ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน – บทที่ 323 สมแล้วที่เป็นเผ่าปีศาจ ช่างโหดเหี้ยมเสียจริง!

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

บทที่ 323 สมแล้วที่เป็นเผ่าปีศาจ ช่างโหดเหี้ยมเสียจริง!

หลิงเยว่คิดจะปีนออกจากบ่อลงทัณฑ์อันน่าสะพรึงกลัว แต่ร่างกายของนางถูกน้ำในบ่อยึดไว้ ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจหนีพ้นได้

จบกัน นางคงไม่ต้องถูกโยนทิ้งไว้ที่นี่สองร้อยปีจริง ๆ กระมัง?

ถึงตอนนั้นคงกลายเป็นทะเลหลวงทุ่งนาเขียวไปแล้ว!

“อย่าเสียแรงเปล่าเลยเจ้าเด็กน้อย นอกจากจะได้รับการอภัยจากบรรพบุรุษหรือรับโทษครบตามเวลาเท่านั้น ถึงจะออกไปได้!”

ปลาหมัวอินที่ร้องครวญครางอยู่ข้าง ๆ เริ่มหัวเราะคิกคัก “ยิ่งดิ้นรนก็ยิ่งหมดแรง เรียนรู้จากพี่ ๆ ไว้เถอะ”

หลิงเยว่มองมันแวบหนึ่ง อืม… มันนอนตัวตรงขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะท้องคว่ำลงและยังผุดฟองอากาศอยู่ นางคงคิดว่ามันเป็นปลาตายไปแล้ว

เป็นดังที่มันบอกจริง ๆ หลิงเยว่รู้สึกว่าพลังในร่างกายสูญเสียไปอย่างรวดเร็ว ทั้งยังหนาวเย็นและเจ็บปวดมากขึ้น หากไม่ใช่เพราะเคยผ่านความเจ็บปวดจากการที่เพลิงพิสดารเผาไหม้มาก่อน ตอนนี้นางคงเป็นปลาที่ร้องดังและน่าสงสารที่สุดในบ่อลงทัณฑ์นี้แล้ว

“ท่านผู้อาวุโส แล้วข้าจะทำอย่างไรถึงจะได้รับการอภัยจากบรรพบุรุษเล่า?” หลิงเยว่ถามอย่างนอบน้อม การรอครบสองร้อยปีนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

“เจ้าบอกข้าก่อนว่าทำผิดอะไรมา?”

“กินพวกเดียวกัน” หลิงเยว่พูดออกมาทันที

“เจ้ากินพวกเดียวกันจริง ๆ หรือ? รสชาติเป็นอย่างไร?” ปลาอีกตัวเข้ามาร่วมวงสนทนา ดวงตาปลาตายของมันกวาดมองหลิงเยว่ขึ้นลง ลิ้นที่เหมือนไม้ถูพื้นเลียริมฝีปาก ราวกับกำลังจินตนาการว่าพวกเดียวกันที่มันกินนั้นอร่อยเพียงใด!

“หากไม่ใช่เพราะพวกเราฟื้นตัวช้า ข้าคงตัดเนื้อตัวเองกินไปนานแล้ว!”

มันพูดพลางมองไปที่ร่างกายตัวเอง ราวกับกำลังพิจารณาว่าจะกัดส่วนไหนดีถึงจะฟื้นตัวเร็วที่สุด

หลิงเยว่ “…”

คิดจะกินร่างกายตัวเองด้วย ช่างบ้าคลั่งเหลือเกิน

พวกหัวหน้าตะขาบมรกตถูกขังมาหลายพันปี ทั้งเปลือกไม้ หิน ดิน พวกมันก็กินจนหมดเกลี้ยง แต่ไม่เคยคิดจะกินตัวเองเช่นนี้!

สมแล้วที่เป็นพวกปีศาจ ช่างใจกล้าเสียจริง!

“ขอเพียงเจ้าบอกข้าว่าจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร ข้าจะบอกเจ้าว่ากินส่วนไหนแล้วจะฟื้นตัวเร็วที่สุด!”

“จริงหรือ?”

พวกปลาที่ร้องโหยหวนต่างตื่นเต้น พากันว่ายมาล้อมรอบหลิงเยว่ ดวงตาที่เคยดูไร้ชีวิตชีวาพลันเปล่งประกายขึ้นมาทันที!

“จริง ข้ายังรู้วิธีกินให้อร่อยอีกด้วย!”

การกินสด ๆ ก็อร่อยแล้ว ยังจะมีวิธีที่อร่อยกว่านี้อีกหรือ?

เหล่าปลาตะกละที่โง่เขลาต่างรู้สึกสั่นไหว แย่งกันบอกวิธีการ ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าให้ขอโทษบรรพบุรุษรอบ ๆ อย่างจริงใจ ให้พวกท่านรู้สึกถึงความสำนึกผิด แล้วจะหลุดพ้นจากพันธนาการของบ่อลงทัณฑ์ได้!

แต่วิธีนี้ใช้ได้กับปลาที่ทำผิดครั้งแรกเท่านั้น ไม่ได้ผลกับพวกที่ทำผิดซ้ำซาก

ซึ่งปลาส่วนใหญ่ในบ่อลงโทษเป็นพวกทำผิดซ้ำซาก ต้องอยู่ให้ครบเวลาจึงจะออกไปได้

หลิงเยว่ที่ได้ฟังวิธีการรู้สึกสับสน แม้นางจะเป็นผู้กระทำผิดครั้งแรก แต่นางเป็นมนุษย์ไม่ใช่ปลาหมัวอินจริง ๆ สักหน่อย แล้วแผนการนี้จะใช้ได้ผลหรือไม่?

ช่างเถอะ ไม่ว่าจะได้ผลหรือไม่ ลองดูก่อนแล้วกัน

“อย่าพูดในใจเชียว พวกบรรพบุรุษไม่ได้ยินหรอก เจ้าต้องพูดดัง ๆ อย่างจริงใจ!”

หลิงเยว่ที่ได้ท่องในใจไปหลายประโยคแล้ว “…”

ตอนแรกนางคิดว่าบรรพบุรุษบนฝั่งคงเห็นว่านางไม่ใช่ปลาจริง จึงไม่ปล่อยนางออกไป ที่แท้ต้องร้องเรียกนี่เอง!

“บรรพบุรุษทั้งหลาย” หลิงเยว่เพิ่งร้องออกไปสามคำ น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา “ข้าได้เลิกความคิดที่จะกินเพื่อนร่วมสายพันธุ์แล้ว และตัดสินใจว่าต่อไปจะเป็นปลาที่ดี เคารพผู้อาวุโสและรักเด็ก!”

“เมื่อออกไปแล้ว ข้าจะสร้างสุสานสุดหรูให้ลูกปลาน้อยที่ถูกกิน และจะไปไว้อาลัยรำลึกถึงมันทุกปี…”

แสงสีรุ้งสายหนึ่งโอบล้อมหลิงเยว่ไว้ แล้วพานางขึ้นไปบนฝั่ง

ง่ายขนาดนี้เลยหรือ?

ปลาที่เคยทำผิดซ้ำซากยังคงอยู่ในบ่อลงโทษ เบิกตากว้างด้วยความชื่นชม

“เจ้าพูดได้ดีมาก ถ้าไม่ใช่เพราะพี่รู้ที่มาที่ไปของเจ้าก็คงร้องไห้แล้ว!”

“รีบจดไว้เร็ว จะได้เอาไว้ใช้กับเด็กรุ่นหลังต่อไป”

“นึกถึงตอนที่ข้าต้องสำนึกผิดทั้งคืน ถึงจะออกไปได้อย่างยากลำบาก ไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นปลาที่มีวัฒนธรรมขนาดนี้ อืม… แต่ต้องเพิ่มน้ำตาเข้าไปด้วยนะ!”

หลิงเยว่ “…”

นางไม่คิดว่าปลาหมัวอินจะเป็นเช่นนี้

“เร็วเข้า รีบบอกข้ามาเถิดว่าต้องกินส่วนไหนจะฟื้นตัวได้เร็ว และจะกินอย่างไรให้อร่อยที่สุด?”

ฝูงปลาผู้กระทำผิดซ้ำซากต่างรุมล้อมเข้ามา ดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“ตอนนั้นข้ากินทั้งตัว นอกจากรู้สึกอร่อยแล้วก็แยกไม่ออกว่าส่วนไหนอร่อยที่สุด จำได้แต่ว่าหัวกรอบ แถมยังมีเลือดพุ่งด้วย!”

“เจ้าก็กินแบบนี้เหมือนกันหรือ? กินแบบนั้นมันอร่อยจริง ๆ เหรอ…”

เพียงแต่ตอนนี้พวกมันยังไม่กล้ากิน เพราะกลัวว่าจะถูกขังจนตาย แต่เมื่อไม่ให้กินเผ่าพันธุ์อื่น การกินเนื้อตัวเองคงไม่มีใครว่าอะไรกระมัง!

หลิงเยว่กำลังกังวลเรื่องวัตถุดิบสำหรับภารกิจ แต่เมื่อมีคนส่งมาให้ถึงที่ นางจะปล่อยโอกาสนี้ไปได้อย่างไร?

เพียงแต่ตอนนี้โม่จวินเจ๋อสำคัญกว่า

“ข้าจะไปหาของมาก่อน เดี๋ยวจะกลับมาบอกพวกเจ้า”

พูดจบ หลิงเยว่ก็หันหลังเดินจากไป

…เดินไปแล้ว?

ปลาโตเต็มวัยเมื่อขึ้นบกจะกลายร่างมีแขนขาและหัวปลาน่าขยะแขยง ด้านหลังมีครีบใหญ่ กระดิกหางยาว เดินได้อย่างคล่องแคล่ว

หลิงเยว่รู้สึกเหมือนกำลังเปลือยกาย นางก้มมองท้องปลาลื่น ๆ ที่เปล่งแสงในความมืด โชคดีที่ไม่มีลักษณะเด่นชัด ก็แค่ปลาที่มีแขนขาเท่านั้น!

หลิงเยว่พยายามทำตัวเป็นปลา ตามสัญชาตญาณไปทางทิศใต้ จนไปถึงที่อยู่ของโม่จวินเจ๋อได้อย่างราบรื่น

“เจ้าออกมาเร็วจริง?!”

ปลาโตเต็มวัยหมายเลขหนึ่งจำหลิงเยว่ได้ ตาปลาของมันเกือบหลุดออกมาแล้ว มันเพิ่งกลับมาเมื่อครู่ แล้วปลาเลวทรามตัวนี้กลับถูกปล่อยออกมาแล้วหรือ?!

“บรรพบุรุษช่างใจกว้างเช่นนี้เชียวหรือ?”

“ลูกปลาน้อยนั่นเป็นอย่างไรบ้าง?”

ตอนนี้หลิงเยว่พูดภาษาของเผ่าปลาหมัวอินได้แล้ว

“เจ้าเก็บมันมาจากที่ใด?”

ปลาโตเต็มวัยอีกตัวโผล่ออกมาจากด้านหลัง มันพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างตื่นเต้น

“…ริมฝั่ง”

“เจ้ามังกรปีศาจชั่วช้า! กล้าทำร้ายลูกหลานของเผ่าพวกข้าถึงเพียงนี้!” ปลาโตเต็มวัยตัวที่สองระเบิดด้วยความโกรธ

“มังกรปีศาจกลับมาแล้วหรือ?!”

ปลาโตเต็มวัยตัวที่หนึ่งยืดตัวตรงขึ้นมาทันที หลังจากได้รับคำตอบยืนยัน มันก็รีบจากไปอย่างเร่งรีบ มันต้องไปบอกข่าวนี้กับปลาทุกตัวในเผ่า จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือโดยเร็วที่สุด!

มังกรปีศาจชั่วช้า เหตุใดนางถึงไม่ตายเสียที!

แต่เดิมชนเผ่าปลาหมัวอินเคยตกเป็นอาหารของมังกรปีศาจ เมื่อใกล้จะถูกกินจนสูญพันธุ์ มังกรปีศาจก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน เลยให้โอกาสชนเผ่าปลาหมัวอินได้หายใจหายคอได้บ้าง บัดนี้พวกเขาเพิ่งขยายพันธุ์จนเต็มทะเลสาบอีกครั้ง แล้วจะต้องกลายเป็นอาหารอีกหรือ?

ไม่! พวกมันไม่ยอมเด็ดขาด คราวนี้เผ่าปลาหมัวอินจะต้องสู้กับมังกรปีศาจจนถึงที่สุด!

เมื่อรู้ข่าวอันน่าตกใจนี้ หลิงเยว่จึงรู้สึกสับสนเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่า… มันช่างน่าตื่นเต้นและยินดีมากกว่า เมื่อพวกเขามีความแค้นกับมังกรปีศาจ นางจะสามารถดึงชนเผ่าปลาหมัวอินมาอยู่ฝ่ายมนุษย์ได้หรือไม่?

พวกเขามีจำนวนมาก หากก่อเรื่อง ย่อมได้ผลดีกว่านางคนเดียว!

“แล้วลูกปลาน้อยนั่นยังพอมีทางรอดไหม?”

“ฮึ! มีข้าอยู่ อีกไม่กี่วันเจ้านั่นก็จะกระโดดโลดเต้นได้แล้ว!”

ปลาโตเต็มวัยหมายเลขสองยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “แต่ก่อนเผ่าของพวกข้าไม่มีวิธีกำจัดพิษของมังกรปีศาจ แต่หลังจากค้นคว้ามานับพันปี เผ่าปลาหมัวอินก็ไม่ใช่อาหารที่ใคร ๆ จะกินได้อีกต่อไปแล้ว!”

“ข้าขอถามได้ไหมว่าจะกำจัดพิษของมังกรปีศาจได้อย่างไร?”

“หญ้าหมัวอิน!”

หลิงเยว่ “?”

“เมื่อหญ้าหมัวอินสามารถแก้พิษมังกรปีศาจได้ แล้วเหตุใดจึงต้องค้นคว้ามานานนับพันปี?”

“แน่นอนว่าไม่ใช่แค่หญ้าหมัวอินเท่านั้น ยังต้องเพิ่ม…”

เขาพร่ำพรรณนาไปเรื่อย ๆ พืชวิเศษนับร้อยชนิดถูกเอ่ยออกมาจากปากของปลาหมัวอินหมายเลขสอง

หลิงเยว่จดจำอย่างตั้งใจ อนาคตจะต้องมีการต่อสู้กับมังกรปีศาจอย่างแน่นอน ย่อมได้ใช้ประโยชน์เป็นแน่!

“แน่นอนว่าจะแก้ได้จริงหรือไม่นั้น คงต้องรอดูว่าอีกสองวันลูกปลาน้อยจะตื่นขึ้นมาได้หรือไม่”

หลิงเยว่ “?”

“พิษในท้องของลูกปลาน้อยถูกขจัดออกไปไม่น้อย ลมหายใจก็มั่นคงขึ้น ตำรับยาแก้พิษมังกรปีศาจที่ค้นคว้าออกมาครั้งนี้ได้ผลแล้ว!”

ดีแล้ว ขอเพียงได้ผลก็พอ

หลิงเยว่อยากเข้าไปดูโม่จวินเจ๋อ แต่น่าเสียดายที่ถูกปฏิเสธอย่างไร้ความปรานี หลังจากแน่ใจว่าปลาตัวนั้นจะไม่ทำร้ายโม่จวินเจ๋อ นางก็เดินไปที่สุสานทีละก้าวพลางเหลียวหลังมองเป็นระยะ เพื่อไปหาเหล่าปลาที่อยู่ในบ่อลงทัณฑ์ และคิดหาวิธีว่าจะกินพวกมันอย่างไรให้อร่อยยิ่งขึ้น

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

Status: Ongoing
‘หลิงเยว่’ ผู้ฝึกตนสำนักฝ่ายนอกแสนอ่อนหัด ทั้งยังถูกกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนัก ทว่ายังโชคดีได้ระบบนี้มาช่วยชีวิต มอบหมายภารกิจให้นางสามารถแข็งแกร่งขึ้นโดยใช้ทักษะการทำอาหารให้เกิดประโยชน์ แม้เส้นทางการเป็นยอดเซียนจะหริบหรี่ ทว่าโชคชะตาของยอดแม่ครัวได้เปิดทางให้ ‘หลิงเยว่’ ได้พบหนทางที่จะช่วยให้ตนรอดจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้‘ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ตะหลิว เอ้ย! มานะตน หากนางไม่ยอมแพ้ ย่อมต้องมีหนทางสดใสรออยู่ข้างหน้าแน่’

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท