Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 758 หุ่นไม้ผจญภัย

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 758 หุ่นไม้ผจญภัย

อันที่จริงคุณแม่คนนี้เคยปรากฏตัวในตอนที่ 413 และ 424 มาก่อน

เธอมีชื่อว่าอวี๋ฉิน

เด็กหญิงซึ่งร่ำไห้บอกว่าฉู่ขวงเป็นคนไม่ดี ก็คือหงหง ลูกสาวของเธอ

เด็กหญิงมีน้องชายอีกหนึ่งคนชื่อว่าฮวาฮวา

อวี๋ฉินคนนี้คือแฟนคลับตัวยงของฉู่ขวง อ่านนิยายของฉู่ขวงมาแล้วทุกเรื่อง

ด้วยเหตุนี้เอง หนังสือที่ลูกสาวและลูกชายอ่านล้วนเป็นนิทานที่ฉู่ขวงเขียน

เมื่อรู้ว่าฉู่ขวงเข้าไปมีส่วนร่วมในการเขียนบทซีรีส์เรื่องหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอ

เธอจึงชักชวนให้ลูกสาวดูซีรีส์เรื่องนี้

ส่วนลูกชายนั้นไม่สนใจซีรีส์เรื่องนี้ ดูไปได้สักพักก็กลับไปเปิดแดนนิทานซึ่งอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก

หงหงกลับดูซีรีส์จนจบไปพร้อมกับแม่

เมื่อเห็นเจียงอวี้เยี่ยนฆ่าคนไม่เลือกหน้า หงหงจึงร้องไห้โฮออกมาเมื่อดูจนถึงฉากสุดท้าย

อวี๋ฉินรู้สึกขบขัน จึงถ่ายวิดีโอและอัปโหลดลงบนบล็อกของตน

เมื่อก่อนเธอเคยใช้ปู้ลั่ว ทว่าหลังจากที่ฉู่ขวงย้ายมายังบล็อก เธอจึงติดตามเขาไปยังบล็อกเช่นกัน

อวี๋ฉินคิดว่านี่คือการกล่อมเกลาตนเองในฐานะแฟนคลับตัวยง

เพราะฉะนั้นอวี๋ฉินจึงนึกไม่ถึงว่าวิดีโอที่ตนโพสต์จะโด่งดังขึ้นมาแล้ว!

ชาวเน็ตนับไม่ถ้วนรีโพสต์!

สิ่งที่อวี๋ฉินไม่นึกไม่ฝันยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ฉู่ขวงเห็นวิดีโอนี้แล้วเช่นกัน ทั้งยังเมนชันถึงตนบนบล็อก!

ทันใดนั้น อวี๋ฉินพลันรู้สึกปลาบปลื้มจนทำอะไรไม่ถูก!

……

ใครให้ฉู่ขวงส่งคนกลับบ้านเก่าได้อำมหิตถึงขนาดนี้ล่ะ?

ดังนั้นทุกคนจึงนึกไม่ถึงว่าฉู่ขวงจะถึงกับตอบกลับหนูน้อยคนนี้ ทั้งยังพูดออกมาตามตรงว่า

จะเขียนนิทานเรื่องใหม่เพื่อหนูน้อยคนนี้!

ทั่วทั้งโลกออนไลน์คึกคักขึ้นมาในชั่วพริบตา!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเน็ตซึ่งมีอารมณ์อ่อนไหวบางคนถึงกับรู้สึกซาบซึ้งใจ!

‘พระเจ้าช่วย น่ารักมากเลย!!!’

‘ฉันร้องไห้เหมือนกัน! อยากลูบหัว! อยากไปกอดปลอบ!’

‘เขาจะเขียนนิทานเรื่องใหม่เพื่อปลอบหนูน้อยจริงๆ เหรอ?’

‘นี่คือสิ่งที่เจ้าแก่ฉู่ขวงพูดออกมาใช่ไหมเนี่ย’

‘ครั้งแรกที่ฉันได้เห็นด้านที่อ่อนโยนของเจ้าแก่ฉู่ขวง!’

‘ใจเหลวเลย! ที่แท้เจ้าแก่ฉู่ขวงก็…อะแฮ่ม เป็นคนอบอุ่นมาก!’

‘พ่อไมโครเวฟ!’

‘จู่ๆ ก็รู้สึกกระดากใจขึ้นมาที่จะด่าเจ้าแก่ฉู่ขวง เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปลอบใจเด็กน้อย!’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงสปอยล์แฟนคลับจริงๆ !’

‘ถ้าเซี่ยนอวี๋ทำแบบนี้ฉันจะไม่แปลกใจ ถ้าเจ้าแก่ฉู่ขวงทำแบบนี้ฉันนึกไม่ถึงจริงๆ !’

‘…’

ถึงแม้ฉู่ขวงจะลึกลับ ไม่เคยเปิดเผยตัวตน แต่เขากลับมีภาพลักษณ์เย็นชาในสายตาของสาธารณชนเสมอมา

อย่าถามว่าภาพลักษณ์นี้มาจากแห่งหนใด

ลำพังเขาดัดแปลงบทเรื่องหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอก็รู้แล้วว่าหมอนี่จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหน ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงตราบาปเหล่านั้นที่เขาเคยเขียนในนิยายเรื่องก่อนๆ !

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าฉู่ขวงจะมีด้านนี้กับคนอื่นเขาเหมือนกัน!

เห็นความตรงกันข้ามอย่างชัดเจน!

ก็ดูข้อความในโพสต์ของเขาสิ

มีทั้งอิโมจิปลอบใจ มาพร้อมกับอิโมจิร้องไห้ ดูคล้ายกับว่ารู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย

ในเวลานี้

แม่คนนั้นปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ‘ลูก: คุณน้าฉู่ขวงอย่าหลอกหนูนะ (ที่จริงน้องชอบนิทานของฉู่ขวงมาก เป็นเพราะฉันเอง แหะๆๆ)’

ผลปรากฏว่า

ขณะที่ชาวเน็ตกำลังตกตะลึงอยู่นั้น ฉู่ขวงก็ตอบกลับอีกครั้ง

‘คนโกหกจะจมูกยาวขึ้น รอผมสองชั่วโมง’

คำตอบนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกอบอุ่นและประทับใจ ขณะเดียวกันยังนำมาซึ่งความสงสัยอีกนับไม่ถ้วน

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงหมายความว่ายังไง’

‘ทำไมคนโกหกถึงจมูกยาว’

‘มุกใหม่บนอินเทอร์เน็ตหรือ?’

‘รอสองชั่วโมงหมายความว่ายังไง’

‘ฉู่ขวงมีแผนจะแต่งนิทานขึ้นมา?’

‘ไม่ใช่มั้ง?’

‘เขียนได้เร็วขนาดนั้นเชียว?’

‘เรื่องสั้น?’

‘ถึงจะเป็นเรื่องสั้น สองชั่วโมงก็เร็วเกินไปล่ะมั้ง!’

‘รอดูแล้วกัน!’

‘ฉู่ขวงคือราชานิทาน คนอื่นเขียนออกมาไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าฉู่ขวงจะเขียนออกมาไม่ได้!’

‘…’

ชั่วขณะนั้นชาวเน็ตก็รู้สึกคาดหวังขึ้นมา!

เวลาสองชั่วโมง ฉู่ขวงจะเขียนนิทานแบบไหนออกมาปลอบใจเด็กกันนะ

……

คนโกหกจะจมูกยาว

บนโลก ผู้ปกครองหลายคนชอบพูดเช่นนี้เพื่อสั่งสอนเด็ก

อันที่จริงนี่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของตัวละครพิน็อกคิโอซึ่งเป็นตัวเอกจากนิทานเรื่องหุ่นไม้ผจญภัย

ใช่แล้ว

หลังจากนี้นิทานที่หลินเยวียนคิดจะเขียน ก็คือนิทานซึ่งมีชื่อว่า ‘หุ่นไม้ผจญภัย[1]’

ส่วนเหตุผลที่ทำไมถึงเป็นเรื่องนี้

เพราะมีการเอ่ยถึงนิทานเรื่องนี้ในเนื้อเพลงแดนนิทาน

“ได้ยินว่าพิน็อกคิโอมักพูดโกหก…”

หลินเยวียนต้องการปลอบเด็ก ขณะเดียวกันก็เติมเต็มช่องว่างในเนื้อเพลง

นี่คือสัญญาที่เขาให้ไว้ยามเผยแพร่เพลงนี้

หลินเยวียนให้ความสำคัญกับคำสัญญา เขาบอกแล้วว่าจะไม่ฆ่าตัวเอกในหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอ เขาก็ไม่ได้ฆ่าตัวเอก

อันที่จริงเขาจะเขียนผลงานจำพวกแฮร์รี พ็อตเตอร์ก็ได้

ทว่านิยายเรื่องนั้นยาวเกินไป เขียนไม่ทันในเวลาสองชั่วโมง

ประเด็นสำคัญคือเรื่องราวด้านหลังของแฮร์รี พ็อตเตอร์นั้นเศร้าเหลือเกิน มีตัวละครโปรดของผู้อ่านตายไปมากทีเดียว จึงไม่เหมาะกับการใช้ปลอบใจเด็ก

ต่างจากหุ่นไม้ผจญภัย

เรื่องสั้นต้นฉบับมีเนื้อหาประมาณหนึ่งหมื่นตัวอักษร หลินเยวียนสามารถเขียนจนจบได้ภายในเวลาสองชั่วโมงโดยไม่ต้องเปลืองแรง

ถูกต้อง

หลินเยวียนคิดว่าจะเขียนเรื่องสั้นออกมาภายในเวลาสองชั่วโมง จากนั้นจึงเผยแพร่ในบล็อกของเขา

คิดเสียว่าบล็อกดึงดูดปริมาณการเข้าชมมาแล้ว

ไม่ว่าอย่างไรหุ่นไม้ผจญภัยก็เป็นผลงานนิทานที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่ง และได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามในทุกๆ ด้าน

นักเขียนชื่อดังอย่างปาจินกล่าวไว้ว่า

‘หลังจากที่ผมใช้เวลาไม่กี่นาทีอ่านหุ่นไม้ผจญภัยจนจบ ผมรู้สึกทึ่ง ถึงผมจะไม่ใช่เด็กแล้วก็ตาม’

เมื่อนึกถึงจุดนี้

หลินเยวียนเริ่มลงมือเขียน

จินมู่ซึ่งอยู่ด้านข้างตะลึงไปเล็กน้อย

เริ่มเขียนแล้วหรือ?

สองชั่วโมง?

เขียนนิทานหนึ่งเรื่อง?

เพื่อปลอบใจเด็ก?

คุณโปรโมตภาพลักษณ์ของตัวเองหนักหน่วงพอแล้ว!

และขณะที่หลินเยวียนลงมือเขียน นักเขียนนิทานบางคนในอุตสาหกรรมได้รู้ข่าวที่ฉู่ขวงจะเขียนนิทานเพื่อปลอบใจหนูน้อยคนหนึ่งเช่นกัน

ไม่นาน

บรรดานักเขียนนิทานต่างจับจ้องให้ความสนใจ ไม่ว่าอย่างไรฉู่ขวงก็มีสถานะเป็นถึงราชานิทาน!

“เขียนการ์ตูนเพื่อปลอบใจเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเนี่ยนะ?”

“ราชานิทานคนนี้มีพรสวรรค์เลยเอาแต่ใจจริงๆ !”

“ถ้าหากคุณภาพของนิทานเรื่องนี้มากพอ นิทานเรื่องนี้จะกลายเป็นที่พูดถึงในทางที่ดีในอนาคต”

“สองชั่วโมง คุณภาพจะดีแค่ไหนกันเชี ยว”

“ฉู่ขวงเป็นต้นเหตุไม่ใช่หรือไง”

“ถ้าเขาไม่สติสตังฟั่นเฟือนไปเขียนให้เจียงอวี้เยี่ยนฆ่าคนไม่เลือกหน้าแบบนั้น เด็กคนนี้จะร้องไห้ได้…น่ารัก…ขนาดนี้หรือ?”

“…”

ทุกคนรู้สึกสนอกสนใจ

ไม่ทัน ไรก็มีคนไม่น้อยที่รอเวลาสองชั่วโมงนี้จริงๆ

สองชั่วโมงผ่านไป

มีคนกดรีเฟรชบล็อกของฉู่ขวง ก่อนจะพบว่า

‘เอ๊ะ!’

‘เขาเขียนนิทานออกมาจริงๆ ด้วย ชื่อเรื่องว่าหุ่นไม้ผจญภัย!’

‘เหมือนว่าจะยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลย!’

‘ความเร็วในการผลิตผลงานระดับนี้ เอาเรื่องอยู่นะ!’

‘มาอ่านกันเร็ว!’

‘@หนูน้อย รีบมารับเครื่องบรรณาการ!’

‘สองชั่วโมง เจ้าแก่ฉู่ขวงคงไม่ได้เขียนแบบสุกเอาเผากินหรอกนะ!’

‘เรื่องไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นเร้าใจอะไรมากมาย แต่ถึงยังไงนี่ก็เป็นเรื่องที่เขียนออกมาในเวลาหนึ่งชั่วโมงไม่ใช่หรือ ทุกคนอ่านอย่างเพลิดเพลินได้ก็พอแล้ว’

‘…’

พรึบๆๆ!

ชาวเน็ตหลายคนกดเข้าไปอ่านนิทานเรื่องนี้ด้วยความสนอกสนใจ

เรื่องราวของพิน็อกคิโอ ปรากฏสู่สายตาของผู้อ่านชาวบลูสตาร์เป็นครั้งแรก!

[1] หุ่นไม้ผจญภัย เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘พิน็อกคิโอ’ วรรณกรรมเยาวชนภาษาอิตาเลียน โดยการ์โล กอลโลดิ ตีพิมพ์ในปี 1880

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท