ตอนที่ 1584 น่าขัน
……….
มู่หรงลี่มองไปทางหวังจิ่วโจวแวบหนึ่ง เมื่อเห็นเขาพยักหน้ามู่หรงลี่จึงวางใจลง
“ดังนั้นพวกเจ้าคิดว่าจักรพรรดิที่อายุน้อยอย่างเราควบคุมไม่ได้จึงขัดราชโองการ สังหารองครักษ์ที่เฝ้าตำหนักพักผ่อนและพาเสด็จแม่ของเรากลับมาอย่างนั้นหรือ…”
มู่หรงลี่ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงไม่รีบร้อน ไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกแม้แต่น้อย น้ำเสียงยังคงมั่นคง
“พวกเจ้าจะกักบริเวณเรา จากนั้นค่อยให้เสด็จแม่ของเราปลดเราลงจากตำแหน่งและเลือกผู้ที่ควบคุมง่ายกว่าขึ้นครองบัลลังก์แทนใช่หรือไม่”
“ฝ่าบาท!”
เชื้อพระวงศ์ที่อายุมากแล้วก้มศีรษะคำนับมู่หรงลี่ด้วยร่างที่สั่นเทา
“ฝ่าบาทถูกผู้สำเร็จราชการหลอกจนไม่ฟังเสียงของผู้ใดแล้ว รายงานสถานการณ์รบมาถึงตั้งแต่กลางดึก พวกกระหม่อมรีบเข้าวังมารายงานฝ่าบาท คิดว่าฝ่าบาทจะรีบส่งทัพไปช่วยต่อต้านศัตรู ทว่า ฝ่าบาทกลับตรัสว่าการที่จักรพรรดินีต้าโจวเปิดศึกกับซีผิงอ๋องโดยที่ไม่ส่งสารรบมาก่อนต้องมีเงื่อนงำ กระทั่งคิดรอถามผู้สำเร็จราชการก่อน! ฝ่าบาท…ผู้สำเร็จราชการคือคนทรยศแคว้นนะพ่ะย่ะค่ะ! เขาทรยศต้าเยี่ยนไปแต่งงานกับจักรพรรดินีต้าโจว ทั้งยังมีทายาทกับนางถึงสองคน! เขาอยากได้บัลลังก์ของต้าเยี่ยน ทว่า ไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นขุนนางที่ก่อกบฏแย่งชิงบัลลังก์ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงวางแผนเพื่อลูกของเขาเท่านั้น ฝ่าบาทไม่ควรถูกเขาหลอกอีกต่อไปพ่ะย่ะค่ะ!”
“ฝ่าบาท…”
เชื้อพระวงศ์ชราก้มคำนับมู่หรงลี่อีกครั้งพลางกล่าวเสียงสะอื้นราวกับพวกเขารักแคว้นบ้านเกิดเสียเต็มประดา
“พวกกระหม่อมไม่ได้คิดล่วงเกินฝ่าบาท ทว่า กระหม่อมจำต้องเชิญไทเฮามาควบคุมสถานการณ์ในตอนนี้เพื่อแผ่นดินของตระกูลมู่หรงของพวกเรา กระหม่อมคือทายาทของตระกูลมู่หรง หากกล่าวอย่างบังอาจสักนิดกระหม่อมถือเป็นญาติผู้ใหญ่ของฝ่าบาท ดังนั้นกระหม่อมจะทูลและทำในสิ่งที่ขุนนางคนอื่นๆ ไม่กล้าทูลและทำ บัลลังก์และแผ่นดินของบรรพบุรุษตระกูลมู่หรงจะได้ไม่ถูกคนทรยศมู่หรงเหยี่ยนแย่งจากฝ่าบาทซึ่งเป็นสายเลือดตรงโดยชอบธรรมไปให้ลูกของเขากับจักรพรรดินีต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าของไทเฮาย่ำแย่ นางหันไปทางมู่หรงลี่แล้วกล่าวขึ้น
“ฝ่าบาท ท่านปู่ของฝ่าบาททำไปเพื่อต้าเยี่ยน ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทยังเด็ก ส่วนแม่เป็นเพียงสตรีของวังหลัง พวกเราถึงได้หลงเชื่อคำกล่าวของมู่หรงเหยี่ยนอย่างสนิทใจ มอบแคว้นต้าเยี่ยนทั้งแคว้นให้เขาดูแล ให้เขาเป็นผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน ทว่า เขากลับคิดทรยศต้าเยี่ยน…”
ไทเฮาเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างมู่หรงลี่
“อาลี่ แม่กลับมาครั้งนี้เพื่อแก้ไขความผิดของพวกเรา! แม่รู้ดีว่ามู่หรงเหยี่ยนเป็นคนยุให้เจ้าเดิมพันแคว้นในครั้งนี้! เขาหลอกให้เจ้าร่วมแสดงละครกับเขา มู่หรงเหยี่ยนกำลังหลอกเจ้าอยู่!”
ไทเฮากล่าวพลางวางมือลงบนไหล่ของมู่หรงลี่
“พวกเราสองแม่ลูกถูกเขาหลอกแล้ว!”
มู่หรงลี่มองดูมารดาที่ดวงตาทั้งสองข้างคลอไปด้วยน้ำตาราวกับไม่เคยรู้จักนางมาก่อน เขาสะบัดแขนไทเฮาออกจากไหล่อย่างแรง
ไทเฮาเซไปด้านหลังเล็กน้อย หากขันทีเล็กที่อยู่ทางด้านหลังไม่ช่วยประคองนางไว้นางคงล้มลงบนพื้นแน่
ไทเฮาที่ถูกผลักไม่ได้โมโหแต่อย่างใด นางมองสบกับดวงตาเย็นชาของบุตรชาย ร่างทั้งร่างของนางสั่นเทาด้วยความเจ็บปวด นางลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยความยากลำบาก จากนั้นกล่าวขึ้นช้าๆ
“ตอนแรกเขาบอกพวกเราสองแม่ลูกว่าเขาจะออกหน้าจัดการกับเชื้อพระวงศ์ที่ไม่เชื่อฟังให้ จากนั้นให้เจ้าออกหน้าปกป้องเชื้อพระวงศ์เพื่อซื้อใจคนเหล่านั้น เพราะอย่างนี้พวกเราจึงเชื่อเขาอย่างหมดใจ ทว่า อาลี่…พวกเราเชื่อคนผิดแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่ยอมเชื่อแม่!”
หวังจิ่วโจวเห็นขอบกระโปรงที่ยาวลากพื้นของไทเฮามีรอยเลือดติดอยู่จึงรู้สึกประหลาดใจ
“จนถึงตอนนี้ไทเฮาก็ยังคงใส่ร้ายท่านอาเก้าอยู่ ท่านถูกอำนาจและผลประโยชน์ครอบงำจนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีแล้ว! เสด็จแม่ใช้จดหมายปลอมสองสามฉบับใส่ร้ายท่านอาเก้าว่าเขาคิดยกบัลลังก์ของต้าเยี่ยนให้ผู้อื่น ทว่า เสด็จแม่ทรงอย่าลืมว่า…”
สายตาที่มู่หรงลี่มองไปทางไทเฮามีแต่ความผิดหวังเท่านั้น
“หากท่านอาเก้าอยากได้แผ่นดินของต้าเยี่ยนจริงๆ เหตุใดเขาต้องยกบัลลังก์ต้าเยี่ยนให้ข้าด้วย ตอนนั้นราชโองการของเสด็จพ่อ…”
“อาลี่!”
ไทเฮาตวาดออกมาเสียงสูงอย่างคุมสติไม่อยู่ ร่างทั้งร่างของนางเซล้มไปทางขันทีเล็ก บาดแผลที่ท้องของนางเหมือนจะปริออกอีกครั้ง นางกุมท้องของตัวเองด้วยความเจ็บปวดจนแทบทรงตัวไม่อยู่
มู่หรงลี่กล่าวต่อราวกับไม่ได้ยิน
“ตอนนั้นเสด็จพ่อทรงยกราชบัลลังก์ให้ท่านอาเก้าสืบทอด ตอนนั้นเสด็จพี่รองและเฝิงกงกงล้วนอยู่ในเหตุการณ์! มิเช่นนั้นเหตุใดเฝิงกงกงจึงเลือกไปรับใช้ช้างกายท่านอาเก้าหลังเสด็จพ่อสวรรคตเช่นนี้กัน เสด็จแม่…ตอนที่ใส่ร้ายท่านอาเก้าต่างต่างนานา ทรงลืมเหล่านี้ไปหมดแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ ตอนนั้นท่านอาเก้าเผาราชโองการของเสด็จพ่อต่อหน้าข้าและเสด็จพี่รอง เสด็จแม่อยากให้เสด็จพี่รองกลับมาเป็นพยานหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
ขุนนางและเชื้อพระวงศ์ของต้าเยี่ยนในตำหนักใหญ่ต่างตกอยู่ในอาการตกตะลึง พวกเขาไม่อยากเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดจะกลางเป็นเช่นนี้
ทว่า หากไม่ใช่ความจริงจักรพรรดิต้าเยี่ยนจะกล้าตรัสออกมาได้อย่างใดกัน
เมื่อความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย ทุกคนจึงหวนนึกถึงท่าทีที่จักรพรรดิมู่หรงอวี้เคยมีต่อมู่หรงเหยี่ยนตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขานึกถึงเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่ทำให้พอเดาได้ว่าจักรพรรดิมู่หรงอวี้คิดยกบัลลังก์ให้มู่หรงเหยี่ยน ยกตัวอย่างเช่นมู่หรงอวี้เคยให้มู่หรงเหยี่ยนยืนอยู่บนรถคันเดียวกับเขาตอนเดินทางเข้าไปในเมืองหลวงของแคว้นเว่ย
ขุนนางแต่ละคนรู้สึกตกตะลึงมาก
ไทเฮาทนฟังมู่หรงลี่เปิดเผยความจริงเรื่องนี้ไม่ไหว ร่างของนางล้มลงทางด้านหลัง
หวังจิ่วโจวเห็นพื้นตรงชายกระโปรงของไทเฮาเหมือนมีเลือดซึมออกมาเขาจึงก้าวขึ้นไปกล่าวกับมู่หรงลี่
“ฝ่าบาท ดูเหมือนไทเฮาจะได้รับบาดเจ็บพ่ะย่ะค่ะ…”
มู่หรงลี่รีบหันกลับไปมองไทเฮาทันที เขาเห็นเลือดสดไหลออกมาจากกระโปรงยาวของไทเฮา ขันทีเล็กที่ช่วยประคองไทเฮารับน้ำหนักของไทเฮาและชุดหนักอึ้งที่สวมอยู่ไม่ไหว คนทั้งคู่ล้มลงบนพื้นด้วยกัน เหล่าขุนนางจึงสังเกตเห็นว่ากระโปรงของไทเฮาเต็มไปด้วยเลือด…
“เสด็จแม่!”
มู่หรงลี่รีบตรงเข้าไปหาไทเฮาด้วยความตกใจ เขาผลักร่างของขันทีออกและประคองร่างของมารดาไว้เอง
“เสด็จแม่! เร็ว…รีบตามหมอหลวงมาเร็ว”
มู่หรงลี่เคยออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดว่าหากไทเฮาคิดหนีออกมาจากตำหนักพักร้อนให้สังหารทิ้งทันที ดังนั้นแม้องครักษ์ลับของต้าเยี่ยนจะถูกศัตรูที่มีมากกว่าล้อมเอาไว้ ทว่า สุดท้ายพวกเขาก็ทำหน้าที่ของตัวเองสำเร็จ…เขาใช้มีดแทงทะลุร่างของไทเฮาสำเร็จ
ไทเฮาฝืนกลับมาด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้าย นางได้ยินว่าเซียวหรงเหยี่ยนสังหารบุตรชายของซีผิงอ๋องและภรรยาของซีผิงอ๋องซื่อจื่อเพื่อไป๋ชิงเหยียน นางฝืนกลับมาเพื่อปกป้องแผ่นดินของสามีของนาง ต้าเยี่ยนคือแผ่นดินที่มู่หรงอวี้ค่อยๆ สร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบาก นางไม่มีวันปล่อยให้มู่หรงเหยี่ยนยกแผ่นดินของสามีของนางให้ไป๋ชิงเหยียนแน่นอน!
นางรู้ดีว่านางคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน นางให้คนทำแผลให้นางอย่างแน่นหนา ใช้ยาประคองชีวิตของตัวเอง นางใช้น้ำชาเช็ดคราบเลือดและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดหรูบนรถม้าของนาง
ตอนนั้นนางยังไปขอร้องให้มู่หรงเหยี่ยนยอมเห็นด้วยกับความคิดของอาลี่ ตอนนั้นมู่หรงเหยี่ยนคงหัวเราะสะใจนางอยู่ในใจแน่นอน!
ช่างเป็นเรื่องน่าขันที่สุดในใต้หล้าจริงๆ