ผู้กล้าเหนือกาลเวลา – บทที่ 455 วาสนายิ่งใหญ่สุดยอด!!

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

บทที่ 455 วาสนายิ่งใหญ่สุดยอด!!

ท้องฟ้าเปิดออก!

รอยแยกทางนั้นในเสี้ยวขณะนี้ก็แยกออกทันที มองไปไกลๆ แล้วเหมือนเนตรสวรรค์ข้างหนึ่งกำลังลืมตื่นขึ้น!

ข้างในรางเลือนมองเห็นไม่ชัด แต่กลับมีระลอกคลื่นพลังกฎเกณฑ์มหาศาลสะท้านฟ้าสะเทือนดินเป็นระลอกๆ ทะลักจากข้างในมายังโลก

สวี่ชิงในฐานะที่เป็นพัศดีเขตปิ่ง เคยแบกกฎเกณฑ์ของโลกใบเล็กใบหนึ่งอยู่หลายเดือน ดังนั้น การรับรู้ต่อกฎเกณฑ์ของเขาจึงเฉียบไวมาก โดยเฉพาะอสูรสมุทรบรรพกาลวิถีสวรรค์ในกายของเขา ตอนนี้ก็กำลังสั่นสะท้าน ยิ่งแผ่ความคุ้นเคยสนิทสนมออกมากลุ่มหนึ่ง

เหมือนว่าสิ่งที่อยู่ในเนตรสวรรค์มีต้นกำเนิดเดียวกับมัน!

สวี่ชิงจิตใจสั่นสะท้าน เขามองนายกองที่ร่ายรำอยู่ ต่อให้ชุดอาภรณ์สีขาวของเขาจะบดบังร่าง แต่ท่าทางการร่ายรำเหมือนกับเงาเผ่าเซียนพิบัติในสัมผัสรับรู้ของเขาทุกประการ

‘หรือศิษย์พี่ใหญ่จะมีชาติหนึ่งเป็นเผ่าเซียนพิบัติ

‘เซียนแท้สิบลำไส้ครั้งนี้…แตกต่างจากเรื่องใหญ่ที่ลงมือกับศิษย์พี่ใหญ่ครั้งก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง!’

ในสมองของสวี่ชิงเกิดความคิดมากมายผุดขึ้น

ส่วนชิงชิวที่อยู่ข้างๆ ก็ตะลึงอ้าปากค้างไปนานแล้ว นางมองทุกอย่างนี้อย่างหวาดกลัว ประสบการณ์ครั้งนี้เรียกได้กระทั่งว่าเป็นที่สุดของนางสิบกว่าปีนี้

ถูกเผ่าฟ้าทมิฬจับตัว ถูกบังคับให้เป็นบ่าวรับใช้ เห็นกับตาว่าเผ่าฟ้าทมิฬทั้งสองคนนี้จากผู้ต้องสงสัยเป็นแขกกิตติมศักดิ์ จากนั้นก็มองพวกเขาเดินเข้าไปในส่วนลึกของเซียนแท้สิบลำไส้ตาปริบๆ สุดท้ายที่นี่…นางได้เห็นการบวงสรวงฟ้า

ไม่ใช่ว่าใครจะบวงสรวงฟ้ากันได้ทุกคน

โดยเฉพาะเงาเผ่าเซียนพิบัติที่อยู่รอบๆ เห็นได้ชัดว่ามีเผ่าฟ้าทมิฬตนนั้นเป็นศูนย์กลาง

ในขณะที่ชิงชิวในสั่นสะท้านอยู่ทางนี้ หนิงเหยียนอึ้งตะลึงไปแล้วโดยสมบูรณ์ เขาลมหายใจหอบถี่ มองทุกอย่าง สีหน้าฉายความเหลือเชื่อ

และในตอนนี้เอง จากการร่ายรำของนายกอง จากเงาร่างเผ่าเซียนพิบัติหลายแสนรอบๆ ที่ร่วมร่ายรำ จากการที่ต้นสิบลำไส้ไหวโอนเอนอย่างรุนแรง ในช่วงเวลาสำคัญนี้ เสียงคำรามโหดเหี้ยมเสียงหนึ่ง ก็ดังมาจากสุดขอบฟ้าของต้นไม้ที่พวกเขาอยู่

“ศิษย์น้องเล็ก ช่วยต้านเอาไว้ที!” นายกองเอ่ยอย่างรวดเร็ว

สวี่ชิงไม่ลังเล ร่างเพียงไหววูบ ก็นำหน้านายกองไปยืนอยู่ข้างหน้าเขา สีหน้าฉายแววเคร่งขรึม ในใจเรียกเทวรูปฟ้าทมิฬมา บนท้องฟ้า เทวรูปฟ้าทมิฬปรากฏลงมาอย่างรวดเร็ว

“จุดอ่อนของมันคือดวงตา โจมตีตาของมัน!”

เสียงของนายกองแฝงด้วยความร้อนรน ในยามที่ดังมาอย่างรวดเร็ว เงาร่างที่พุ่งมาจากสุดปลายกิ่ง ภายใต้ความเร็วที่น่าตะลึงก็ประชิดเข้ามา สะท้อนในดวงตาสวี่ชิงอย่างชัดเจน

เพียงพริบตาแรกที่เห็นเงาร่างนี้ ในสมองสวี่ชิงก็มีสายฟ้าฟาดมาทันที

เงาร่างนี้ไม่ใช่คนเป็น แต่ศพของเผ่าเซียนพิบัติศพหนึ่ง ไม่เหมือนกับเผ่ามนุษย์ ที่หว่างคิ้วของเผ่าเซียนพิบัติมีภาพสัญลักษณ์ประทับอยู่ เหมือนลำไส้เหมือนงู คดเคี้ยวบิดเบี้ยว จับกลุ่มด้วยกันประกอบเป็นรูปร่างเหมือนดวงตา

แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่ทำให้ในสมองสวี่ชิงเหมือนมีสายฟ้าฟาดคือรูปร่างหน้าตาของเซียนพิบัติตนนี้

ศพเซียนพิบัติตนนี้ต่อให้ร่างแห้ง ทั่วทั้งร่างแผ่กลิ่นอายความตาย ท้องถูกผ่าเผยให้เห็นลำไส้เน่าๆ ที่กำลังลอยอยู่แต่ละขดๆ แต่อาศัยความสนิทสนมที่สวี่ชิงมีกับนายกอง…เขาก็ยังมองใบหน้าที่ยุบลงไปของเซียนพิบัติตนนี้ออกว่าเหมือนกับนายกองเป็นอย่างยิ่ง!

โดยเฉพาะบนศพนี้ ขณะเดียวกันยังแผ่กลิ่นอายเย็นเยือกเข้มข้นออกมา ทุกที่ที่พาดผ่านทั่วทุกทิศล้วนเกิดผนึกน้ำแข็ง

ความเย็นประเภทนี้ สวี่ชิงคุ้นเคยดี เหมือนกับของนายกอง

สวี่ชิงใจสั่นสะท้าน แต่ตอนนี้ไม่ทันให้ได้ขบคิดอะไรมากมาย ศพที่พุ่งมาข้างหน้ารวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง เพียงไหววูบร่างของมันก็หายไปในพริบตา เหมือนแปรเปลี่ยนเป็นลมพายุคลั่ง ปะทะหน้ามาหาสวี่ชิง

ความอันตรายรุนแรงปะทุขึ้นในใจสวี่ชิงทันที เทวรูปฟ้าทมิฬลอยต่ำลงมาทันที ขวางอยู่ข้างหน้า

เสียงระเบิดดังขึ้นทันที ก้องกังวานไปทั่วสารทิศ

เกิดเป็นระลอกคลื่นบ้าคลั่ง พัดกวาดไปทั้งหน้าหลัง

สวี่ชิงทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน กระอักเลือดคำโตออกมา ร่างขณะที่ถอยหลังก็เห็นเทวรูปฟ้าทมิฬที่มาขวางอยู่ข้างหน้าศพ ทำการต้านการโจมตีอันถึงแก่ชีวิตให้กับตน

เทวรูปฟ้าทมิฬร่างสั่นสะท้าน ประดุจขุนเขาขวางกั้นทุกสิ่ง

ศพที่หน้าตาคล้ายนายกองถึงแปดส่วนข้างหน้าเทวรูปตอนนี้อ้าปากส่งเสียงคำราม บนร่างปะทุระลอกคลื่นพลังระดับสมบัติวิญญาณขึ้น คิดจะทะลวงฝ่าออกมา แต่ทั่วทั้งเทวรูปฟ้าทมิฬแสงสีดำกะพริบแสงวาบรุนแรง มือทั้งสองคว้ามันเอาไว้ ไม่คลายมือแม้แต่น้อย

ขณะที่ยื้อยุดกันอยู่นั้น ไม่รอให้สวี่ชิงได้หายใจหายคอ กิ่งต้นลำไส้ทั้งเก้าจากที่ไกลก็มีเสียงคำรามดังมาเช่นกัน เงาร่างแต่ละร่างๆ ปรากฏจากสุดปลายขอบฟ้า เป้าหมายคือที่นี่

เห็นเป็นเช่นนี้ สวี่ชิงหน้าเปลี่ยนสี ประสานปางมืออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มีเสียงพุ่งมาอย่างรวดเร็วกรีดหวีดดังขึ้น เงาเทวรูปฟ้าทมิฬองค์ที่สอง องค์ที่สาม องค์ที่สี่ ประทับลงมา

เทวรูปทั้งสามนี้มาจากสามรัฐของสามสิบหกรัฐที่นี่ที่เป็นรัฐดองกับราชวงศ์รัฐบน ในช่วงนี้แม้สวี่ชิงจะไม่ได้ไปรัฐอื่นๆ แต่ผ่านจากเทวรูปของรัฐยอดฟ้า ก็เกิดความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับพวกมันแล้ว สามารถสั่งการได้

การมาถึงเซียนแท้สิบลำไส้ครั้งนี้ เทวรูปฟ้าทมิฬทั้งสี่ก็คือที่พึ่งและไพ่ตายของเขา

เห็นเทวรูปสามองค์ปรากฏขึ้น ทำการต้านทานอย่างสุดกำลัง ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าไม่อาจยืนหยัดได้นานเท่าไร ดีที่การบวงสรวงของนายกองทางนั้นก็เสร็จสิ้นแล้ว

จากการที่นายกองเงยหน้าขึ้น ในดวงตาฉายแววบ้าคลั่ง ภาพที่ทำให้สวี่ชิงจิตใจเกิดคลื่นกระหน่ำซัดโหมก็เกิดขึ้น

เห็นเพียงนายกองสะบัดมือเอาเนื้อชุ่มเลือดที่มีสีสันและขนาดแตกต่างกันออกมาเป็นก้อนๆ และบนเนื้อชุ่มเลือดทุกก้อนล้วนแผ่ระลอกคลื่นคุณสมบัติเทพที่น่ากลัวออกมา

สวี่ชิงแค่เห็นก็จำได้ว่าหนึ่งในนั้นเป็นเนื้อของจวีอิงแห่งเผ่าเงือก

จำนวนเนื้อชุ่มเลือดมีทั้งหมดสามสิบสามก้อน กลิ่นอายที่แตกต่างกันก็หมายความว่ามันมาจากสิ่งมีชีวิตคุณสมบัติเทพที่แตกต่างกัน ไม่ใช่แค่นั้น นายกองยังหยิบเอาขวดเล็กสีดำออกมาเก้าขวด ตอนนี้หลังจากที่บีบแตกทั้งหมด เลือดสดๆ ที่แฝงไว้ด้วยคุณสมบัติเทพเก้าหยดก็ลอยออกมาจากในนั้น

ในนั้นมีหยดหนึ่ง สวี่ชิงสัมผัสได้ว่าในนั้นแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของเทพวิญญาณโยวจิง

จากนั้นนายกองก็ตบหน้าผากตัวเอง เสียงแหวะดังขึ้นก็สำรอกดินสีดำออกมาเป็นพื้นที่บริเวณหนึ่ง ดินพวกนี้หลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว ก่อเป็นรูปสลักขนาดเท่าฝ่ามือองค์หนึ่ง

นั่นคือ…เทวรูปบรรพชนศพเผ่าสิงซากสมุทร!

ยังไม่จบแค่นั้น นายกองสำรอกต่อไป ไม่นานนักเขาก็สำรอกรูปสลักออกมาอีกแปดองค์ รูปร่างแตกต่างกัน กลิ่นอายก็ไม่ใช่กลิ่นอายเผ่าสิงซากสมุทร

เนื้อชุ่มเลือดคุณสมบัติเทพสามสิบสามชิ้น เลือดคุณสมบัติเทพเก้าหยด เทวรูปที่น่าครั่นคร้ามเก้าองค์

“ลูกชาย ตื่นได้แล้ว กินข้าวแล้ว!”

พูดจบเขาก็พลันสะบัดมือ วัตถุพวกนี้ลอยขึ้นท้องฟ้าทั้งหมด หลอมรวมด้วยกันในท้องฟ้าก่อเป็นก้อนเนื้อกลม พุ่งตรงไปในรอยแยกบนท้องฟ้า

จากนั้นนายกองก็โค้งคารวะอีกครั้ง เงาร่างเผ่าเซียนพิบัติหลายแสนรอบๆ ก็โค้งคารวะเช่นกัน ก้อนเนื้อกลมพุ่งเข้าไปในรอยแยกท้องฟ้า

จากเสียงเคี้ยวที่ดังออกมา รอยแยกส่งเสียงดังกึกก้อง เสียงเบิกฟ้าเปิดปฐพีก็ดังมาอีกครั้ง

ฉีกขาดอีกหน!

ครั้งนี้ฉีกออกหลายพันจั้งในทีเดียว!!

เผยให้เห็นทิวทัศน์ทั้งหมดในนั้น

ในรอยแยกนั้นเป็นความว่างเปล่า และในความว่างเปล่าคล้ายว่ามีสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาตนหนึ่งในนั้น มองไม่เห็นรายละเอียด มองเห็นเพียงรางเลือนว่าเป็นตัวตนใหญ่มโหฬารรูปร่างมนุษย์

ท้องของตัวตนรูปร่างมนุษย์คล้ายว่าอยู่ในสภาวะถูกผ่า

สวี่ชิงมองเพียงผาดเดียว ดวงตาทั้งสองก็เจ็บปวดคล้ายจะระเบิด ดีที่พลังลูกกลอนพิษต้องห้ามและพลังพระจันทร์สีม่วงไหลทะลักเข้ามา นี่ถึงพอจะฝืนไม่ให้บอด แต่ก็มีเลือดไหลออกมา

จากนั้นศพที่ปะทะกับเทวรูปฟ้าทมิฬรอบๆ ตอนนี้ต่างมองท้องฟ้า คุกเข่าหมอบคารวะ

ในยามที่สวี่ชิงจิตใจหวาดสะพรึงนั้น นายกองก็พลันเงยหน้าขึ้นมาขณะที่คุกเข่าอยู่ มองไปยังรอยแยกบนท้องฟ้า หลังจากเห็นตัวตนในนั้นเหมือนจะขยับแล้ว ดวงตาของเขาก็ฉายแววบ้าคลั่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน หัวเราะอย่างคุ้มคลั่งขึ้นมา

“ศิษย์น้องเล็ก ชาตินี้ในที่สุดข้าก็ได้ทำเรื่องหนึ่งในหลายๆ เรื่องที่อยากจะทำได้สำเร็จ นี่ต้องขอบใจเจ้ามาก!

“หากครั้งนี้เจ้าไม่ปรากฏตัวขึ้น ข้าคิดจะทำให้ได้ถึงขั้นนี้นั้นยากมาก กระทั่งว่าภายใต้การคุ้มกันจากเผ่าฟ้าทมิฬ ข้าเข้ามาได้ไม่ถึงที่นี่แน่ และหากล้มเหลว ก็ต้องสะสมอีกหลายร้อยปีกระทั่งว่านานยิ่งกว่านั้น

“ตอนนี้ข้าบอกทุกอย่างกับเจ้าได้แล้ว!

“เจ้ารู้ไหมว่านั่นคืออะไร!” นายกองยกมือชี้ไปยังท้องฟ้า

“นั่นคือมรรคาสวรรค์!”

“แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์มีมรรคาสวรรค์แสนทาง ทุกทางล้วนควบคุมการโคจรของดินแดนหนึ่ง และเหมือนพวกมันก็คือมรรคาสวรรค์บรรพกาลเก้าสิบเก้าทางที่ดำรงอยู่มาแต่ดึกดำบรรพ์!

“และที่เจ้าเห็นในตอนนี้ไม่ใช่มรรคาสวรรค์ทั่วไปแสนทางในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ และไม่ใช่มรรคาสวรรค์บรรพกาล!

“เผ่าเซียนพิบัติเป็นเผ่าที่น่าอัศจรรย์ตื่นตะลึงที่หาได้ยากเผ่าหนึ่ง วิธีการสำเร็จเซียนของเขาเหตุที่ใช้ลำไส้ทะลวงท้องฟ้านั่นเป็นเพราะเผ่าของเขาเหมือนกับเผ่าทั้งสามพันหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสามเผ่าที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ในห้วงเวลาต่างๆ ล้วนทำเรื่องเดียวกัน!

“นั่นก็คือ…สร้างมรรคาสวรรค์

“พวกเขาเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันสามพันกว่าเผ่าในห้วงเวลาต่างๆ นั้นคิดอยากจะสร้างมรรคาสวรรค์บรรพกาลทางที่หนึ่งร้อยของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ออกมา!

“แผนการนี้ดำเนินมาไม่รู้ต่อกี่ยุค ก่อนหน้าเผ่าเซียนพิบัติ เผ่าที่ทำเรื่องแบบนี้ในเผ่าสามกว่าเผ่าเผ่าที่แล้วคือเผ่าวิญญาณบรรพกาล จักรพรรดิวิญญาณทำสำเร็จไปกว่าครึ่ง แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว ทำให้เกิดการการสะท้อนกลับ ทั้งเผ่าแทบสูญสิ้น

“และภายหลัง การมาเยือนของเสี้ยวหน้าเทพเจ้า เคราะห์ลงมาเยือน ทำให้ให้แผนที่ดำเนินการมาในห้วงเวลาอันเนิ่นนานของสามพันกว่าเผ่าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น แต่เผ่าเซียนพิบัติในฐานะที่เป็นผู้สืบปณิธานสุดท้าย พวกเขาได้ลงมือบนพื้นฐานที่เผ่าวิญญาณบรรพกาลสร้างเอาไว้ ในตอนนั้นขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะสำเร็จแล้ว!

“ก้าวนี้ก็คือส่งสิบลำไส้ที่แปรเปลี่ยนมาจากสมาชิกสายเลือดบริสุทธิ์คนสุดท้ายของเผ่าเซียนพิบัติที่สำเร็จเซียนเข้าไปในร่างมรรคาสวรรค์ที่ถูกสร้างขึ้นมาทางนี้ ให้เป็นลำไส้ที่เชื่อมต่อระหว่างมรรคาสวรรค์กับแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ หลังจากที่ทะลวงถึงกันทั้งบนล่าง ก็จะทำให้มันฟื้นขึ้นมา!

“ตอนนั้นเผ่าเซียนพิบัติขาดอีกเพียงก้าวสุดท้านก็จะสำเร็จ แต่สิ่งที่ข้าทำในวันนี้ก็คือเติมก้าวนั้นให้สมบูรณ์!

“มรรคาสวรรค์บรรพกาลทั้งเก้าสิบเก้าทางของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ไม่มีความรู้สึก ไม่มีความคิดเห็นของตัวเอง เป็นความปั่นป่วนวุ่นวายไปแถบหนึ่ง มรรคาสวรรค์บรรพกาลทางที่ร้อยก็เช่นกัน ทว่าหลังจากที่มันตื่นขึ้นแล้ว ความนึกคิดของมันจะถูกผู้ที่สร้างมันควบคุม!

“นับแต่โบราณกาลมาสามพันกว่าเผ่าพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็เป็นบิดาของมัน แต่พวกเขาตายไปกันพอประมาณแล้ว…และพวกเรา…ก็ส่งลำไส้เลือดเนื้อของตัวเองไปในต้นสิบลำไส้นี้ หลังจากที่ถูกมรรคาสวรรค์ผสานไปในท้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ก็เท่ากับว่าพวกเราในช่วงเวลาสุดท้ายนี้ได้ร่วมหุ้นส่วนมรรคาสวรรค์ กลายเป็นหนึ่งในบิดาของมรรคาสวรรค์!

“ศิษย์น้องเล็ก เจ้าว่านี่เป็นวาสนายิ่งใหญ่สุดยอดสะท้านฟ้าสะเทือนดินหรือไม่!”

นายกองเงยหน้าหัวเราะบ้าคลั่งขึ้นฟ้า ในขณะที่สวี่ชิงจิตใจเกิดคลื่นยักษ์ซัดโหม ท้องฟ้าก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวลอยมา มือยักษ์ขาวราวหยก ส่งกลิ่นหอมน่าตื่นตะลึงข้างหนึ่ง ยื่นมาจากในรอยแยกบนท้องฟ้านั่น

การปรากฏขึ้นของมันทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสี แผ่นดินส่งเสียงกึกก้อง

กฎเกณฑ์นับไม่ถ้วนทะลักมาจากมือข้างนี้ แผ่ออกไปกว้างใหญ่ไพศาล เพียงพริบตาก็ปกคลุมไปทั่วทั้งเขตปกครองบูรพารกร้าง แล้วปกคลุมแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ทันที

ภูเขาแม่น้ำ ต้นไม้ใบหญ้า ผืนดิน สรรพชีวิต ทุกอย่างล้วนอยู่ในนั้น

ท่ามกลางระลอกคลื่นอารมณ์สะท้านรุนแรงของสรรพชีวิตนับไม่ถ้วน มือยักษ์ข้างนั้นก็ค่อยๆ คว้าลงมา คว้าต้นสิบลำไส้เอาไว้ แล้วถอนขึ้นไปข้างบนอย่างช้าๆ!

ต้นสิบลำไส้สั่นคลอน พวกสวี่ชิงร่างโงนเงน แต่เทียบกับการเปลี่ยนแปลงในเสี้ยวขณะนี้ ระลอกคลื่นในใจสวี่ชิงซัดโหมกระหน่ำ

เสียงของนายกองดังก้องในสมองไม่หยุด

“ร่วมหุ้นมรรคาสวรรค์ เป็นบิดาของมรรคาสวรรค์อย่างนั้นหรือ”

สวี่ชิงพึมพำ ลมหายใจยิ่งถี่กระชั้น

ชิงชิวและหนิงเหยียนที่อยู่ข้างๆ ตอนนี้ในสมองก็มีเสียงสายฟ้าฟาด เกิดลมพายุลูกใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อน เสี้ยวขณะต่อมาทั้งสองคนลงมือผ่าท้อง จะผสานลำไส้ไปในต้นไม้

“ช้าไปแล้ว ฮ่าๆ ก่อนหน้านี้พวกเจ้าไม่ฟังข้า ตอนนี้สายไปแล้ว”

นายกองหัวเราะร่า ความตื่นเต้นในสีหน้าพุ่งถึงขีดสุด

“ศิษย์น้องเล็ก แม้มรรคาสวรรค์บรรพกาลทางที่หนึ่งร้อยตื่นขึ้นควบคุมแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ยังต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่ง แต่ในระหว่างนี้ ไม่นานเจ้าก็จะพบข้อดีของการเป็นบิดาของมรรคาสวรรค์!

“เทียบกับข่งเสียงหลงเจ้านกกระจอกบ้านนั่น เรื่องพวกนั้นของพวกเขานับเป็นเรื่องอะไร วันๆ งกอยู่กับแต้มกองทัพแค่นั้น วีรกรรมของพวกเราครั้งนี้ พวกเขาตลอดทั้งชีวิตก็สู้ไม่ได้!”

นายกองเอ่ยขึ้น สีหน้าหยิ่งทะนงภาคภูมิ ได้ใจเป็นอย่างยิ่ง

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

Status: Ongoing
เมื่อเขากลายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในเมืองที่ถูกพลังของเทพเจ้าทำลายล้าง…รายละเอียดกำลังภายใน-เทพเขียนเรื่องใหม่จากนักเขียนชื่อดัง ‘เอ่อร์เกิน’ ผู้เขียน ‘หนึ่งความคิดนิจนิรันดร์’ ‘สู่วิถีสุรา’ ฟื้นลิขิตฟ้าข้าขอเป็นเขียน’ ‘หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา’ เมื่อเทพเจ้าลืมตาจับจ้องมา โลกก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ไอพลังประหลาดกระจัดกระจายไปทั้งโลกมนุษย์ เกิดการกลายพันธุ์ต่อสรรพชีวิตบนโลก ‘สวี่ชิง’ เด็กหนุ่มผู้รอดชีวิตใช้ชีวิตเพียงลำพัง ดิ้นรนเอาตัวรอดจากอสูรร้ายและไอพลังประหลาดได้พบกับพลังวิเศษ แต่ในโลกกลียุคเช่นนี้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอด เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับคนที่รัก เพื่อตามหาครอบครัวที่อาจจะมีชีวิตอยู่ที่ใดสักแห่ง เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้ . . . เขาต้องรอด!!!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท