ที่มุมบ้าน พยายามข่มความเจ็บปวดจากบาดแผลและกระดูกที่แตกร้าว นางกอดบุตรสาวแนบแน่น เอนหลังพิงผนังหิน พยายามไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมาโดยไม่จำเป็น…
“ไม่เป็นไรแล้วนะ”
“ที่นี่ปลอดภัยแล้ว…”
“พวกมันหาเราไม่เจอหรอก”
ฉู่จิวอี้กอดเด็กหญิงและซ่อนตัวอยู่ในบ้านร้าง ภาวนาด้วยความหวาดหวั่นใจ
“ฮ่า ๆๆ…”
ห่างออกไปไม่ไกล หุ่นเหล็กมฤตยูระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ลำแสงพิฆาตที่ถูกยิงออกมาจากดวงตาของมันทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า
อาคารบ้านเรือนพังถล่มทลาย
ผู้คนจำนวนมากต้องล้มตาย
เปลวไฟและหมอกควันลอยฟุ้งในอากาศ…
เสียงกรีดร้องโหยหวน บรรดายอดฝีมือแห่งจักรวรรดิต้าเกี๋ยนถูกเปลวไฟเผาไหม้แทบตายทั้งเป็น แม้พวกเขาจะทุ่มเททั้งชีวิตโจมตีหุ่นเหล็กในระยะประชิด แต่ก็สามารถสร้างความเสียหายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น…
โชคชะตาของทุกคนมีความคล้ายคลึงกัน
คือความตาย!
เพียงพริบตาเดียว ทุกคนก็ถึงแก่ความตาย
โดยไม่มีข้อยกเว้น
ฉู่จิวอี้ไม่เข้าใจเลยว่าเหตุไฉนจักรวรรดิต้าเกี๋ยนของตนเองจึงถูกกองทัพเทพอสูรปิดล้อมโจมตี เพราะจักรวรรดิแห่งนี้ยอมเป็นเมืองขึ้นของกองทัพเทพอสูรมาตั้งแต่แรก แต่กลับกลายเป็นว่าหุ่นเหล็กมฤตยูก็ยังมาฆ่าล้างผู้คนด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิตอยู่ดี…
“ท่านแม่ จะมีผู้คนมาช่วยพวกเราหรือไม่?”
เจิ้งเซวียนเซวียนถาม น้ำตาคลอเต็มเบ้า
ริมฝีปากของเด็กหญิงวัยสี่ขวบสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว นางกระซิบแผ่วเบา มองหน้ามารดาด้วยแววตาคาดหวัง
ผู้เป็นมารดาไม่รู้จะตอบคำถามอย่างไร ดังนั้นนางจึงกล่าวเบาๆ ว่า “เซวียนเซวียน เจ้าวางใจเถอะ แม่จะปกป้องเจ้าเอง แม่จะไม่ทิ้งเจ้าไปไหนทั้งนั้น…”
“ท่านแม่ไม่ต้องห่วงเซวียนเซวียนหรอก ท่านแม่หนีไปเถอะ”
ไม่มีผู้ใดทราบเลยว่าเด็กหญิงตัวน้อยกำลังคิดอะไรอยู่ นางกลั้นน้ำตา เงยหน้าขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “เซวียนเซวียนวิ่งไม่ไหวแล้ว มีแต่จะเป็นภาระให้ท่านแม่เท่านั้น”
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
แสงสว่างก็เป็นประกายระยิบระยับ
ทันใดนั้น
เงาร่างของคนผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวออกมาจากเงามืดของบ้านร้าง
บุคคลผู้นี้สวมใส่ชุดเสื้อคลุมสีน้ำเงิน บนใบหน้ามีหน้ากากสีแดงปิดบังหน้าตาที่แท้จริง ชายเสื้อคลุมยาวลากพื้น ปรากฏตัวขึ้นด้วยความเงียบงันไม่ต่างจากภูตผีตนหนึ่ง
ฉู่จิวอี้รีบยกมือปิดปากบุตรสาวของตนเอง ไม่ปล่อยให้เด็กหญิงได้พูดอะไรอีก จากนั้นจึงมองหน้าบุคคลปริศนาด้วยแววตาดุร้าย
บุคคลที่ปรากฏตัวในบ้านร้างเมื่อพบเห็นสองแม่ลูกก็เกิดอาการหยุดชะงักเล็กน้อย ดวงตาจ้องมองมาที่สองแม่ลูกอย่างใช้ความคิดอยู่อึดใจใหญ่
ดวงตาของคนผู้นี้มีประกายแห่งความประหลาดใจ
ฉู่จิวอี้รีบกล่าวว่า “พวกเรา… พวกเราไม่ใช่คนเลว อย่าฆ่าพวกเราเลยนะ… นางเพิ่งมีอายุได้สี่ขวบเท่านั้น…”
บุรุษปริศนาไม่ได้พูดคำใด
หลังจากยืนยันจนแน่ใจแล้วว่าสองแม่ลูกไม่ใช่ภัยคุกคามต่อตนเอง เขาก็หันหน้ามองไปทางอื่น
และภายใต้การจ้องมองของฉู่จิวอี้ นางก็พบว่าบุรุษลึกลับได้นำไม้คทาสีดำทมิฬออกมาจากใต้วงแขน มันมีความยาวเท่ากับกระบี่หนึ่งเล่ม บนไม้คทาแกะสลักอักขระอาคมเอาไว้เป็นจำนวนมาก และที่ปลายสุดของไม้คทานั้นก็มีลูกแก้วใบหนึ่งประดับอยู่
บุรุษลึกลับกวาดตามองหาอะไรบางอย่างบนพื้นดิน และในไม่ช้า เขาก็ได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่สำคัญมาก บุรุษลึกลับนำปลายไม้คทากดลงไปบนพื้นบริเวณนั้นอย่างแรง
ไม้คทาปักลึกลงไปในพื้นหิน
หลังจากนั้น บุรุษลึกลับก็ย่อกายลงและใช้นิ้วมือกดปุ่มที่อยู่บนไม้คทาอย่างระมัดระวัง
ได้ยินเสียงดังกริ๊ก กลไกบางอย่างทำงาน
แล้วอักขระอาคมที่ถูกแกะสลักอยู่บนไม้คทาก็เรืองแสงขึ้นมา
นี่คือการเปิดใช้งานพลังเวทมนตร์บางอย่าง
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย บุรุษปริศนาก็หมุนตัวเดินออกไปนอกบ้านร้าง
ครืน!
พื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรง
บ้านร้างกำลังจะพังถล่ม เศษฝุ่นร่วงกราวจากเพดาน
“ฮื่อ ท่านแม่ ข้ากลัว… เซวียนเซวียนกลัวเหลือเกิน”
เด็กหญิงตัวน้อยอดร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกไม่ได้
บุรุษลึกลับหยุดชะงัก ก่อนจะหันกลับมามองที่สองแม่ลูกอีกครั้ง
ฉู่จิวอี้เข้าใจว่าเสียงร้องของบุตรสาวจะไปกระตุ้นโทสะของบุรุษปริศนา จึงรีบยกมือปิดปากบุตรสาวไม่ให้พูดอะไรอีก และในเวลาเดียวกันนี้ นางก็จ้องมองไปที่บุรุษปริศนา…
บุรุษปริศนาถามออกมาช้าๆ ว่า “นางชื่ออะไร?”
ฉู่จิวอี้กอดบุตรสาวแนบแน่นและตอบว่า “เซวียนเซวียนเจ้าค่ะ นางชื่อเซวียนเซวียน พวกเรา…”
“หากยังไม่รีบหนีไปอีก พวกเจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่”
เสียงของบุรุษลึกลับแหบแห้ง ฟังระคายหูยิ่งนัก
เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น ดวงตาของฉู่จิวอี้ก็เป็นประกายสว่างไสวขึ้นมาทันที นางรู้สึกไม่ต่างจากเป็นผู้คนที่จมลงไปในบ่อทรายดูด แต่แล้วกลับมีเถาวัลย์เส้นหนึ่งยื่นลงมาให้ไขว่คว้าเอาไว้
“กราบเรียนคุณชาย ได้โปรดช่วยเหลือเซวียนเซวียนด้วย ช่วยนำพานางหลบหนีไป…”
ทันใดนั้น ฉู่จิวอี้ดันร่างของบุตรสาวที่อยู่ในอ้อมแขนออกมาด้านหน้าและขอร้องอ้อนวอนว่า “นางอายุเพียงสี่ขวบเท่านั้น ยังคงเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสา นางมีน้ำหนักไม่มาก ไม่เปลืองพลังของท่านแน่นอน… คุณชายได้โปรดช่วยชีวิตนางด้วย”
“ไม่เอา เซวียนเซวียนอยากอยู่กับท่านแม่ เซวียนเซวียนจะไม่ไปไหนทั้งนั้น…”
เด็กหญิงปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว พยายามจับชายเสื้อของมารดาไม่ยอมปล่อย
บุรุษลึกลับยืนอยู่ในความเงียบ เกิดความลังเลใจบางอย่าง ผ่านไปอีกอึดใจใหญ่ จึงได้หันมามองหน้าฉู่จิวอี้และถามว่า “เจ้าชื่ออะไร?”
“ขะ… ข้ามีนามว่าฉู่จิวอี้เจ้าค่ะ”
ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด นางจึงเลือกตอบออกไปตามความจริง
บุรุษลึกลับผู้ยืนอยู่เบื้องหน้านางคนนี้ เป็นเพียงความหวังเดียวเท่านั้นที่จะทำให้บุตรสาวของนางรอดชีวิต
“เจ้าก็แซ่ฉู่เหมือนกันหรือ?”
บุรุษลึกลับถอนหายใจออกมา
“งั้นก็ไปกันเถอะ ข้าจะพาพวกเจ้าหนีไปเอง”
ดูเหมือนเขาจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง เมื่อโบกสะบัดฝ่ามือ เงาดำก็ครอบคลุมสองแม่ลูกและบุคคลทั้งสามก็อันตรธานหายไปพร้อม ๆ กัน
ติ๊ก! ติ๊ก! ติ๊ก!
ไม้คทาสีดำส่งเสียงออกมาเบา ๆ
คล้ายกับเป็นการจับเวลานับถอยหลัง