หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่119: สาวใช้ผู้หยิ่งทนง

บทที่119: สาวใช้ผู้หยิ่งทนง

บทที่119: สาวใช้ผู้หยิ่งทนง

เกือบจะเสี้ยววินาทีสุดท้าย นางไม่สามารถฉวยแก้วนั้นมาได้แล้ว จากนั้นนางก็เห็นว่าหลานเยาเยายกเอาถ้วยขึ้นไปข้างริมฝีปาก

แต่ว่า……

เมื่อถ้วยถูกยกขึ้นไปที่ข้างริมฝีปากนางก็ไม่ขยับตัวอีกเลย ราวกับภาพวาดที่ถูกตรึงเอาไว้ นั้นทำให้ฮัวหยู่อันยิ่งร้อนใจ

ตกลงจะดื่มหรือไม่ดื่มกันแน่?

ถ้าจะดื่มก็รีบๆดื่มเข้าไปสิ นางใช้เวลาแทบจะเสี้ยววินาทีสุดท้ายเพื่อที่จะหยุดยั้งนาง นั่นยิ่งเป็นเหมือนนางใช้อำนาจอย่างเด่นชัด

ใครจะรู้……

หลานเยาเยาหันหน้ากลับมาหานาง ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เจ้าไม่ห้ามข้าแล้วอย่างนั้นเหรอ?”

สีของชามันแปลกไป อีกทั้งกลิ่นของชาก็ไม่ได้เหมือนกับที่นางเคยดื่ม ดังนั้นมันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าชานี้มีปัญหา

“ไว้ท่านดื่มก่อน ข้าค่อยห้ามท่าน” อัวหยู่อันตอบกลับอย่างใจเย็น

“แต่นี่ข้ากำลังจะกินแล้วนะ อีกเพียงนิดเดียวน้ำชาก็จะเข้าปากอยู่แล้ว ข้าก็เลยหยุดไว้เพื่อให้เจ้าห้าม ทำไมเจ้าถึงไม่ห้ามหล่ะ? เพราะเป็นเช่นนี้ ข้าก็สงสัยกับความซื่อสัตย์ของเจ้าเสียแล้วหล่ะ”

“…….”

แบบนี้ก็หมายความว่า หลานเยาเยาล่วงรู้อยู่ก่อนแล้วว่าชานี้มีปัญหา แต่ก็ยังตั้งใจแสร้งว่าจะดื่ม นั่นก็เพื่อที่จะพิสูจน์ความจงรักภักดีของนางอย่างนั้นเหรอ?

ไอ้หยา!

นางจะเอาอะไรมาซื่อสัตย์เล่า?

นี่นางถูกนางหลอกเข้าแล้วอย่างนั้นเหรอ?

“ช่างมันเถอะ เห็นว่าเจ้าทำเงิน ข้าจะไม่สืบสาวเอาความ” หลานเยาเยาวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ

จากการลองใจเมื่อครู่ ฮัวหยู่อันห้ามให้นางไม่ดื่มชา

ดังนั้น คนที่วางยาไม่ใช่ฮัวหยู่อัน ไม่ใช่นางแน่ๆ คนที่ทำน่าจะเป็นคนที่ไม่เต็มใจที่จะเป็นสาวใช้นั่นแหล่ะ

เหอะ!

ก็ถ้าอยู่ไม่สุขแบบนี้ ก็อย่ามาโทษที่นางไม่ไว้หน้าก็แล้วกัน

ดังนั้น หลานเยาเยาก็ให้ฮัวหยู่อันเอากับข้าวครึ่งกล่องออกมาไว้บนโต๊ะ

เมื่อมองอาหารบนโต๊ะใหญ่ที่ส่งกลิ่นหอมออกมา ฮัวหยู่อันแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความโลภ

“พระชายา ข้ากินได้หรือไม่?”

“ได้แน่นอน! แต่ว่าเจ้าต้องไปทำธุระให้ข้าสองเรื่อง” หลานเยาเยานัยน์ตาแข็งกร้าวขึ้น

“ได้ๆๆ อย่าว่าแต่สองเรื่องเลย ท่านให้ข้าทำถึงสิบเรื่องก็ย่อมได้” อาหารเลิศรสอยู่ตรงหน้า จะต้องคิดอะไรให้มากความอีกหล่ะ?

“เรื่องแรก ในกล่องยังมีกับข้าวอีกครึ่งหนึ่ง เจ้าช่วยเอาไปส่งที่ห้องอาหาร ให้พวกเขาเอาไปอุ่นในหม้อ เอาไว้ตอนเย็นก็เอามากินกันได้ตามสะดวก

เรื่องที่สอง ช่วยไปเรียกชิวซวนกับชิงปี้มากินข้าวด้วยนะ ข้าอยากที่จะกำจัดทีเดียว”

ฮัวหยู่อันได้ยินดังนั้นก็นัยน์ตาก็ประกาย

รีบพูดกับหลานเยาเยาทันทีเรื่องที่ว่าที่ฐานเตียงก็ถูกเอาของไปวางด้วยเช่นกัน เดิมทีนั้นเธอคิดว่าหลานเยาเยาจะโกรธ แต่ไม่คิดเลยว่าหลานเยาเยาจะไม่แม้แต่มีความเคืองอยู่บนสีหน้าทั้งยังยิ้มออกมาอีกด้วย

นั่นจึงทำให้ฮัวหยู่อันอดตะลึงไม่ได้!

“เจ้าจะมาอยู่มองข้าทำไม? ทำไมยังไม่รีบไปอีกเล่า?”

เมื่อเห็นฮัวหยู่อันออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หลานเยาเยาก็นึกขำออกมา

ไม่นานนัก ก็มีสาวใช้ใส่ชุดสีมรกตสี่ห้าคนทยอยเดินเข้ามา สาวใช้ที่มาเป็นของหมั้นเองก็มาด้วยหมด

พวกนางล้วนแต่งหน้าจัด ทั้งยังแต่งองค์ทรงเครื่องสละสลวย

ฮ่าฮ่า!

นี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฮัวหยู่อันใช้เล่ห์วิธีใดถึงได้เรียกพวกนางมาได้หมด อีกทั้งยังมีท่าทีตื่นเต้นมีความสุขอีกเสียด้วย

เมื่อเข้ามาในห้องกันหมดแล้ว

แม้พวกนางจะเก็บรอยยิ้มแย้ม แต่เมื่อมองสายตาของพวกนางก็เห็นได้ชัดว่ามีความอิ่มอกอิ่มใจอยู่บ้าง ราวกับว่าเป็นพวกนางเองที่เป็นพระชายา

“พระชายา” สาวใช้ทั้งสี่แสร้งทักทายอย่างมีมารยาท

สายตาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่อาหารบนโต๊ะ ซึ่งมีกาน้ำชาวางเอาไว้อยู่ด้วย รอยยิ้มของพวกนางก็ยิ่งมากขึ้น

ฮัวหยู่อันวางอาหารไว้บนโต๊ะก่อนจะพูดว่า:

“พระชายา สร้อยข้อมือที่ท่านให้ข้าน้อยเพื่อเป็นรางวัลช่างงามเหลือเกิน”

พูดจบ!

ฮัวหยู่อันก็ชูหยิบเอาสร้อยข้อมือขึ้นมาจากมือของเธอ

“เจ้าชอบก็ดีแล้วหล่ะ” เมื่อรู้แล้วว่าฮัวหยู่อันใช้เครื่องประดับเพื่อล่อพวกนางมา หลานเยาเยาก็หันหน้าไปทางพวกนาง “ข้ามีเครื่องประดับสวยๆอยู่หลายชิ้น รอพวกเจ้ากินข้าวเสร็จ ข้าจะให้เป็นของกำนัล”

แน่นอนหล่ะ!

พอเธอพูดจบแล้ว สายตาของพวกนางชิวซวนก็เป็นประกายกันขึ้นมาทีเดียว

“ขอบพระทัยพระชายา”

ด้วยเหตุเพราะหลานเยาเยาให้สร้อยข้อมือแก่ฮัวหยู่อันอีกทั้งสร้อยข้อมือก็ดูหรูหราดูดีมากเสียด้วย แน่นอนหล่ะว่านั่นดึงดูดพวกนางให้มา และแน่นอนว่าก็ต้องให้เครื่องประดับเงินทองที่ทั้งหรูหราดูดีแก่พวกนางเช่นกัน

สำหรับหลานเยาเยาแล้วที่จู่ๆมาทำดีกับพวกนางนั้น แน่นอนหล่ะว่ามีเรื่องที่จะถาม!

พวกนางชิวซวนต่างก็คิดเช่นนั้น

“มาสิ นั่งกินด้วยกัน”

ขอบพระทัยพระชายา!”

เมื่อเห็นเป็นแบบนี้ พวกนางก็ยิ่งมั่นใจ

ดังนั้น แม้จะรู้ดีว่าสาวใช้ไม่สมควรที่จะนั่งกินข้าวร่วมกับพระชายา แต่พวกนางก็ไม่แม้แต่จะปฏิเสธ นั่งลงที่เก้าอี้ทันที

แถมยังไม่รอให้หลานเยาเยาพูดอะไร พวกนางก็หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารกิน……

ครั้งนี้หลานเยาเยากับฮัวหยู่อันก็หรี่ตามองกัน!

“วางกับข้าวนั่นลง!” หลานเยาเยาพูดขึ้นอย่างไม่แยแส

กูยังไม่ได้กิน พวกเจ้าคิดอยากจะกินก่อนเลยอย่างนั้นเหรอ?

ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย!

“พระชายา ท่านไม่ได้ให้พวกข้านั่งลงหรอกหรือ! ทำไมถึงไม่ให้พวกข้ากินหล่ะ? หรือว่าจำต้องรอให้ท่านบอกให้เรากินได้เราถึงจะกินได้?” เห็นได้ชัดว่าชิวซวนนั้นหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว

อาหารที่อยู่บนโต๊ะก็มองดูช่างเย้ายวนเสียเหลือเกิน!

พอดีกับที่นางเริ่มหิวแล้วด้วย

พอพูดจบนางก็ยิ้มเยาะ หยิบตะเกียบเตรียมคีบอาหารอีกครั้ง……

“ข้าบอกให้พวกเจ้าคีบอาหารแล้วอย่างนั้นเหรอ?” หลานเยาเยามองอย่างเย็นชา

สาวใช้ตัวน้อยคนหนึ่งอาจหาญที่จะทำกิริยาเย่อหยิ่ง นางจะรอดูว่านางจะเย่อหยิ่งได้มากกว่านี้อีกมากแค่ไหน

“หลานเยาเยา นี่ท่านอยากให้พวกข้าช่วยอะไร หรืออยากให้ยกเป็นพระชายา? นี่ข้าจะบอกให้นะ ว่าหากพวกข้าได้กินกันอย่างไม่มีความสุขหล่ะก็ ท่านอย่าหวังที่จะให้เราช่วยอะไรท่านเลย!”

ชิวซวนโมโหมาก

โยนตะเกียบลงบนโต๊ะทั้งยังมองนางอย่างเย่อหยิ่ง

“อยากให้เจ้าช่วยเหรอ?”

“หรือว่าไม่ใช่? ท่านอยู่แต่ในห้องหนังสือดึงดูดท่านอ๋องไม่สำเร็จ กลับกันรั้งแต่จะทำให้ท่านอ๋องรังเกียจท่าน วันนี้อยู่ข้างนอกก็ทำให้คุณหนูจากแต่ละตำหนักไม่พอใจ ตอนนี้ก็รีบร้อนหาจวนแม่ทัพเพื่อให้เป็นที่พึ่งพาอีก ท่านไม่ควรมาร้องขอพวกข้าอย่างนั้นหรือ?”

ชิวซวนยิ่งพูดอารมณ์ของนางยิ่งเดือดขึ้น!

หลานเยาเยาเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ

เรื่องในห้องหนังสือวันนี้ การที่ชิวซวนรู้นั้นนางไม่แปลกใจ แต่เรื่องที่ทำให้คุณหนูแต่ละตำหนักไม่พอใจนี่ ชิวซวนรู้ได้ยังไงอีก?

ชิวซวนนี่ดูท่าจะไม่ธรรมดานะ!

ดังนั้น!

นางจึงตีไปที่แขนของตัวเอง

หลังจากชั่วขณะนึงจึงพูดขึ้นอย่างมั่นใจ! “ท่านเป็นคนของหลานจิ่นเอ๋อ!”

ที่โรงน้ำชา

เหล่าคุณหนูที่ถูกนางให้เขียนบันทึกในพฤติกรรมแย่ๆนั้น ตอนนี้ยังยากที่จะปกป้องตัวเอง จะเอาเวลาไปคุยวิจารณ์คนอื่นกับสาวใช้ตนเอง

มีเพียงถังมู่หวั่นกับหลานจิ่นเอ๋อที่ไม่ได้ถูกให้เขียนบันทึก

ถังมู่หวั่นนั้นเป็นหัวแก้วหัวแหวนของจวนเฉิงเสี้ยงทั้งยังมีจิตใจล้ำลึก จะมาพูดคุยพวกนี้กับชิวซวนคนที่อาจจะถูกฆ่าตายตอนไหนก็ได้ได้อย่างไร?

ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงจะเหลือเพียงแค่หลานจิ่นเอ๋อแล้วหล่ะ

สำหรับเหตุผลอย่างนั้นหน่ะเหรอ?

นั่นก็ยังไม่รู้

เมื่อได้ยินนางพูดมั่นใจเช่นนั้นว่านางเป็นคนของหลานจิ่นเอ๋อ ชิวซวนก็ชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นจึงมีปฏิกิริยาตอบกลับมา

“นี่ ท่านหลอกข้าหรือ?”

“ถูกต้อง” หลานเยาเยาตอบรับอย่างคนใจกว้าง “แต่ว่าไม่ว่าเจ้าเป็นคนของใครก็แล้วแต่ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าต่อไปในวันนี้เหี้ยมโหดมาก”

“ว่ายังไงนะ?” ชิวซวนรู้สึกเหลือเชื่อ

แต่สิ่งที่ทำให้นางยิ่งเหลือเชื่อก็คือ ฮัวหยู่อันที่ยืนอยู่ข้างหลังของหลานเยาเยานั้นกระชากหัวชิงปี้ที่ยืนอยู่ข้างๆจนหน้าหงาย

จากนั้นก็จับเอากาน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะ กรอกใส่เข้าไปในปากของหล่อน

“อ๊ะ……อึกๆๆๆ……อึกๆๆ……”

ชิงปี้ที่ถูกกระชากหัวแบบนั้นก็ร้องขึ้น พยายามขัดขืนสุดชีวิตกับน้ำชาที่กรอกมา……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท