หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 133 หย่ากันด้วยดีหรือหนังสือหย่า

บทที่ 133 หย่ากันด้วยดีหรือหนังสือหย่า

บทที่ 133 หย่ากันด้วยดีหรือหนังสือหย่า

เชอะ……

หลังสิ้นคำพูดของเย่แจ๋หยิ่ง หลานเยาเยาตกตะลึงไปครึ่งนาที ใบหน้าแดงฉานอย่างรวดเร็ว หลังจากดึงสติกลับมาได้ก็สะดุ้งโหยงขึ้นมาราวกับเจอผี จากนั้นก็พุ่งออกจากห้องไปโดยไม่เอ่ยอะไรสักคำ แม้แต่รองเท้าก็ไม่ทันได้สวมใส่

เย่แจ๋หยิ่ง : “……”

เวลาเพียงหนึ่งถ้วยชา หลานเยาเยาวิ่งมาถึงลานที่โดนเผาทำลาย ขึ้นไปแอบอยู่บนต้นไม้ใหญ่ที่เคยมานั่ง

“ตึกตักตึกตัก……”

หัวใจที่เต้นอย่างรวดเร็วนั้นยากที่จะสงบลง ราวกับว่าเซลล์ทั่วร่างกายที่ตื่นตัวกำลังจะสลาย คลายตัวลงไป

นางยืดเส้นยืดสายผ่อนคลายสมอง นั่งพิงลำต้นของต้นไม้

“เฮ้อ…….”

หลานเยาเยาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ในสมองปรากฎแต่ภาพที่อ่อนโยนของเย่แจ๋หยิ่ง จะสลัดอย่างไรก็สลัดไม่หลุดซักที

กับดักปีศาจ โดนกับดักปีศาจแล้ว……

ต้องโทษเจ้าระบบบ้าบอนั่น ทำไมจะต้องพัฒนาด้วยนะ? จริงๆแล้วควรจะเปิดระบบเครื่องมือทางการแพทย์และยาทั้งหมดไม่ดีกว่ารึไง?

ภารกิจ ภารกิจ ภารกิจงี่เง่าหน่ะสิ!

ไม่พัฒนาแล้วๆ สำหรับพิษกู่ของโหลวเย่วเล่า! งั้นนางจะลองไปสืบหาดู บนเส้นทางนี้ก็ไม่สามารถที่จะหาสมุนไพรใดมาใช้แทนสมุนไพรยาเหล่านั้นได้เลย ถึงยังไงก็ไม่ได้เร่งรีบอยู่แล้ว

ในขณะที่หลานเยาเยาแอบตัดสินใจอะไรอยู่ผู้เดียวนั้น ก็มีเสียงสนทนาดังแว่วมาจากสถานที่ที่ห่างออกไปไม่มากนัก

“ฮูหยิน ข้าน้อยเพิ่งจะมาเป็นพ่อบ้านที่จวนนี้ได้ไม่นาน ยังไม่คุ้นเคยกับลานตรงนี้เลยจริงๆขอรับ! คนเก่าแก่ที่คุ้นเคยกับลานตรงนี้ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อยู่ในจวนนี้แล้วขอรับ” พ่อบ้านเดินตามอยู่ข้างหลังของจ้าวซื่อ เดินมุ่งหน้ามาทางนี้

“เรื่องนี้ ข้ารู้อยู่แล้ว ข้าพูดอะไร เจ้าแค่เพียงทำตามที่ข้าต้องการก็พอแล้ว” ดวงตาของจ้าวซื่อแฝงไปด้วยความไม่พอใจ

“ได้ ได้ ได้ขอรับ ฮูหยินให้ข้าน้อยทำอะไรข้าน้อยก็จะทำเช่นนั้นขอรับ”

เมื่อได้เห็นแววตาที่ไม่เป็นมิตรของฮูหยินที่เพิ่งจะได้เลื่อนขั้นคนใหม่นี้ หน้าผากของพ่อบ้านเหงื่อเล็กผุดขึ้นมา

พวกเขาเดินมาถึงหน้าลานที่โดนเผาทำลาย เมื่อจ้าวซื่อหยุดยืนนิ่งตรงนั้น พ่อบ้านไม่รอช้าที่จะเรียกคนให้มาจัดการทำความสะอาดบริเวณลาน

“ก่อนหน้านี้ให้คนมาทำความสะอาดห้องของคุณหญิงฉูทั้งด้านนอกและด้านในแล้ว หาทุกซอกทุกมุมแล้ว แต่ก็ไม่พบกล่องใบนั้น”

พ่อบ้านไม่อาจรู้ได้ว่าจ้าวซื่อจะหากล่องของคุณหญิงฉูไปทำอะไร ทว่า หลังจากที่จ้าวซื่อกลับมาเป็นนายหญิงที่จวนนี้ ก็ได้ค้นหามาตลอด แสดงว่ากล่องนั่นต้องมีความสำคัญมากแน่ๆ

“ในห้องของนางไม่มี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งลานนี้จะไม่มี ในเมื่อทั้งภายในและภายนอกห้องของนางก็ทำความสะอาดจนหมดแล้ว”

งั้นที่สำคัญคือต้องทำความสะอาดและค้นห้องของหลานเยาเยา ถึงแม้ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินหา ก็จะต้องหากล่องใบนั้นให้เจอ” จ้าวซื่อกำมือไวแน่น

นางไม่เชื่อ……

กล่องใบนั้นจะสามารถลอยหายไปได้?

เพื่อให้นางได้นั่งในตำแหน่งที่สูงที่สุด นางจะต้องหากล่องใบนั้นให้พบ หากเป็นเช่นนี้ได้ ลูกสาวของนางหลานจิ่นเอ๋อก็จะได้เลื่อนขั้นตาม

หลานเยาเยาที่นั่งอยู่บนต้นไม้หรี่ตาลงเล็กน้อย ได้เห็นทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องล่าง

เหอะ!

จ้าวซื่อจะหากล่องใบหนึ่ง?

และยังเป็นกล่องของท่านแม่ด้วย กล่องใบนั้นมีอะไรกันแน่? ทำไมถึงทำให้จ้าวซื่อต้องรีบร้อนหาเช่นนี้

สักครู่ต่อมา!

ชายรับใช้ผู้หนึ่งวิ่งมาอยู่หน้าจ้าวซื่ออย่างรวดเร็ว พูดพร้อมความเหนื่อยหอบว่า:

“ฮูหยิน คณะแสดงละครเข้าเมืองมาแล้วขอรับ”

“อืม ส่งคนไปเชิญอ๋องเย่และพระชายาเย่ หลังทานอาหารเย็นเสร็จให้พวกเขามาชมละครด้วยกัน” จ้าวซื่อที่แววตานิ่งเฉย เมื่อได้ยินว่าคณะละครมาถึงแล้ว แววตาก็เริ่มทอประกาย

“ขอรับ!”

ขณะที่ชายรับใช้ผู้นั้นกำลังจากไป จ้าวซื่อก็เรียกเขาอีกครั้ง

“เดี๋ยวก่อน ให้จิ่นเอ๋ออาบน้ำแต่งตัวไปเชิญอ๋องเย่กับพระชายาเย่”

“ขอรับ! ฮูหยิน”

ชายรับใช้ผู้นั้นจากไปได้ไม่นาน จ้าวซื่อมองดูร่องรอยที่ยังปรากฏอยู่ชัดเจนของลานที่ถูกเผาทำลายแวบหนึ่ง แววตาแสดงออกถึงความเย้ยหยัน จากนั้นก็จากไป

เมื่อจ้าวซื่อจากไป พ่อบ้านก็มีเรื่องให้จัดการจึงจากไปก่อน พวกข้ารับใช้ที่ก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดลานทั้งหลาน จึงเริ่มผ่อนคลายลง

หลายเยาเยาใช้โอกาสที่พวกเขาไม่ทันได้สังเกต ปีนลงมาจากต้นไม้ เมื่อกลับมาถึงลาน เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว

จนความมืดยามค่ำคืนเคลื่อนคล้อยมา หลายเยาเยาจึงได้เห็นเงาร่างของเขาอีกครั้ง

เขายืนอยู่หน้าประตูห้อง……

ยืนมองนางอยู่อย่างเงียบๆเช่นนั้น……

แววตาที่อ่อนโยนจนทำให้จิตใจของนางว้าวุ่นนั่น ปรากฏขึ้นอีกครั้งในดวงตาของเขา……

ขณะอยู่ในสายตาเขา หลานเยาเยาก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมากะทันหัน จึงอดไม่ได้ที่จะหันไปจ้องหน้าเขาแวบหนึ่ง

“มองอะไร? ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง?”

เพิ่งสังเกตเห็นว่า ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เย่แจ๋หยิ่งมีท่าทีแปลกๆ โดยเฉพาะแววตา

“เหอะ!”

เขาหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นก็ยื่นลำแขนยาวๆของเขาออกมาทางนาง “มานี่!”

ได้ยินดังนั้น!

หลายเยาเยาก็กอดจานองุ่นในอ้อมแขนไว้แน่นทันที

จะทำอะไร คิดจะแกล้งนางให้ตกใจเพื่อจะแย่งองุ่นไปงั้นหรือ?

เมื่อมองดูสายตาที่จริงจังของเย่แจ๋หยิ่ง หลานเยาเยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจกอดองุ่นไว้แล้วเดินเข้าไปหา

เมื่อมาถึงตรงหน้าเขา ก็ถามอย่างระมัดระวังว่า : “มีเรื่องอะไร?”

นอกจากเรื่องจะกินของในมือนาง เรื่องที่เหลือก็ตกลงกันง่าย

“ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”

เขาคิดทบทวนมาหลายวันแล้ว คิดว่าเรื่องนี้ควรจะคุยกับนางให้รู้เรื่อง แม้ว่าพูดออกมาแล้วจะทำให้นางโกรธ แต่ก็จำเป็นต้องพูดออกมา

“ท่านพูดมาสิ!” หลานเยาเยามองเขาด้วยความสงสัย ความระมัดระวังที่ปรากฏบนใบหน้ายังคงไม่ผ่อนคลายลง

“ข้าไม่สามารถรักษาสัญญาของพวกเราไว้ได้แล้ว!”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกไป หลานเยาเยาก็ขมวดคิ้ว และยิ่งกอดจานองุ่นในอ้อนแขนแน่นขึ้น

“ท่านมั่นใจ?”

ไม่สามารถรักษาสัญญาได้ งั้นก็หมายความว่าเขาจะไม่ปกป้องนางอีกต่อไป จะไม่รับรองความบริสุทธิ์ของนาง ยิ่งไปกว่านั้นคือหลังจาก 3 ปีแล้วเขาไม่ให้เงินเหรียญจำนวนหนึ่งกับนาง

หากว่าไม่สามารถรักษาสัญญาได้แล้ว เช่นนั้นความเป็นสามีภรรยาในนามของเราก็จบสิ้นเช่นกัน!

“อืม!”

เย่แจ๋หยิ่งพยักหน้าอย่างเย็นชา เขายังโกรธนางอยู่ แต่ว่านางไม่ได้

หลานเยาเยานิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ แววตาดูโศกเศร้าเล็กน้อย หลังจากนั้นนางก็หายใจเข้าเฮือกใหญ่และพูดว่า : “ข้าหวังว่าจะเป็นการหย่ากันด้วยดี ไม่ใช่การหนังสือหย่า! แต่ว่าเงินค่าไม่รักษาสัญญาท่านก็ยังคงต้องจ่ายให้ข้า”

ในใจรู้สึกหวิวเล็กน้อย!

ทั้งยังอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกว้าวุ่นแบบแปลกๆ

“อะไร? เจ้าพูดอะไร? “ แววตาของเย่แจ๋หยิ่งแสดงออกมาถึงความสับสนงงงวย

“ท่านเป็นคนพูดเองว่าไม่สามารถรักษาสัญญาได้ ไม่ได้แปลว่าจะปลดกับข้าหรอกหรือ?” พูดถึงเรื่องนี้ หลานเยาเยาก็รู้สึกโมโหขึ้นมา

ทั้งๆที่รู้สึกว่าต้องไม่เป็นแบบนี้

ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ได้?

“ไม่ใช่ ข้าไม่สามารถรักษาสัญญาได้ เพียงเพราะ……”

“อ๋องเย่ น้องหก การแสดงของคณะละครกำลังจะเริ่มแล้ว ท่านแม่ให้ข้ามาเชิญพวกท่านไป”

เย่แจ๋หยิ่งพูดยังไม่ทันจบ ก็โดนหลานจิ่นเอ๋อพูดขัดจังหวะซะก่อน

หลานเยาเยาและเย่แจ๋หยิ่งหันไปมองนางพร้อมกัน แววตาของทั้งสองแฝงด้วยความโศกเศร้าเล็กน้อย หลานเยาเยาละสายตาจากหลานจิ่นเอ๋อมามองเย่แจ๋หยิ่ง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ

“ข้าไปก่อนละนะ!”

เดิมทีนางคิดว่า คนอย่างเย่แจ๋หยิ่งจะไม่ใช่คนเช่นนี้ ไม่ใช่คนที่จะผิดสัญญาได้ง่ายๆ นอกซะจากว่าเขาจะพบกับคนที่ทำให้หัวใจของเขาว้าวุ่นได้

คิดไม่ถึงว่าคนคนนั้นจะเป็นหลานจิ่นเอ๋อ……

แม้จะรู้สึกไม่พอใจ แต่นางก็ตัดสินใจเดินออกมาก่อน

นางเองก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล!

“หลานเยาเยา!”

เย่แจ๋หยิ่งขมวดคิ้ว คิดที่จะตามไป แต่หลานจิ่นเอ๋อก้าวขึ้นมาก้าวหนึ่ง “อ๋องเย่ หม่อมฉันมีเรื่องจะคุยกับท่าน”

“ไม่มีเวลา!” เย่แจ๋หยิ่งพูดปฏิเสธไปโดยไม่ต้องคิด

เขาคิดว่าหลานเยาเยาจะต้องเข้าใจผิดอะไรสักอย่าง……

“เรื่องนี้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อก่อนนี้ หม่อมฉันเพิ่งนึกขึ้นมาได้เพคะ”

เย่แจ๋หยิ่งเดินออกมาจนเกือบจะพ้นบริเวณลานได้หยุดฝีเท้าลง…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท