ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 610 ต้องเป็นคุณ(1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 610 ต้องเป็นคุณ(1)

เถาป๋อหลุนได้ยินคำพูดของฉินมู่หลาน จึงรีบหันไปมองแล้วเอ่ยถาม “มู่หลาน คุณอยากจะมาทำงานเสริมที่โรงพยาบาลของเรางั้นเหรอ ถ้าเป็นคุณ ยังไงเราก็ต้องรับสมัครอยู่แล้ว”

ฉินมู่หลานยิ้มแล้วพยักหน้า ก่อนจะเอ่ย “ใช่ค่ะ ฉันอยากทำจริงๆ”

เธอบอกว่าวันนี้จะทำอะไรกับคนไข้ หลังจากนั้นจึงกล่าวว่า “ครั้งหน้าหากมีคนไข้กรณีแบบนี้ ฉันจะมาที่นี่ทันทีเลยค่ะ หวังว่าทางโรงพยาบาลจะเตรียมทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการผ่าตัด ส่วนเรื่องค่าผ่าตัดฉันขอไม่รับเลยสักแดงเดียว”

เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ เถาป๋อหลุนก็รีบส่ายหัวอย่างแรง แล้วกล่าวว่า “อย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ คุณทำการผ่าตัด ยังไงก็ต้องได้ค่าตอบแทน”

“คณบดีเถา ถ้าอย่างนั้นปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของโรงพยาบาลเลยก็ได้ค่ะ จ่ายค่าทำงานเสริมให้ฉันก็พอแล้ว”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานกล่าวแบบนั้น เถาป๋อหลุนจึงไม่คัดค้าน และพยักหน้าทั้งรอยยิ้มพลางแล้วพูดว่า “ครับ ถ้าอย่างนั้นพวกเราตกลงกันตามนี้”

หลังจากนั้นเขาก็ให้คนไปจัดเตรียมห้องผ่าตัด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเพิ่มอีกสักข้อ “ถ้าอย่างนั้นจะผ่าตัดคนไข้รายนั้นในปีนี้ได้เลยเหรอครับ?”

ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้ค่ะ ฉันตรวจชีพจรของเขาแล้ว สามารถผ่าได้เลยค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีครับ”

หลังจากเถาป๋อหลุนทราบว่าหลี่ปิ่งฉวนกำลังยุ่ง จึงให้หมออีกคนหนึ่งมาแทน แต่หลี่ปิ่งฉวนก็ยังขอตามฉินมู่หลานเข้ามาในห้องผ่าตัด

“หมอหลี่สนิทกับคุณมาก เพราะฉะนั้นให้เขาเข้ามาเถอะ”

อันที่จริงแล้วแรงจูงใจของเขาก็ดูเห็นแก่ตัวเหมือนกัน เนื่องจากหลี่ปิ่งฉวน เคยตามดูฉินมู่หลานในครั้งแรกที่ทำการผ่าตัดมาแล้ว แต่ก็ยังจะตามอีกในครั้งต่อ ๆ ไป

หรือเป็นเพราะเขาอยากจะเรียนู้เทคนิคการผ่าตัดของฉินมู่หลานให้มากขึ้นกันแน่?

“นั่นเป็นเรื่องที่ดีเลยค่ะ”

ฉินมู่หลานและหลี่ปิ่งฉวนค่อนข้างคุ้นเคยกันดี เธอจึงหวังว่าระหว่างทำการผ่าตัดจะมีคนที่สามารถเข้ากันกับเธอได้ดีอยู่ด้วย

พูดเรื่องนี้จบ ฉินมู่หลานก็ออกไป เมื่อเธอเดินมาถึงตัวเซียวซือเหมี่ยน ก็พบว่าหลี่ปิ่งฉวนอยู่ที่นั่นแล้ว

หลี่ปิ่งฉวนเห็นฉินมู่หลาน สีหน้าก็เต็มไปด้วยความดีใจ

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็รีบโบกมือแล้วกล่าวว่า “เปล่าค่ะๆ ฉันแค่จะมาทำงานที่โรงพยาบาลของพวกคุณเป็นครั้งคราวเหมือนอย่างวันนี้ค่ะ”

หลี่ปิ่งฉวนจึงเข้าใจว่าตัวเองฟังมาผิด แต่ต่อให้ฉินมู่หลานจะรับเป็นงานเสริม นั่นก็นับว่าดีเหมือนกัน ถึงเวลาที่เธอผ่าตัด ตัวเขาจะได้คอยช่วยอยู่ข้าง ๆ และแน่นอนว่าคงจะเรียนรู้อะไรได้มากขึ้นด้วย

“หมอฉิน ทำเป็นงานเสริมก็ดีครับ วันนี้ผมก็อยากทราบอาการคนไข้รายนี้เหมือนกัน เดี๋ยวจะคอยช่วยคุณเอง”

“ค่ะ รบกวนหมอหลี่ด้วยนะคะ”

“ไม่รบกวนหรอกครับ นี่เป็นเรื่องที่ผมยินดี การอยู่ข้าง ๆ หมอฉินทำให้เรียนรู้อะไรได้เยอะเลยครับ”

ฉินมู่หลานไม่ได้ตระหนี่ในทักษะทางการแพทย์ของตัวเองเช่นกัน เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ จึงกล่าวตามตรงพร้อมรอยยิ้ม “ค่ะ เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้คุณฟังหลังจากทำการผ่าตัดเสร็จ”

สิ่งนี้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย หลี่ปิ่งฉวนจึงกล่าวขอบคุณด้วยความตื่นเต้น “ขอบคุณครับหมอฉิน”

เซียวซือเหมี่ยนอยู่ข้างหลังฟังบทสนทนาของทั้งสองคน ก็ทราบว่าตัวเองจะได้รับการผ่าตัดในเร็ว ๆ นี้ จึงรู้สึกดีใจมาก และเขาก็ทราบด้วยว่าเรื่องพวกนี้เป็นผลงานของฉินมู่หลาน “ขอบคุณครับหมอฉิน ขอบคุณครับหมอหลี่”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ”

ฉินมู่หลานเห็นว่าเซียวซือเหมี่ยนอยู่ตัวคนเดียว จึงอดพูดไม่ได้ “หลังจากผ่าตัดเสร็จจะต้องมีคนคอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิด เพราะฉะนั้นคุณไปแจ้งคนในครอบครัวก่อนได้นะคะ”

“ครับ เดี๋ยวผมไปแจ้งเลย”

เซียวซือเหมี่ยนกระวนกระวายใจขณะที่รอเข้ารับการผ่าตัด จึงลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท หลังจากเขาแจ้งเรื่องนี้กับทางครอบครัวแล้ว ก็กลับมาหาทางฉินมู่หลานอีกครั้ง

หลี่ปิ่งฉวนเห็นว่าในห้องผ่าตัดยังไม่เรียบร้อย จึงหันไปมองฉินมู่หลานแล้วกล่าวว่า “หมอฉินครับ เดี๋ยวผมขอไปดูก่อนนะครับ”

“ค่ะ”

หลังจากหลี่ปิ่งฉวนไปแล้ว ฉินมู่หลานและเซียวซือเหมี่ยนก็นั่งรออยู่ที่ห้องพักแพทย์

ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง หลี่ปิ่งฉวนก็ยังไม่กลับมา แต่สมาชิกในครอบครัวของเซียวซือเหมี่ยนมาที่นี่กันแล้ว ผู้มาเยือนเป็นหญิงวัยกลางคนท่าทางสง่างาม เมื่อหล่อนเห็นเซียวซือเหมี่ยน ก็รีบก้าวเดินเข้ามาหาแล้วเอ่ยถาม “ทำไมถึงกะทันหันแบบนี้ล่ะ บอกจะผ่าตัดวันนี้เลย ก่อนหน้านี้ก็บอกกับพวกเราว่ารับประกันความสำเร็จไม่ได้ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยากจะผ่าล่ะ?”

เซียวซือเหมี่ยนเห็นหยางเหวินภรรยาของตนมาแล้ว ก็อธิบายพร้อมรอยยิ้ม “วางใจเถอะ หมอที่ผมเชิญมายอมผ่าให้แล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหาอะไรหรอก โรงพยาบาลปักกิ่งก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”

“จริงเหรอ คุณจ้างหมอที่ไหนมา พวกเราจะขอบคุณเขาอย่างเหมาะสมเลย”

เซียวซือเหมี่ยนยิ้มแล้วชี้ไปทางฉินมู่หลาน “หมอคนนี้แหละ ก่อนหน้านี้หล่อนเคยผ่าตัดให้คนไข้ที่มีอาการแบบเดียวกัน ทักษางการแพทย์ยอดเยี่ยมมาก”

เมื่อได้ฟังสิ่งที่สามีกล่าว หยางเหวินก็มองฉินมู่หลานด้วยความไม่ค่อยเชื่อ สายตาเต็มไปด้วยความลังเล

หญิงสาวตรงหน้ารูปร่างหน้าตาสวยมาก และยังอ่อนเยาว์มากด้วย ดูเด็กเกินไป ไม่เหมือนหมอที่มีทักษะทางการแพทย์สูงเลย “ซือเหมี่ยน หล่อน…หล่อนเป็นหมอที่คุณเชิญมาจริงเหรอ?”

เซียวซือเหมี่ยนมองออกว่าภรรยาของเขาสงสัย ขณะที่กำลังจะอธิบาย หลี่ปิ่งฉวนก็มาพอดี

หลี่ปิ่งฉวนมองตรงไปที่ฉินมู่หลานแล้วกล่าวว่า “หมอฉินครับ เตรียมห้องผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว เตียงที่ห้องพักฟื้นก็จัดเรียบร้อยแล้ว รอให้เซียวซือเหมี่ยนผ่าตัดเสร็จก็ย้ายไปที่แผนกผู้ป่วยในได้เลยครับ”

“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกันเลย”

ฉินมู่หลานเดินนำไปข้างหน้า หลี่ปิ่งฉวนก็หันไปมองเซียวซือเหมี่ยนแล้วกล่าวว่า “ไปครับ พวกเราไปกันเถอะ ผมต้องเตรียมพร้อมคุณด้วย”

ก่อนผ่าตัด คนไข้ก็ต้องเตรียมตัวมากมายเหมือนกัน

เซียวซือเหมี่ยนได้ยินแบบนี้ก็รีบเดินตามไป ขณะเดียวกันก็หันมามองแล้วพูดกับภรรยาว่า “หยางเหวิน พวกเรารีบไปที่นั่นกันเถอะ”

ถึงแม้ว่าหยางเหวินจะยังไม่เชื่อในตัวฉินมู่หลาน แต่เมื่อเห็นว่าหมอที่โรงพยาบาลปักกิ่งทำตามฉินมู่หลาน ก็รู้สึกสบายใจขึ้นนิดหน่อย จากนั้นก็ตามไปด้วยกัน

รอเซียวซือเหมี่ยนทำการตรวจร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัดก็ผ่านไปครึ่งวันแล้ว หลังจากนั้นเขาก็โดนพาเข้าห้องผ่าตัด

หยางเหวินรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ที่ประตูห้องผ่าตัด จากนั้นพ่อและแม่ตระกูลเซียวก็มาด้วย “เสี่ยวเหวิน ซือเหมี่ยนเป็นยังไงบ้าง ทำไมถึงผ่าตัดด่วนแบบนี้ล่ะ กะทันหันมากเลย”

หยางเหวินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นจึงกล่าวว่า “เห็นบอกกันว่าหมอฉินคนนี้มีทักษะทางการแพทย์ดีมาก แต่หล่อนยังเด็กมากเลย ฉันก็ไม่รู้ว่าจะผ่าตัดซือเหมี่ยนได้สำเร็จหรือเปล่า”

เมื่อเห็นลูกสะใภ้บอกแบบนั้น พ่อและแม่ของตระกูลเซียวก็อดกังวลไม่ได้

“ซือเหมี่ยนนี่ก็เหลือเกิน พวกเราก็ถามไปทุกที่แล้ว ทำไมอยู่ ๆ ถึงจะผ่าตัดอีก”

ทั้งสามเป็นกังวลมาก แต่ในห้องผ่าตัดไม่ได้กังวลเลย ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ฉินมู่หลานอธิบายวิธีการผ่าตัดอยู่ตรงนั้น เพื่อให้หลี่ปิ่งฉวนทราบว่าทำไมถึงทำการผ่าตัดเช่นนี้

หลี่ปิ่งฉวนให้ความสนใจอย่างมาก จ้องมองท่าทางการเคลื่อนไหวของฉินมู่หลานตาไม่กระพริบ จำทุกอย่างที่เธอบอก พวกหมอรุ่นเยาว์คนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ก็ตั้งใจฟังเหมือนกัน นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก

จนระทั่งการผ่าตัดสิ้นสุดลง ฉินมู่หลานก็ถอนหายใจ ถึงแม้ว่าอาการของเซียวซือเหมี่ยนจะคล้ายกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ แต่ก็มีความแตกต่างอยู่บ้าง ครั้งนี้จึงใช้เวลานาน เธอจึงรู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน

หลังจากประตูห้องผ่าตัดเปิดออก หยางเหวินและพ่อแม่ของซือเซียวเหมี่ยนก็ต่างรีบวิ่งเข้ามาถาม “หมอคะ การผ่าตัดเป็นยังไงบ้าง?”

“วางใจ การผ่าตัดประสบความสำเร็จดีครับ พวกคุณเชื่อใจหมอฉินได้เลย”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ทุกคนก็พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็หันไปมองฉินมู่หลานแล้วกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณค่ะ หมอฉิน”

ก่อนหน้านี้เคยมีข้อกังขาต่ออีกฝ่าย แต่กลับกลายเป็นว่าทักษะทางการแพทย์ดีมากขนาดนี้ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้จึงรู้สึกละอายใจนิดหน่อย

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท