บทที่ 324 ปลาตัวน้อยเลือกเองเลย พวกมันต้องการทั้งหมด!
แท้จริงแล้วหลิงเยว่ผู้นี้มีตำรับอาหารอยู่ในใจแล้ว ระหว่างทางผ่านทุ่งสมุนไพรวิญญาณ นางยังฉวยโอกาสเก็บสมุนไพรมามากมาย แม้แต่หญ้าหมัวอินที่ปลาหมัวอินตัวที่สองบอกกล่าว นางล้วนเก็บมาทั้งหมด!
เพียงแค่ยืนยันว่าไม่เป็นพิษและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การขจัดรสชาติที่กินยากและคงสรรพคุณทางยาเอาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
“ไม่!”
“ไอ้ลูกหลานอกตัญญู เจ้ากล้าหลอกลวงพี่ชายอย่างข้ารึ!”
“รอข้าออกไปได้ ข้าจะฆ่าเเละกินเจ้าแน่นอน!”
เหล่าปลารับไม่ได้กับกองหญ้าที่หลิงเยว่วางไว้ตรงหน้าพวกมัน นั่นคือฝันร้าย มันเป็นฝันร้ายชัด ๆ!
“ข้าสามารถทำให้พวกมันอร่อยได้ อย่าตื่นตระหนกไป…” หลิงเยว่พูดจาดี ๆ แล้ว แต่เหล่าปลาพวกนั้นกลับไม่ยอมฟัง พวกมันเอาแต่ตะโกนว่าจะฆ่าและกินนาง
ดูเหมือนว่าหญ้าหมัวอินเหล่านี้จะสร้างปมในใจให้กับเหล่าปลาพวกนี้ไม่น้อย แต่น่าแปลกที่เหล่าปลาตัวน้อยกลับกินอย่างเอร็ดอร่อย!
เหล่าปลาต่อต้านหญ้าหมัวอินมากเกินไป หลิงเยว่จึงได้แต่ย้ายพวกมันไปไว้ที่ไกล ๆ จากนั้นจึงลากหม้อหินใบใหญ่ที่ดูธรรมดาออกมาใบหนึ่ง
“เด็กน้อย เจ้าคิดจะทำอะไร!”
ทันทีที่หญ้าหมัวอินอันตรายหายไปจากเบื้องหน้า เหล่าปลาหมัวอินก็กลับคืนสติ แม้จะยังคงมีเสียงร้องครวญครางอยู่บ้าง แต่นั่นหาได้ขัดขวางความเบิกบานในใจของหลิงเยว่ที่เตรียมแสดงฝีมือไม่
นางเฝ้าคาดหวังว่ารสชาติของปลาหมัวอินนี้จะอร่อยสมคำร่ำลือดุจดังที่บันทึกไว้ในตำราอาหารหรือไม่?
“ท่านผู้อาวุโส ท่านปรารถนาจะลิ้มลองรสชาติแบบใด หรือจะลองทุกรสไปเลยดี?”
“พวกข้า… ต้องการทั้งหมดได้หรือไม่?”
ทันทีที่เอ่ยจบ เหล่าปลาหมัวอินต่างพยักหน้าหงึกหงัก ดวงตาอันไร้แววกลับเปล่งประกายระยิบระยับ เจ้าปลาตัวน้อยยังเลือกได้ พวกมันเป็นปลาที่เติบโตเต็มที่แล้ว ย่อมต้องลิ้มลองทุกรส!
“หากต้องการทั้งหมด พวกท่านอาจต้องเสียสละร่างกายมากกว่าเดิมนะ…” หลิงเยว่แสร้งทำเป็นลำบากใจ แต่แท้จริงแล้วนางกำลังยิ้มกริ่มอยู่ในใจ ปลาหมัวอินนั้นมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง แม้จะสูญเสียเนื้อไปครึ่งหนึ่งก็ยังสามารถฟื้นฟูได้ จึงไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย!
“พวกข้าจะตายหรือไม่?”
“เช่นนั้นแล้ว จะอ้าปากกลืนไม่ลงเชียวหรือ?”
หลิงเยว่ยังคงส่ายหน้า
“มันจะเจ็บปวดนัก”
เหล่าปลาหมัวอินได้ยินดังนั้น พวกมันไม่คิดว่าความเจ็บปวดจะเป็นเรื่องใหญ่หลวงอีกต่อไป ท้ายที่สุดแล้ว พวกมันล้วนแต่ทนทุกข์ทรมานจากหอกน้ำแข็งนับหมื่นแสนเล่มในบ่อลงทัณฑ์อยู่ตลอดเวลา จะมีสิ่งใดเจ็บปวดไปกว่านี้อีกเล่า!
ตราบใดที่ไม่ตาย และยังคงอ้าปากกินได้ก็พอแล้ว!
“แล่ข้าเถิด! ให้พี่ใหญ่กินก่อนเลย!”
“ข้าก่อนสิ! ข้าอาวุโสกว่า พลังก็แข็งแกร่งกว่า แล้วยังเข้ามาที่นี่นานกว่าเจ้าด้วย!”
“เนื้อข้านุ่ม แล่ข้าก่อน!”
เหล่าปลาหมัวอินต่างแย่งกันเสนอตัวอยู่ตรงหน้าหลิงเยว่
นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงเยว่ต้องเผชิญกับข้อเรียกร้องที่พิลึกพิลั่นเช่นนี้ ศีรษะปลาอันน่าเกลียดของนางถึงกับกระตุก หากไม่ใช่เพราะว่าไม่มีหัวแล้วจะอยู่ไม่ได้ กินไม่ได้ นางคงสับหัวพวกมันแล้วชิ่งหนีไปก่อนแล้ว!
ไม่รู้ว่าถ้าเอาหัวปลาหมัวอินมาตุ๋นน้ำแกงเผ็ด ๆ รสชาติจะเป็นเช่นไร… หลิงเยว่ครุ่นคิดพลางส่ายหัวอย่างแรง นางคงจะได้รับอิทธิพลจากฝูงปลาประหลาดที่แย่งกันกินนางจนคิดฟุ้งซ่าน ถึงได้นึกถึงหัวปลาที่น่าเกลียดน่ากลัวจนไม่รู้จะเริ่มกินจากตรงไหนเช่นนี้
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
“เช่นนี้ ข้าขอตัดเนื้อจากตัวพวกท่านผู้อาวุโสทุกตัว ตัวละชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำมาทำเป็นหม้อไฟ พวกเจ้าจะได้ลองชิมกันก่อนดีหรือไม่?”
“เช่นนั้น หากมีปลาตัวใดกินมากไปเล่า จะทำเช่นไร!”
“นั่นสิ!”
“ก็ให้ปลาแต่ละตัวได้กินจำนวนเท่ากันก็สิ้นเรื่อง!”
“แล้วเช่นนั้น ปลาที่เป็นพ่อครัวอย่างข้าจะกินอันใดเล่า!” หลิงเยว่ปรายตามองร่างของตน…
ความคิดที่น่ากลัวผุดขึ้นมาในหัวของหลิงเยว่ แต่ก็ถูกนางปัดออกไปอย่างรวดเร็ว
“ข้าจะทำให้พวกท่านกิน แต่ข้าไม่สามารถตัดเนื้อตัวเองได้ ท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย โปรดเมตตาให้ข้าสักนิดได้หรือไม่?” หลิงเยว่กลัวว่าเหล่าปลาประหลาดพวกนี้จะไม่เห็นด้วย นางจึงยื่นครีบที่เหมือนตีนเป็ดออกมา
เนื้อเพียงนิดหน่อยจากปลาแต่ละตัวก็เพียงพอแล้วสำหรับนาง!
“ตราบใดที่เจ้าทำอาหารอร่อย อย่าพูดถึงนิดหน่อยเลย พี่จะให้เจ้าทั้งชิ้น!”
ปลาประหลาดพวกนั้นตอบตกลง!
หลิงเยว่แยกเขี้ยวเผยให้เห็นฟันปลาสองแถวที่แหลมคม รอยยิ้มของนางฉีกไปถึงใบหู ทำให้ปลาในบ่อที่เหลือต่างพากันหวาดกลัว
พวกมันไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มของพวกมันนั้นน่าตกใจและน่ากลัวขนาดนี้!
หัวใจของหลิงเยว่เต็มไปด้วยความยินดี เลยไม่เห็นปลาทั้งบ่อที่พากันตัวสั่นเพราะรอยยิ้มของนาง
หม้อหินใบใหญ่นั้น เพราะปลาหมัวอินจะมีอยู่หลายร้อยตัว เนื้อเพียงเล็กน้อยจากตัวพวกมันจึงมากเกินกว่าจะยัดลงไปจนหมดได้ นางจึงต้องแบ่งทำทีละชุด
พวกปลาหมัวอินไม่ค่อยพอใจนัก เกือบจะตีกันตายเพื่อแย่งกันออกมาเป็นชุดแรก เสียงของหลิงเยว่ดังก้องราวกับอาจารย์ในโรงเรียนอนุบาล ปลอบโยนพวกมันอยู่นาน พวกมันจึงสงบลงได้บ้าง และยอมเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ
ระหว่างที่พวกมันต่อแถว หลิงเยว่ก็เดินไปที่กองหญ้าหมัวอิน ลองชิมสมุนไพรปีศาจแต่ละต้น ยกเว้นหญ้าหมัวอิน เพราะรสชาติของมันช่างสุดแสนจะบรรยาย ทั้งเปรี้ยว ฝาด ขม เผ็ด ชา เค็ม เหม็นคาว และน่าขยะแขยง… หลิงเยว่ลองกินจนริมฝีปากเปลี่ยนสี ส่วนใบหน้าก็ซีดม่วงไม่น่าดู
อย่างที่คาดไว้ สิ่งของที่แปดเปื้อนด้วยมารนั้นไม่ใช่สิ่งที่กินง่าย ๆ
เมื่อปลาหมัวอินไม่สามารถยอมรับหญ้าหมัวอินได้ หลิงเยว่จึงเลือกที่สกัดเพียงสรรพคุณของมันออกมา หาวิธีผสมผสาน เคี่ยวเป็นน้ำแกงสมุนไพรปีศาจ แล้วค่อยใส่เนื้อปลาลงไป
วิธีทำคล้าย ๆ กับน้ำแกงปลาเปรี้ยว แต่ยกเว้นเนื้อปลาที่เหมือนกัน สิ่งใดที่ใช้สมุนไพรปีศาจแทนได้ หลิงเยว่ก็ใช้มันแทน
ตลอดกระบวนการนี้ หลิงเยว่แอบทำอย่างลับ ๆ ราวกับเป็นขโมย นางนั่งยอง ๆ อยู่ใต้โครงกระดูกปลาหมัวอิน ใช้วิธีการต่าง ๆ นานา ในการจัดการกับสมุนไพรปีศาจ
“พวกข้าต่อแถวเสร็จแล้ว!”
“ช่างเรื่องมากจริง กว่าจะได้กินของอร่อย”
“พวกเจ้าได้กลิ่น… เหมือนมีกลิ่นหอมอะไรบางอย่างไหม?”
เสียงโหวกเหวกของฝูงปลาเงียบลง เพราะกลิ่นหอมที่ลอยมา ตอนนี้ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ในหม้อหินใบใหญ่ตรงหน้าหลิงเยว่ มีน้ำแกงสีเทาเดือดปุด ๆ ราวกับยาพิษ
หลิงเยว่นำเอาแก่นสมุนไพรปีศาจที่กลั่นแล้วออกมา หยดน้ำมีสีฟ้าคราม สีเขียวมรกต และสีทองบริสุทธิ์… รสชาติของมันมีทั้งรสเค็ม รสเผ็ดร้อน รสหวานและแน่นอนว่ายังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของสมุนไพรปีศาจด้วย
เมื่อเติมแต่งรสชาติจากพืชมหัศจรรย์ลงในน้ำแกงสีดำขุ่นที่เคี่ยวจากสมุนไพรปีศาจชนิดอื่น ๆ สีสันของมันยิ่งดูราวกับยาพิษ ทว่ากลิ่นหอมช่างเย้ายวนใจยิ่งนัก
หลิงเยว่ทอดถอนใจ มือบางสั่นเทา ตักน้ำแกงสีดำขุ่นขึ้นจรดริมฝีปากนิด ๆ ยังไม่ทันได้ลิ้มลอง นางก็รู้สึกเสียดาย หากนำโครงกระดูกปลาเคี่ยวลงไปในน้ำแกงด้วย รสชาติคงจะยิ่งหอมหวานน่าลิ้มลองยิ่งนัก
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความคิดของหลิงเยว่หรือไม่ นางรู้สึกว่าสายตาของกองโครงกระดูกปลาเบื้องหน้าราวกับกำลังจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา จนทำให้นางไม่กล้าแม้แต่จะคิดสิ่งใดต่อกองกระดูกปลานั้นอีก
น้ำแกงช่างหอมอร่อย มีรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด เล็กน้อย กลิ่นหอมของสมุนไพรปีศาจช่างเย้ายวนใจนัก แถมยังมีความเข้มข้นกลมกล่อม เพียงแต่ยังขาดรสชาติของเนื้อสัตว์ เมื่อเติมเนื้อปลาลงไป หลิงเยว่ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ารสชาติจะยอดเยี่ยมเพียงใด!
“สิ่งนี้คือสิ่งใดกัน?”
เบื้องหน้านางคือพี่ใหญ่ผู้มากด้วยวัยวุฒิและพลังฝีมือแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพี่น้องปลาหมัวอิน มันจ้องมองน้ำแกงสีดำขุ่นที่เดือดปุด ๆ ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง สิ่งนี้หากกินเข้าไปแล้วจะไม่ทำให้สิ้นใจตายทันทีหรือ?
“ไม่หรอก ข้าได้ลิ้มลองแล้ว รสชาติหอมอร่อยนัก!”
หลิงเยว่แลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากจะขาดรสชาติของเนื้อสัตว์แล้ว ทุกอย่างช่างสมบูรณ์แบบ!
ต่อไปก็ถึงเวลาของการปรุงเนื้อปลาแล้ว!
ควรจะแล่ส่วนไหนดี?
พี่ใหญ่ที่ถูกหลิงเยว่จ้องมองด้วยสายตาเย็นชาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นงันงก