บทที่ 920 ตำนาน (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ณ ธาร​สวรรค์​

มหาเทพ​กับ​ตี้ซ​วิน​ยืน​เคียงคู่​กัน​ ทั้งสอง​สวม​เสื้อคลุม​สีทอง​ สวม​กวน​จักรพรรดิ​สวรรค์​ บน​ร่าง​มีลวดลาย​อีกา​ทอง​สามขา​ สิ่งที่​เด่น​สะดุดตา​ที่สุด​คือ​ บน​ร่าง​ทั้งคู่​มีแสงสีขาว​เรืองรอง​ออกมา​เบาบาง​

แสงนี้​เหมือนกับ​แผ่​กระจาย​ออก​มาจาก​เบื้องหลัง​พวกเขา​ แต่​ถ้าหาก​มีคน​เดิน​ไปด้านหลัง​พวกเขา​ ก็​ไม่เจอ​แหล่งกำเนิด​แสงนั้น​เช่นกัน​

นี่​คือ​แสงแห่ง​จิต​ปฐมที่​อวิ๋น​เห​มิงพูดถึง​

มหาเทพ​ยืน​อยู่​ด้านบน​ ก้ม​มอง​กองทัพ​เผ่า​ปีศาจใน​ธาร​สวรรค์​สีเงิน​เบื้องล่าง​ที่​ระดม​มาจาก​ทั่วทุกสารทิศ​

แม่ทัพ​เทพ​ปีศาจหลาย​ตน​นำ​ทัพ​มาถึงที่นี่​ กองทัพ​ขนาด​ยิบ​ย่อย​ได้​กลายเป็น​ทัพ​มหึมา​ไม่อาจ​เห็น​จุดสิ้นสุด​

“เสาสวรรค์​หัก​โค่น​ถล่ม​ลง​แล้ว​ การกระทำ​ของ​บรรพชน​เวท​ทำให้​สิ่งมีชีวิต​บน​ผืนดิน​พินาศ​ วันนี้​พวกเรา​จะทำลาย​บรรพชน​เวท​ เพื่อ​ช่วยเหลือ​ชีวิต​นับ​หมื่น​นับ​พัน​ออกจาก​ขุมนรก​” มหาเทพ​กล่าว​เชื่องช้า​

“เห​ลยกง​ รัว​กลอง​!” เขา​ส่งสายตา​มอง​เห​ลยกง​และ​เตี้ย​น​หมู่​ที่อยู่​ไม่ไกล​ออก​ไป ทั้งสอง​เข้าใจ​รัว​ตี​กลอง​สายฟ้า​อย่าง​บ้าคลั่ง​

ครืน​!

ท้องฟ้า​ส่งเสียง​ฟ้าร้อง​ต่อเนื่อง​ สายฟ้า​ฟาด​ไม่หยุดหย่อน​รอบ​ธาร​สวรรค์​แน่นขนัด​ราวกับ​ใยแมงมุม​

“ออกเดินทาง​!” เทพ​ปีศาจตน​หนึ่ง​ด้านล่าง​ชูตรีศูล​ขึ้น​ส่งเสียงคำราม​

ฉับพลัน​กองทัพ​อุทยาน​ปีศาจขนาด​มหึมา​ ต่าง​หลั่งไหล​เดินหน้า​ไปยัง​อาณาเขต​บน​ผืนดิน​ที่​บรรพชน​เวท​อยู่​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ ดุจ​สายน้ำ​สีเงิน​ลาดเท​จาก​ธาร​สวรรค์​

ใน​อุทยาน​ปีศาจ เผ่า​เวท​เอง​ก็​เตรียม​กองทัพ​จำนวน​เหลือ​คณานับ​ไว้​แล้ว​เช่นกัน​ สัตว์​เทพ​ขุย​ตี​รัว​กลอง​ศึก​หนัง​วัว​ เสียง​ฟ้าร้อง​พร้อมกับ​เสียง​อัสนี​บาต​

ทหาร​ใน​เผ่า​เวท​ราว​กระแสน้ำ​สีดำ​นับไม่ถ้วน​พุ่ง​เข้าหา​ทัพ​ปีศาจธาร​สวรรค์​ สอง​ฝ่าย​ต่าง​ใช้อาคม​อิทธิฤทธิ์​สุด​แรง​

ทัพ​ปีศาจอาวุธ​เต็มอัตรา​ ถนัด​อิทธิฤทธิ์​ พรสวรรค์​แข็งแกร่ง​มากมาย​

ทาง​เผ่า​เวท​มีกาย​เนื้อ​เหี้ยมหาญ​ ไม่กลัว​การ​โจมตี​ด้วย​แกน​เวท​ ต่าง​ก็​กระหายเลือด​ไม่กลัว​ตาย​ทั้งสิ้น​

ทั้งสองฝ่าย​ปะทะ​กัน​ดุเดือด​ยิ่ง​

แต่​ผู้​ที่​ลงมือ​มีเพียง​ระดับ​ทั่วไป​เท่านั้น​ เทพ​ปีศาจขั้นสูง​และ​สุดยอด​จอม​เวท​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ ต่าง​ไม่ขยับตัว​เคลื่อนไหว​ใดๆ​ ทั้งสิ้น​

จอม​เวท​เป็น​คำ​เรียก​ผู้นำ​เผ่า​ แต่ว่า​จอม​เวท​ผู้นำ​เผ่า​ใหญ่​มีพลัง​เหนือกว่า​จอม​เวท​เผ่า​ทั่วไป​

เทพ​ปีศาจก็​เช่นกัน​ พวกเขา​มีระดับ​แตก​ต่างกัน​มหาศาล​ ตั้งแต่​เซียน​ทองคำ​ขั้น​ล่าง​ถึงเซียน​ทองคำ​ขั้น​บน​ คนละ​ระดับ​โดยสิ้นเชิง​

บน​ที่ราบ​กว้าง​แถบ​เขา​ปู้โจว​ซาน​ ธาร​สวรรค์​ถล่ม​ลงมา​ กองทัพ​จำนวน​หลาย​ร้อย​ล้าน​ของ​เผ่า​เวท​และ​ปีศาจฆ่าฟัน​กัน​อย่าง​บ้าคลั่ง​

ดินแดน​สุด​บูรพา​ร้อนแรง​อีก​แห่ง​หนึ่ง​ สิบ​โอรส​อีกา​ทอง​แอบ​นำ​ทัพ​ปีศาจเข้า​ด้านหลัง​เผ่า​เวท​ คิด​ลอบ​โจมตี​ แต่กลับ​ถูก​จอม​เวท​คัว​ฝูที่​เฝ้ารักษาการณ์​อยู่​ค้นพบ​

ทั้งสองฝ่าย​เปิดศึก​เป็น​ตาย​

ไกล​ออก​ไป ใน​ความว่างเปล่า​นอก​สามสิบ​สามชั้น​ฟ้า วง​แสงอ่อนโยน​สามสาย​ลอย​นิ่ง​ วง​แสงมีสีสัน​ต่างกัน​ ด้านใน​มีผู้วิเศษ​ต่าง​สถานะ​ยืน​อยู่​

ใน​วง​แสงสีเขียว​ ทง​เทียน​เจียว​จู่แห่ง​เหนือ​พิสุทธิ์​สะพาย​กระบี่​ชิงผิง​ไว้​เบื้องหลัง​ มอง​ศึก​ใหญ่​เบื้องล่าง​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​

ใน​วง​แสงสีทองขาว​ หยวน​ฉื่อ​เทียน​จุน​แห่ง​หยก​พิสุทธิ์​คลุม​แถบ​ผ้า​ เครา​ขาว​ปลิว​ไสว​ สอง​ตา​เปล่งแสง​สีขาว​แวววาว​ มุมปาก​ยก​ยิ้ม​

ใน​วง​แสงสีฟ้า เต้า​เต๋อ​เทียน​จุน​แห่ง​เอก​พิสุทธิ์​นั่งขัดสมาธิ​ ผม​ขาว​พลิ้ว​สยาย​ สอง​ตา​ปิด​สนิท​เหมือน​งีบหลับ​

ในที่สุด​สงคราม​ของ​อุทยาน​ปีศาจกับ​เผ่า​เวท​ก็​อุบัติ​ขึ้น​ แต่ว่า​ใน​สายตา​ของ​ผู้วิเศษ​ทั้ง​สาม เป็น​เพียง​รูป​เดิม​ที่​กำเนิด​ขึ้น​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​การ​เกิด​และ​การดับ​ของ​สรรพสิ่ง​ เป็น​ปกติธรรมดา​

สาเหตุ​ที่​พวกเขา​มาด้วยกัน​ ก็​เพื่อ​เผชิญหน้า​กับ​สามผู้วิเศษ​ที่​ลอย​อยู่​กลาง​ความว่างเปล่า​เช่นกัน​

ใน​วง​แสงสีแดง​ ผู้วิเศษ​หนี่ว์​วา​หน้า​งามเย็นชา​ มือ​ประคอง​ดิน​เหลือง​ มอง​สมรภูมิ​ของ​สงคราม​ใหญ่​ด้านล่าง​

ใน​วง​แสงสีทอง​ด้าน​ข้าง​ จุ่น​ถีเต้า​หยิน​ยืน​อยู่​ใน​ระดับ​เดียวกัน​กับ​หนี่ว์​วา​ สีหน้า​เผย​รอยยิ้ม​

“พวกเรา​ต่าง​เคย​เป็น​ศิษย์​ของ​อาจารย์​ใน​ตำหนัก​พิมาน​เมฆา เหตุใด​ทุกท่าน​ต้อง​ทำ​เช่นนี้​เพื่อ​บั่นทอน​น้ำใจ​กัน​ด้วย​เล่า​” จุ่น​ถีเต้า​หยิน​เป็น​คน​อ่อนโยน​เสมอมา​เอ่ย​ถาม

“เผ่า​ปีศาจ เผ่า​เวท​ กับ​เผ่า​มนุษย์​ที่​ข้า​สร้าง​ เข้าร่วม​สงคราม​ ตอนนี้​ผืนดิน​สั่นสะเทือน​ เขา​ปู้โจว​ซาน​ถล่ม​ ชีวิต​มอดม้วย​ ไร้​สุขาวดี​ ข้า​ใน​ฐานะ​ผู้วิเศษ​เผ่า​ปีศาจ ตอนนี้​หาก​ไม่ลงมือ​ คง​เสียที​ที่​เป็น​ผู้วิเศษ​” หนี่ว์​วา​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​

“นี่​คือ​สภาวะ​ฟ้าดิน​ อย่างไร​เผ่า​เวท​และ​ปีศาจก็​ต้องสู้​กัน​ เหตุใด​ผู้วิเศษ​หนี่ว์​วา​ต้อง​ยึด​ติดกับ​ความรุ่งเรือง​ของ​เผ่า​ปีศาจปาน​นั้น​” หยวน​ฉื่อ​เทียน​จุน​พ่น​ลมหายใจ​ทอด​ยาว​ น้ำเสียง​ราบเรียบ​ เหมือน​ไม่ขุ่นเคือง​แม้แต่น้อย​

“ข้า​ไม่ใช่ผู้​ที่​สังหาร​สามอสุ​ภะแล้ว​บรรลุ​ธรรม​อย่าง​พวก​ท่าน​ ข้า​ยังมี​อารมณ์​รัก​โลภ​โกรธ​หลง​ และ​เผ่า​ปีศาจก็​ยกย่องนับถือ​ข้า​ เผ่า​มนุษย์​เอง​ก็​เป็น​ลูก​ๆ ของ​ข้า​ เลือดเนื้อเชื้อไข​ห้ำหั่น​กันเอง​แบบนี้​ ข้า​ต้อง​ลงมือ​” หนี่ว์​วา​แค่น​เสียง​คำ​หนึ่ง​ ดิน​เหลือง​ใน​มือ​จับตัว​เป็น​ก้อนดิน​สีเหลือง​ก้อน​หนึ่ง​อย่าง​รวดเร็ว​

นี่​เป็น​ดิน​เหลือง​ที่​หลงเหลือ​จาก​การ​ที่​นาง​สร้าง​มนุษย์​คราว​นั้น​ ปัจจุบัน​ได้​เติม​อานิสงส์​เข้าไป​ จึงกลายเป็น​สมบัติ​ของ​ผู้วิเศษ​หลัง​กำเนิด​ หาก​โปรย​ลง​ไป จะทำให้​ทุก​สรรพ​ชีวิต​กลายเป็น​ดิน​เหลือง​ได้​

“วัฏจักร​ฟ้าดิน​ย่อม​มีกฎ​ เหตุใด​ศิษย์​น้อง​ต้อง​แข็งข้อ​เช่นนี้​ด้วย​” เต้า​เต๋อ​เทียน​จุน​แห่ง​เอก​พิสุทธิ์​เอ่ย​แช่มช้า

“ข้า​เพียงแค่​…อยาก​จะเหลือ​เชื้อไฟ​ไว้​บางส่วน​ แค่นี้​พวก​ท่าน​ก็​จะขวาง​ข้า​หรือ​” ใบหน้า​ของ​หนี่ว์​วา​ฉาย​ความเด็ดเดี่ยว​

นาง​แตกต่าง​จาก​สามพิสุทธิ์​ พวกเขา​คือ​ผู้วิเศษ​ก่อน​กำเนิด​ หรือ​วิญญาณ​เทพ​โดยกำเนิด​ ส่วน​นาง​สั่งสมบุญ​กุศล​จน​บรรลุ​ธรรม​ ภายใต้​วัฏจักร​ฟ้าดิน​ สิ่งที่​ถูก​ทำลาย​คือ​ชาว​ประชา​ของ​นาง​ ลูก​ๆ ของ​นาง​

“ผู้วิเศษ​หนี่ว์​วา​มีจิต​เมตตากรุณา​เผ่า​เวท​และ​ปีศาจ ยินดี​ร่วมมือ​กับ​ชมพูทวีป​ของ​เรา​ตถาคต​ เรา​ย่อม​ต้อง​ลงมือ​ช่วยเหลือ​” จุ่น​ถียิ้ม​อย่าง​เมตตา​ มือ​สาด​แสงเจ็ด​สี ไม้เท้า​หยาบ​ใหญ่​ท่อน​หนึ่ง​ปรากฏ​ใน​มือ​เขา​

ไม้เท้า​ท่อน​นั้น​เหมือน​ต้นไม้​ ตรง​ปลาย​ห้อย​ของล้ำค่า​เจ็ด​ชนิด​ ได้แก่​ ทอง​ เงิน​ แก้ว​ ผลึก​ ปะการัง​ มุก​สีแดง​ และ​โมรา​

ของล้ำค่า​ใน​นี้​สาด​แสงสีรุ้ง​ แบ่ง​ดา​วสี​รุ้ง​ออกมา​เป็น​กลุ่ม​ๆ ลอย​วนเวียน​รอบตัว​จุ่น​ถี

เขา​กับ​หนี่ว์​วา​บรรลุ​ธรรม​หลัง​กำเนิด​เหมือนกัน​ เขา​ตั้ง​ปณิธาน​ใหญ่​จน​บรรลุ​ธรรม​ ทุกสิ่ง​ที่​ทำ​ต่าง​ก็​เพื่อ​โปรดสัตว์​ให้​แก่​ชมพูทวีป​ ครั้งนี้​ที่มา​ ก็​เพราะ​สามพิสุทธิ์​ได้เปรียบ​ เขา​กับ​หนี่ว์​วา​จึงร่วมมือ​เป็น​พันธมิตร​กัน​ ต่อต้าน​อีก​ฝ่าย​

“เช่นนั้น​ ก็​มาสู้กัน​สัก​ตั้ง​” ทง​เทียน​เจียว​จู่แห่ง​เหนือ​พิสุทธิ์​ชัก​กระบี่​ชิงผิง​ออก​มาจาก​ด้านหลัง​ สีหน้า​เย็นเยียบ​

ตำหนัก​หงส์​เพลิง​

ลู่​เซิ่งนำ​แผ่น​หยก​กลับ​มาถึงห้องนอน​ตัวเอง​ ข้อมูล​ที่​ได้​จากอ​วิ๋น​เห​มิงทำให้​เขา​ใคร่ครวญ​อีกครั้ง​

ถ้าหาก​เทพ​ปีศาจคือ​ระดับ​มายา​พิศวง​ อย่างนั้น​ตี้ซ​วิน​ มหาเทพ​ ซีเห​อ​ คุรุ​ปีศาจคุ​นเผิง​ ซึ่งเป็น​สี่คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​อุทยาน​ปีศาจ ถ้าไม่ใช่สุดยอด​เทพ​ปีศาจ ก็​เป็น​จอม​อริยะ​

เมื่อ​ได้​เห็น​ระดับ​เทพ​ปีศาจ ลู่​เซิ่งกลับ​คิด​จะทดลอง​ความ​ร้ายกาจ​ของ​จอม​อริยะ​ดู​

ขณะ​นั่งขัดสมาธิ​ใน​ห้องนอน​ เขา​หยิบ​แผ่น​หยก​ออกมา​ตรวจสอบ​อย่าง​ละเอียด​ แต่​ไม่ว่า​จะตรวจสอบ​อย่างไร​ ใช้จิตวิญญาณ​กวาด​มอง​อย่างไร​ ก็​มองไม่เห็น​เนื้อหา​ใดๆ​ ทั้งสิ้น​

ต้อง​ใช้จิต​ปฐมตรวจสอบ​ดู​ ถ้าเรา​ใช้เส้นทาง​ผู้​บำเพ็ญ​ปราณ​ กลับ​ตรวจสอบ​แผ่น​หยก​ใน​ขอบเขต​เทพ​จำแลง​ได้​ แต่​ตอนนี้​เรา​เป็น​ปีศาจ มีกาย​อริยะ​สายเลือด​หงส์​เพลิง​ และ​ไม่มีจิต​ปฐม ไม่มีวิธี​จัดการ​ได้​จริงๆ​

ต่อให้​เป็น​ร่าง​หลัก​ เขา​ก็​ลอง​ใช้จิตวิญญาณ​กวาด​มองดู​แล้ว​ ก็​ยังคง​ไร้ผล​ ของ​สิ่งนี้​เหมือนกับ​ศิลา​หยก​ธรรมดา​ทั่วไป​ ด้านใน​ว่างเปล่า​ไม่มีอะไร​เลย​

จิต​ปฐมเป็น​การดำรงอยู่​ที่​เหนือกว่า​สาร​กาย​ ปราณ​ จิต​ ใน​การสืบทอด​หงส์​เพลิง​น่าจะ​มีเนื้อหา​ที่​เกี่ยวข้อง​

ลู่​เซิ่งกลับ​ไปตรวจดู​ความรู้​ที่​ได้รับ​ถ่ายทอด​มาอีกครั้ง​

ก่อนหน้านี้​เขา​รับ​มาใน​คราว​เดียว​ ไม่ทัน​ได้​จัดระเบียบ​ เพียง​เลือก​ส่วน​ของ​วิชา​ออกมา​ดู​เท่านั้น​

ตอนนี้​พอ​กลับ​มาหา​จิต​ปฐม เขา​ก็​เจอ​เบาะแส​เข้า​

“จิต​ปฐม คือ​ จิต​ก่อน​กำเนิด​ จิตวิญญาณ​ใน​สาร​กาย​ ปราณ​ จิต​คือ​จิต​หลัง​กำเนิด​ หาก​คิด​จะกลับ​สู่ต้นกำเนิด​ เพื่อ​สร้าง​แกน​จิต​ขึ้น​อีกครั้ง​ จะต้อง​หลอม​รวม​สาร​กาย​ และ​ปราณ​ เข้ากับ​จิตวิญญาณ​ สามสิ่งผสมผสาน​ ก่อเกิด​การ​เผาไหม้​ กลายเป็น​อัคคี​ปฐม อัคคี​ปฐมเผาไหม้​คราบ​สกปรก​สิ่งเจือปน​ สิ่งที่เหลืออยู่​ก็​คือ​จิต​ปฐม”

บันทึก​ใน​การ​ถ่ายทอด​ของ​หงส์​เพลิง​ชัดเจน​มาก​ ลู่​เซิ่งสรุป​มัน​ออกมา​เป็น​ย่อหน้า​สั้น​ๆ

เมื่อ​อ่าน​ดู​ เขา​ก็​เข้าใจ​ความแตกต่าง​ของ​ผู้​บำเพ็ญ​ปราณ​และ​เผ่า​ปีศาจ

เผ่า​ปีศาจพยายาม​รวบรวม​วัตถุดิบ​ เมื่อ​รวบรวม​ได้​มาก​พอ​ ทุกอย่าง​ก็​จะลุกไหม้​และ​ระเบิด​ อานุภาพ​ที่​เพิ่มขึ้น​จะมหาศาล​ จิต​ปฐมเอง​ก็​จะแข็งแกร่ง​และ​เยอะ​ขึ้น​เช่นกัน​

ส่วน​ผู้บำเพ็ญเพียร​จะเริ่ม​จุดไฟ​กลุ่ม​เล็ก​ๆ ค่อยๆ​ เผาไหม้​สั่งสม

แต่​อุณหภูมิ​ย่อม​ไม่สูงเท่า​การระเบิด​ใน​ทีเดียว​ สิ่งที่​เผา​ออกมา​จึงสู้เผ่า​ปีศาจไม่ได้​ แต่​มีข้อดี​ตรง​เป็นลำดับ​ขั้นตอน​และ​ปลอดภัย​

“อย่างนั้น​บันทึก​ทักษิณ​อายุวัฒนะ​วัฏจักร​ที่​เจ็ด​สิบเอ็ด​ใน​ปัจจุบัน​ของ​เรา​ก็​สั่งสมวัตถุดิบ​ที่​มาก​พอแล้ว​ไม่ใช่หรือ​ ขอ​แค่​จุดไฟ​เผา​ ก็​จะสร้าง​จิต​เทพ​ออกมา​ได้​อย่างนั้น​หรือ​” ลู่​เซิ่งนึกถึง​สภาพ​ของ​ตน​ใน​ปัจจุบัน​

“แต่​ก่อนหน้า​นั้น​ จะต้อง​ทำความเข้าใจ​ก่อน​ว่า​ พลัง​ของ​เรา​ใน​ตอนนี้​อยู่​ใน​ระดับ​อะไร​” ลู่​เซิ่งคิด​ใคร่ครวญ​

เป็นไป​ได้มา​กว่า​จอม​อริยะ​ของ​อุทยาน​ปีศาจจะเป็น​สี่คน​นั้น​ ส่วน​จอม​อริยะ​ของ​โลก​เบื้องล่าง​ก็​อาจจะ​เป็น​บรรพชน​เวท​สิบ​คน​

ดังนั้น​ถ้าจะลองดู​ คง​ได้​แต่​หา​…ไม่ใช่สิ!

ทันใดนั้น​ลู่​เซิ่งก็​นึกถึง​คน​คน​หนึ่ง​ หงอ​วิ๋น!​

แต่ว่า​ ตอนนี้​เผ่า​เวท​กับ​ปีศาจทำศึก​ใหญ่​ บางที​หา​กรอ​สักหน่อย​ ก็​จะมีผู้​เข้ม​แข้ง​ระดับ​จอม​อริยะ​ลงมือ​…ถึงเวลา​นั้น​ค่อย​…

ตูม​!

ทันใดนั้น​ท้องฟ้า​เหนือ​อุทยาน​ปีศาจมืดครึ้ม​ลง​

ลู่​เซิ่งรู้สึก​ได้​ว่า​เหมือน​มีบางอย่าง​ถูก​เจาะ ส่งคลื่นเสียง​แข็งแกร่ง​ไร้​รูปร่าง​ออกมา​

คนธรรมดา​ไม่ได้ยิน​คลื่นเสียง​นั้น​ มีเพียง​เผ่า​หงส์​เพลิง​ที่อยู่​ใน​ขอบเขต​สูงเช่น​ลู่​เซิ่งที่​ควบคุม​ท่วงทำนอง​เท่านั้น​ ถึงจะสัมผัส​ได้​

เขา​เร่งฝีเท้า​เดิน​ออก​มาจาก​ห้อง​ เงยหน้า​มอง​ คลื่นเสียง​นั้น​ส่งมาจาก​ดวงอาทิตย์​เหนือศีรษะ​

โอรส​อีกา​ทอง​มีหน้าที่​ดูแล​การ​โคจร​ของ​ดวงอาทิตย์​ ตั้งแต่​ขึ้น​จน​ตก​

ทว่า​ดวงอาทิตย์​ใน​ตอนนี้​กลับ​กะพริบ​แสงทอง​น่า​ตระหนก​ ลำ​เพลิง​สีทอง​หลาย​สาย​พุ่ง​ออก​มาจาก​ด้านใน​ และ​ร่วง​ตกไป​

แม้จะอยู่​ใน​อุทยาน​สวรรค์​ที่​มีค่าย​กล​ดวงดาว​ครอบ​นภา​คอย​คุ้มครอง​ ลู่​เซิ่งก็​ยัง​รู้สึก​ร้อน​ลวก​ไปทั่ว​ร่าง​อยู่ดี​

สติ​ไม่ทัน​ได้​กลับมา​ ดวงอาทิตย์​ก็​แบ่ง​ก้อน​แสงร้อนระอุ​หลาย​ดวง​อย่าง​ต่อเนื่อง​สิบ​กว่า​ดวง​ออกมา​

ด้วย​แสงเจิดจ้า​และ​ร​วาม​ร้อนระอุ​ ทำให้​อากาศ​เดือด​พล่าน​บิดเบี้ยว​เลือนราง​

“นี่​มัน​…!” ลู่​เซิ่งนึกถึง​ตำนาน​ที่​เกี่ยวข้อง​ทันที​

ดวงอาทิตย์​สิบ​ดวง​สาดส่อง​ผืนดิน​ สรรพสัตว์​ทน​ทรมาน​ ปฐพี​แตกแยก​ โฮ่ว​อี้​ใช้ไม้เจี้ยน​ทำเป็น​คันธนู​ ยิง​ดวงอาทิตย์​ตก​ลงมา​เก้า​ดวง​

“นี่​มัน​เทพนิยาย​โบราณ​ ได้​เห็น​กับ​ตา​ ก็​ไม่เสียเที่ยว​แล้ว​!” ลู่​เซิ่งสงบ​จิตใจ​ หมุนตัว​กลายเป็น​เปลวเพลิง​สีแดงฉาน​สาย​หนึ่ง​ บิน​ออกจาก​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​ พุ่ง​ลง​ไปยัง​ผืนดิน​ด้านล่าง​

ดินแดน​สุด​บูรพา​

ผืนดิน​แห้งผาก​แตกระแหง​

ใน​หลุม​ลึก​ขนาด​มหึมา​ ลำ​เพลิง​ของ​ดวงอาทิตย์​หลาย​สาย​ตกลง​มาจาก​ฟ้า พุ่ง​ใส่กลาง​หลุม​ลึก​

ตรงนั้น​มีศพ​ขนาด​มหึมา​ที่​ยาว​มากกว่า​ร้อย​หมี่​นอน​อยู่​ ศพ​ดำ​เกรียม​ ถูก​ลำ​เพลิง​ดวงอาทิตย์​แสน​น่ากลัว​โจมตี​อย่าง​ต่อเนื่อง​

เสียงหัวเราะ​แหลม​ดัง​มาจาก​ท้องฟ้า​ อีกา​ทอง​สามขา​สิบ​ตัว​กลาย​เป็นรัง​สีแดง​สีทอง​สิบ​กลุ่ม​ ลอย​วนเวียน​รอบ​หลุม​ลึก​

แม้ว่า​อีกา​ทอง​สิบ​ตัว​จะบาดเจ็บ​มากกว่า​ครึ่ง​ ทุลักทุเล​อย่างยิ่ง​ แต่​สุดท้าย​ชัยชนะ​ก็​ตกเป็นของ​พวกเขา​

ตอนที่​ลู่​เซิ่งบิน​มาถึง สิ่งที่​เห็น​คือ​สภาพอ​เนถ​อนาถ​เช่นนี้​

อุณหภูมิ​บน​ผืนดิน​เพิ่ม​สูงขึ้น​หลาย​ร้อย​องศา​ อากาศ​ไม่หลงเหลือ​ไอ​น้ำ​อีก​ ป่าไม้ถูก​เผา​ราบ​เป็น​ตอ​ตะโก​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท