ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน – บทที่ 336 บรรพบุรุษโกรธแล้วหรือ?

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

บทที่ 336 บรรพบุรุษโกรธแล้วหรือ?

หินวิญญาณเพลิงระดับสูงที่ปรากฏขึ้น ทำให้ใจของหลิงเยว่ร้อนรุ่มยิ่งนัก

“ข้ามีเพียงอันเดียว”

คำพูดต่อมาของปุโรหิตน้อย ทำให้ใจที่ร้อนรุ่มของหลิงเยว่เย็นลงในพริบตา

ตอนนี้ระดับการบำเพ็ญของนางอยู่ในขอบเขตทะยานเซียนขั้นต้น แล้วยังมีแก่นปราณเบญจธาตุด้วย อย่างมากที่สุดนางก็ฟื้นฟูพลังวิญญาณได้เก้าส่วน หากจะให้โม่จวินเจ๋อใช้ เขาก็ไม่รู้วิธีใช้เช่นกัน และแก่นปราณของเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไฟเลย เว้นแต่ว่าเขาจะปราบเพลิงพิสดาร…

“แต่ข้ารู้ว่าผู้ใดมีหินเช่นนี้อยู่”

นี่มันพูดโดยไม่เว้นช่องว่างให้หายใจเอาเสียเลย อารมณ์ของหลิงเยว่เหมือนขึ้นรถไฟเหาะ จนนางอยากจะมอบฝ่ามือแห่งความรักให้กับปลาที่อยู่ตรงหน้าเสียจริง!

“ข้ารู้ ข้ารู้! ที่อยู่ของฝูงนกปีศาจจระเข้!”

ปลาพี่ใหญ่มองหลิงเยว่ “เผ่าพันธุ์ของพวกมันชอบความร้อน พวกมันจึงชอบเก็บหินวิญญาณเพลิงไว้ เพื่อให้ที่อยู่อาศัยอบอุ่น”

วัตถุดิบใหม่ปรากฏขึ้นอีกแล้ว นี่มันจะให้นางไปล้างบางฝูงนกปีศาจจระเข้จนเกลี้ยงเลยหรืออย่างไร?

หลิงเยว่แสดงท่าทีปลื้มปีติ

เห็นหรือไม่ ว่าสหายตัวแรกของนางมีประโยชน์ขนาดไหน!

ยามนี้หัวใจของปุโรหิตน้อยแทบจะระเบิดด้วยโทสะ มันปรารถนาจะฉีกเจ้าปลานักโทษผู้นั้นเป็นชิ้น ๆ! เดิมทีมันตั้งใจจะใช้หินพวกนี้มาแลกเปลี่ยนกับมนุษย์ตรงหน้า แต่บัดนี้แผนการทั้งหมดกลับถูกทรยศโดยเจ้าปลานักโทษนั่น!

“ตอนนี้เจ้าก็สมปรารถนาแล้ว…”

ปุโรหิตน้อยมิได้กล่าวคำใดต่อ แต่หลิงเยว่เข้าใจความหมายนั้นดี

เรื่องหินวิญญาณยังมิต้องรีบร้อน สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการจัดการกับปุโรหิตน้อยและเหล่านักรบปลาเสียก่อน

ทันใดนั้น หม้อหินสามใบที่หายไปก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง กลิ่นหอมเย้ายวนฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งสุสาน พื้นดินที่สะอาดสะอ้านถูกของเหลวบางอย่างหยดจนเปียกเป็นวงกว้าง ดวงตาของเหล่าปลาที่ไร้ชีวิตชีวาต่างจับจ้องไปที่อาหารภายในหม้อราวกับต้องมนต์สะกด

หลิงเยว่ตักน้ำแกงสามชามให้ปุโรหิตน้อย โดยปราศจากเนื้อปลาแม้แต่ชิ้นเดียว ทั้งที่ในหม้อยังมีเนื้อปลาจำนวนมาก

“เหตุใดจึงไม่มี… เนื้อปลา?” นักรบปลาเอ่ยถามแทนปุโรหิตน้อย ขณะที่มันยืนน้ำลายไหลยืดอยู่ข้าง ๆ

“นั่นเป็นของพวกข้า!” เหล่าปลาอิสระที่ได้รับบาดเจ็บและถูกปลดปล่อยเป็นอิสระแล้วต่างคำรามด้วยแววตาดุร้าย พวกมันแหวกว่ายอย่างเป็นระเบียบเข้าล้อมหม้อทั้งสามใบเอาไว้

“การให้เขาดื่มน้ำแกงรสเนื้อก็พอแล้ว!”

“ใช่แล้ว อีกทั้งการดื่มพร้อมกันทั้งสามถ้วย ยังมีผลต่อการเรียกวิญญาณบรรพบุรุษอีกด้วย แม้แต่พวกข้ายังไม่เคยลองเลย!”

พูดถึงเรื่องนี้ ปลาบาดเจ็บก็รู้สึกตื่นเต้น หากพวกมันติดตามมนุษย์ตรงหน้าไป มันจะได้ดื่มน้ำแกงแปลงร่างบรรพบุรุษตลอดเวลาหรือไม่?

เช่นนั้นพลังของพวกมันจะไม่พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วหรอกหรือ?

พวกมันคงต่อกรกับพวกปลานักรบได้ในพริบตาเป็นแน่!

หัวใจอันเย็นเยียบของเหล่าปลาบาดเจ็บเริ่มร้อนระอุขึ้นมา พลันส่งสายตาจ้องมองหลิงเยว่จนแทบจะเผาผลาญคนได้

“ส่วนของพวกเจ้า ตักเองเถิด ทุกอย่างมีจำนวนพอดี อีกทั้งพวกเจ้าสามารถสลับกันดื่มได้ด้วย?” หลิงเยว่บอกใบ้อย่างชัดเจน พวกปลาบาดเจ็บที่โง่เขลาก็เข้าใจทันที นี่คือการให้พวกมันกินทั้งเนื้อทั้งน้ำสามรสชาติพร้อมกันเลยนี่นา!

นางต้องการให้พวกมันรวมตัวกันจัดการปลานักรบและปุโรหิตน้อยสักตั้งใช่หรือไม่?

เหล่าปลาบาดเจ็บสบตากันเล็กน้อย น่าแปลกที่ไม่มีการแย่งชิงกัน พวกมันแบ่งปลาจากหม้อใหญ่ทั้งสามใบจดหมดเกลี้ยง ทำเอาพวกปลานักรบตาเหลือก

ปุโรหิตน้อยมองดูหม้อใหญ่ทั้งสามที่ว่างเปล่าด้วยความเจ็บปวด การปล่อยให้พวกมันกินเช่นนี้ช่างสิ้นเปลืองเหลือเกิน ท้ายที่สุดแล้วเพียงดื่มน้ำแกงสามรสชาติก็สามารถเรียกวิญญาณบรรพบุรุษมาได้ หากนำไปใช้ในการต่อสู้ พลังรบโดยรวมของเผ่าปลาหมัวอินจะต้องก้าวกระโดดอย่างแน่นอน!

“เหตุใดจึงไม่กินเล่า?” หลิงเยว่เอ่ยถามปุโรหิตน้อยและเหล่าปลาที่บาดเจ็บด้วยความประหลาดใจ นางกำลังอยากเปรียบเทียบน้ำแกงแปลงร่างบรรพบุรุษที่ปรุงใหม่นี้สักหน่อย ว่ามันจะมีผลยาวนานขึ้นหรือไม่

เหล่าปลาที่บาดเจ็บต่างครุ่นคิดอย่างหนัก ในท้ายที่สุดก็ตัดสินใจทำภารกิจที่หลิงเยว่มอบหมายอย่างแนบเนียนให้สำเร็จ เพื่อพิสูจน์ความสามารถ ทำให้นางไม่เสียใจที่ได้คืนอิสรภาพให้กับพวกมัน!

แม้ปุโรหิตน้อยตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ในยามคับขัน แต่สุดท้ายก็ยอมยกชามขึ้นดื่มจนหมด น้ำแกงหอมกรุ่น รสชาติเข้มข้นจนยากจะลืมเลือนยิ่งกว่าที่เคยลิ้มลอง

หลังจากดื่มน้ำแกงไปสามชาม ปุโรหิตน้อยก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกคุ้นเคยอีกครั้ง มันสยายครีบบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือทะเลสาบ ดวงตาปลาสีเทาดำคู่นั้นมีแสงสีฟ้าจาง ๆ ส่องประกาย ร่างกายของมันยืดยาวขึ้น ครีบปลาเดิมทีมีเพียงสามสีคือดำ เทาและน้ำเงิน กลับมีจุดสีฟ้าอมน้ำเงินเพิ่มขึ้นมาด้วย และยังมีเกล็ดปลาสีดำสนิทมีเกล็ดหนึ่งเปลี่ยนสีจากสีดำเป็นสีฟ้าอมน้ำเงิน ดูสะดุดตามาก

ปุโรหิตน้อยกลอกตาของตนไปมา เมื่อเห็นเกล็ดสีฟ้านั่น ทั้งตัวพลันแข็งค้าง มันกลายเป็นมหาปุโรหิตที่สามของเผ่าปลาหมัวอินอย่างแท้จริง ความทรงจำที่หายไปในสมองเริ่มชัดเจนขึ้น…

ขณะที่มันกำลังจะใช้เสียงคลื่นโจมตีมหาปุโรหิตที่สามในความทรงจำ กลับมีปลาหลายตัวใช้พลังนั้นก่อนมันถึงร้อยตัว!

พวกมันมีขนาดใหญ่กว่าปุโรหิตน้อยเสียอีก เกล็ดสีฟ้านั้นก็เข้มกว่า อีกทั้งร่างกายยังถูกพันด้วยเปลือกไม้อย่างเป็นระเบียบ

ปลาน้อยใหญ่ในทะเลสาบต่างตอบสนอง ร่างกายของพวกมันต่างเกิดการเปลี่ยนแปลง!

ร่างกายของปลาทั้งหมดใหญ่ขึ้นกว่าสองร้อยสามสิบเท่า โดยเฉพาะเกล็ดของลูกปลาที่แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ปุโรหิตน้อยตกตะลึง มนุษย์ผู้นั้นทำอะไรกับน้ำแกงแปลงร่างบรรพบุรุษ มันไม่เพียงแต่เพิ่มระยะเวลา แต่ยังเพิ่มพลังการโจมตีด้วยคลื่นเสียงอีกด้วย!

“ทำไมพวกข้ากินแล้ว แต่ไม่มีผลอะไรเลย?!”

ปลาพี่ใหญ่งุนงงพลางเลียชามตนเอง มองเพื่อนร่วมกลุ่มที่ลอยอยู่เหนือทะเลสาบด้วยความอิจฉา รอบข้างมันยังมีปลาบาดเจ็บกว่าสามร้อยตัวที่ดื่มน้ำแกงพร้อมกับเนื้อของตัวเองไม่สำเร็จ

“บรรพบุรุษท่านนี้คงไม่เห็นพวกข้าอยู่ในสายตากระมัง?”

ปลาที่ฉลาดหลักแหลมคิดถึงประเด็นสำคัญ ไม่เช่นนั้นทำไมปลาตัวอื่นถึงทำได้ แต่พวกมันทำไม่ได้เล่า?

“นี่มันเป็นไปได้หรือ?”

“เขามีสิทธิ์อะไรมาดูถูกข้า ในอดีตข้าเคยเป็นหัวหน้านักรบเชียวนะ!”

ประโยคนี้กลับเตือนให้หลิงเยว่ที่กำลังครุ่นคิดอยู่นึกขึ้นได้ ที่ปุโรหิตน้อยประสบความสำเร็จถึงสองครั้งติดต่อกัน เป็นเพราะซากบรรพบุรุษนั้นเคยเป็นปุโรหิตด้วยหรือ?

และในบรรดาปลาที่บาดเจ็บที่ทำได้นั้น เป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเป็นปุโรหิตหรือ?

ถ้าเช่นนั้น ปลาผู้นำแม้จะเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ แต่สำเร็จในครั้งเดียว แสดงว่ามันมีร่างกายที่ฝึกฝนได้ทั้งสองด้าน!

หลิงเยว่เข้าใจแล้ว เป็นดังที่ปลาบาดเจ็บกล่าวไว้จริง ๆ บรรพบุรุษไม่สนใจพวกมันเลย

เผ่าปลาหมัวอินแบ่งออกเป็นสามประเภทใหญ่ ๆ คือ เหล่าปลาคลื่นเสียง ปลานักรบ และปลาปุโรหิต ซึ่งวิญญาณบรรพบุรุษนั้นจะเลือกเฉพาะประเภทเดียวกับตนเท่านั้น

เมื่อได้ยินคำอธิบายของหลิงเยว่ บรรดาปลาที่เศร้าใจก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “โครงกระดูกของบรรพบุรุษในสุสานส่วนใหญ่เป็นประเภทนักรบ เจ้าสามารถต้มน้ำแกงจากบรรพบุรุษที่เป็นปุโรหิตได้ งั้นเจ้าจะลองทำน้ำแกงบรรพบุรุษปลานักรบดูบ้างได้ไหม?”

เผ่าปลาหมัวอินยังมีปลานักรบที่พลังการต่อสู้แข็งแกร่งอีกมาก!

“เริ่มทำน้ำแกงปลาคลื่นเสียงก่อนเถิด ข้าจำได้ว่ามีกระดูกบรรพบุรุษผู้แข็งแกร่งด้านนี้อยู่”

ปลาบาดเจ็บพูดพลางวิ่งไปที่กระดูกบรรพบุรุษผู้แข็งแกร่งที่มันเอ่ยถึง มันพยายามจะยกกระดูกนั้นมาให้หลิงเยว่ด้วยท่าทางกระตือรือร้น

แต่ก่อนที่มันจะทันได้ยกขึ้น กระดูกเบื้องหน้ากลับสั่นไหว…

หรือว่าบรรพบุรุษท่านนี้กำลังโกรธมันอยู่?

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

Status: Ongoing
‘หลิงเยว่’ ผู้ฝึกตนสำนักฝ่ายนอกแสนอ่อนหัด ทั้งยังถูกกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนัก ทว่ายังโชคดีได้ระบบนี้มาช่วยชีวิต มอบหมายภารกิจให้นางสามารถแข็งแกร่งขึ้นโดยใช้ทักษะการทำอาหารให้เกิดประโยชน์ แม้เส้นทางการเป็นยอดเซียนจะหริบหรี่ ทว่าโชคชะตาของยอดแม่ครัวได้เปิดทางให้ ‘หลิงเยว่’ ได้พบหนทางที่จะช่วยให้ตนรอดจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้‘ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ตะหลิว เอ้ย! มานะตน หากนางไม่ยอมแพ้ ย่อมต้องมีหนทางสดใสรออยู่ข้างหน้าแน่’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท