ตอนที่ 1575 เรื่องเล็กน้อย
ไป๋ชิงเหยียนก้มมองดูเลือดที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าของตัวเองก็รู้สึกว่าค่อนข้างน่ากลัวไปสักนิด นางกล่าวขึ้น “ล้วนคือเลือดของผู้อื่น ข้าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ท่านหมอหงไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ”
หมอหงตรวจชีพจรให้ไป๋ชิงเหยียน ทว่า ไป๋ชิงเหยียนเป็นสตรีหมอหงจึงไม่สะดวกทำแผลภายนอกให้หญิงสาว เขาให้อิ๋นซวงทายาและพันแผลให้ไป๋ชิงเหยียน ขณะที่หมอหงกำลังเขียนใบสั่งยาให้ไป๋ชิงเหยียนเซียวหรงเหยี่ยนก็เดินเข้ามาพอดี
เมื่อเดินทางถึงเมืองเส่อชวีไป๋ชิงเหยียนมีเรื่องต้องสั่งการกับกองทัพต้าโจว เซียวหรงเหยี่ยนคือผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนจึงไม่สะดวกอยู่ฟังแผนการของต้าโจว ที่สำคัญเซียวหรงเหยี่ยนมีเรื่องที่ต้องจัดการเช่นเดียวกัน
ตอนนี้อ๋องต้าเยี่ยนรวมตัวกันก่อกบฏ ทว่า กองทัพของเซียวหรงเหยี่ยนที่ใช้งานได้อยู่ที่ต้าโจวเกือบทั้งหมด เขากำลังมีปัญหายุ่งยาก
เขาให้คนส่งจดหมายบอกหวังหานปิงให้ปลอบขวัญทหารต้าเยี่ยนที่อยู่ในต้าโจว ไม่ให้พวกเขาปะทะกับทหารรักษาชายแดนของต้าโจวจนเสียชีวิตโดยเปล่าประโยชน์
จากนั้นส่งจดหมายไปบอกให้อาลี่รับรู้ว่าเชื้อพระวงศ์เหล่านั้นเชื่อถือไม่ได้ ให้เขาเรียกทหารรักษาพระองค์ที่ไว้ใจได้ทั้งหมดไปคุ้มกันวังหลวง ห้ามให้เชื้อพระวงศ์เหล่านั้นพาทหารเข้าไปในวังหลวงโดยอ้างว่าเข้าไปคุ้มกันจักรพรรดิขณะที่ต้าโจวกับต้าเยี่ยนกำลังจะเปิดศึกกันเด็ดขาด
แม้เซียวหรงเหยี่ยนจะไม่อยากดึงไทเฮาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพราะมันโหดร้ายกับเด็กอย่างอาลี่มากเกินไป ทว่า บัดนี้เขาไม่อาจใจอ่อนได้อีกต่อไปแล้ว เขาบอกอาลี่ว่าหากพบว่าไทเฮาติดต่อกับเชื้อพระวงศ์เหล่านั้นไทเฮาอาจคิดร่วมมือกับเชื้อพระวงศ์เหล่านั้นแย่งบัลลังก์ไปจากอาลี่
หากมู่หรงลี่ไม่อาจตัดใจจัดการกับไทเฮาได้หรือเรื่องทุกอย่างสายเกินไป แล้วมีคนไปช่วยเหลือเขาออกมาให้มู่หรงลี่หนีไปกับคนผู้นั้น เขาบอกกับมู่หรงลี่ว่าคนผู้นั้นอาจคือพ่อค้าที่ร่ำรวยชุยเฟิ่งเหนียนของต้าโจว หากเขาเดาไม่ผิดคนผู้นั้นน่าจะเป็นไป๋จิ่นถงน้องสาวคนที่สามของไป๋ชิงเหยียน
เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนเห็นว่าหมอหงอยู่ด้านในด้วยเขาจึงทำความเคารพหมอหงในฐานะผู้ด้อยอาวุโสกว่าอย่างนอบน้อม “ท่านหมอหง!”
หมอหงรู้ฐานะที่แท้จริงของเซียวหรงเหยี่ยน อีกทั้งรู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนเป็นคนช่วยคุณหนูใหญ่ของตนออกมา
ตอนนี้กองทัพต้าโจวลือกันว่าผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนผู้นี้จับตัวครอบครัวของซีผิงอ๋องไว้ทั้งหมด อีกทั้งสังหารครอบครัวของซีผิงอ๋องไปสองสามคน กองทัพซีผิงจึงยอมถอยทัพในที่สุด
ทหารในกองทัพต่างคาดเดาการกระทำของผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนผู้นี้ไปต่างต่างนานา พวกเขาไม่รู้ว่าผู้สำเร็จราชการทำไปเพราะหลงรักจักรพรรดินีต้าโจวของพวกเขาหรือทำไปเพราะกลัวต้าโจวจะโมโหและยกเลิกการเดิมพันระหว่างสองแคว้นที่ทำไว้
แน่นอนว่าเมื่อเหล่าทหารเห็นจักรพรรดินีของพวกเขาถูกผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนอุ้มกลับมาพวกเขาจึงคิดว่าผู้สำเร็จราชการน่าจะหลงรักจักรพรรดินีของพวกเขามากกว่า
ตอนที่หมอหงเดินทางมาที่นี่เขาได้ยินนายร้อยสองสามคนคุยกันว่าจักรพรรดินีต้าโจวจะไม่ถือสาเอาความต้าเยี่ยนเพราะเห็นแก่ผู้สำเร็จราชการหรือไม่
ทหารเหล่านี้ซาบซึ้งใจที่ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนช่วยฝ่าบาทของพวกเขาไว้ กองทัพซีผิงของต้าเยี่ยนเป็นคนดักซุ่มโจมตีฝ่าบาทของพวกเขา ทหารกองทัพผิงอันเล่าว่าซีผิงอ๋องต้องการจะสังหารฝ่าบาทของพวกเขาบนภูเขานั้นให้ได้ ต่อให้ผู้สำเร็จราชการจะมีบุญคุณต่อต้าโจวมากเท่าใด ทว่า พวกเขาก็อยากแก้แค้นให้จักรพรรดินีของพวกเขาอยู่ดี
การดักซุ่มโจมตีฝ่าบาทของพวกเขาเท่ากับดูถูกเหยียดหยามแคว้นต้าโจวทั้งแคว้น ต้าเยี่ยนคิดว่าทหารต้าโจวไม่กล้าทำสงครามกับพวกเขาหรืออย่างไรกัน!
ทว่า พวกเขาแค่กลัวว่าฝ่าบาทจะไม่เปิดศึกกับต้าเยี่ยนเพราะเห็นแก่ที่ผู้สำเร็จราชการช่วยชีวิตนางไว้
ทหารคนอื่นยืนจับกลุ่มกัน พวกเขาตั้งใจแล้วว่าหากทหารที่โดนเรียกไปประชุมกลับมาบอกพวกเขาว่าไม่มีการทำสงครามกับต้าเยี่ยนพวกเขาจะไปคุกเข่าขอร้องให้ฝ่าบาทเปิดศึกเอง!
หมอหงเห็นเซียวหรงเหยี่ยนจึงลุกขึ้นทำความเคารพชายหนุ่มเช่นกัน ทว่า เขาไม่รู้จะเรียกชายหนุ่มว่าผู้สำเร็จราชการหรือนายท่านเขยดี ดังนั้นจึงกล่าวเพียง “อิ๋นซวงกำลังทำแผลให้คุณหนูใหญ่ ข้าช่วยตรวจชีพจรให้ท่านอ๋องก่อนดีหรือไม่”
“ครั้งนี้เหยี่ยนไม่ได้ทำสงครามจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่จำเป็นต้องรบกวนท่านหมอหงขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าว
“อาเหยี่ยนนั่งรอก่อน อีกเดี๋ยวข้าก็เสร็จแล้ว…”
เสียงของไป๋ชิงเหยียนดังขึ้นจากหลังผ้าม่านที่ถูกปลดลงมา เซียวหรงเหยี่ยนรับคำและนั่งลงบนเก้าอี้ หมอหงขอตัวไปต้มยาให้ไป๋ชิงเหยียนด้วยตัวเอง
อิ๋นซวงทำแผลและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ให้ไป๋ชิงเหยียน เมื่อเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนเสียเลือดมานางจึงหยิบขนมทั้งหมดที่ซ่อนหมอหงเอาไว้ออกมายัดใส่อกของไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่บำรุงร่างกายเยอะๆ นะเจ้าคะ”
ไป๋ชิงเหยียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้กับการกระทำของอิ๋นซวงดี นางอยากปฏิเสธ ทว่า เมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำของสาวน้อยที่มองมาทางนาง นางจึงรับไว้ยิ้มๆ “ได้ ขอบใจอิ๋นซวงมาก!”
“พรุ่งนี้ข้าจะเอามาให้คุณหนูใหญ่อีกเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ทานเยอะๆ นะเจ้าคะ” อิ๋นซวงกำชับด้วยสีหน้าจริงจัง
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว ไปเถิด”
อิ๋นซวงเดินออกมาจากด้านใน นางเก็บม่านเกี่ยวไว้บนตะขอทองแดง นางเห็นเซียวหรงเหยี่ยนที่ยังคงสวมหน้ากากสีเงิน นางรู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนคือคนของต้าเยี่ยนจึงถลึงตาใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยแล้วแบกกล่องยาจากไปทันที
เว่ยจงเห็นการกระทำของอิ๋นซวงจึงรีบขอโทษเซียวหรงเหยี่ยนแทนนาง จากนั้นเดินออกไปยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกพร้อมเยว่สือ
เซียวหรงเหยี่ยนเห็นไป๋ชิงเหยียนกำลังใช้ผ้าชุบน้ำร้อนทำความสะอาดใบหน้าผ่านฉากกั้น เขากำหมัดที่อยู่ข้างลำตัวแน่น จากนั้นลุกขึ้นเดินอ้อมฉากกั้นไปด้านใน เขาแย่งผ้าขนหนูไปจากมือของไป๋ชิงเหยียน ชุบน้ำและบิดผ้าจนหมาด จากนั้นช่วยเช็ดหน้าให้หญิงสาวอย่างแผ่วเบา
เซียวหรงเหยี่ยนยังหวาดกลัวจนถึงตอนนี้ หากเขาไปช้ากว่านั้นอีกเพียงนิดเดียวแล้วกองทัพซีผิงบุกขึ้นไปบนภูเขา…ต่อให้ไป๋ชิงเหยียนจะเก่งกาจสักเพียงใดก็คงไม่อาจต่อสู้กับทหารที่มีจำนวนมากกว่าหลายเท่าเช่นนั้นได้
ไป๋ชิงเหยียนมองหน้ากากของเซียวหรงเหยี่ยนที่สะท้อนแสงไฟจนกลายเป็นสีอ่อนโยนลง นางเอื้อมมือไปปลดหน้ากากออกจากใบหน้าของชายหนุ่ม ภาพที่ชายหนุ่มกำลังเม้มปากแน่นปรากฏแก่สายตาของนาง นางกล่าวขึ้น “ครั้งนี้โชคดีที่อาเหยี่ยนมาช่วยข้าได้ทันเวลา”
“ครั้งนี้คือความประมาทของข้า…” เซียวหรงเหยี่ยนวางผ้าขนหนูลงในกะละมังสีทองแดง เขาก้าวขึ้นไปนั่งข้างๆ หญิงสาวบนเตียง จากนั้นรวบตัวหญิงสาวมากอดไว้โดยพยายามไม่ให้โดนแผลที่แขนของนาง
“อาลี่เป็นคนใจกว้าง ครั้งนี้ข้าต้องทำผิดต่อเขาแล้ว! ต้าเยี่ยนต้องถูกรวมเป็นหนึ่งโดยการทำสงครามเท่านั้น ท่านคงเข้าใจเรื่องนี้ดีเช่นกัน” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยน “เดิมทีข้าอยากบอกกับทุกคนว่าท่านคือสามีของข้า ท่านสวมรอยเป็นผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนเพื่อต้าโจว ทว่า ข้ากลัวว่าท่านจะถูกครหา”
เซียวหรงเหยี่ยนจับนิ้วมือที่ยังคงสั่นระริกของไป๋ชิงเหยียนขึ้นมาบีบเล่น จากนั้นวางลงที่ริมฝีปากของตัวเอง “ไทเฮานำจดหมายที่ข้าเขียนถึงพี่ชายของข้าออกมาเปิดเผยแล้ว ข้าถูกประณามเรียบร้อยแล้ว ข้าไม่สนใจสิ่งเหล่านี้”
เซียวหรงเหยี่ยนมองไป๋ชิงเหยียนด้วยรอยยิ้ม “นับตั้งแต่ที่กลับถึงเมืองหลวงของต้าเยี่ยนและรู้ว่ามีพ่อค้าของต้าโจวนามว่าชุยเฟิ่งเหนียน ข้าก็คิดแล้วว่าคนผู้นี้คงไม่ธรรมดา ทว่า ข้าไม่คิดเลยว่าชุยเฟิ่งเหนียนจะคือคุณหนูสามของตระกูลไป๋…”
ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนบอกให้องครักษ์ลับกลับไปรายงานเหว่ยซู่นางไม่ได้ปิดบังเซียวหรงเหยี่ยน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ชายหนุ่มจะเดาฐานะที่แท้จริงของไป๋จิ่นถงออก