สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1569 เจ้าเล่ห์

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1569 เจ้าเล่ห์

พลธนูที่ซีผิงอ๋องสั่งให้ดักซุ่มโจมตีอยู่สองข้างของเนินเขาถูกกองทัพต้าโจวของไป๋ชิงเหยียนกำจัดเกือบหมดสิ้น

ทว่า ตอนแรกต้าโจวไม่ทันได้ตั้งตัวดังนั้นทหารของต้าโจวจึงถูกพลธนูโจมตีจนเสียหายหนักเช่นเดียวกัน

ต่อมาไป๋ชิงเหยียนสั่งให้ทหารทุกคนบุกขึ้นไปทำลายพลธนูของกองทัพซีผิงบนเนินเขาฝั่งขวา จากนั้นให้ทหารของต้าโจวใช้ธนูที่ตกอยู่บนพื้นยิงสังหารพลธนูของเนินเขาฝั่งซ้ายที่บุกลงมาช่วยเหลือเจ้านายของตัวเอง

ทว่า กองทัพซีผิงได้เปรียบต้าโจวเรื่องจำนวนคน พวกเขามีจำนวนมากกว่ากองทัพต้าโจวถึงห้าเท่า แม้กองทัพส่วนหนึ่งจะถูกต้าโจวกำจัดไปแล้ว ทว่า ต้าโจวก็สูญเสียหนักเช่นเดียวกัน ต่อมากองทัพซีผิงจำนวนกว่าสามหมื่นนายซึ่งดักซุ่มโจมตีอยู่ที่ทางออกตามมาสมทบ กองทัพต้าโจวที่พยายามต่อสู้อย่างสุดแรงเกิดเริ่มต้านทานไม่ไหว ไป๋ชิงเหยียนจึงพาทหารทั้งหมดหนีขึ้นไปบนเนินเขาสูงเพื่อตั้งรับศัตรูจากบนที่สูงและรอความช่วยเหลือจากทัพเสริม

หลังทำสงครามต่อเนื่องหลายชั่วยาม กองทัพซีผิงทำลายด่านป้องกันของต้าโจวไม่ได้จึงถอยกลับไปตั้งหลักที่ตีนเขา พวกเขาต้องการกักขังกองทัพต้าโจวไว้บนเขาจนตาย

ซีผิงซื่อจื่อกล่าวออกมาด้วยความโมโห “เผาป่าให้หมด ข้าไม่เชื่อว่าพวกมันจะยังรอดไปได้อีก!”

“ซื่อจื่อ หิมะเพิ่งตกหนัก ตอนนี้ต้นไม้ในป่าลึกถูกปกคลุมด้วยหิมะหมดแล้ว เกรงว่าคงจุดไฟไม่ติดขอรับ” ที่ปรึกษาชุดดำพยายามเกลี้ยกล่อมซีผิงซื่อจื่อ “ซื่อจื่อไม่ต้องร้อนใจไปขอรับ พวกเรามีกำลังทหารมากกว่าต้าโจวหลายเท่า ต่อให้พวกเราแค่ดักอยู่ตรงนี้ก็สามารถทำให้พวกเขาติดอยู่บนเขาจนตายได้ขอรับ”

“ทหารต้าโจวบางส่วนหนีรอดไปได้แล้ว อีกไม่นานทัพเสริมต้องมาที่นี่แน่นอน ถึงตอนนั้นพวกเราไม่เพียงสังหารจักรพรรดินีต้าโจวไม่ได้ ยังต้องเดือดร้อนอีก หากเชื้อพระวงศ์คนอื่นกลับลำเพราะหวาดกลัวต้าโจว จากนั้นโยนความผิดทั้งหมดให้กองทัพซีผิง พวกเราจะทำเช่นไร” ซีผิงซื่อจื่อนึกถึงบิดาของตัวเองก็เดือดดาลขึ้นอีกครั้ง “จะถอยไม่ได้เด็ดขาด! ต้องสังหารจักรพรรดินีต้าโจวให้ได้!”

ที่ปรึกษาชุดดำมองออกว่าซีผิงซื่อจื่อต้องการสังหารไป๋ชิงเหยียนให้ได้จึงไม่กล่าวสิ่งใดอีก

ซีผิงซื่อจื่อเงยหน้ามองไปบนภูเขา จากนั้นกล่าวขึ้น “ให้ทหารกินให้อิ่ม อีกเดี๋ยวพวกเราจะบุกขึ้นไปบนนั้น!”

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ไม่นานท้องฟ้าก็มืดสนิทลง ลมหนาวบาดลึกไปถึงกระดูก

บัดนี้ลมหนาวพัดรุนแรง ท้องฟ้ามืดมิดไม่มีดวงจันทร์ คนซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบ มองเห็นเพียงต้นไม้ใหญ่ที่ถูกหิมะปกคลุมอย่างเลือนลางเท่านั้น

เว่ยจงพบกระท่อมไม้หลังหนึ่งกลางป่า ดูเหมือนว่ากระท่อมหลังนี้จะถูกสร้างขึ้นมานานแล้ว เครื่องเรือนด้านในเต็มไปด้วยฝุ่นหนา ทว่า อย่างน้อยก็สามารถให้ไป๋ชิงเหยียนเข้าไปหลบหนาวได้

ไป๋ชิงเหยียนมองดูเหล่าทหารที่ติดตามนางขึ้นมาบนเขาแวบหนึ่ง นางคำนวณเวลา…ไป๋จิ่นจื้อน่าจะใกล้พาทัพเสริมมาถึงแล้ว

“จุดไฟ สร้างความอบอุ่นให้เหล่าทหาร!” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางทหารคนหนึ่งซึ่งช่วยประคองร่างของสหายที่ได้รับบาดเจ็บไว้แวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวกับหลิ่วผิงเกา “ให้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บเข้าไปหลบในกระท่อม ข้าผิงไฟอยู่ด้านนอกก็พอแล้ว”

“จุดไฟหรือพ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วผิงเกาคาดไม่ถึง “กลางดึกลมแรง หากเราจุดไฟพวกนั้นอาจรู้ตำแหน่งที่อยู่ของพวกเรานะพ่ะย่ะค่ะ!”

“เจ้าคิดว่ากองทัพซีผิงจะปล่อยให้พวกเราอยู่อย่างสบายบนนี้อย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนมองลงไปด้านล่างภูเขา จากนั้นกล่าวเสียงเรียบ “สายของเรารายงานแล้วว่ากองทัพซีผิงเริ่มจุดไฟหุงอาหารกินกันแล้ว เมื่อพวกเขากินอิ่มพวกเขาต้องขึ้นมาบนนี้แน่นอน! พวกเราไม่จำเป็นต้องหลบซ่อน ให้ทหารพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ ส่งทหารบางส่วนออกไปสำรวจเส้นทางหนีด้วย”

หลิ่วผิงเกานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้าสั่งให้คนจุดไฟ

ไป๋ชิงเหยียนเรียกรวมตัวทหารที่ไม่ได้รับบาดเจ็บทุกคน นางให้พวกเขาปั้นหิมะเป็นก้อนกลมขนาดพออุ้มได้ หากพบก้อนหินบริเวณริมลำธารก็ยิ่งดี นางให้พวกเขาพยายามใช้หิมะตามทางที่ลงจากภูเขา เมื่อทำเสร็จให้นำมากองไว้ใกล้กระท่อม จากนั้นใช้ไม้กั้นเอาไว้…

ทหารบางคนบ่นออกมาอย่างไม่เข้าใจ “เช่นนี้เท่ากับช่วยทำความสะอาดทางให้ศัตรูขึ้นมาบนเขาได้ง่ายขึ้นไม่ใช่หรือ”

“ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้พวกเราทำก็แสดงว่าทรงมีเหตุผล อย่าลืมว่าพระองค์ทรงเป็นเทพแห่งสงครามที่ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน!”

แม่ทัพน้อยผู้นั้นพยักหน้า จากนั้นสั่งให้ทหารช่วยกันปั้นหิมะขึ้นมา

ขณะที่รอน้ำร้อนสุกเหล่าทหารปั้นหิมะได้ไม่น้อยแล้ว เมื่อได้ดื่มน้ำร้อนพวกเขารู้สึกว่าร่างกายอุ่นขึ้นกว่าเดิมมาก ทุกคนมีแรงปั้นหิมะกันมากกว่าเดิม

“ให้คนนับธนูของพวกเราด้วย” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับหลิ่วผิงเกา “คัดแยกลูกธนูที่ยิงไปเมื่อครู่ใหม่อีกครั้ง”

กองไฟถูกจุดขึ้นทีละกอง ไป๋ชิงเหยียนบอกหลิ่วผิงเกาว่าควรทำสงครามเช่นไรต่อไปเสร็จก็นั่งลงข้างไท่ผิงซึ่งนอนได้รับบาดเจ็บอยู่ข้างกองไฟ หญิงสาวลูบคอของมันอย่างปลอบโยน

วันนี้ตอนที่ไท่ผิงคุ้มกันไป๋จิ่นจื้อฝ่าวงล้อมศัตรูออกไปไป๋จิ่นจื้อใจร้อนเกินไป นางบุกเข้าไปในวงล้อมของศัตรูเพียงคนเดียว หากไท่ผิงไม่รับหอกนั้นไว้แทนไป๋จิ่นจื้อป่านนี้ไป๋จิ่นจื้อคงหนีออกไปไม่ได้

เมื่อหลู่หยวนเผิงช่วยไป๋จิ่นจื้อหนีไปได้ ไท่ผิงจึงรีบวิ่งตามไป๋ชิงเหยียนไปโดยไม่สนใจบาดแผลที่ร่างของตัวเองแม้แต่น้อย

โชคดีที่ไท่ผิงกระโดดหลบหอกยาวได้สูงดังนั้นมันจึงโดนแทงไม่ลึกมาก

ตอนนี้เลือดหยุดแล้ว ไป๋ชิงเหยียนหวังว่าไท่ผิงจะปลอดภัย

“รายงาน…” สายลับที่จับตาดูความเคลื่อนไหวของกองทัพซีผิงวิ่งมาคุกเข่าลงตรงหน้าไป๋ชิงเหยียนอย่างเหนื่อยหอบ “ฝ่าบาท ทหารซีผิงกินอิ่มกันแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ซีผิงซื่อจื่อไม่ได้ให้เวลาไป๋ชิงเหยียนมากนัก เขาต้องการกำจัดไป๋ชิงเหยียนให้ได้โดยเร็วที่สุด

ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืน จากนั้นมองไปทางทหารที่คุ้มกันอยู่หน้ากระท่อม “หามทหารที่ได้รับบาดเจ็บออกมา ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม!”

สิ้นเสียงคำสั่งของไป๋ชิงเหยียนพลธนูซึ่งสะพายธนูไว้ที่หลังลุกขึ้นยืนทันที พวกเขาวิ่งลงไปยังต้นไม้ใกล้บริเวณทางขึ้นเขา จากนั้นแยกย้ายกันปีนขึ้นไปบนต้นไม้สูงทันที

ทหารคนที่เหลือส่งลูกธนูขึ้นไปให้พวกเขา พลธนูทุกคนจะได้รับลูกธนูคนละประมาณแปดสิบดอก พลทหารหน้าไม้ได้รับลูกธนูคนละหนึ่งร้อยห้าสิบดอก เมื่อส่งธนูขึ้นไปให้สหายที่อยู่ด้านบนเสร็จพวกเขาจึงผูกกระบอกธนูไว้ที่ต้นไม้ จากนั้นย่ำเท้าไปมาบริเวณนั้นเพื่อกลบรอยเท้าของสหายที่อยู่บนต้นไม้ เสร็จแล้วจึงรีบกลับไปรวมตัวกับทหารคนอื่น

นอกจากไป๋ชิงเหยียนที่มีธนูเหลืออยู่ห้าสิบดอกแล้ว พวกนางมอบธนูทั้งหมดให้แก่พลธนูและพลหน้าไม้ที่ปีนขึ้นไปบนต้นไม้หมดแล้ว

เมื่อไป๋ชิงเหยียนเห็นทหารวิ่งกลับมาแล้วจึงกล่าวขึ้น “จุดไฟเผากระท่อม!”

พวกนางเตรียมก้อนหิมะไว้หมดแล้ว ตอนนี้หิมะถูกไม้กั้นอยู่กลางต้นไม้ใหญ่ เหล่าทหารช่วยทำความสะอาดทางเดินขึ้นเขาให้ศัตรูตอนปั้นหิมะเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนต้องการล่อพวกเขาขึ้นมาด้านบน

เมื่อซีผิงซื่อจื่อเห็นไฟบริเวณกระท่อมจึงสั่งให้ทหารบุกมาทางนี้อย่างที่ไป๋ชิงเหยียนคิดไว้จริงๆ

“ซื่อจื่อ จักรพรรดินีต้าโจวถูกพวกเราไล่ต้อนขึ้นบนภูเขา นางต้องหลบซ่อนตัวจากพวกเรา เหตุใดจึงจุดไฟสว่างดึงดูดความสนใจของพวกเราเช่นนี้ ต้องมีกับดักแน่นอนขอรับ” ที่ปรึกษาชุดดำห้ามปรามซีผิงซื่อจื่อ

ซีผิงซื่อจื่อหัวเราะออกมาเสียงเย็นอย่างไร้ความหวาดกลัว “จักรพรรดินีต้าโจวเป็นคนเจ้าเล่ห์อยู่แล้ว เสด็จพ่อของข้าเคยวิเคราะห์แผนการรบเจ้าเล่ห์ของจักรพรรดินีต้าโจวให้ข้าฟังหมดแล้ว!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท