“นั่นคือคัวฝูหรือ” ลู่เซิ่งมองศพร่างนั้น
“แล้วโฮ่วอี้เล่า” ด้วยกายอริยะหงส์เพลิงของเขา ย่อมไม่กลัวอุณหภูมิหลายร้อยองศาอยู่แล้ว
ขอแค่ไม่ได้ถูกลำเพลิงดวงอาทิตย์ปะทะใส่โดยตรง ก็ไม่มีปัญหาโดยสิ้นเชิง
ลู่เซิ่งกวาดสายตามองไปรอบๆ แต่ไม่เจอร่องรอยสิ่งมีชีวิตใดทั้งสิ้น
ฟ้าว…
ทันใดนั้นที่ห่างออกไปพลันมีเสียงแหวกอากาศจนสั่นสะเทือน คล้ายกับมีวัตถุขนาดมโหฬารพุ่งมาทางนี้ด้วยความเร็วสูง
ลู่เซิ่งหรี่ตามอง
ทันใดนั้นแสงสีแดงสายหนึ่งวาดผ่านหน้าเขา ก่อนจะทิ้งตัวลงพื้นอย่างรุนแรง
ตูม!
หลุมยักษ์ฝุ่นควันระเบิดกลุ่มใหญ่ ปรากฏหลุมยักษ์ขนาดเล็กกว่าหลุมหนึ่ง
ฝุ่นควันจางหายไปอย่างรวดเร็ว
ชายฉกรรจ์ผิวดำกำยำจนไม่อาจบรรยายนั่งอยู่กลางหลุม ผมสีดำยุ่งเหยิง ถักเปียเล็กๆ ท่อนบนเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยรอยแผลและฝุ่นผงขาว
กล้ามเนื้อของเขดุจศิลาเม็ดหยาบที่แข็งแกร่งที่สุด แผ่นหลังถึงขั้นมีก้อนเนื้อสองก้อนนูนสูงเหมือนลู่เซิ่ง คล้ายจะงอกปีกออกมา
ชายฉกรรจ์สูงกว่าร้อยหมี่ ค่อยๆ ลุกขึ้นจากหลุม ก่อนจะสังเกตเห็นศพของคัวฝูที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
“พวกเจ้า ถึงกับสังหารคัวฝูง…” ตัวเขาเริ่มกระจายกลิ่นอายดำสนิทเข้มข้นออกมา
“อภัยให้ไม่ได้…” บุรุษร่างยักษ์ยืดตัวขึ้นตรง ปลดเกาทัณฑ์ใหญ่ลงจากแผ่นหลัง
ขณะที่บุรุษร่างยักษ์รั้งสายเกาทัณฑ์ แรงดึงดูดอันน่ากลัวและไม่อาจบรรยายได้สายหนึ่งเริ่มแข็งตึงและแข็งแกร่งขึ้น
ซู่…
อากาศรอบกายบุรุษร่ายยักษ์เริ่มปรากฏหมอกสีขาวมากมาย หมอกเหล่านี้รวมตัวกันเหนือเกาทัณฑ์ยักษ์อย่างบ้าคลั่งราวกับสายน้ำ
ในมุมของลู่เซิ่งจะเห็นได้พอดีว่า ผืนดินกลางคลองจักษุทั้งหมดพากันระเหยไอสีขาวนับไม่ถ้วนออกมา รวมตัวกันบนเกาทัณฑ์ยักษ์
“ดึงพลังจากผืนดิน! เป็นวิชาที่แข็งแกร่งจริงๆ!” ลู่เซิ่งตะลึงงันไป
“ฆ่ามัน! ฮ่าๆๆๆ!”
“พวกเราคือโอรสแห่งจักรพรรดิสวรรค์! แค่จอมเวทคนเดียว! กินมันซะ!”
“ฆ่า!”
เหล่าอีกาทองที่ทำศึกใหญ่กับคัวฝูไปเมื่อก่อนหน้านี้ ถูกกระตุ้นความดุร้าย ตอนนี้เหนี่ยวลำเพลิงดวงอาทิตย์หลายสาย พร้อมกับพุ่งเข้าใส่โฮ่วอี้
ท่ามกลางเสียงหัวเราะแหลมแปลกประหลาด ระคนกับเสียงรั้งสายเกาทัณฑ์ของเกาทัณฑ์ยักษ์ที่ตึงยิ่งกว่าเดิม
“พลังอาวรณ์รุนแรงจริงๆ…” ต่อให้อยู่ห่างขนาดนี้ ลู่เซิ่งก็สัมผัสได้ถึงพลังอาวรณ์อันเข้มข้นของเกาทัณฑ์คันนั้นที่อยู่บนมือโฮ่วอี้ได้
เผ่าโฮ่วอี้คือหนึ่งในเผ่าเวทขนาดใหญ่ มีจำนวนคนเป็นหนึ่งในแปดส่วนของเผ่าพันธุ์ โฮ่วอี้สามารถยิงดวงอาทิตย์สำเร็จ เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเกาทัณฑ์นี้
ตาลู่เซิ่งเปล่งประกาย
เวลานี้โฮ่วอี้ดึงพลังงานผืนดินมากพอแล้ว ไอขาวนับไม่ถ้วนรวมตัวบนสายเกาทัณฑ์ เป็นลูกศรมหึมาที่กว้างถึงหลายสิบหมี่ บนลูกศรปรากฏภาพลวงตาเหมือนกับสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน พวกมันแผดเสียงพลางร้องโหยหวน จ้องมองดูอีกาทองสิบตัวที่อยู่บนท้องฟ้าอย่างพยาบาทเคียดแค้น
พวกมันทำให้ผืนดินแห้งผาก สิ่งมีชีวิตล้มตาย ทุกอย่างมอดม้วย ความแค้นนับไม่ถ้วนรวมตัววนเวียนรอบๆลูกศร เปลวเพลิงเย็นเยียบสีขาวซีดลุกไหม้ขึ้นดังพรึ่บ
เมื่อเปลวเพลิงโหมขึ้น ก็วนเวียนรอบตัวโฮ่วอี้ทันที ราวกับคลุมแถบผ้าสีขาวลงบนตัวเขา
“ตายซะ!” โฮ่วอี้ตะโกน
ฟ้าว!
แสงสายฟ้าสีขาวซีดพุ่งขึ้นท้องฟ้า ยิงโดนอีกาทองตัวหนึ่งอย่างแม่นยำและรุนแรง
เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกศร อัคคีอาทิตย์บนตัวอีกาทองถูกไฟแห่งความแค้นทำลายอย่างรวดเร็ว
คุณสมบัติของไฟแห่งความแค้นเทียบกับไฟของอีกาทองไม่ได้ แต่ความแค้นของพวกมันมีมากเกินไปจริงๆ จึงสะกดอัคคีอาทิตย์ที่คุ้มครองร่างของอีกาทองได้เป็นเวลาสั้นๆ
พริบตาที่สะกดเปลวไฟได้ ลูกศรก็ระเบิดพลังอันน่ากลัวออกมา
ตูม!
แสงสีเขียวอันเจิดจ้าของไม้เจี้ยนสาดแวบขึ้นมา ลูกศรเสียบเข้ากลางอกของโอรสอีกาทอง จากนั้นก็ทะลุออกด้านหลัง
แกว๊ก
อีกาทองเงยหน้าส่งเสียงกู่ร้อง ด้วยคลื่นเสียงอันยิ่งใหญ่ของอีกาทองได้ระเบิดอัคคีอาทิตย์ออกมา
อีกาทองอีกเก้าตัวตะลึงงัน ปีกชะงักไปเล็กน้อย ก่อนถูกโฮ่วอี้เล็งใส่อีกครั้ง พลังงานของผืนดินรวมตัวเป็นลูกศรเล่มใหม่
ลู่เซิ่งหรี่ตา เขาสัมผัสได้ว่าความแค้นนับไม่ถ้วนกำลังสลายไปจากเกาทัณฑ์เทพอย่างช้าๆ และขณะเดียวกัน พลังอาวรณ์ที่ยิ่งใหญ่ไพศาลสายนั้นก็กำลังหายไปด้วยเช่นกัน
“น่าเสียดายจริงๆ…” ความคิดของเขาแล่นเร็วขบคิดหาแผนการ อาวุธเวทที่ไม่รู้จักเมื่อก่อนหน้านี้มีพลังอาวรณ์หลายล้านหน่วย อย่างนั้นพลังอาวรณ์ที่บรรจุอยู่ในเกาทัณฑ์เทพโฮ่วอี้คันนี้ เกรงว่าคงน่ากลัวสุดจะหาที่ใดเปรียบ
“ถ้าหากความแค้นเหล่านี้สามารถรวมตัวบนเกาทัณฑ์เทพได้ อย่างนั้นพลังอาวรณ์จะต้องเหนือกว่าอาวุธเวทเมื่อก่อนหน้านี้แน่…โฮ่วอี้ต้องสังหารเก้าดวงอาทิตย์แน่นอน จากนั้นเขาก็ต้องใช้พลังงานไปมหาศาล ถึงเวลานั้นเราค่อยลงมือชิงมา…”
ลู่เซิ่งใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว
“ยังเร็วเกินไปที่จะลงมือตอนนี้ ไม่แน่ว่าอีกาทองกับโฮ่วอี้จะนับเราเป็นศัตรู ดังนั้นต้องรอสงครามจบก่อน แต่ก่อนหน้านั้น เราต้องรับประกันว่าพลังอาวรณ์บนเกาทัณฑ์เทพจะไม่ลดลง…”
ลู่เซิ่งใช้ความคิดอย่างต่อเนื่อง ไม่นานก็นึกถึงวิชาลับไม่เลววิชาหนึ่ง
เห็นความแค้นและวิญญาณตายโหงบนเกาทัณฑ์เทพเริ่มสลายอย่างรวดเร็ว ลู่เซิ่งฉายประกายวาบ สองมือประสานมุทราด้วยความเร็วอันน่าตระหนก ชั่วพริบตานั้นปรากฏมุทรามากกว่าร้อยสาย ประกอบกันเป็นค่ายกลอันน่าอัศจรรย์ขนาดเล็ก พลังเทพนอกรีตไร้รูปร่างหลายสายไหลวนเวียนอยู่กลางค่ายกล
โฮ่วอี้ที่กำลังจะยิงเกาทัณฑ์สังหารอีกาทองตัวที่สอง พลันงุนงง รู้สึกเกาทัณฑ์เทพบนมือเหมือนมีชีวิตเพิ่มมาสายหนึ่ง
เมื่อครู่หลังจากสังหารอีกาทองไปตัวหนึ่ง ความแค้นของผืนดินควรจะลดลงหนึ่งในสิบ ทว่าตอนนี้ความแค้นที่ควรสลายไปถูกพลังงานลึกลับบางอย่างไล่กลับมา รวมเข้ากับตัวเกาทัณฑ์อีกครั้ง
โฮ่วอี้ประหลาดใจเล็กน้อย พึงทราบว่าเกาทัณฑ์เทพคันนี้ของเขาไม่ใช่สิ่งที่เขาสร้างขึ้น จู๋จิ่วอินกับตี้เจียงสองบรรพชนเวทร่วมมือกัน เติมตัวเหนี่ยวนำเวทจำนวนมากลงไปเพื่อเขา
ความแค้นจากผืนดินเหล่านี้เป็นสิ่งที่ตัวเหนี่ยวนำเวทเหนี่ยวนำมา จำนวนหนึ่งในสิบส่วนเทียบเท่ากับความแค้นของสิ่งมีชีวิตหนึ่งในสิบส่วนที่ถูกดวงอาทิตย์สิบดวงฆ่าตายในครั้งนี้จากทั่วทั้งผืนดิน
ความแค้นนี้จำนวนมหาศาล น่าจะมากถึงแสนล้าน อีกทั้งในนี้ยังไม่ใช่แค่เผ่ามนุษย์อ่อนแอทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นเผ่าเวท เผ่าปีศาจ หรือไม่ก็เผ่าสัตว์ประหลาดชนิดต่างๆ สารกาย ปราณ จิตของพวกเขามีมากกว่าเผ่ามนุษย์ทั่วไปหลายร้อยหลายพันเท่า
ในนี้ยังมีผู้บำเพ็ญปราณที่สำเร็จระดับทารกกำเนิดอยู่ด้วย
ความยิ่งใหญ่ของความแค้นเหล่านี้มีมากเสียจนแม้แต่โฮ่วอี้ผู้ควบคุมเกาทัณฑ์ยังตกใจ หลังจากมันสลายไปแล้ว ยังย้อนกลับมาได้อีกหรือ
เขามองความแค้นหลอมรวมหายเข้าไปในตัวเกาทัณฑ์ตาปริบๆ
ซู่…
ลูกศรดอกที่สองปรากฏขึ้นแล้ว
ฟ้าว!
ลูกศรทะลวงอากาศแล้วหายไป
ลู่เซิ่งลอยอยู่กลางอากาศ บนตัวไร้กลิ่นอาย เก็บซ่อนไว้ทั้งหมด
ยามนี้เขาสีหน้าเย็นชาเรียบนิ่ง เมื่อครู่เขาใช้วิชาลับดึงความแค้นผืนดินกลับมา เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าความแข็งแกร่งของความแค้นผืนดินสายนั้นจะยากบรรยาย
เขาขับเพียงหนึ่งในสิบ ก็เสียพลังอาวรณ์ถาวรไปหนึ่งในห้าส่วนแล้ว
หากคิดจะชดเชยพลังอาวรณ์เหล่านี้ ต้องฟื้นฟูมากกว่าร้อยปีถึงจะเอาคืนมาได้ ลู่เซิ่งย่อมไม่อาจรอได้นานขนาดนั้น
“บัดซบ…ทำไมถึงหนักหนาสาหัสขนาดนี้กัน!” ลู่เซิ่งหน้าบูดบึ้ง เดิมเขานึกว่าตนเป็นอนธการ น่าจะรองรับความแค้นผืนดินสายหนึ่งได้เหลือเฟือ เพียงแต่เพิ่งสัมผัส เขาก็รู้ว่าตัวเองคาดผิดไปแล้ว
ของสิ่งนี้หนักหนาสาหัสเกินไปจริงๆ!
เขาเพิ่งสัมผัสความแค้นผืนดินได้ไม่กี่วินาที ก็รู้สึกเหมือนกับตนเองกำลังดึงดาวเคราะห์มากกว่าร้อยดวง ยากลำบากถึงขีดสุด
สวบ!
อีกาทองตัวที่สองร้องโหยหวน ระเบิดกลายเป็นก้อนไฟสีทองกลุ่มหนึ่ง พุ่งลงใส่พื้นดินอย่างรุนแรง
อีกาทองที่เหลือพุ่งเข้าไปต่อสู้กับโฮ่วอี้ แต่ทักษะของพวกเขากลับเป็นเพียงเรื่องน่าขำ เมื่ออยู่ต่อหน้าจอมเวทโฮ่วอี้ที่ผ่านมาร้อยสมรภูมิ
โฮ่วอี้ยิงลูกศรดอกแล้วดอกเล่า ความแค้นผืนดินหลายสายที่ต้องการลอยหายไป แต่ถูกพลังพิเศษบางชนิดดึงกลับไป
ลู่เซิ่งซ่อนตัวอยู่บนท้องฟ้าไกลออกไป ทุกๆ ครั้งที่สกัดความแค้นผืนดิน จะรู้สึกว่าตัวเองเหมือนถูกสายฟ้าผ่าใส่ พลังเทพนอกรีตบนร่างแทบจะเสียหายไปจนหมดสิ้น ยังไม่พอ ลู่เซิ่งยังได้เพิ่มพลังอาวรณ์หลายแสนหน่วยที่รวบรวมได้ในครั้งนี้เข้าไปด้วย
เขาใช้พลังอาวรณ์ฝึกฝนวิชาลับที่ใช้ฟื้นฟูพลังเทพนอกรีตวิชาหนึ่ง ยกระดับมันถึงระดับสูงสุดในทีเดียว พลังเทพนอกรีตค่อยฟื้นกลับมาเร็วกว่าเดิม
อั่ก!
เขาอดกระอักหนวดเปื้อนเลือดออกมาไม่ได้
“ความแค้นผืนดินนี้เป็นความสามารถที่เผ่าเวทเตรียมไว้แล้ว ร้ายกาจยิ่ง! จำนวนและความสามารถยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แม้แต่เราก็ทนไม่ได้ แต่…”
ลู่เซิ่งมองเกาทัณฑ์ของเทพโฮ่วอี้ที่กระจายความแค้นเข้มข้นออกมาคันนั้น
“ลงทุนในตอนนี้ถูกต้องแล้ว อีกประเดี๋ยวรออีกาทองเหลือตัวเดียว พริบตาที่โฮ่วอี้ผ่อนคลาย ค่อยลงมือชิงมา!”
เกาทัณฑ์เทพโฮ่วอี้ในตอนนี้กำลังกระจายคลื่นพลังอาวรณ์ที่เข้มข้นถึงขีดสุดออกมา โฮ่วอี้ยิงพระอาทิตย์ นี่เป็นผลงานอันยิ่งใหญ่ และตำนานเทพนิยายในหลายๆ โลก
ในตอนนี้ยิ่งเหนี่ยวนำพลังลึกลับมารวมตัวกันบนเกาทัณฑ์โดยอัตโนมัติ พร้อมกับที่อีกาทองหลายตัวถูกยิงร่วงอย่างต่อเนื่อง บนเกาทัณฑ์เทพเริ่มปรากฏรอยแตกร้าว
การระเบิดอานุภาพอันเลิศล้ำหลายครั้งติดต่อกัน ต่อให้เป็นตัวเกาทัณฑ์ที่สร้างจากไม้เจี้ยน ก็ทนรับไม่ไหวอยู่บ้าง
โฮ่วอี้ไม่สนใจ อย่างไรตามคำสั่งของบรรพชนเวท หลังจากยิงเกาทัณฑ์ครบสิบครั้ง ก็จะพังทลายไปเอง นี่ความจริงเป็นเพราะวัสดุถึงขีดจำกัดแล้ว
ลู่เซิ่งจะลงมือในทุกๆ ครั้งที่โฮ่วอี้ลงมือ ฝืนรักษาความแค้นผืนดินที่กำลังจะหลุดออกไป เก็บไว้บนเกาทัณฑ์เทพ
เขาไม่มีปัญหาเหนี่ยวนำความแค้นผืนดินมากมายขนาดนี้ แต่การลงมือสะกดในพริบตาที่ความแค้นกำลังจะหลุดออกไป เป็นสิ่งที่ยังพอทำได้
หลังสะกดติดต่อกันเก้าครั้ง ตอนนี้ลู่เซิ่งหน้านิ่งดุจน้ำตาย เพื่อฟื้นฟูพลังอาวรณ์ เขาได้เรียนรู้วิชาฟื้นฟูโดยจ่ายพลังอาวรณ์ที่เหลืออยู่ไปจนหมดแล้ว
หากว่าครั้งนี้เกาทัณฑ์เทพโฮ่วอี้ไม่อาจชดเชยความเสียหายของเขาได้ เช่นนั้นก็น่าอนาถจริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้เพื่อยกระดับบันทึกทักษิณอายุวัฒนะ เขาได้จ่ายพลังอาวรณ์ทั้งหมดจนเหลือแค่แสนกว่าหน่วยเท่านั้น
ตอนนี้ได้ใช้แสนกว่าหน่วยนี้หมดแล้ว บวกกับอีกไม่กี่แสนหน่วยที่เขาเที่ยวลูบคลำไปทั่วตำหนักหงส์เพลิงในช่วงนี้ ถ้าชดเชยกลับมาไม่ได้ ก็ขาดทุนใหญ่หลวงแล้ว
ดีที่ขณะโฮ่วอี้ง้างเกาทัณฑ์ยิงดวงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง ดวงอาทิตย์ดวงเล็กซึ่งเป็นอีกาทองก็ร่วงตกลงมาระเบิดทีละตัวๆ พลังอาวรณ์บนตัวเกาทัณฑ์เทพเหมือนจะกำลังเพิ่มขึ้นด้วยความเร็วสูง
ลู่เซิ่งรู้สึกได้อย่างเลือนรางว่า เป็นไปได้มากที่ครั้งนี้จะรวบรวมพลังอาวรณ์ได้อีกครั้ง เหมือนกับครั้งที่ได้จากหลักฐานแห่งราชัน
แกร๊ก...
ทันใดนั้นเขาก็เห็นรอยแตกปรากฏบนเกาทัณฑ์เทพ
รอยยิ้มลู่เซิ่งแข็งทื่อ เขาทุ่มพลังอาวรณ์ไปไม่น้อยด้วยความคิดชั่ววูบ ถ้าหากตอนนี้เกาทัณฑ์เทพพัง อย่างนั้นพลังอาวรณ์เมื่อก่อนหน้านี้จะสูญเปล่าแล้ว!
……………………………………….