หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 164 เจ้านายถูกจับได้แล้ว

บทที่ 164 เจ้านายถูกจับได้แล้ว

บทที่ 164 เจ้านายถูกจับได้แล้ว

เมื่อออกจากประตูจวนอ๋องเย่ เย่หลีเฉินก็ขึ้นรถม้าด้วยสีหน้าหม่นหมอง ไม่แม้แต่จะกล่าวคำลา สั่งให้คนขับรถกลับวังโดยตรง

คนที่เดินออกมาภายหลัง พูดคุยกันไม่กี่คำ ก็จากไปอย่างรีบร้อน

แม้ว่าถังมู่หวั่นจะไม่ได้ออกมาเป็นคนสุดท้าย แต่ก็ก่อนหานแสแค่ครู่เดียว

ถังมู่หวั่นพยักหน้าให้เขาอย่างสุภาพเล็กน้อยก่อนที่จะขึ้นรถม้า

หลังจากที่คนอื่นๆ จากไปแล้ว!

หนุ่มรับใช้ที่เดินตามหลังหานแสก้าวไปข้างหน้า: “คุณชาย ไม่คาดคิดว่าที่นี่จะมีหมอเทพที่สวยงามเช่นนี้ในเมืองหลวง แม้อาศัยเพียงแค่จับชีพจร ก็สามารถวินิจฉัยอาการโรคของคุณชายท่านได้ เก่งจริงๆ ขอรับ”

“เก่งจริง!” รอยยิ้มที่อธิบายไม่ได้ปรากฏขึ้นที่มุมปากของหานแส

“หวังว่านางจะสามารถหาวิธีรักษาให้กับคุณชายได้โดยเร็ว”

“หึ! นางแค่ไม่อยากรักษาก็เท่านั้นเอง!”

มิฉะนั้นนางคงไม่ตั้งใจทำลวกๆ พอเป็นพิธีแม้แต่ที่อยู่ของเขานางยังขี้เกียจที่จะถาม

ดูท่าทีนางแล้ว เห็นได้ชัดว่านางมีวิธีรักษา แต่ไม่ยินดีที่จะพูดออกมา ดังนั้นจะเห็นได้ว่านางเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมาก หรือเพราะว่าวิธีรักษาที่นางคิดออก สิ่งที่ต้องชดใช้มันมากเกินไป

“ฮะ? ไม่อยากรักษา? นี่……นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?”

หนุ่มรับใช้ประหลาดใจมาก

จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นโกรธมาก คว้าอาวุธที่ซ่อนอยู่ในเอว: “คุณชาย ข้าจะไปจับนางเดี๋ยวนี้ขอรับ”

เพียงแค่ตกอยู่ในมือของเขาแล้ว มีหรือนางจะไม่ตกลง?

หลังจากหานแสเหลือบมองหนุ่มรับใช้อย่างเย็นชา หนุ่มรับใช้หน้าซีดในทันที คุกเข่าลงกับพื้นดังพรึบ

“หึ!”

หานแสสะบัดแขนเสื้อจากไป

สำหรับผู้ที่มีค่าที่จะใช้ประโยชน์ เขาต่อปฏิบัติต่ออย่างดีอยู่แล้ว ผู้นี้เป็นคนที่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ ยังเป็นถึงพระชายาของอ๋องเย่ผู้มีอำนาจแห่งประเทศก่วงส้า มูลค่าการใช้ประโยชน์ก็ยิ่งมากขึ้น

…….

จวนอ๋องเย่ ในห้องอาหาร

มองไปที่โต๊ะอาหารกลางวันที่อุดมสมบูรณ์มาก หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปาก แต่พอนางกวาดสายตาไปเท่านั้น ในขณะที่สายตาจ้องมองไปยังโหลวเย่วที่กำลังกินอย่างเพลิดเพลิน

ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้!

จากนั้นก็เคลื่อนย้ายสายตาไปยังฮัวหยู่อันที่นั่งอยู่แล้วกำลังใช้ตะเกียบอยู่ แล้วถอนหายใจอีกครั้ง

บาปกรรมอะไรของนาง?

คนหนึ่งคนผู้สูงส่ง องค์หญิงมีฐานะดีไม่ต้องทำอะไร ขอที่อยากกินไม่มีหรือ? ต้องมากินฟรีดื่มฟรีถึงถิ่นของนาง

มีอีกคนที่เป็นสาวใช้ที่เหมือนเจ้านายมากกว่านาง ไม่วางตัวเป็นสาวใช้เลย จำนวนอาหารที่ใช้เลี้ยงมากกว่านางเสียอีก

ดังนั้น!

หลานเยาเยายิ่งคิดก็ยิ่งโมโห คว้าตะเกียบในมือของโหลวเย่วมา

“เยาเยา ข้ากินอยู่ดีๆ เจ้าเอาตะเกียบข้าไปทำไม?” โหลวเย่วใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ จึงทำได้เพียงมองนางอย่างมึนงง

“โหลวเย่ว ไม่ใช่ว่าข้าว่าเจ้า เจ้าป่วยยังไม่หาย ทำไมกินอาหารมากมายขนาดนี้?”

พูดอยู่ หลานเยาเยาก็หยิบชามอาหารยาและวางไว้ตรงหน้าโหลวเย่ว: “ตอนนี้เจ้ากินได้แค่สิ่งนี้”

“ฮะ? งั้นกินหมดมื้อนี้แล้วค่อยว่ากัน?” โหลวเย่วลองเจรจา อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับอาหารอร่อย อาหารยารสชาติแย่มากจริงๆ

ได้ยินเช่นนั้น!

หลานเยาเยาผงกศีรษะ: “งั้นข้าก็นำพลั่วไปขุดหลุมที่ลานดีกว่า!”

“ไม่ๆๆ ข้ากินอาหารยา ข้ากินพอใจหรือยัง!”

เรื่องที่หลานเยาเยาขุดหลุมฝังนางทั้งเป็น นางได้ยินมาแล้ว

นางไม่คิดว่าหลานเยาเยาจะพูดล้อเล่น คนที่กล้าแม้แต่จะฝังเสด็จอาผู้ที่มีอำนาจทั้งเป็น ฝังนางผู้ที่เป็นองค์หญิงที่ไร้อำนาจทั้งเป็น ก็เป็นแค่เพียงเรื่องลงมือขุดหลุมเท่านั้น

อย่าถามว่านางรู้ได้อย่างไร

อย่างไรก็ตามนางได้รับรู้มันอย่างน่าเศร้าโศก……

“เจ้าก็ด้วย เสี่ยวฮัว เจ้าเป็นสาวใช้ของข้า ทำไมเจ้าถึงไม่รู้สามัญสำนึกของการเป็นสาวใช้สักนิด?” หลานเยาเยาจ้องมองฮัวหยู่อันที่คีบน่องไก่ขึ้นมา ดวงตามองนิ่งไปอย่างช่วยไม่ได้

“คุณหนู ในจานยังมีอีหลายตัวเลย! อีกอย่าง ไม่ได้แตะตีนหมูตุ๋นชิ้นนั้นของท่าน ข้าว่าหากท่านยังไม่รีบกิน มันก็จะเย็นแล้ว”

ไม่ว่าอย่างไรเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่

แม้ว่าตอนนี้หลานเยาเยาจะไม่ให้นางกิน นางก็จะครอบครองน่องไก่เอาไว้ก่อน

“กินเถอะกินเถอะ!”

ยังไงก็กินไปแล้ว คงไม่ถึงขั้นให้นางคายออกจากปากหรอก!

หลานเหยารีบคีบตีนหมูตุ๋นขึ้นมากิน กัดไปคำเดียว นางก็อดไม่ได้ที่จะช็อกร่างนิ่งไป

“เปลี่ยนคนทำครัวในห้องอาหารหรือ?”

รสชาตินี้แตกต่างกันเล็กน้อย รสชาติดีกว่าขาหมูตุ๋นที่นางกินเป็นประจำมาก

“ไม่ใช่ วันนี้ข้ายังเห็นเขาอยู่ที่โรงครัวอยู่เลย!” โหลวเย่วตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“ไม่ได้เปลี่ยนคน?”

หลานเยาเยาดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ยืนขึ้นอย่างกะทันหัน จากนั้นไม่ได้เดินไปทางประตู กระโดดออกไปทางหน้าต่างทันที

โหลวเย่วและฮัวหยู่อันตกตะลึงในทันที

“นางจะไปทำอะไร?”

“มนุษย์มีความเร่งด่วนสามประการ คาดว่าคงกลั้นไม่ไหวแล้ว”

……

ถัดจากตำหนักบรรทมของอ๋องเย่ มีตึกอาคารภูมิทัศน์สี่ชั้น

นี่คือตำหนักที่สูงที่สุดในบรรดาตำหนักในจวนอ๋องเย่ มันเก๋ไก๋มาก สามารถมองเห็นทิวทัศน์มุมกว้างของจวนอ๋องเย่ได้

ปกติที่นี่จะเป็นสถานที่ขององครักษ์ลับ ตอนนี้ไม่มีแม้แต่องครักษ์ลับที่ซ่อนอยู่ในความมืดสักคน

“เอ๊ะ? ทำไมไม่มีคน?”

หลานเยาเยาเดินไปถึงด้านบนของอาคารสูงนี้ มาที่โต๊ะหิน มองดูที่นั่งเล่นที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน จากนั้นเพ่งสายตาไปที่ถ้วยน้ำชาบนโต๊ะหิน

โรงครัว ห้องบรรทมและห้องหนังสือ และสถานที่ที่เย่แจ๋หยิ่งมักจะไปนางก็ไปมาทั่วแล้ว ก็ยังหาคนไม่พบ

และแล้วจึงนึกถึงที่นี่ได้ทันที

ต้องการสังเกตในที่มืด ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการสังเกต

ดังนั้น!

นางจึงใช้มือสัมผัสมันเบาๆ ถ้วยน้ำชาก็ยังอุ่นอยู่

“คนโกหก!”

หลังจากที่นางพูดเสียงเบาออกไป ก็นอนลงบนที่นั่งเล่น ยกขาขึ้นไขว่ห้าง

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในความง่วงนอน นางรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างปกคลุมร่างกายของนางที่ถูกสายลมเย็นพัดมาในตอนแรก

จากนั้นยื่นมือออกไป ก็จับฝ่ามือที่อบอุ่นเอาไว้ทันที

วินาทีที่ลืมตาขึ้น หลานเยาเยาคิดว่านางจะเห็นการแสดงออกที่ประหลาดใจของเย่แจ๋หยิ่ง แต่ไม่คาดคิดว่าเหมือนเขาจะแค่มองนางด้วยรอยยิ้ม ราวกับจะรู้อยู่แล้วว่านางจะทำเช่นนี้

“บอกว่าจะออกไปข้างนอกหลายวันไม่ใช่หรือ?”

หลานเยาเยาไม่ได้ปล่อยมือเขา สายตามองตรงเข้าไปในดวงตาของเขา

“ข้าเคยบอกเจ้าหรือ? หืม?”

เมื่อเผชิญกับความสงสัยของนาง เย่แจ๋หยิ่งเพียงแค่ยกมุมปากเล็กน้อย

“เจ้าให้จื่อซีบอก”

คนนี้ยังไม่ยอมรับอีก

แต่เมื่อมองจากการแสดงออกของเขา ดูเหมือนว่าไม่ได้โกหก สิ่งนี้ทำให้หลานเยาเยามีความมั่นใจในตอนแรก เมื่อเทียบกันกลายเป็นความไม่มั่นใจเล็กน้อย

“จื่อซี?”

ใครจะรู้……

ท่าทางของเย่แจ๋หยิ่งเปลี่ยนไป กล่าวอย่างเย็นชากับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล: “ไปตามคนมา!”

เมื่อเขาพูดออกไป ต้นไม้ใหญ่นั้นดูเหมือนจะปลิวไปตามลม หลังจากพัดใบไม้ผืนใหญ่เคลื่อนไหวแล้วคืนความสงบอีกครั้ง

ในไม่ช้า จื่อซีก็อยู่ตรงหน้าเย่แจ๋หยิ่งด้วยอาการหายใจหอบ คุกเข่าลงกับพื้นข้างหนึ่งโดยไม่ทราบสาเหตุ: “ถวายบังคมเจ้านาย!”

“เจ้าเป็นคนบอกพระชายาว่าข้าจะออกไปข้างนอกหลายวันงั้นหรือ?”

สายตาของเย่แจ๋หยิ่งจ้องอยู่ที่มือที่หลานเยาเยาจับอยู่ แม้ว่าน้ำเสียงจะเย็นชา แต่ก็มีประกายอ่อนโยนในดวงตาของเขา

“……พ่ะย่ะค่ะ”

จื่อซีสีหน้านิ่ง ทันใจนั้นก็รู้สึกไม่ดีนัก

“แล้วเจ้ารู้ว่าผิดไปแล้วหรือไม่?”

“กระหม่อมผิดไปแล้ว กระหม่อมไม่ควรโกหกพระชายา เจ้านายโปรดลงโทษ” จื่อซีรู้สึกละอายใจเล็กน้อย นี่เจ้านายคงถูกพระชายาจับได้แล้วสินะ? และแล้วจึงรีบคุกเข่าทั้งสอง ด้วยท่าทางที่รู้สึกผิด

“ในเมื่อทำผิดแล้ว งั้นก็ไปรับโทษเถิด!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

จื่อซีเช็ดเหงื่อตัวเองอย่างเงียบๆ จากนั้นก็รีบบินจากไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท