หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่187 อ๋องเย่หึงอีกแล้ว

บทที่187 อ๋องเย่หึงอีกแล้ว

บทที่187 อ๋องเย่หึงอีกแล้ว

“ได้!”

หลานเยาเยาที่เตรียมยาสลบไว้ ก็ต้องเปลี่ยนเป็นยาสลบอีกแบบ เป็นแบบที่ชาครึ่งนึง

นางรู้ว่าในทวีปนี้อาจไม่เคยได้ยินว่า การที่ผ่าท้องออกมาดูแล้วจะยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้

ถึงอย่างไรก็มีเพียงผู้ชันสูตรศพเท่านั้นที่จะสามารถผ่าท้องออกมาดูได้

เย่แจ๋หยิ่งยอมให้นางทำการผ่าตัด นั่นก็เพราะเขาเชื่อใจนางมาก

ในไม่ช้าการผ่าตัดก็เริ่มขึ้น

ทุกอย่างดำเนินไปตามแผน จนกระทั่งการผ่าตัดผ่านไปได้ครึ่งทาง ด้านนอกก็เริ่มมีเสียงเคลื่อนไหว มันคือเสียงอาวุธปะทะกัน

นักฆ่ายิงจวนหาที่ตั้งของพวกเขาได้ไวขนาดนี้เลยหรือ ดูท่าหานแสจะเป็นดวงตาของท่านชายหยิ่งที่ปล่อยออกมาจริงๆ

แต่ว่า……

ผ่านไปสักพัก

ก็ไม่มีนักฆ่าคนไหนพุ่งเข้ามา อีกทั้งเสียงเข่นฆ่าด้านนอกยังคงไม่จบไม่สิ้น

หลานเยาเยาในตอนนี้ใจจดใจจ่ออยู่กับการผ่าตัด แม้ว่าจะไม่เข้าใจสถานการณ์ข้างนอก แต่การเคลื่อนไหวของมือนางก็เพิ่มความเร็วขึ้นมาก

ตอนที่หลานเยาเยาหาหนอนพิษกู่พบก็ต้องตกตะลึง

ตอนแรกมีเพียงแต่หนอนพิษกู่ที่ตัวเท่าปลายเข็ม หรือจะบอกว่าเป็นไข่ แต่ว่าตอนนี้มีขนาดเท่านิ้วมือของเด็กทารกแล้ว

นี่เป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆไม่กี่วันก็เติบโตได้มากขนาดนี้ อัตราการเติบโตนี้มันน่าเหลือเชื่อมาก

ถ้าช้าไปอีกนิด ไม่อาจคิดผลที่ตามมาได้เลย……

หนอนพิษกู่ในตอนนี้ก็ยังพยายามเจาะเข้าไปในหัวใจของเย่แจ๋หยิ่งอย่างสุดฤทธิ์ จนกระทั่งหลังจากถูกนางหนีบออกมาด้วยความไวแล้วเอาใส่เข้าไปในภาชนะใส นางก็รีบเย็บให้เย่แจ๋หยิ่งอย่างรวดเร็ว

แต่ไม่รู้ว่าทำไม เย่แจ๋หยิ่งกลับแสดงอาการที่เสียเลือดมากเกินไป อีกทั้งสถานการณ์ก็วิกฤต

ทันใดนั้นในใจก็มีการคาดเดาว่า

สาเหตุที่หนอนพิษกู่โตไวขนาดนี้ต้องเป็นเพราะดื่มเลือดของเย่แจ๋หยิ่งเป็นแน่

อย่างไรเสีย เลือดของเขาก็พิเศษมาก

เมื่อเห็นรูม่านตาของเย่แจ๋หยิ่งเล็กลง นางไม่พูดจาอะไรดึงเลือดตัวเองขึ้นมาหนึ่งห่อแล้วทำการถ่ายเลือดให้เย่แจ๋หยิ่ง เพราะนางและเย่แจ๋หยิ่งต่างเป็นกรุ๊ปเลือด A3ที่หาได้ยากมาก

ด้วยการนี้ นางจึงถ่ายเลือดให้เย่แจ๋หยิ่งไปพร้อมๆกับเย็บแผล

หลังการผ่าตัดจบลง ก็ไม่รู้ว่าใช้เวลาไปนานเท่าไร

โดยรวม!

ร่างกายนางเองก็เริ่มอ่อนแอและเวียนหัว

ส่วนเย่แจ๋หยิ่งสลบไปนานแล้ว ด้านนอกปากถ้ำก็ไม่มีเสียงเคลื่อนไหวอีก

เมื่อหันกลับไปมองหนอนพิษกู่ที่ถูกใส่ไว้ในภาชนะใสก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าหนอนพิษกู่ตายแล้ว

และเป็นไปตามที่นางคาดการณ์ไว้ว่า นางเอาหนอนพิษกู่ออกมาไม่นานก็ตาย

หรือจะเป็นเพียงกาฝากในร่างกายมนุษย์?

ปัญหานี้ยังไม่รู้แน่ชัด ดังนั้นนางจึงเอาอุปกรณ์การรักษาและหนอนพิษกู่ใส่เข้าไปในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยกัน หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อย

หลานเยาเยาจึงเดินไปทางปากถ้ำ

กำจัดผงยาพิษที่อยู่บนพื้นแล้วค่อยเคลื่อนย้ายวัชพืช

ฉากที่ตราตรึงอยู่ตรงหน้าทำให้หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น

เห็นหานแสคุกเข่าอยู่หน้าปากถ้ำ ในมือถือดาบยาวที่ไม่รู้ว่าแย่งจากใครมากและแทงลงไปที่พื้นครึ่งด้าม

มีบาดแผลด้านหลังนับไม่ถ้วน ร่างกายมีเลือดไหลซิบ

และเบื้องหน้าของเขาก็คือศพเต็มไปหมด……

เมื่อเห็นสถานการณ์นั้น!

หลานเยาเยารีบเดินไปข้างหน้า จับมือแล้วจับชีพจรเขา

“เจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วเหรอถึงได้ดันทุรังกั้นไว้?”

โชคดีที่ยังมีชีพจร ถ้าเขาตาย นางก็จะเป็นคนฆ่าเขาทางอ้อม นางละอายใจ

“ข้ารับปากไว้แล้ว ไม่อาจผิดสัญญา”

ประโยคนี้ทำให้หลานเยาเยาสับสนในใจ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

หานแสที่สติพร่าเลือน หลังจากได้ยินเสียงของหลานเยาเยาก็มีรอยยิ้มเศร้าๆปรากฏขึ้นบนหน้า จากนั้นก็หมดสติไป

หลานเยาเยารีบเข้าไปประคองร่างกายที่ล้มลงแล้วลากเขาเข้าไปในถ้ำ

นางรู้ว่านักฆ่ายิงจวนจะกลับมาอีก ดังนั้นนางจึงรีบพันแผลให้หานแส ตอนที่จะถอดเสื้อผ้าให้เขาอีกครั้งกลับพบว่ามีกลิ่นผิดปกติบนเสื้อผ้าเขา

ถ้านางเดาไม่ผิด กลิ่นนี้ต้องเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยตำแหน่งที่อยู่ของพวกเขา

หรือนางจะเข้าใจผิด?

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร หานแสก็ถือว่าช่วยชีวิตเย่แจ๋หยิ่งไว้ ดังนั้นตอนที่หลานเยาเยาพันแผลให้เข้าจึงดูแลเป็นพิเศษ

เมื่อพันเสร็จ หลานเยาเยารีบเอารถม้ามาไว้ที่ปากถ้ำจากนั้นก็ลากพวกเขาขึ้นรถม้าทีละคนๆ

สิ่งที่น่ายินดีก็คือ รถม้าที่นางซื้อมานั้นค่อนข้างกว้างขวาง อีกอย่างคนที่อยู่ข้างในก็ไม่ค่อยสั่นสะเทือน สำหรับราคานั้น……ก็เป็นเรื่องที่ทำให้นางปวดใจ

รถม้าแล่นไปข้างหน้าไม่หยุด เมื่อความมืดใกล้เข้ามา นางหยุดพักอยู่ที่วัดร้างแห่งหนึ่ง

จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องบังเอิญ

หานแสเพิ่งตื่นมาได้ไม่นานเย่แจ๋หยิ่งก็ตื่น

แต่ว่า……

ก่อนหน้านี้เพื่อให้นางสะดวกในการดูแลพวกเขาสองคน จึงเอาพวกเขาสองคนวางไว้บนหญ้าแห้งด้วยกัน ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงจ้องกันและกัน

“นั่นสิ……โจ๊กต้มเสร็จแล้ว พวกเจ้าใครจะกินก่อน?”

ตอนนี้พวกเขาสองคน คนนึงเพิ่งผ่านการผ่าตัดมา อีกคนบาดเจ็บสาหัส ทั้งสองคนเป็นคนที่อ่อนแอมาก ถ้ามีอุบัติเหตุเล็กน้อยอาจอันตรายถึงชีวิตได้

หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ ทั้งสองคนยังไม่พ้นขีดอันตราย

กินข้าวอะไรตอนนี้ยังขยับเองไม่ได้เลย

ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงป้อนพวกเขาทีละคน

แต่เมื่อพูดประโยคนั้นออกไป ทั้งสองคนก็มองมาทางนางพร้อมกันด้วยสายตาที่นางไม่เข้าใจ

เอ่อ……

พวกเขาไม่พูด แล้วนางจะป้อนใครก่อน?

“ช่างเถอะ ป้อนพร้อมกันสองคนละกัน!”

ดังนั้น หลานเยาเยาจึงประคองพวกเขาพิงรูปปั้นเก่าๆทีละคน

นางประคองเย่แจ๋หยิ่งก่อน สายตาพึงพอใจ เร่าร้อนของเย่แจ๋หยิ่งจับจ้องที่นางตลอด แต่เมื่อถึงตอนที่ไปประคองหานแส นางรู้สึกถึงสายตาที่มีอำนาจทะลุทะลวงหยุดอยู่บนตัวของหานแส

“ข้าทำเอง!”

หานแสเองก็รู้สึกถึงสายตานั้นของเย่แจ๋หยิ่ง สีหน้าจึงอึกอักเล็กน้อย

“ถ้าเจ้าทำเองได้ ข้าก็ไม่เสนอป้อนเจ้าหรอก” หลานเยาเยาจ้องเย่แจ๋หยิ่ง

ไม่ว่าจะยังไงคนนี้ก็ช่วยเขาไว้จึงมีสภาพแบบนี้ เขายังจะไม่ให้คนนี้กินข้าวอีก

“เจ้าไม่ต้องสนใจเขา”

หานแสมองนางและเย่แจ๋หยิ่งแปลกๆ แล้วก็ไม่ได้อวดเก่งอีก

ดูท่าแล้ว ป้อนโจ๊กพร้อมกันสองคนคงจะไม่สงบสุขแน่ ดังนั้นหลานเยาเยาจึงตัดสินใจป้อนหานแสก่อน

หานแสกินโจ๊กในถ้วยหมดอย่างรวดเร็วพร้อมกับเอ่ยขอบคุณอย่างเกรงใจ

“ข้าหิวแล้ว!”

เมื่อเห็นหลานเยาเยายิ้มให้หานแสอย่างอ่อนโยน เขาก็หน้ามืดพูดเสียงดังขึ้นทันที

“มาแล้วมาแล้ว อย่ารีบสิ”

เมื่อเห็นว่าเรียกหลานเยาเยาได้สำเร็จ มุมปากเย่แจ๋หยิ่งก็ยกขึ้น มองหานแสด้วยสายตาหยิ่งผยอง

เหมือนกับเขากำลังพูดว่า: นางเป็นของข้า สนใจได้แต่ข้าผู้เดียว

แต่ทว่า!

เมื่อตอนที่หลานเยาเยามายังข้างกายเขาเพื่อป้อนโจ๊ก เขากลับทำเสียงฮึดฮัด แล้วหันหน้าไปอีกทาง

“……”

นี่จะก่อเรื่องอะไร?

ก็เป็นผู้บาดเจ็บทั้งหมดไหม? รู้สึกเหมือนกำลังปรนนิบัติบรรพบุรุษ

“จู่ๆข้าก็ไม่หิวแล้ว”

ตอนนี้ หลานเยาเยามองท้องฟ้าอย่างหมดคำพูด

“ไม่หิว? เจ้าจะเป็นเซียนรึไง? อ้าปาก” หลานเยาเยาเอ่ยปากสั่ง

นี่คืออ๋องเทพสงครามที่มีอำนาจล้นฟ้า หยิ่งยโสหรือนี่? ทำไมช่างเหมือนกับเด็กเล็ก?

“ชิ ข้าบอกว่าไม่หิว”

แต่เมื่อพูดจบ ก็รีบเปิดปากทันที

“……”

……

จนกระทั่งตกดึก เย่แจ๋หยิ่งและหานแสไม่ได้ต้องการจะพักผ่อน ทั้งสองคนระมัดระวังมาก

หลานเยาเยาส่ายหัวอย่างจนปัญญา

“ไม่ต้องกังวลนักฆ่าพวกนั้นหรอก พวกมันจะหาที่นี่ไม่เจอชั่วคราว พวกเจ้าสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ”

สายตาทั้งสองหยุดอยู่ที่นาง รอจนกระทั่งนางพูดจบ ……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท