หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 174 มีจิตสังหาร

บทที่ 174 มีจิตสังหาร

บทที่ 174 มีจิตสังหาร

“หากเป็นเช่นนี้ เขาจะมาที่นี่ทำไมกัน?เพราะต่อให้มาจริง ก็มาเพื่อที่สังหารเจ้า แล้วเขาจะเชิญเจ้าขึ้นเตียงคอยปรนนิบัติมอบของแสนอร่อยให้งั้นรึ?”

หลานเยาเยารู้สึกว่าถ้าเกิดเย่แจ๋หยิ่งโง่ ก็คงจะเป็นเพราะเขาอวดดีเกินไป

เพราะใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าคนที่อยากจะฆ่านาง จะมาช่วยนางได้อย่างไรกัน?

แต่แล้วเย่แจ๋หยิ่งกลับไม่ได้กล่าวต่อถึงสิ่งที่นางพูด เพียงปรากฏรอยยิ้มที่ยากเกินจะหยั่งรู้ขึ้นมา

แล้วเวลาก็ผ่านไปไม่นาน ชั้นดาดฟ้า เสาเข็มของเรือใหญ่ และของที่สามารถลอยได้ก็ถูกแยกเป็นส่วนๆ

พร้อมทั้งอาหารแห้งที่ถูกแจกจ่ายอย่างเท่าเทียม

แล้วหลานเยาเยาก็ได้เห็นถังอาบน้ำไม้สองถัง นางจึงพยายามอยู่นานในการกลิ้งมันมาตรงหน้าเย่แจ๋ห

“ไอ้ย๊า!เหนื่อยเสียงจริงๆ เพื่อเจ้าสองถังนี้ทำเอาเอวข้ากิ่วไปหมดแล้ว”

นางวางก้นนั่งลงกับพื้นพลางพิงตัวกับถังไม้แล้วมองไปยังเย่แจ๋หยิ่งด้วยสายตาละห้อย แต่ทันทีที่เย่แจ๋หยิ่งหันหลังกลับมาก็ไปที่ถังไม้ทั้งสองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ

“เจ้าอยากอาบน้ำกับข้างั้นรึ?”

“ใครอยากอาบน้ำกับท่านกันเล่า?นี่ใช้สำหรับเอาชีวิตรอด ยังจะมาทำเป็นรังเกียจอีก เดิมทีเจ้าถังไม้นี้มีชายร่างสูงสองเป็นเจ้าของอยู่แล้ว ข้าต้องใช้เงินถึงสองพันสองร้อยตำลึงถึงได้มันมาอยู่ในมือ เอาเป็น……สองพันสองตำลึงข้าขายให้ท่านถังหนึ่ง?”

ด้วยเหตุนี้ นางอุตส่าห์ไปต่อรองอยู่นานสองนาน เขาดันไม่ชอบใจเสียอย่างนั้น รู้เช่นนี้น่าจะซื้อมาเพียงถังเดียวปล่อยให้เขาไปหาเอาตัวรอดคนเดียว

หากเป็นเช่นนั้นนางก็จะสามารถเก็บเงินไว้ได้หนึ่งพันสองตำลึงแล้ว!

“เหอะ!”

เย่แจ๋หยิ่งที่ใบหน้านิ่งเฉยเมื่อเห็นท่าทางเห็นแก่เงินของนางก็ถึงกับยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้

“จะเอาไม่เอาก็แล้วแต่ท่าน”

เมื่อเห็นเย่แจ๋หยิ่งไม่มีทีท่าจะมอบเงินให้ สีหน้าของหลานเยาเยาก็ลดลง แล้วจึงรีบยืนขึ้นพลางกำลังจะกลิ้งถังไม้ทั้งสองออกไป

ใครจะรู้……

นางพยายามใช้แรงอย่างหนักแต่กลับดันไม่ขยับสักนิด เลยอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปดู ก็เห็นแขนเรียงยาวกำลังกดถังไม้อยู่ ไม่ว่านางจะออกแรงเยอะขนาดไหนก็ไม่ขยับเลย

“นี่ท่านจะทำสิ่งใด?ยอมจ่ายเงินแล้วรึ?”

แท้จริงแล้ว!

ถ้าเกิดไม่ยอมที่จะจ่ายเงิน ท้ายที่สุดนางก็ยังทิ้งถังไม้ไว้ให้เขาอยู่ดี

“ขนาดข้ายังเป็นของเจ้า แล้วเจ้ายังต้องการสิ่งใดอีก?ฮืม?”

ทันทีขูดออกมา หูของหลานเยาเยาก็ร้อนวูบวาบขึ้นมา

ความหมายของเย่แจ๋หยิ่งก็คือ ตัวเขาเป็นของนาง ดังนั้นทุกอย่างของเขาก็เป็นของนางด้วย? รวมทั้งสมบัติ จวน นางเข้าใจเช่นนี้ถูกหรือไม่ ?

เมื่อคิดเช่นนี้ ใจของนางก็เต้นแรงขึ้นมา…….

“ท่านหมายถึงสิ่งที่ข้าเข้าใจใช่หรือไม่?”

“แน่นอน!”มุมปากของเย่แจ๋หยิ่งยกขึ้น ก่อนจะพูดต่อ“ในทางตรงกันข้าม เจ้าก็เช่นกัน!”

……เอ่อ!

ก็รู้อยู่แล้วว่าเขาจะใจกว้างขนาดนั้นได้อย่างไร เจ้าคนนี้เลวมากจริงๆ

“ห๊า?ท่านพูดอะไรนะ?อยู่ๆหูของข้าก็อื้อขึ้นมา เมื่อสักครู่นี้ท่านว่าอะไรนะ?”

ในขณะที่พูดหลานเยาเยาก็ใช้นิ้วชี้ที่หูพลันดึงเพื่ออธิบาย จากนั้นก็เดินจากไป

แล้วถิงเมี่ยนที่ยืนดูพวกเขาอย่างเงียบๆอยู่ข้างตลอด ก็เดินตามหลานเยาเยาด้วยความสงสัย ก่อนจะถามด้วยความงุนงง

“ความสัมพันธ์ของท่านกับอ๋องเย่นั้นช่างทำให้รู้สึกประหลาดใจเสียจริง”

พอได้ยิน!

หลานเยาเยาก็ไม่ได้หยุดฝีเท้า หลังจากที่เหลือบไปมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา ถึงได้พูด

“แปลกงั้นรึ”

“ก็ไม่ถึงกับแปลกหรอก เพียงแต่เป็นสิ่งที่เห็นแล้วกล่าวอธิบายไม่ได้ ก็เห็นชัดว่าพวกท่านเป็นสามีภรรยากัน แล้วอ๋องเย่เองก็ดีต่อท่านมาก ท่านกลับจงใจที่จะอยู่ต่อ แต่เขากลับไม่ได้ห้าม ราวกับว่า …..ราวกับ…….”

“เขาไม่ได้คิดจะให้ข้าไปก่อนอยู่แล้ว”

ไม่เช่นนั้น เด็กสาวที่หลงเหลืออยู่จะโผล่มาได้ตรงเวลาขนาดนั้นได้อย่างไร?

แม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดเย่แจ๋หยิ่งถึงได้ทำเช่นนี้ แต่นางรู้ว่าเขาจะไม่ทำร้ายนางก็พอแล้ว

“ห๊า?”

แล้ว ถิงเมี่ยนก็นิ่งด้วยอาการไม่เข้าใจ หลานเยาเยาเองก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดต่อ

แล้วน้ำในตัวเรือก็ค่อยๆสูงขึ้น เรือใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือทะเลก็ค่อยๆจมลงสู่ท้องทะเล……

แล้วทันใดนั้น !

เสียงอันตื่นตกใจของใครบางคนก็ตะโกนดังขึ้นมา

“เรือ……เรือผี…….เรือผีมาแล้ว……”

ทุกคนต่างเพ่งสายตาไปยังตัวของคนๆนั้น โดยที่เสียงของเขาก็ยังสั่นอยู่ หลังจากนั้นก็มองไปพื้นห่างออกไปที่ปลายนิ้วมือของเขากำลังชี้ไป

แล้วทุกคนก็ได้เห็นสัตว์ร้ยตัวใหญ่ที่กำลังแหวกกลุ่มหมอกเข้ามา เหล่าคนขี้ขลาดก็ตกใจจนตัวเกรงไปหมด

จากนั้นสัตว์ร้ายตัวนั้นก็ยิ่งใกล้เข้ามาทุกที เรือลำนั้นที่ใหญ่กว่าแล้วยังหรูหราเป็นอย่างมากก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“……คือเรือ มีเรือมาแล้ว พวกเรารอดแล้ว ……”หลังจากที่เสียงตื่นเต้นดังขึ้น ทุกคนยังไม่ทันได้ดีใจ เสียงนั้นก็ตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว

“แย่แล้ว……แย่แล้ว……มันคือ คือเรือแห่งความสิ้นหวัง……”

หนึ่งในผู้โดยสารรู้ถึงรูปลักษณ์ของสัตว์ร้ายตัวใหญ่ทันที

สำหรับบางคนแล้ว เรือแห่งความสิ้นหวังเป็นที่ที่พวกเขาปรารถนาที่อยากขึ้นไป แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้เข้าใจถึงที่มาของเรือแห่งความสิ้นหวัง มันก็กลายเป็นราวกับหายนะอย่างไร้ข้อสงสัย

บางคนที่กลัวก็พากันไปหลบซ่อนตัว แต่ก็ยังมีบางคนที่ใจกล้าที่ยังยืนประจานห้าอยู่บนดาดฟ้าเรือ สายตาเพ่งไปยังเอแห่งความสิ้นหวังที่ค่อยๆเคลื่อนใกล้เข้ามาทุกที

“ดูท่าทางขี้ขลาดของพวกเขาแต่ละคนสิ เรือแห่งความสิ้นหวังมีอะไรน่ากลัว นั่นก็แค่เรือลำหนึ่ง! จะฆ่าเราอย่างไร้เหตุผลได้อย่างไรกัน?”

“ใช่แล้ว ข้าได้ยินมาว่าเป็นพาณิชย์ ก็แค่พ่อค้าหน่ะ!สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่เงินหรือยังไง?สิ่งที่ข้ามีก็คือเงิน เดี๋ยวรออีกสักครู่ให้เจ้าของเรือของเรือแห่งความสิ้นหวังมาแล้วได้เห็นเงินในมือของข้า ก็คงจะออกมาต้อนรับข้าเป็นอย่างดี”

“ช่างสมเหตุสมผล เช่นนั้นข้าก็จะเอากระดาษเงินออกมาให้เขาดูว่าข้านั้นเป็นผู้มีฐานะร่ำรวย ……อ๊า……”

เพียงแต่ว่า……

หนึ่งในพวกเขานั้น ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกยิงด้วยลูกศรธนูอันแหลมที่ลอยมาจากกลางอากาศจนตาย

เมื่อเห็นว่าคนตาย พวกเขาไม่กี่คนที่อยู่ตรงนั้นก็ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว อยากจะเข้าไปหาที่ซ่อนตัวก็ไม่ทันเสียแล้ว

เท้าที่ยังไม่ทันได้ก้าว ก็ถูกลูกธนูปักทะลุเข้าไปในร่างกาย ตายคาที่…….

“ฟิ้ว……”

“ฟิ้ว……”

“ฟิ้ว……”

……

ลูกธนูอันแหลมคมที่พุ่งทะลุอากาศจากเรือแห่งความสิ้นหวังได้พุ่งเข้าใส่เรือลำใหญ่ราวกับห่าฝนและจากนั้นก็หยุดลงหลังจากยิงเรือลำใหญ่จนกลายเป็นตัวเม่น

หลานเยาเยามองไปยังแขนเสื้อที่ถูกลูกธนูยิงเฉียดไป พร้อมกับถอนหายใจหนักๆออกมา พลางที่เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ยังโชคดีที่หลบทัน ไม่เช่นนั้นนางก็คงได้รับบาดเจ็บไปแล้ว

“ปัง……”

แล้วเกิดการกระทบกันอย่างรุนแรงจนนางล้มลงไปกับพื้น

นางจึงรีบลุกขึ้นมาแล้วชะเง้อหน้าออกไปดู

ก็เห็นเพียงเย่แจ๋หยิ่งที่ยืนอยู่กลางสายลมพร้อมกับชายเสื้อที่ปลิวไสว ราวกับกษัตริย์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นกำลังยืนอยู่ต่อหน้าของเรือแห่งความสิ้นหวัง

ออร่าของกษัตริย์นั้นพ่นออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ถึงแม้จะอยู่ต่อหน้าเรือลำใหญ่อย่างเรือแห่งความสิ้นหวังก็ตาม แต่กลับสร้างความรู้สึกที่ทำให้ผู้คนนั้นอยากเคารพ

บรรยากาศในตอนนี้ช่างรุนแรงจริงๆ …

“อ๋องเย่ ไม่ได้เจอกันนาน ยังจำข้าได้หรือไม่?”

เสียงทุ้มต่ำที่ดูเหมือนจะออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ ทำให้ผู้ที่ได้ยินยิ่งรู้สึกสิ้นหวัง

ชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีม่วงเข้มและหน้ากากสีเงิน ร่างกายที่ดูเหมือนจะมีวิญญาณชั่วร้ายแฝงอยู่ ทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นต้องจะล่าถอย

ดวงตาที่เศร้าหมองราวกับว่างเปล่า และดูเย็นชา พร้อมทั้งผมสีขาวที่ปลิวไสว ราวกับยมทูตที่มาที่นี่เพื่อรับวิญญาณ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท