ตอนที่ 1,473 พวกเราอาจร่วมมือกันก็เป็นได้
หลังจากนั้น เมืองหลวงแห่งจักรวรรดิต้าเกี๋ยน ซึ่งเป็นจักรวรรดิต้าเสาหลักของแผ่นดินตงเต้า ก็ได้รับการช่วยเหลือในที่สุด
ผู้รอดชีวิตเริ่มต้นช่วยเหลือกันและกัน
เพียงแต่ว่าบรรดาขุนนางใหญ่ที่อยู่ในวังหลวงต่างก็เสียชีวิตจากการถูกโจมตีเมื่อสักครู่นี้หมดสิ้น…
มหานครใหญ่แห่งนี้จึงกลายเป็นดินแดนกว้างใหญ่ที่ไม่มีผู้ควบคุม
ความปั่นป่วนโกลาหลจึงเกิดขึ้น
หลินเป่ยเฉินออกไล่ล่ากวาดล้างบรรดาผู้คนที่พยายามปั่นป่วนสถานการณ์
หลังจากนั้น เขาก็เปิดการทำงานของประตูมิติระยะไกล
เมื่อโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์เข้าไป ศิลาอาคมก็เปิดประตูมิติออกมา
เยว่หงเซียง เซียวปิงและคนอื่น ๆ ที่ได้รับการคัดเลือกจากกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรรีบเข้ามาดูแลมหานครแห่งนี้อย่างเร่งด่วน
ด้วยขีดความสามารถในปัจจุบันของเยว่หงเซียง นางจึงสามารถสร้างค่ายอาคมที่เป็นประตูมิติสำหรับเดินทางระยะไกลได้อย่างไม่มีปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังรับตำแหน่งเทพเจ้าเทพีบรรณารักษ์ เยว่หงเซียงก็ยิ่งมีขีดความสามารถสูงล้ำมากกว่าเดิม…
กล่าวได้ว่าขีดความสามารถของเยว่หงเซียงขณะนี้ สมควรถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเวทชั้นนำของแผ่นดินตงเต้าอย่างไม่ต้องสงสัย
นางจึงได้เตรียมศิลาอาคมให้หลินเป่ยเฉินไว้ใช้งานล่วงหน้า
เมื่อหุ่นเหล็กมฤตยูหมายเลขสองเดินออกมาจากประตูมิติโดยที่มีเยว่หงเซียงยืนอยู่บนหัวไหล่ บรรดาผู้รอดชีวิตชาวต้าเกี๋ยนต่างก็ต้องเงยหน้ามองด้วยความตกตะลึง
เพราะเมื่อพบเห็นการฆ่าล้างผู้คนอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตของหุ่นเหล็กมฤตยู พวกเขาก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่าหุ่นยักษ์มฤตยูชนิดนี้มีความน่ากลัวมากเพียงใด
แต่ดูเหมือนว่ากองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรจะค้นพบวิธีนำหุ่นเหล็กเหล่านี้มาใช้งานแล้ว
เมื่อมีการดำรงอยู่ของหลินเป่ยเฉิน ทุกคนจึงรู้สึกปลอดภัย
เมื่อมีหุ่นเหล็กมฤตยูคอยช่วยงาน กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรจึงสามารถลดภาระของผู้คนลงไปได้หลายส่วน
ในเวลาเดียวกันนี้ หน่วยลาดตระเวนก็ออกค้นหาผู้ที่รอดชีวิตนอกเมือง
ข่าวลือแพร่สะพัดออกไป ผู้อพยพจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในมหานครของจักรวรรดิต้าเกี๋ยน
การปรากฏตัวของหลินเป่ยเฉินเป็นเสมือนเปลวไฟกลางค่ำคืนที่มืดมิด ช่วยจุดความหวังให้ลุกโชนสว่างไสวในหัวใจของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน…
เพียงสองชั่วยามต่อมาเท่านั้น
ด้วยการประชาสัมพันธ์ของหัวหน้าฝ่ายโฆษกประจำกองทัพสัมพันธมิตรเถียนเถียน ตัวตนที่แท้จริงของหลินเป่ยเฉินก็ถูกป่าวประกาศออกไป แน่นอนว่าเถียนเถียนต้องใช้โอกาสนี้เอ่ยถึงคุณงามความดีของหลินเป่ยเฉินโดยไม่มีขาดตกบกพร่อง
เมื่อกอปรกับที่หลินเป่ยเฉินสามารถทำให้ไป๋ชินอวิ๋น ‘หวาดกลัว’ จนต้องถอยหนีไปได้และการที่เขาสามารถสังหารหุ่นเหล็กเทพเจ้าทั้งสามตัวได้ต่อหน้าต่อตาชาวเมืองเป็นจำนวนมาก ความนิยมในตัวหลินเป่ยเฉินจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดก็คือจำนวนผู้ติดตามของหลินเป่ยเฉินในแอปเวยป๋อพุ่งทะยานเกินห้าสิบล้านคนแล้ว
นี่คือตัวเลขที่น่าตกใจ
เพราะเป็นจำนวนผู้ติดตามที่มากกว่าเทพีกระบี่ เทพีแห่งธนู และเทพเจ้าอีกมากมายหลายองค์
นี่หมายความว่าหากหลินเป่ยเฉินต้องการจะปลดผนึกวงแหวนเทพเจ้าในขณะนี้ เขาก็สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืนเท่านั้น
แต่หลินเป่ยเฉินไม่ได้ทำ
เพราะหากเขาอยากจะเดินทางไปยังภพภูมิอื่น หลินเป่ยเฉินจะปลดผนึกวงแหวนเทพเจ้าไม่ได้เด็ดขาด
แต่จำนวนผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้นในแอปเวยป๋อไม่ใช่สิ่งที่เขาควรเป็นกังวล
ตรงกันข้าม มันกลับเป็นสิ่งที่เขาควรดีใจด้วยซ้ำ
หรือหากการที่เขามีผู้ติดตามในแอปเวยป๋อมันเกิดส่งผลเสียขึ้นมาจริง ๆ หลินเป่ยเฉินก็แค่ถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันเวยป๋อออกไปเท่านั้น ปัญหาทุกอย่างก็จบลงแล้ว
หลินเป่ยเฉินส่งมอบหุ่นเหล็กมฤตยูอีกสามตัวให้แก่เยว่หงเซียงได้ศึกษาโครงสร้างต่อไป
หลังจากนั้น เขาก็นำหุ่นยนต์หมายเลขหนึ่งออกมาตั้งไว้ตรงที่ซึ่งเคยเป็นพระราชวังของจักรวรรดิต้าเกี๋ยน เพื่อเป็นการแสดงแสนยานุภาพของตนเอง หลินเป่ยเฉินจึงกระโดดขึ้นไปนั่งอยู่บนหัวของหุ่นเหล็กและเริ่มต้นปรับระดับพลังในร่างกาย
แผนการขั้นต่อไปของเขาไม่มีสิ่งใดซับซ้อน
หลินเป่ยเฉินกำลังจะมุ่งหน้าไปกำจัดเว่ยหมิงเฉิน
หากจะฆ่าทหาร ให้ยิงม้าก่อน หากจะด่าคน ให้ด่าแม่ก่อน
หากจะฆ่างู ก็ต้องตัดหัวงูทิ้งก่อน
เว่ยหมิงเฉินคือหัวงูที่เขาต้องรีบกำจัดเป็นอย่างแรก
มีแต่วิธีนี้เท่านั้นจึงเป็นวิธีการกวาดล้างกองทัพเทพอสูรได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดและใช้เวลาน้อยที่สุดในการกอบกู้แผ่นดินตงเต้ากลับคืนมา
หลินเป่ยเฉินนำโทรศัพท์ออกมาดู
แอปพลิเคชันคัมภีร์กระบี่สิบเจ็ดคาบสมุทรฉบับสมบูรณ์กำลังทำงานอย่างราบรื่น
ขณะนี้ แถบความคืบหน้าในการฝึกวิชาของตัวแอปแจ้งว่าการฝึกวิชาดำเนินมาได้เก้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว
นี่หมายความว่าหลินเป่ยเฉินสามารถใช้งานคัมภีร์นี้ได้ถึงสิบห้ากระบวนท่า
“คัมภีร์กระบี่สิบเจ็ดคาบสมุทรฉบับสมบูรณ์เคยเป็นของท่านมหาเทพมาก่อน ไม่รู้เหมือนกันนะว่าพอท่านมหาเทพกลับมาเกิดใหม่เป็นเว่ยหมิงเฉิน เขาจะฝึกวิชานี้ได้สำเร็จแล้วหรือยัง…”
หากสามารถฝึกได้สำเร็จแล้ว หลินเป่ยเฉินก็ไม่รู้เลยว่าผลการต่อสู้จะออกมาเป็นอย่างไร
เขาต้องพยายามคาดเดาระดับพลังของเว่ยหมิงเฉินให้แม่นยำมากที่สุด
ในโทรศัพท์เครื่องนี้ มีแอปพลิเคชันชนิดหนึ่งชื่อว่าแอปคัมภีร์กระบี่เสียดฟ้า… นี่คือคัมภีร์ที่เด็กหนุ่มได้เป็นของรางวัลจากการชนะการแข่งขันค้นหาเทพเจ้าหน้าใหม่
แอปคัมภีร์กระบี่เสียดฟ้าแจ้งว่าการฝึกวิชานี้สำเร็จครบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
เมื่อเปิดการใช้งานแอปคัมภีร์กระบี่เสียดฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ หลินเป่ยเฉินก็ต้องยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“สมแล้วที่เป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง มีแต่เทพเจ้าขั้นใต้เท้าใหญ่เท่านั้นจึงจะสามารถฝึกฝนได้ พลังทำลายล้างของวิชากระบี่ชนิดนี้มากพอที่จะถล่มโลกได้ทั้งใบเลยด้วยซ้ำ…”
“ไม่รู้ว่าจะใช้จัดการเว่ยหมิงเฉินได้หรือเปล่านะ?”
หลังจากใช้เวลาสำรวจดูเคล็ดวิชาคัมภีร์กระบี่เสียดฟ้าในโทรศัพท์มือถืออยู่ประมาณหนึ่งก้านธูป หลินเป่ยเฉินก็ปล่อยให้ตัวแอปทำงานในพื้นหลังต่อไป และเขาก็เลื่อนไปดูการทำงานของแอปพลิเคชันอื่น ๆ ในโทรศัพท์
วิธีการเพิ่มพลังอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดและใช้เวลาน้อยที่สุดก็คือการมองหาตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพความแข็งแกร่ง
และตัวช่วยเหล่านั้นก็ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งในทุก ๆ ด้านของหลินเป่ยเฉินอย่างก้าวกระโดด
ซึ่งในส่วนของหลินเป่ยเฉินนั้น…
เขายังนึกไม่ออกเลยว่าตนเองสมควรมีตัวช่วยเป็นสิ่งใด…
ในโทรศัพท์เครื่องนี้ พอจะมีอะไรบ้างไหมช่วยเพิ่มพลังให้เขาได้ในระยะเวลาอันสั้น
หลินเป่ยเฉินเข้าสู่ระบบในแอปจิงตงมอลล์ ซึ่งไม่ได้เข้าไปดูนานแล้ว
ร้านค้าของเทพีกระบี่หิมะไร้นามแสดงให้เห็นประวัติการซื้อขายจากหลินเป่ยเฉินเมื่อครั้งสุดท้าย หลังจากนั้น นางก็ไม่เคยขายสินค้าในร้านนี้ได้อีกเลย
และเจ้าของร้านก็ไม่ได้ออนไลน์อยู่เช่นกัน
ดูเหมือนหลังจากที่เขาซื้อของจากนางไปเมื่อครั้งก่อน เทพีกระบี่ไร้นามก็ไม่เคยมีลูกค้าเลยสักคนเดียว
แต่สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจก็คือ ร้านเพื่อนพ้องพี่น้องโจรที่มักจะมีผู้ดูแลออนไลน์ตอบข้อความลูกค้าอยู่เสมอ ขณะนี้ก็ไม่มีผู้ดูแลคอยต้อนรับลูกค้าเช่นกัน และประวัติการซื้อขายล่าสุด ก็ต้องย้อนกลับไปถึงหนึ่งเดือนก่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง
หลินเป่ยเฉินลองส่งข้อความไปหาผู้ดูแลร้านหลายครั้ง แต่กลับไม่มีผู้ใดอ่านข้อความของเขาเลย
แอปจิงตงมอลล์แตกต่างจากแอปเถาเป่าก็ตรงที่ภายในแอปมีร้านค้าแค่สองร้านเท่านั้น คือร้านของเทพีกระบี่หิมะไร้นามกับร้านเพื่อนพ้องพี่น้องโจร และสิ่งของที่ทั้งสองร้านวางขายก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่อีกด้วย
หลินเป่ยเฉินกดออกจากแอปจิงตงมอลล์และเข้าไปดูในแอปเถาเป่า
เขาตัดสินใจซื้ออาวุธเพิ่มเติม
…
ดินแดนทวยเทพ
ในห้องโถงใหญ่ที่อัดแน่นด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์
ฉินโซวเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ และประสานมือทำความเคารพต่อร่างที่นั่งอยู่ในหน้าจออาคมระดับสูง
“กราบเรียนนายท่าน โชคดีที่ผู้ต่ำต้อยสามารถนำหุ่นเทพศักดิ์สิทธิ์กลับมาได้สำเร็จ”
กล่าวจบ ฉินโซวก็นำชิ้นส่วนของหุ่นเหล็กมฤตยูออกมาจากวัตถุเก็บของวิเศษ และนำชิ้นส่วนเหล่านั้นมาวางเรียงกันบนพื้นหินอันว่างเปล่า
“ทำได้ดีมาก”
เสียงของสตรีนางหนึ่งดังออกมาจากหน้าจอ “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”
“ผู้ต่ำต้อยเผชิญหน้ากับสตรีปริศนาผู้หนึ่ง นางมีพลังเทียบเท่ากับเทพเจ้าชนชั้นใต้เท้าใหญ่ แต่โชคดีที่ในวิกฤตการณ์นั้น มีคนผู้หนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นมาช่วยเหลือผู้ต่ำต้อย…”
ฉินโซวบอกเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นออกไปและกล่าวว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าใต้เท้าเจี๋ยนที่อ้างว่าเก็บตัวหลอมรวมพลัง แท้ที่จริงแล้วกลับลงไปอยู่ในแผ่นดินตงเต้า และดูเหมือนเขาก็กำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่เช่นกัน”
“น่าสนใจ”
เสียงของสตรีนางนั้นดังออกมาจากหน้าจอด้วยความเกียจคร้าน “ข้านึกว่าใต้เท้าใหญ่หน้าใหม่อย่างเขาจะทำตัวสงบเสงี่ยมเรียบร้อยเสียอีก แต่ที่ไหนได้ เขากลับลงมือด้วยความอุกอาจมากกว่าพวกเราเสียอีก… ในเมื่อเจ้าเผยแพร่ข่าวบางส่วนให้เขาได้รู้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไปพบเขาเถอะ บางทีเราอาจจะสามารถร่วมมือกันก็เป็นได้”
“รับทราบขอรับ”
ฉินโซวค่อย ๆ ล่าถอยออกมาจากวิหารแห่งนั้น