เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 1046 สอบปากคำ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 1046 สอบปากคำ

“ขอบคุณพี่โกวที่เตือน!” ซูอันตอบกลับอย่างลับ ๆ มิตรภาพในอดีตของเขากำลังให้ผลตอบแทน อย่างน้อยที่สุดอีกฝ่ายก็จะช่วยเขาสุดความสามารถ โกวซือมองเขาอย่างมีความหมายแล้วจากไปอย่างเงียบ ๆ

ซูอันถูกพาเข้าไปในห้องขังพิเศษ ร่างของเขาถูกผนึกไว้โดยผู้บ่มเพาะและมีโซ่เกี่ยววิญญาณมัดไว้อีกชั้น สิ่งนี้ไม่เพียงป้องกันเขาจากการหลบหนี แต่ยังป้องกันไม่ให้เขาฆ่าตัวตายด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นไปตามคาด สีหน้าของซูอันไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดเขาสามารถใช้ทักษะหลายอย่างได้แม้ไม่มีพลังชี่ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงไม่ส่งผลกระทบต่อเขามากนัก

สิ่งที่ซูอันกังวลคือการร่วมกันสอบสวน เขารู้สึกปวดหัวเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น ตอนนี้เขาเป็นเพียงเลขาของรัชทายาท มีความจำเป็นแค่ไหนที่ขุนนางใหญ่ทั้งสามจะลงมาสอบสวนด้วยตัวเอง?

เสนาบดีฝ่ายกิจการพระญาติเจิ้นเสวี่ยอีเป็นหนึ่งในเก้าเสนาบดี มีหน้าที่ควบคุมราชวงศ์ตลอดจนญาติและกิจการของขุนนาง เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับองค์หญิงรัชทายาท เขาจึงเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการเป็นประธานการสอบสวน

เขาจำได้ว่าฉู่ชูเหยียนเคยบอกว่า ภรรยาของเจิ้นเสวี่ยอีคือองค์หญิงฉางชวน พี่สาวของจักรพรรดิ ซึ่งยิ่งทำให้เจิ้นเสวี่ยอีเป็นที่ไว้วางใจมากที่สุดของจักรพรรดิ

เสนาบดียุติธรรมเจียงป๋อหยาง เป็นส่วนหนึ่งของเสนาบดีทั้งเก้าเช่นกัน รับผิดชอบดูแลกิจการของเรือนจำและเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตัดสินคดี คดีในระดับนี้ย่อมต้องมีเขาอยู่ด้วย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซูอันมีปฏิสัมพันธ์กับเสนาบดียุติธรรมผู้นี้ ในระหว่างคดีของเฉิงซยง เจียงป๋อหยางได้ให้การสนับสนุนเฉิงซยงอย่างมาก แต่ในท้ายที่สุด เขาถูกบังคับให้ต้องระบุถึงอาชญากรรมของเฉิงซยง

นี่เป็นการปะทะที่รุนแรง ข้าอาจจะเสร็จแน่ถ้าตกไปอยู่ในมือของเขา

เนื้อเพลงของสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่เล่นอยู่ในใจของซูอันอย่างไรก็ตาม เขาได้ตระหนักถึงบางสิ่งอย่างรวดเร็ว วีรกรรมที่เขาทำกับอีกฝ่าย เขาได้ทำทุกอย่างในภายใต้หน้ากากของทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ด

อ่า… เจียงป๋อหยางคงไม่เกลียดตัวตนซูอันของข้าหรอก… ใช่ ข้าหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น

ทว่าคนที่มีปัญหาที่สุดน่าจะเป็นมู่หรงถงผู้เคยเป็นผู้บัญชาการมณฑลราชธานี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจมหาศาล แต่เป็นเพราะข้าทำให้เขาต้องถูกย้ายมายังตำแหน่งผู้บัญชาการกองทหารราชองครักษ์ ซึ่งไร้ประโยชน์มากถ้าเทียบกับตำแหน่งเดิม ชายคนนี้จะต้องเกลียดข้ามากแน่ ๆ

มีอะไรผิดปกติกับสมองของจักรพรรดิหรือเปล่า? ทำไมสมาชิกสองในสามคนที่ส่งมาสอบสวนนี้มาจากฝ่ายของราชันลมปราณ? ซ้ำร้ายทั้งสองยังมีความเป็นปฏิปักษ์กับข้า? อยากให้ข้าบ้าตายใช่ไหม! ถ้าข้าตาย ชื่อเสียงของลูกสะใภ้เจ้าก็จะจบสิ้นเช่นกัน ข้าบอกเอาไว้เลย!

ซูอันถอนหายใจ เขารู้ว่าอิทธิพลของราชันลมปราณหยั่งรากลึก พวกมันจะปล่อยโอกาสดี ๆ ครั้งนี้ไปได้อย่างไร?

กุญแจสำคัญคือ ไม่ว่าจะเป็นเจียงป๋อหยางหรือมู่หรงถง คนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสืบสวนคดีอย่างมาก ในขณะที่อีกคนหนึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการมณฑลราชธานี ดังนั้นทั้งสองจึงมีหน้าที่ในเรื่องนี้ด้วย อาจเป็นเรื่องยากสำหรับจักรพรรดิเองที่จะปฏิเสธการเข้าร่วมสอบสวนของพวกเขา

เวลาผ่านไปไม่นานหลังจากนั้น ผู้คุมเข้ามาเบิกตัวซูอันออกไป “ท่านซู โปรดตามเรามา เสนาบดียุติธรรมและคนอื่น ๆ มีเรื่องจะสอบถามท่าน”

บุคคลเหล่านี้ยังคงเป็นหนี้บุญคุณของเขาหลังจากที่นักฆ่าแหกคุกเป็นครั้งสุดท้าย นี่คือเหตุผลที่ผู้คุมทั้งหมดพูดจาอย่างสุภาพ ไม่ได้กรรโชกโฮกฮากทำให้เขาต้องอับอายเหมือนนักโทษทั่วไป

ซูอันถูกนำตัวเข้าไปในห้องส่วนตัว ผู้คุมที่นั่นกล่าวว่า “ท่านซู เราต้องล่ามท่านตามระเบียบ โปรดยกโทษให้เราด้วย”

“ไม่เป็นไร” สีหน้าของซูอันยังคงสงบ

ผู้คุมจับแขนและขาของเขาล่ามโซ่ไว้กับม้านั่งไม้พร้อมกล่าวชมเชยว่า “ท่านซูเป็นคนพิเศษจริง ๆ เราเจอข้าราชสำนักมาแล้วหลายคน แต่พวกเขาทั้งหมดต่างร้องไห้อย่างขมขื่น หายากมากที่จะเห็นใครที่ยังคงความสงบไว้ได้เหมือนท่านซู”

ซูอันยิ้ม “ความกังวลมีไว้สำหรับคนผิด ข้าเป็นผู้บริสุทธิ์จึงไม่จำเป็นต้องกลัวการสอบสวนเหมือนคนอื่น ๆ”

ผู้คุมทั้งหมดพากันสรรเสริญ ทันใดนั้น ประตูก็เปิดออก และเจ้าหน้าที่ในชุดคลุมหลายคนค่อย ๆ เดินเข้ามา

คนที่นำหน้าคือ ผู้เฒ่าที่มีใบหน้าที่ดูเหมือนจะเก็บสะสมความขมขื่นและความเกลียดชังไว้มาก ผมสีขาวของเขาถูกรั้งด้วยปิ่นไม้อย่างไม่ประณีตนัก มีเส้นผมยุ่ง ๆ สองสามเส้นหลุดออกมาอย่างน่าขัดตาของผู้พบเห็น

ซูอันนึกถึงจี้เติ้งถูในรูปลักษณ์เก่า แต่รูปร่างหน้าตาของทั้งสองไม่เหมือนกันเลย ดังนั้นเขาจึงโยนความคิดที่ว่านี่คือพ่อของจี้เติ้งถูทิ้งไปอย่างรวดเร็ว ตามเครื่องแบบของอีกฝ่ายและท่าทางการเดิน ตาเฒ่าคนนี้น่าจะเป็นเจิ้นเสวี่ยอี เสนาบดีฝ่ายกิจการพระญาติมากที่สุด

ถ้าเขาแต่งงานกับพี่สาวของจักรพรรดิ เขาควรจะเป็นคนรุ่นเดียวกับจักรพรรดิใช่ไหม? เหตุใดจักรพรรดิจึงดูเหมือนอยู่ในช่วงวัยกลางคนอันรุ่งโรจน์ในชีวิต ในขณะที่ชายผู้นี้ดูเหมือนแก่แล้วและกำลังจะหมดอายุขัย?

คนที่สองเป็นชายวัยกลางคนที่สง่างามและมีผิวพรรณดี ผมของเขามีสีขาวแทรกอยู่บริเวณขมับเท่านั้น แต่นั่นทำให้เขายิ่งดูโดดเด่นและสง่างามยิ่งขึ้น มันง่ายที่จะจินตนาการว่าเขาดึงดูดผู้หญิงกี่คนเมื่อสมัยยังหนุ่ม

เมื่อเทียบกับเสนาบดีฝ่ายกิจการพระญาติแล้ว ดูเหมือนคนผู้นี้จะเป็นคนที่เที่ยงธรรมกว่ามาก ผมของเขาถูกหวีอย่างพิถีพิถัน เสื้อผ้าเรียบอย่างดีไม่มีรอยยับ พิจารณาจากภาพเสือขาวบนเครื่องแบบ เขาน่าจะเป็นเสนาบดียุติธรรมเจียงป๋อหยาง

ซูอันเหลือบมองเขาอีกสองสามครั้ง เขาเคยต่อสู้กับชายคนนี้มาก่อนในคดีของเฉิงซยง แต่นี่เป็นการพบหน้ากันครั้งแรกของพวกเขา ในตอนนี้เจียงป๋อหยางไม่ได้มองมาที่เขา

เจียงป๋อหยางกลับจ้องมองผมยุ่ง ๆ ของเสนาบดีฝ่ายกิจการพระญาติด้วยหน้าตาค่อนข้างบูดเบี้ยวราวกับมีอาการท้องผูกเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวแล้วและกล่าวว่า “ท่านเจิ้น ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเก้าเสนาบดี พวกเราควรเป็นแบบอย่างของผู้อื่น เราต้องใส่ใจกับรูปลักษณ์ภายนอกบ้าง”

เจิ้นเสวี่ยอีหัวเราะ “เก้าเสนาบดี? เราสูญเสียความรุ่งโรจน์ในอดีตไปแล้ว จะมัวใส่ใจทำไม? คงจะเหมาะกว่าถ้าท่านไปบอกเรื่องนี้กับไอ้คนพวกนั้นในสภาขุนนาง”

หนังตาของเจียงป๋อหยางกระตุก เขาหายใจเข้าลึกก่อนจะพูดว่า “แต่ท่านไม่รู้สึกอึดอัดกับผมของตัวเองบ้างเหรอ? ข้าจัดการให้ดีไหม?”

เจิ้นเสวี่ยอีหลบเลี่ยงไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว “หัวผู้ชาย เอวผู้หญิง เป็นส่วนที่ถ้าไม่ใช่คู่รักก็ไม่สมควรแตะต้อง! ยิ่งไปกว่านั้น ข้ารู้สึกว่าแบบนี้สามารถแสดงออกถึงธรรมชาติที่ผาดโผนและเป็นอิสระของข้าได้”

มู่หรงถงเยาะเย้ยจากด้านหลัง “ขาข้างหนึ่งอยู่ในหลุมศพแล้ว แต่ท่านยังพูดถึงคู่รัก ยังพูดถึงการผาดโผนและเป็นอิสระอีก? อายุป่านนี้แล้วมีแต่องค์หญิงฉางชวนจะให้ท่านนั่งอยู่หน้ากระดานซักผ้าเท่านั้นแหละ!”

มู่หรงถงเป็นคนที่ดูคุ้นหน้ามากที่สุด ซูอันได้พบเขามาหลายครั้งแล้ว

เจิ้นเสวี่ยอีอารมณ์เสีย “เฮ้ย ไอ้หน้าดำ อย่าล้ำเส้น! อย่าคิดว่าข้าจะไม่เปิดเผยว่าเจ้าเคยแอบดูแม่นางอวี้ในตอนนั้น!” เขาหยุดพูดจาให้เกียรติอีกฝ่ายในทันที

มู่หรงถงปะทุขึ้นด้วยความโกรธ “เจ้าเฒ่า ตอนนั้นเจ้าก็อยู่ที่นั่นด้วยไม่ใช่เหรอ! แล้วข้าบอกเจ้าไปกี่ครั้งแล้ว? สีผิวของข้าเป็นสีทองแดงสวยงาม ไม่ใช่สีดำ!”

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท