หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 104 ห้ามทำให้หมอขุ่นเคือง

บทที่ 104 ห้ามทำให้หมอขุ่นเคือง

บทที่ 104 ห้ามทำให้หมอขุ่นเคือง

นางจะทำให้หลานเยาเยาทุกข์เข็ญที่สุดให้ได้ ……

เมื่อฮองเฮากำลังรวบรวมกำลังภายใน หลานเยาเยากลับเริ่มนับตัวเลขขึ้นมา

“สาม……”

สอง……”

“ล้ม!”

จื่อซี หนึ่งหล่ะ?

ฮองเฮา หนึ่งหล่ะ?

โดนหลานเยาเยากินเข้าไปแล้วเหรอ?

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ฮองเฮากำลังสงสัยอยู่นั้น ทันใดนั้นความรู้สึกของตัวเองแข็งทื่อ จากนั้นเริ่มขยับตัวไม่ได้ แต่นางยังมีสติอยู่

จากนั้น เสียงดัง“โป้ง”ลมลงไปที่พื้น

“แม่เจ้าไม่เคยสอนเจ้าเหรอ?ทำให้ใครโกรธก็ได้ แต่อย่าทำให้คนที่มีวิชาด้านการแพทย์โกรธเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นตายยังไงยังไม่รู้เลย!ตอนที่นางจับชีพจรของฮองเฮารู้สึกถึงความแปลกประหลาดนั้น นางก็ชิงลงมือไปก่อนแล้ว

ยาตัวนั้นถึงแม้จะออกฤทธิ์ช้า

แต่ผลที่ได้ดีมาก!

หลานเยาเยายิ้มเหะเหะกับจื่อซี แล้วพูดอย่างใสซื่อขึ้นมาว่า “เจ้ายังสามารถเดินได้ไหม?”

“ได้สิ!”

“ขาเจ้ามีแรงเดินไหม?”นางถามขึ้นอีกครั้ง

“ได้สิ!”

มองดูรอยยิ้มที่ใสซื่อของหลานเยาเยา จื่อซีรู้สึกได้ว่าแย่แล้ว มีคนกำลังจะโชคร้ายแล้ว

เป็นอย่างที่คิดจริง……

“ไป พวกเราไปถีบนางด้วยกัน!”หลานเยาเยาพูดขึ้นพร้อมชี้ไปที่ตัวฮองเฮา

ความรู้สึกนี้เหมือนกับ เด็กเล็กทะเลาะกัน ยังต้องชวนเพื่อนพ้องไปพร้อมกัน

จื่อซีมีความรู้สึกอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก!

พระชายาไม่ได้จะเข้าไปถีบฮองเฮาจริงใช่หรือไม่?ฮองเฮายังคงจ้องนางด้วยสายตาโหดเหี้ยมดุร้ายอยู่เลย!

อย่างไรก็ตามความจริงคือ หลานเยาเยาไม่เพียงแค่ถีบ แถมถีบตั้งแต่หัวไปถึงเท้า อีกทั้งกลวิธีในการถีบก็ดีมากด้วย

ซึ่งทำให้จื่อซีเลื่อมใสอย่างไม่น่าเชื่อ ท้ายที่สุดจื่อซีทนดูไม่ได้ เลยรีบเข้าไปห้ามปรามพร้อมกับพูดว่า “พระชายา พอได้แล้ว

ถ้ามีคนเข้ามาเห็นมันจะไม่ดี”

พูดจบ จื่อซีก็ยกขาขึ้นเข้าไปถีบด้วยอีกคน

แม่เจ้า!นิ่เป็นครั้งแรกสำหรับเขาที่ทำเรื่องแบบนี้ ในใจรู้สึกผิดเล็กน้อย!

แต่ว่าการถีบคนแบบนี้รู้สึกดีเป็นพิเศษเหมือนกัน

ยังไง ฮองเฮาตอนนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะหลังจากเรื่องนี้ผ่านไปแล้ว นางก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป เพราะต่อหน้าฮ่องเต้นางยังต้องรักษาความเป็นธรรมชาติของตัวเองไว้ ยังไงก็ต้องทนโดนถีบไปก่อนสักพัก

ฉะนั้น ในเมื่อมีโอกาสทำไมไม่ถีบหล่ะ!

“เป็นไงบ้าง?สะใจไหม?”

“สะใจ สะใจมาก!”

“สะใจ สะใจมาก!”

ผ่านไปชั่วครู่!

“ถีบพอหรือยัง?เมื่อหลานเยาเยาเห็นฮองเฮาโดนถีบจนใกล้จะเป็นลม จึงถามขึ้นมาเพราะเริ่มรู้สึกสงสารฮองเฮา”

“ถีบพอหรือยัง?เมื่อหลานเยาเยาเห็นฮองเฮาโดนถีบจนใกล้จะเป็นลม จึงถามขึ้นมาเพราะเริ่มรู้สึกสงสารฮองเฮา”

“ยังถีบไม่พอเลย!เพราะจื่อซีเริ่มรู้สึกติดใจกับการได้ถีบฮองเฮา

“ถ้าอย่างนั้น!พวกเราถีบอีกสักพักก็ได้”

“รับทราบ!”

……

เวลาผ่านไปครึ่งชั่วยาม

ฮ่องเต้กับอ๋องเย่เหมือนได้ยินเสียงอะไรผิดปรกติ จึงรีบเดินเข้าไปดูด้านใน สิ่งที่เห็นตรงหน้า ทำให้ฮ่องเต้ตกใจขมวดคิ้วเข้าหากัน

แจกันแตกอยู่ข้างริมหน้าต่างหลายใบ ภายในห้องก็เละเทะวุ่นวาย เหมือนเพิ่งจบศึกมาเมื่อกี้

ส่วนฮองเฮาตาปิดสนิทนอนกองอยู่บนพื้น สีหน้าซีดเซียว บนใบหน้าไม่มีรอยช้ำแม้แต่นิดเดียว ท่าทางกลับเหมือนจะไปทำร้ายคนอื่น

ลักษณะที่เห็น คือเล็บทั้งยาวทั้งดำท่าทางน่ากลัวมาก

ส่วนจื่อซีนั่งอยู่บนพื้นข้างกำแพง ตรงหน้าท้องมีรอยขีดขว่นลึกอยู่หลายจุด หลานเยาเยาท่าทางเก้เก้กังกังยื่นผ้าพันแผลไปให้เขา ในสายตาเต็มไปด้วยความกลัว เหมือนเมื่อกี้พวกเขาเพิ่งเผชิญกับเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก่อน……

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

ถึงแม้ฮ่องเต้พอจะเดาออกว่าสาเหตุน่าจะมาจากอาการกำเริบของฮองเฮา เลยถามออกไปตามเนื้อภาพที่เห็น

โชคดีที่หลานเยาเยาไม่เป็นอะไร!

ไม่อย่างนั้น อ๋องเย่ไม่ยอมให้เรื่องจบลงง่ายๆเป็นแน่

เมื่อมองไปเห็นเล็บยาวๆของฮองเฮา ฮ่องเต้รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

“รายงานฮ่องเต้ เมื่อกี้ฮองเฮาอาการกำเริบอีกแล้ว สถานการณ์ค่อนข้างร้ายแรง แต่อาการของฮองเฮากับอาการของพระราชธิดาจาวหยางไม่เหมือนกันเลย กำเริบได้ตลอดเวลา จื่อซีพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง

จื่อซีถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก!

เขาน่าจะกังวลจนเกินไปเอง

เมื่อกี้เขายังกังวลว่านิสัยของพระชายาค่อนข้างเปิดเผย กลัวแสดงท่าทางเหมือนคนตกใจกลัวไม่เป็น

ดูจากเหตุการณ์เมื่อกี้แล้ว……

พระชายามีประสบการณ์มากกว่าเขาเยอะ!

เมื่อกี้นางยังแกล้งจงใจทำแจกันแตกหลายใบ ทำห้องเละเทะวุ่นวาย ดึงดูดให้คนภายนอกได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรเกิดขึ้น

ภายหลัง ท่าทางนางเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าใครมาเห็นก็จะคิดว่านางเพิ่งเจอกับเหตุการณ์ที่น่าหวาดกลัวมาก่อนจนทำให้นางตกใจ

แหมแหม!

นับถือ นับถือจนยอมก้มกราบแนบพื้นให้เลย

“ถ้าเช่นนั้นอาการของฮองเฮาสามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่?”จุดนี้คือจุดที่ฮ่องเต้กังวลที่สุด

“มัน……มีความลำบากเล็กน้อย!”

ได้ยินว่า!

ฮ่องเต้โมโห กล่าวด้วยเสียงเข้มว่า “ลำบาก?มีอะไรลำบาก?เจ้าคือหมอที่มีวิชาที่เก่งที่สุดในเมืองหลวงไม่ใช่เหรอ?จะมีอะไรยากลำบากนัก……”

ฮ่องเต้มีความรู้สึกว่า การที่เขาไปฮ่ฮงแต้ของประเทศ น้ำเสียงจำเป็นต้องมีความภูมิฐานเล็กน้อย

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้คนที่ไม่สบายคือฮองเฮาของเขาเอง!

อย่างไรก็ตาม!

เมื่อสายตาของอ๋องแย่เหลียบมองมา เขาตื่นตระหนกเล็กน้อย น้ำเสียงอ่อนเบาลงมา “จื่อซี ข้าเห็นความสำคัญของเจ้ามาก มีอะไรยุ่งลำบากเจ้าพูดออกมา ข้าจะช่วยเจ้าแก้ไขปัญหาเอง

จื่อซีไม่ได้พูดอะไรมาก

แต่เขาหยิบใบสั่งยาที่เพิ่งเขียนเสร็จเมื่อกี้ออกมา หลังจากที่ฮ่องเต้ได้ดูใบสั่งยา สีหน้าลำบากใจขึ้นมาทันที

ยาแต่ละชนิดที่เขียนในใบสั่งยา ล้วนแล้วแต่หายากนัก

แต่ก็ถือว่ายังโชคดี สามารถหาได้ที่ประเทศก่วงส้า

ส่วนยาชนิดสุดท้าย กลับอยู่ในประเทศของศัตรู แถมประเทศของศัตรูยังมองว่ายาชนิดนี้เป็นยาประหลาด อยากได้ยาตัวนี้ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก

เวลานี้สาวใช้ของฮองเฮาได้พยุงนางขึ้นมาเพื่อพาไปนอนที่เตียง และดึงผ้าห่มห่มให้เรียบร้อย หลังจากที่ฮ่องเต้ดูใบสั่งยาเสร็จ ก็ค่อยๆเดินไปที่ขอบเตียง!

สายตาของเขาหมองมัวลงเล็กน้อย แต่ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า

“ข้าต้องหาวิธีให้ได้!”

ถ้าไม่ถึงทางเลือกสุดท้าย ข้าจะไม่ใช้วิธีนี้เด็ดขาด

จากนั้นมีคำสั่งให้ปิดหน้าต่างทุกบานที่ห้องนอนของฮองเฮา และยังสั่งให้องครักษเฝ้าไว้ที่หน้าประตูห้องเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากเริ่มตั้งแต่วันที่ไทเฮาจัดงานเลี้ยง พระราชธิดาจาวหยางก็อยู่แต่ในวัง!

คืนนี้มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นกับฮองเฮา ไทเฮาก็ยังมาเป็นลม อีกทั้งเมื่อเวลาช่วงเย็นที่ผ่านมาทั้งสองคน

ได้พบเจอกับพระราชธิดาจาวหยางมาก่อน

ฉะนั้น!

เมื่อเกิดเรื่องขึ้น

คนที่ฮ่องเต้สงสัยคนแรกก็คือเพราะราชธิดาจาวหยาง ไม่ว่านางจะร้องไห้ปฏิเสธยังไงว่าไม่ใช่นาง ท้ายที่สุดฮ่องเต้ก็กักบริเวณนางอยู่ดี

หลานเยาเยากับเย่แจ๋หยิ่งเมื่อมาถึงห้องนอนของนาง เห็นนางเงียบผิดปรกติ!

“โหลวเย่ว!”หลานเยาเยาเรียกนางออกมาเบาๆ

เห็นดวงตาที่แดงก่ำของโหลวเย่ว สีหน้าอ่อนล้าเล็กน้อย ใบหน้ามีจุดแดง แถมยังระบมช้ำเล็กน้อย

ดูจากสถานการณ์แล้วน่าจะเป็นฝีมือของฮ่องเต้

เมื่อได้ยินเสียงนาง โหลวเย่วหันหน้ากลับมาช้าๆ น้ำตาไหลเอ่อขึ้นมาทันที

หลานเยาเยามาแล้ว!

สุดท้ายนางก็มาจนได้!

นางคิดอยู่แล้วยังไงหลานเยาเยาก็ต้องมา นางรู้ว่ายังไงเสด็จอาก็จะไม่ทิ้งนางโดยไม่เหลียวแล

นางค่อยๆอ้าปาก น้ำเสียงเต็มไปด้วยเสียงสะอื้นแล้วพูดขึ้นว่า

“เยาเยาเจ้ามาแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นกับฮองเฮากับเสด็จยายไม่ใช่ฝีมือข้า ไม่ว่าข้าจะอธิบายยังไงเสด็จพ่อก็ไม่ฟัง

เจ้าช่วยพูดกับเสด็จอาให้หน่อย ข้าไม่อยากอยู่ในวัง ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ข้าควรอยู่ ข้าจะกลับจวนอ๋องเย่ ข้าจะกลับหลานหนวนซิน”

เมื่อนึกถึงตอนที่เสด็จพ่อตบนางอย่างไม่ปราณี

เมื่อนึกถึงเสด็จพ่อตอนแรกจะจับนางขังที่เรือนจำ แต่ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรถึงเปลี่ยนใจกระทันหัน

ทำให้ใจนางเจ็บปวดยิ่งนัก!

นางรู้ ว่าเสด็จพ่อไม่ได้ใจอ่อน น่าจะคิดอย่างอื่นขึ้นมาได้

“ข้ามาก็เพื่อที่จะพาเจ้ากลับจวน ท่านอ๋องรอเจ้าอยู่ข้างนอกแล้ว

ไม่จำเป็นต้องรอให้เย่เจ๋หยิ่งออกหน้าช่วยเหลือ

แค่นางเสนอขอเข้ามาดูพระราชธิดาจาวหยาง ฮ่องเต้ก็รับรู้ถึงเป้าหมายพวกเขาได้ เพราะฉะนั้นพวกเขาไม่จำเป็นต้องเอ่ยปาก ฮ่องเต้ก็เสนอขึ้นมาเอง โดยให้พวกเขาพาพระราชธิดาจาวหยางกลับจวนได้

“อืม!ขอบใจเจ้ามาก เยาเยา”

เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้น โหลวเย่วจึงคลายกังวลได้

จากนั้นพวกเขาก็เดินทางออกจากวัง ก่อนที่จะขึ้นรถม้านั้น ได้ยินเสียงเกือกม้าวิ่งอย่างเร่งด่วน เสียงควบม้า มาจากทางไกลใกล้เข้ามาทุกที

มีม้ารูปงามตัวหนึ่ง ส่งเสียงร้องคำรามออกมา และหยุดลงอย่างเร่งด่วน…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท