หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่182 หลบหลังข้า

บทที่182 หลบหลังข้า

บทที่182 หลบหลังข้า

มีการออกคำสั่งอยู่ในน้ำเสียง

“ไม่!ไม่! ข้าไม่อยากลง”หลานเยาเยาออดอ้อนอย่างยากที่จะเห็น

น้ำเสียงนุ่มนวล ทำให้คนฟังมีความคิดจะลงมือ

นางละทิ้งศักดิ์ศรีเริ่มจะโผเข้ากอด เขายังหงุดหงิดอยู่หรือ?

ฮู้……

ปรนนิบัติยากจริงๆ

“ถ้าเจ้าอยากให้เขาเห็น ข้าก็ไม่ว่าอะไร”

อื้ม?

เขา?

สายตาของหลานเยาเยาก็ย้ายจากหน้าของเย่แจ๋หยิ่งมองไปรอบๆทันที

ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องสว่าง ในห้องนอกจากพวกเขาสองคนแล้วยังมีหานแสที่นอนอยู่บนเตียงอีกคนนึง

ตอนนี้หานแสกำลังมองพวกเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความอึดอัด

แม้จะบอกว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยา แต่มาสนิทสนมเช่นนี้ต่อหน้าคนนอก มันก็อาจจะมีผลกระทบบ้างใช่ไหม?

“อะแฮ่ม……”

เขาตั้งใจกระแอมเล็กน้อยเพื่อบ่งบอกว่าเขาตื่นอยู่

หลานเยาเยาแข็งเป็นหินทันที

มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมเย่แจ๋หยิ่งไม่เตือนสักนิดหล่ะ? นี่มันช่างน่าอับอายมาก

สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าหลานเยาเยาลงมาจากตัวของเย่แจ๋หยิ่งอย่างไรแต่โดยรวมแล้วเหตุการณ์น่าอึดอัดมาก

แต่ทว่า!

ดีที่นางควบคุมตนเองได้ดีพอหลังจากลงมาจากตัวของเย่แจ๋หยิ่งแล้ว นางก็ลืมเรื่องเมื่อครู่ไปหมดแล้วมาจับชีพจรให้หานแสอย่างสงบนิ่ง

หานแสที่หลังจากการโจมตีของพิษ แม้ว่าจะหน้าซีด ร่างกายอ่อนแรงอยู่บ้าง แต่นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีอะไรร้ายแรง

นี่มันแปลกไหม?

เลือดไหลออกมาจากตัวเขามากขนาดนั้นแม้นางจะให้ยาบำรุงเลือดเขาไปสองเม็ดแต่ก็ไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ในทันที

“ทุกครั้งหลังจากที่เจ้าป่วยจะกินหรือทำอะไร?”

หานแสที่หน้าตานิ่งหลังจากมองเย่แจ๋หยิ่งก็พูดเรียบๆว่า:

“เคยมีผู้เก่งกาจท่านหนึ่ง มีวิธีรักษาสูง แม้เขาจะรักษาอาการป่วยของข้าไม่ได้แต่เขาให้ยาข้ามาขวดนึง ให้ข้ากินหลังป่วย ดังนั้นร่างกายของข้าตอนนี้ไม่ถึงกับขาดน้ำ”

ว้าว!

มียาแบบนี้ด้วย สามารถเพิ่มเลือดได้เร็วขนาดนั้น?

นั่นมันสุดยอดไปแล้ว!

“ยังมีเม็ดยานั่นอยู่ไหม? ให้ข้าดูหน่อย”

ในสายตาที่รอคอยของหลานเยาเยา หานแสก็ส่ายๆหัว

“ไม่มีแล้ว สองสามวันก่อนนี้ที่หลังจากพิษโจมตี ข้าได้กินเม็ดสุดท้ายไปแล้ว”

“อ้อ น่าเสียดาย”

แม้จะเสียดายอยู่บ้างแต่หลานเยาเยาก็ไม่ได้ไปพัวพันกับเรื่องเม็ดยาอีกแต่กลับถามว่า:

“ทำไมท่านชายหยิ่งเจ้าของเรือแห่งความสิ้นหวังถึงจับเจ้า?”

เมื่อถามคำถามนี้ออกไปหานแสก็มองนางแปลกๆ หลังจากที่มองไม่ออกว่ามีอะไรแปลกจึงพูดเรียบๆว่า:

“เพราะเขาต้องการเลือดข้า เลือดของข้าสามารถเพิ่มพลังของเขาได้อย่างมาก”

“อ้อ~ข้าเข้าใจแล้ว ครั้งก่อนข้าเอาเลือดเจ้าไปเล็กน้อยจากนั้นเจ้าก็ถูกท่านชายหยิ่งจับไป

ดังนั้นเจ้าก็เลยคิดว่าเป็นข้าที่ทำให้ความลับเรื่องเลือดพิเศษของเจ้ารั่วไหล

ตอนนี้ข้าก็พอเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

เพียงแต่ว่าสายตาของหานแสยังคงมองนางแปลกๆ ดูเหมือนจะไม่เชื่อ

“เจ้าคงไม่คิดว่าข้าทรยศเจ้าอยู่ใช่ไหม?”

“แล้วไม่ใช่หรือ?”

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยากลอกตามองเขาแล้วอธิบายอย่างใจเย็น:

“ท่านชายหยิ่งกับท่านอ๋องของข้าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง ข้าคือพระชายาเย่ อีกอย่างข้ากับเจ้าก็ไม่มีความแค้นต่อกัน ข้าเอาความของเจ้าไปบอกท่านชายหยิ่งแล้วมันจะมีประโยชน์อันใดต่อข้า?”

เป็นเรื่องที่ไม่ได้ประโยชน์อันใดเลย นางต้องบ้าไปแล้วถึงจะทำ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใช้หัวแม่เท้าคิดก็สามารถเข้าใจได้แล้ว แต่เขากลับคิดไม่ได้

ไอคิวนี้คาดว่าน่าจะแย่กว่านางละ

“แต่คุณหนูหลานชิวหยุนของจวนแม่ทัพ พี่สี่ของเจ้าตอนนี้อยู่ในกำมือของท่านชายหยิ่ง มันยากที่จะรับประกันว่าเจ้าจะไม่ลืมมิตรภาพแล้วทรยศข้า

ถึงอย่างไร!

ตัวข้าสำหรับเจ้าแล้วก็เป็นแค่คนแปลกหน้าแต่คุณหนูสี่ตระกูลหลานจะพูดยังไงก็เป็นพี่สาวของเจ้า”

ที่แท้ก็ยังมีเรื่องแบบนี้

จำได้ว่าหลังจากที่หลานชิวหยุนถูกหลานเฉินมู๋ส่งไปยังอารามถ้ำในป่าทึบ หลานชิวหยุนหนีออกมาแต่ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

คิดไม่ถึงว่านางจะไปตกอยู่ในกำมือของท่านชายหยิ่ง

นี่ช่างน่าสนใจ!

คนอย่างหลานชิวหยุนจะมีค่าอะไร?

แต่ว่า!

ข่าวนี้ทำให้หลานเยาเยาดีใจขึ้นมาทันที

“ท่านชายหยิ่งนี่โหดร้ายอำมหิต ไม่รู้ว่าวิธีการทรมานคนของเขาจะโหดร้ายอำมหิตหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นหลานชิวหยุนตกไปอยู่ในกำมือของเขาก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีสิ!

ไม่ได้ละ ข้าจะต้องไปซื้อประทัดมาจุดฉลองเสียหน่อย”

นางพูดอย่างคึกคัก โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าหานแสเริ่มประหลาดใจ สุดท้ายก็กลายเป็นมุมปากที่กระตุกไม่หยุด

สรุปเป็นครอบครัวหรือศัตรูกันแน่?

เย่แจ๋หยิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆสายตามองที่ถ้วยชาอยู่ตลอด

แม้เขาจะไม่ได้มองการเคลื่อนไหวทางเตียง แต่การสนทนาของพวกเขา เขาฟังไม่พลาดไปแม้แต่ตัวเดียว

หลังจากนั้น

หลานเยาเยาก็สั่งใบสั่งยาปรับสภาพร่างกาย จากนั้นก็เตรียมจะไปหยิบยา

ใครจะรู้……

เย่แจ๋หยิ่งตามนางมาด้านหลังพูดอย่างหึงหวงว่า:

“เขามีมือมีเท้า สามารถหยิบยาเองได้”

พูดเป็นนัยก็คือ: พวกเจ้าสองคนก็ไม่ใช่ญาติสนิทมิตรสหายกัน จะไปดีกับเขาทำไม?

“นี่เจ้าไม่เข้าใจรึไง!ข้าเป็นหมอ หมอก็ต้องเมตตาสิ!

แน่นอนว่าต้องดีกับคนไข้ อีกอย่างร่างกายของเขาก็มีคุณค่าทางวิจัยอย่างมากแน่นอนว่าข้าต้องปฏิบัติต่อเขาให้ดี”

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตนเองที่ต้องประจบสอพลอไม่ให้อารมณ์เสีย นางจึงพูดเอาความคิดในใจทั้งหมดออกมา

“ตอนที่ข้าบาดเจ็บ เจ้าไม่ได้ทำกับข้าเช่นนี้”

เขายังจำตอนนั้นได้ที่หลานเยาเยาฉีกเสื้อผ้าของเขาและยังปิดปากเขาไว้ อีกทั้งยังมัดตัวเขาไว้อีก

ไม่ได้เป็นหมอที่มีความเมตตาอย่างที่นางพูดออกมาตอนนี้สักนิด

หลานเยาเยานี่คือการปฏิบัติที่แตกต่างกัน

เมื่อเย่แจ๋หยิ่งพูดถึงเรื่องนี้ หลานเยาเยาก็คอหดทันที

ถ้าในตอนนั้นนางรู้ว่าคนที่ถูกนางฉีกเสื้อผ้าและมัดไว้คือเย่แจ๋หยิ่งผู้มีอำนาจสูงส่ง ให้ตายนางก็ไม่กล้าทำอย่างนั้น

พอตอนนี้คิดๆดูแล้ว ชีวิตของตนเองยิ่งใหญ่จริงๆ!

ดังนั้นนางจึงรีบทำหน้ายิ้ม

“ตอนนั้นเจ้าเย็นชาอย่างกับน้ำแข็ง แค่มองก็ทำให้คนแข็งตายแล้ว ถ้าข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้ารักษาให้เจ้า เจ้าจะยอมไหม?”

นางค่อนข้างแน่ใจ

เย่แจ๋หยิ่งจะไม่เพียงไม่ยินยอมแต่จะยังไล่นางไปไกลๆอย่างไร้ปรานีอีกด้วย

ตอนนี้ เย่แจ๋หยิ่งไม่พูดอะไร

“พอละ พอละ ก็กะอีกแค่หยิบยา!มันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร

หลังจากนี้ถ้าเจ้าป่วย ข้าจะปรนนิบัติเจ้าอย่างบรรพบุรุษเลย เจ้าว่าได้ไหม?”

เมื่อเห็นว่าเย่แจ๋หยิ่งยังคงเม้มปาก หลานเยาเยาก็พูดอ้อนๆอีกครั้ง หน้านิ่งๆของเย่แจ๋หยิ่งจึงผ่อนคลายลง

รอจนกระทั่งตอนที่พวกเขากลับจากร้านยามายังโรงเตี๊ยม

โรงเตี๊ยมนี้ก็เงียบสงัดอย่างเห็นได้ชัดจนทำให้หลานเยาเยาระมัดระวังตัวขึ้นมาทันที

แต่เมื่อตอนที่นางเห็นเย่แจ๋หยิ่งยังคงเดินอย่างเฉื่อยชา นางก็รีบส่งเสียงเตือน

“นี่ เย่แจ๋หยิ่ง โรงเตี๊ยมนี้ผิดปกตินะ!”

“อื้ม!”

ตอบมาแค่คำเดียวเนี่ยนะ?

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะโมโหขึ้นมารีบพูดเสียงเบาๆอีกครั้งว่า:“มีกลิ่นความอาฆาตอีกทั้งยังรุนแรงด้วย”

“อื้อ มาหลบหลังข้า”

ตอนนี้ นัยน์ตาหลานเยาเยาเป็นประกายรีบต๊อกแต๊กมาหลบหลังเย่แจ๋หยิ่ง

แบบนี้ไม่ต้องออกแรงยังสามารถดูหนังต่อสู้ยอดเยี่ยมได้ฟรีๆอีกด้วย และก็ยังเป็นความเพลิดเพลินอีกแบบหนึ่ง

ทันใดนั้น!

“อ๊า……”

เสียงกรีดร้องดังขึ้น

มีเสียง“ปัง”ชั้นสองหน้าต่างในห้องที่หานแสอยู่ถูกกระแทกให้เปิดออกแล้วก็มีคนตกลงมาข้างล่างจากตรงนั้น

“พู่ว……”

มีเลือดพ่นออกมา จากนั้นก็สลบไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท