หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 141 ทดสอบ

บทที่ 141 ทดสอบ

บทที่ 141 ทดสอบ

หลานเยาเยาที่สามารถผละริมฝีปากออกมาได้ ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว นางคว้าไปจับมือเขาที่ลูบไปลูบมาบนตัวนางไว้ พร้อมหายใจด้วยความหอบถี่

“หู้ว……ข้าคิดว่าพวกเราควรจะมีสติหน่อย ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง”

ขณะที่พูดประโยคนี้ หลานเยาเยาแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาด

เพราะขณะที่นางพูดในน้ำเสียงแทรกไปด้วยเสียงหอบ

“สติ?” เย่แจ๋หยิ่งหัวเราะออกมาเบาๆ แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเอ็นดู เขาพูดด้วยความยั่วยวนแกมหยอกล้อว่า “เมื่อคืนใครเป็นคนพูด ว่าถ้าพวกเราไม่บ้าบิ่นให้สุดเราก็จะแก่?”

แม้ว่าจะพูดเช่นนี้ แต่เขาก็เอามือที่อยู่บนส่วนที่อ่อนนุ่มของนางออก หมุนมือแล้วเลื่อนไปจับมือของนางไว้แน่น

“ก็นั้น……”

คำพูดนั้น เหมือนจะเป็นคำที่นางพูดออกมาจริงๆ

แต่ว่า!

หลานเยาเยาก็ชักมือกลับมาทันที จัดระเบียบเสื้อผ้าของเธอที่ยู่ยี่อย่างรวดเร็ว

“ครั้งหน้าท่านจะทำแบบนี้กับข้าอีกไม่ได้ ถ้ายังคิดไม่ซื่อกับข้า ข้ารับรองว่าจะไม่ปล่อยท่านไว้แน่” หลานเยาเยาโมโหขึ้นมานิดหน่อย

ที่นางโมโหไม่ใช่เพราะความเอาแต่ใจของเย่แจ๋หยิ่ง แต่โมโหที่ตัวนางนั้นมีแรงต้านทานต่อเขาต่ำ

ความจริงแล้ว!

ก็ไม่ใช่ว่าแรงต้านทานต่ำ แต่ไม่มีเลยต่างหาก!

ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะรักษาทั้งร่างกายจิตใจไม่ได้ไม่พอ เย่แจ๋หยิ่งจะต้องยึดตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในใจนางไป ทั้งยังอาจจะสำคัญมากกว่าเรื่องเงินทอง ยาสมุนไพรและอาหารรสเลิศเหล่านั้นที่อยู่ในใจนาง

“ทำไม? ทั้งๆที่เจ้าก็……พอใจมาก”

เมื่อคืนก็เป็นแบบนี้ เสพสุขเสร็จปุ๊บก็เปลี่ยนสีหน้าทำเหมือนไม่รู้จักกัน

“นั้นคือการถูกบังคับให้เสพสุขต่างหากเล่า? ท่านคิดว่าข้าสมยอมหรือไง!” หลานเยาเยามองที่เขาพร้อมพูดด้วยความโมโห

ใบหน้าที่เดิมทีแดงอยู่แล้วยังไม่ทันจะหาย ก็กลับแดงฉานขึ้นมาอีกครั้ง

เย่แจ๋หยิ่งได้เห็นท่าทีที่ปากแข็งของนาง ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล แต่หลังจากที่เห็นนางหันมามองตาขวาง จึงเตรียมตัวลงจากเตียง สีหน้าที่จริงจังขึ้นมาทันที

“ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมทำตามใจของตัวเอง?”

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยาที่กำลังจะลงจากเตียงจึงชะงักไป

แต่ไม่ได้หันไปมองที่เขา เพียงแต่กล่าวอย่างเบาๆว่า : “ความคิดของพวกเราไม่เหมือนกัน”

“ไม่เหมือนกันเช่นไร?”

“ข้ายอมรับไม่ได้กับการมีความรักมากมาย” เพียงแค่คิดว่าหลังจากนี้จะต้องแบ่งผู้ชายให้กับผู้หญิงคนอื่นๆด้วย คิดๆแล้วก็ทำให้รู้สึกอยากจะบ้าตาย

“ความรักมากมาย?” เย่แจ๋หยิ่งไม่เข้าใจ

“ก็คือท่านผู้ชายหนึ่งคนที่ต้องแบ่งให้ผู้หญิงอีกไม่รู้ตั้งกี่คนใช้ยังไงเล่า!” ไม่ว่ายังไงนางก็ยอมรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด

แต่ว่า บ้านเมืองผืนใหญ่นี้ก็เป็นเช่นนี้ โดยทั่วไปแล้วครอบครัวที่ร่ำรวย ไม่ต้องพูดถึงวังหลังที่มีสนมถึงสามพัน ผู้ชายคนหนึ่งสามารถมีอนุภรรยาคนสองคนก็เป็นเรื่องปกติ

แม้กระทั่งเด็กผู้ชายที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ทางครอบครัวพ่อแม่ก็จะจัดการเตรียมหาสาวใช้ที่รับใช้เรื่องบนเตียงเพื่อสอนพวกเรื่องบนเตียงให้แก่พวกเขา

ดังนั้น!

เกี่ยวกับเรื่องทัศนคติจารีตที่ถูกกำหนดมา นางไม่ได้คิดจะไปเปลี่ยนแปลงอะไร และก็ไม่มีทางที่เปลี่ยนแปลงได้

“ข้าไม่ได้คิดจะทำเช่นนั้น!” ในตอนนี้เขามีความรู้สึกเพียงแค่กับหลานเยาเยาเท่านั้น ทำไมจะต้องหาผู้หญิงอื่นด้วย?

นอกจากนี้!

นอกจากหลานเยาเยา เขาก็ไม่เชื่อว่าจะยังมีหญิงอื่นที่สามารถทำให้เขามีความรู้สึกสนใจได้

แต่กระนั้น หลานเยาเยาทำได้เพียงส่ายหัวเบาๆ และไม่ได้พูดต่อ จากนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้น

แต่กลับถูกเย่แจ๋หยิ่งดึงมือไว้แล้ว

“เจ้าไม่เชื่อหรือ?”

หลานเยาเยาหันกลับมาโดยธรรมชาติ ยิ้มอ่อนให้เขา : “แล้วหลานจิ่นเอ๋อนับว่าเป็นอะไร?”

ในฐานะที่นางเป็นคนนอกคนหนึ่ง นางยังรู้เลยว่าสำหรับผู้หญิงแล้วกระเป๋าเงินหมายความว่าเช่นไร และผู้ชายที่รับกระเป๋าเงินแล้วก็เท่ากับว่ายอมรับผู้หญิงคนนั้น

ในจุดนี้เย่แจ๋หยิ่งจะไม่รู้ได้เช่นไร?

นางไม่เชื่อแน่นอน!

“เรื่องของพวกเราเกี่ยวข้องอะไรกับนางหรือ?”

โธ่โว้ย!

มองดูแววตาที่แสดงออกถึงความจริงจังของเย่แจ๋หยิ่ง หลานเยาเยาก็ถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่?

“ท่านยอมรับกระเป๋าเงินของนางแล้ว ยังจะพูดอีกว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาง?”

นางถอนหายใจทันที หัวข้อนี้ไม่สามารถจะถกต่อไปอีกได้ มันทำให้บ้าตาย

“กระเป๋าเงิน?” เหมือนกับว่าเย่แจ๋หยิ่งจะฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ แววตาดูครุ่นคิด จากนั้นถามกลับว่า : “เจ้าเฉลียวฉลาดขนาดนี้ จะไม่รู้เลยหรือว่านั่นคือกลลวงของนาง?”

“รู้แล้วจะทำไม?”

ยังไงซะเขาก็ยอมรับกระเป๋าเงินของผู้อื่นแล้วอยู่ดี

“รู้แล้วยังหึงอีกหรือ? กระเป๋าเงินใบนั้นเป็นสิ่งที่นางบอกว่าเกี่ยวข้องการตายของท่านแม่ ข้าจึงได้ถือไว้ในมือเพื่อวิเคราะห์” เขายอมรับมาที่ไหนกัน เพียงแค่ยังไม่ทันจะวิเคราะห์อะไรได้ ก็เห็นหลานเยาเยาเดินมาซะก่อน

เอ่อ……

เดิมทีแล้วเรื่องราวเป็นเช่นนี้นี่เอง!

งั้นก็เท่ากับว่า ตอนนั้นที่เย่แจ๋หยิ่งไปพบหลานจิ่นเอ๋อที่จวนแม่ทัพ ก็เพราะเหตุผลนี้?

เอ๊ะ ไม่ถูก

“เชอะ ข้าไม่ได้หึงสักหน่อย”

“เช่นนั้นเจ้าก็ยอมรับข้าแล้วใช่ไหม?”

“ไม่ยอมรับ!” หลานเยาเยาตอบกลับโดยไม่ได้คิด ทำให้เย่แจ๋หยิ่งตะลึงงันไปทันที

แต่เมื่อสังเกตเห็นปากของนางอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เขาก็เริ่มเดาใจไม่ค่อยถูก

สรุปว่ายอมรับหรือไม่ยอมรับกันแน่?

“ยังไม่ปล่อยข้าอีก?” หลานเยาเยาแสร้งพูดด้วยความโกรธ

“ก็ได้!”

ดูท่าแล้วนางคงไม่ยินยอมจริงๆ! ด้วยความรู้สึกผิดหวังเย่แจ๋หยิ่งจึงคลายมือที่จับแขนนางไว้ออก

หลานเยาเยาลงจากเตียง หยิบเสื้อผ้าแล้วเดินไปด้านในของฉากบังลม สักครู่ นางก็ส่งเสียงร้องออกมากะทันหัน

เย่แจ๋หยิ่งร้อนใจมาก รีบพุ่งตรงไปหลังฉากบังลมทันที แต่กลับเห็นลำตัวท่อนบนของหลานเยาเยาที่ยืนส่งยิ้มให้เขาสวมใส่เพียงเสื้อเอี้ยมซับในเท่านั้น

“เจ้า เจ้าเป็นอะไร?”

ดวงตาของเย่แจ๋หยิ่งแสดงออกถึงความตกใจ จากนั้นก็ละสายตาไปทางอื่นทันที ทั้งยังกระแอมออกมาเบาๆโดยไม่ได้ตั้งใจ

ในสมองคิดถึงแต่เรื่องก่อนหน้านี้ที่พวกเขาอยู่บนเตียงด้วยกัน ท่าทางหลานเยาเยาที่ดูมีเสน่ห์เย้ายวน มือของเขาที่จับต้องโดนเนื้อตัวที่แสนอ่อนนุ่มของนาง รวมถึงภาพตอนนี้นางยังใส่เพียงแค่เสื้อซับในตัวเดียว ทำให้เขารู้สึกตัวร้อนวูบวาบขึ้นมาทันใด

“ท่านช่วยใส่ยาให้ข้าหน่อยได้หรือไม่?” ดวงตาของหลานเยาเยาฉายแววเจ้าเล่ห์

“ได้!”

ยังดีที่แค่ใส่ยา ในไม่ช้าเย่แจ๋หยิ่งก็ช่วยนางพันแผลเสร็จ

เพียงแต่หลังจากใส่ยา หลานเยาเยาก็ได้หยิบเสื้อเอี้ยมซับในที่ยั่วยวนมากๆออกมาต่อหน้าเขาโดยไม่เขินอาย จากนั้นพูดกับเขาว่า :

“หลับตาลง ห้ามแอบมอง”

นางอยากรู้นักว่าเขาจะเป็นสุภาพบุรุษสักแค่ไหน

จากนั้น หลังจากใส่เสื้อเอี๊ยมซับใน ที่ด้านหลังไม่ได้เป็นแถบตะขอ แต่เป็นเชือก

ด้วยแขนของนางข้างหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ทำให้ไม่สามารถผูกเชือกได้ เมื่อไม่มีทางอื่น จึงทำได้เพียงขอให้เย่แจ๋หยิ่งช่วย

เย่แจ๋หยิ่งลืมตาขึ้นมาเห็นแผ่นหลังขาวเนียนละเอียดของนาง อีกทั้งรูปร่างที่ดูดึงดูดเป็นอย่างมาก จากที่นางแนะนำ เขาค่อยๆหยิบเชือกทั้งสองข้างขึ้นมา พยายามอดกลั้นความคิดในใจไว้ จากนั้นก็มัดเชือกให้นาง

ไม่ต้องรอนางสั่งอีกครั้ง เขาก็หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่ให้นางอย่างบรรจง

หลังจากใส่เสร็จ ก็จากไปทันที

เมื่อออกไปถึงหน้าประตู น้ำเสียงที่ฟังดูดึงดูดของเย่แจ๋หยิ่งก็แว่วเข้ามา : “ไปเตรียมน้ำเย็นให้ข้า!”

“เจ้าคะ!”

หลานเยาเยา : “……”

เล่นใหญ่ไปหรือนี่?

แต่ว่า ใครใช้ให้เขาทำเช่นนั้นกับนาง? นี่เป็นแค่การลงโทษเขาเท่านั้น

ที่จริงก็เป็นอีกบททดสอบหนึ่ง!

คำโบราณพูดไว้มีเหตุผล ของที่ได้มาง่ายๆ ก็จะไม่รู้จักทะนุถนอม

แม้ว่า โลกนี้จะมีผู้หญิงเป็นพันๆหมื่นๆคน ตอนนี้มีเพียงนางที่พิเศษกว่า เย่แจ๋หยิ่งจึงสนใจนางก็เท่านั้น ถ้าหากว่าความรู้สึกนั้นค่อยๆเลือนหายไป เขาจะทนต่อตัณหาความยั่วยวนใจของหญิงสาวอายุน้อยที่มีหน้าตาสวยงามได้หรือ?

ในจุดนี้ นางไม่แน่ใจจริงๆ

ผ่านไปครู่หนึ่ง!

หลานเยาเยามาถึงข้างเตียง เอากล่องที่อยู่ตรงมุมเตียงออกมา

หลังจากเปิดออกดูก็พบว่าข้างในไม่มีอะไรเลย นี่ก็ไม่ได้แปลกประหลาด ถึงแม้ว่าจะมีก็คงจะโดนหยิบออกไปนานแล้ว

ดังนั้น นางจึงเริ่มสังเกตกล่องอย่างละเอียด

ไม่นาน ด้านในกล่อง นางพบว่ามีชั้นซ้อนอยู่ คลำหาอยู่ตั้งนาน ในที่สุดก็ค้นพบกลไกแล้ว

หลังจากนั้นข้างในมีกระดาษแผ่นหนึ่งที่ไม่มีตัวหนังสืออะไรเลย นางหยิบมาดมใกล้ เกิดรอยยิ้มมุมปากขึ้น…….

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท