ตอนที่ 1572 ตีระฆังถอยทัพ
“พาเข้ามา”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเสียงขรึม
ไม่นานครอบครัวของซีผิงอ๋องก็ถูกดึงลงจากหลังม้าและถูกบังคับให้คุกเข่าลงบนพื้น
“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องช่วยข้าด้วย!”
สตรีคนหนึ่งตะโกนร้องขึ้น
บุตรชายคนรองของซีผิงอ๋องตะโกนร้องเรียกบิดาด้วยความตกใจ
“เสด็จพ่อ ช่วยข้าด้วยพ่ะย่ะค่ะ…”
“เสด็จพ่อ ท่านพี่ ช่วยพวกเราด้วยเพคะ!”
เมื่อแม่ทัพซีผิงเห็นพระชายาของซีผิงอ๋อง ชายาของซื่อจื่อ บุตรชายคนที่สอง บุตรชายคนที่สาม รวมถึงเด็กแบเบาะที่กำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของมารดาถูกจับตัวมาที่นี่ทั้งหมดจึงเบิกตาโพลงในทันที
“ไปเรียกซีผิงอ๋องมาคุยกับข้า…”
เซียวหรงเหยี่ยนไม่อยากเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว แววตาของเขาเยือกเย็นจนคนเห็นขนลุกชัน
“ผู้สำเร็จราชการ ท่านสมคบคิดกับจักรพรรดินีต้าโจว ตอนนี้ยัง…”
แม่ทัพซีผิงกล่าวพึมพำจนเซียวหรงเหยี่ยนหันไปมองเยว่สืออย่างทนไม่ไหว
เยว่สือถีบร่างของบุตรชายคนรองของซีผิงอ๋องจนกระเด็นล้มลงบนพื้น จากนั้นตวัดดาบลงไปที่ศีรษะของเขา…
แม่ทัพซีผิงชะงักถ้อยคำที่กล่าวอยู่พลางเบิกตาโพลง เขามองสตรีของจวนซีผิงอ๋องที่กอดคอกันร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวราวกับผู้ที่คอขาดคือพวกนางเอง
ชายาซีผิงอ๋องเห็นบุตรชายของตัวเองเสียชีวิตลงต่อหน้าต่อตาจึงกรีดร้องออกมาและเตรียมถลาไปหาบุตรชายของตัวเอง ทว่า นางถูกกองทัพต้าโจวรั้งตัวไว้เสียก่อน นางได้แต่ร้องเรียกบุตรชายของตัวเองออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ข้าจะนับหนึ่งถึงสิบ…ให้ซีผิงอ๋องรีบไสหัวออกมา! มิเช่นนั้นแม้แต่ชีวิตของบุตรชายคนที่สามของเขาก็คงไม่เหลือ…”
“หนึ่ง…”
แม่ทัพซีผิงไม่คิดว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะสังหารบุตรชายคนที่สองของซีผิงอ๋องโดยไม่บอกกล่าวอย่างโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ นั่นคือสายเลือดของตระกูลมู่หรงนะ! นั่นคือผู้ที่มีสายเลือดเดียวกันกับผู้สำเร็จราชการแท้ๆ!
“รีบไปตามท่านอ๋องมาสิ!”
พระชายาของซีผิงอ๋องตะโกนเสียงแหลม บุตรชายคนที่สามคือสายเลือดแท้ๆ ของนางเช่นกัน คนเป็นแม่อย่างนางจะทนเห็นบุตรชายของตัวเองเสียชีวิตลงต่อหน้าต่อตาได้อย่างใดกัน นางตวาดออกมาสุดเสียง
“รีบไปสิ! หากเจ้าไม่รีบไปข้าจะให้ท่านอ๋องสังหารเจ้าและครอบครัวของเจ้าทั้งตระกูล!”
“สอง…”
“ซีผิงอ๋องเสียชีวิตในสนามรบแล้วขอรับ!”
แม่ทัพซีผิงรีบตะโกนขึ้น ผู้สำเร็จราชการผู้บ้าระห่ำผู้นี้สังหารครอบครัวของซีผิงอ๋อง หากหลังจากนี้ชายาของซีผิงอ๋องย้อนคิดบัญชีกับเขาเขาคงแย่ แม่ทัพซีผิงรีบกล่าวขึ้น
“ข้าจะไปตามซื่อจื่อมาขอรับ!”
เซียวหรงเหยี่ยนหมุนแหวนปานจื่อในมือพลางกล่าวขึ้น
“บอกให้ซื่อจื่อของพวกเจ้ารีบถอยทัพ หากอีกหนึ่งถ้วยชา[1]ไม่ได้ยินเสียงระฆังถอยทัพ ทุกครั้งที่ข้านับถึงสิบ…คนของจวนซีผิงอ๋องจะตายลงทีละคน”
แม่ทัพซีผิงรีบขี่ม้ากลับไปรายงานซีผิงซื่อจื่อทันที
เมื่อซีผิงซื่อจื่อรู้ว่าผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนนำทัพของต้าโจวเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเอง อีกทั้งจับตัวครอบครัวของซีผิงอ๋องทั้งหมดและสังหารน้องชายคนที่สองของเขาแล้วจึงเบิกตาโพลงทันที
“ผู้สำเร็จราชการไม่ฟังเหตุใดๆ แม้แต่น้อยขอรับ ข้ายังกล่าวไม่ทันจบเขาก็สั่งให้คนตัดศีรษะของคุณชายสองแล้ว! เขากล่าวว่าหากอีกหนึ่งถ้วยยามเขาไม่ได้ยินเสียงระฆังถอยทัพ ทุกครั้งที่นับถึงสิบเขาจะค่อยๆ สังหารคนของจวนซีผิงอ๋องทีละคนขอรับ!”
แม่ทัพซีผิงกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเทา
“ซื่อจื่อ คุณชายทั้งสามคนของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วยขอรับ แม้แต่ชายาของท่านที่เพิ่งคลอดบุตรได้ไม่นานก็ถูกจับตัวมาด้วยขอรับ!”
ที่ปรึกษาชุดดำเห็นสีหน้าของซีผิงซื่อจื่อจึงรู้ทันทีว่าซีผิงซื่อจื่อเริ่มหวั่นไหว ที่ปรึกษาชุดดำรีบกล่าวขึ้น
“ซื่อจื่อ ผู้กระทำการใหญ่ไม่ควรเสียเรื่องเพราะเรื่องเล็กน้อยนะขอรับ ท่านลองคิดถึงหลิ่วปังสิขอรับ ตอนนั้นเซี่ยงอวี่จับบิดาของหลิ่วปังไป…”
ที่ปรึกษาชุดดำกล่าวเพียงเท่านี้ จากนั้นมองไปทางซีผิงซื่อจื่อนิ่ง
“หากซีผิงอ๋องยัง ท่าคิดว่าพระองค์จะเลือกสังหารจักรพรรดินีต้าโจวหรือช่วยเหลือครอบครัวของตัวเองขอรับ บุรุษอย่างพวกเราจะมีเมียเมื่อใดก็ได้ เมื่อมีเมียก็ย่อมมีบุตรอยู่แล้วขอรับ!”
“ทว่า พระชายาของซีผิงอ๋องที่นั่นด้วยนะขอรับ…”
แม่ทัพซีผิงมองไปทางที่ปรึกษาชุดดำอย่างไม่อยากเชื่อ เขาต้องเป็นคนที่เลือดเย็นเพียงใดจึงกล่าวเช่นนี้ออกมาได้กัน
“ซื่อจื่อ หากท่านสังหารจักรพรรดินีต้าโจวได้ ต่อให้พระชายาอยู่ในปรโลกก็ต้องภูมิใจในตัวท่านแน่ขอรับ”
ที่ปรึกษาชุดดำกล่าวต่อ
ขณะที่ซีผิงซื่อจื่อกำลังลังเล ทหารกองทัพซีเหลียงที่ไปขวางกองทัพเสริมของต้าโจวก็ขี่ม้ากลับมารายงานอีกคน
“ซื่อจื่อ ผู้สำเร็จราชการตัดศีรษะของคุณชายสามแล้วขอรับ เขากล่าวว่าศีรษะถัดไป…คือชายาของซื่อจื่อขอรับ”
ดวงตาของซีผิงซื่อจื่อเกรี้ยวกราด เขากำหมัดแน่น
“เขากล้าอย่างนั้นหรือ!”
“ซื่อจื่อ จะลังเลต่อไปไม่ได้แล้วขอรับ หากมัวลังเลเช่นนี้จะสูญเสียทั้งสองสิ่งนะขอรับ รีบตัดสินใจเถิดขอรับ!”
ที่ปรึกษาชุดดำโค้งกายคำนับซีผิงซื่อจื่อ
“ซื่อจื่อ”
ทหารอีกคนขี่ม้ากลับมา จากนั้นตะโกนลั่น
“ผู้สำเร็จราชการสังหารชายาของท่านแล้วขอรับ เขากล่าวว่าศีรษะถัดไปคือบุตรชายคนโตของท่านขอรับ”
เมื่อได้ยินว่าชายาของตัวเองเสียชีวิตลงแล้วเลือดในกายของซีผิงซื่อจื่อราวกับจับตัวแข็งไปทั้งร่าง เมื่อนึกถึงบุตรชายคนโตของตัวเองซีผิงซื่อจื่อจึงตะโกนสั่งขึ้นอย่างไม่ลังเลอีกต่อไป
“ตีระฆังถอยทัพ!”
ไป๋ชิงเหยียนที่นำทัพต่อสู้กับศัตรูอยู่บนภูเขาได้ยินเสียงระฆังถอยทัพดังขึ้น
ทหารกองทัพซีผิงหวาดกลัวกับการต่อสู้อย่างไม่ขึ้นชีวิตของกองทัพต้าโจวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อพวกเขาขึ้นมาบนภูเขาก็ถูกฝนธนูมากมายนับไม่ถ้วนยิงใส่จนสหายของพวกเขาเสียชีวิตไปมากมาย
ต่อมาจักรพรรดินีต้าโจวบุกสังหารพวกเขาด้วยตัวเอง ดาบของนางตวัดราวกับไม่รู้สึกเหนื่อยล้าแม้แต่น้อย
ทหารของต้าโจวก็ต่อสู้ราวกับสัตว์ป่าที่คลุ้มคลั่งจนพวกเขารู้สึกหวาดกลัว เมื่อทหารซีผิงเหล่านี้ได้ยินเสียงระฆังถอยทัพจึงรีบถอยทัพหนีอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เว่ยจงที่คอยคุ้มกันอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหอบ
“กองทัพซีผิงตีระฆังถอยทัพอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท กองทัพซีผิงถอยทัพแล้ว พวกเราจะลงไปด้านล่างหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
หลิ่วผิงเกาสะบัดเลือดที่เกาะอยูที่ดาบยาวซึ่งสู้มาเป็นเวลานานด้วยความอ่อนล้าเช่นกัน
“รออีกสักพัก!”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางด้านล่างภูเขา ทว่า ต้นไม้ใหญ่บังวิสัยทัศน์ของนางจนเห็นเพียงแสงจากคบเพลิงอย่างเลือนราง แขนทั้งสองข้างของไป๋ชิงเหยียนสั่นระริกด้วยความอ่อนล้า นางหันไปกล่าวกับหลิ่วผิงเกา
“ส่งคนไปสำรวจสถานการณ์ที”
ซีผิงซื่อจื่อเห็นร่างของน้องชายทั้งสองคนและภรรยาของตนนอนจมกองเลือด ได้ยินเสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของมารดาและบุตรชายทั้งสามคน เขาเกลียดเซียวหรงเหยี่ยนจนแทบอยากทึ้งร่างของชายหนุ่ม เขาตวาดขึ้นด้วยความโมโห
“ผู้สำเร็จราชการ กองทัพซีผิงตีระฆังถอยทัพแล้ว ผู้สำเร็จราชการปล่อยตัวครอบครัวของข้าตามที่รับปากไว้ด้วย!”
“ไม่ต้องรีบ…”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเสียงเรียบจนฟังไม่ออกว่าเขารู้สึกเช่นใด มีเพียงแววตาคมกริบที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากเท่านั้น แม้จะมีหน้ากากขวางกั้น ทว่า ซีผิงซื่อจื่อก็ยังรู้สึกเสียวสันหลังวูบอยู่ดี
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าว
“ซีผิงซื่อจื่อสั่งให้ทหารของเจ้าถอยทัพไปห้าลี้ เมื่อใดที่จักรพรรดินีต้าโจวและทหารต้าโจวลงมาจากภูเขาอย่างปลอดภัย พวกเราค่อยมาคุยกันใหม่…”
ซีผิงซื่อจื่อกำบังเหียนม้าแน่น จากนั้นจ้องเซียวหรงเหยี่ยนนิ่ง
“คงไม่เหมาะกระมัง! หากกองทัพซีผิงของข้าถอยออกไปแล้วผู้สำเร็จราชการไม่ปล่อยคนล่ะ”
[1] หนึ่งถ้วยชา คือ การนับเวลาแบบจีน เป็นเวลาประมาณ 15 นาที