ตอนที่ 401 ฉันก็อยากได้หัวเหล็กเหมือนกัน (1)
……………………………………………………………………..
จากในหนังสือ ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้สิบสามเมือง ในนั้นหกแห่งเป็นเมืองของเผ่าพันธุ์เยาจื๋อ อีกเจ็ดแห่งเป็นเมืองของเผ่าพันธุ์เยามิ่ง
ทั้งยังมีเมืองน้อยใหญ่อีกนับร้อยพัน!
เมืองแต่ละแห่งแทบจะมีพืชปีศาจและสัตว์ปีศาจคุ้มครองอยู่ทั้งหมด!
สาเหตุที่บอกว่าแทบ เป็นเพราะในหนังสือไม่ได้แนะนำพืชปีศาจและสัตว์ปีศาจออกมาทุกเมือง ฟางผิงไม่รู้ว่าไม่ได้บันทึกไว้หรือไม่มีจริงๆ
หนังสือในมือฉินเฟิ่งชิง นอกจากแนะนำเมืองพวกนี้แล้ว ยังแนะนำสถานที่อันตรายที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักของอาณาจักรหนานชี
ในนั้นมีทะลต้องห้ามด้วย!
ฟางผิงเดาไม่ผิด ทะเลของทางใต้ เป็นทะเลต้องห้ามจริงๆ ด้วย!
นี่เป็นสถานที่อันตรายซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุด!
“ผู้ที่ลงสู่ทะเล…ไม่มีชีวิตรอดกลับมา!”
ในหนังสือบอกว่าหลายปีที่ผ่านมาไม่มียอดฝีมือถ้ำใต้ดินคนไหนลงทะเลแล้วมีชีวิตรอดกลับมาได้สักคน สำหรับทะเลต้องห้าม ในหนังสือไม่ได้อธิบายมากมาย แค่กำชับหลายครั้งว่าอย่าได้ลงทะเลเท่านั้น
นอกจากนี้ทะเลทรายหมื่นมด เขาต้านสมุทร ป่าร้อยอสูรต่างเป็นสถานที่หวงห้ามอันตราย
ส่วนป่าราชันเจี่ยว…ในหนังสือไม่ได้กล่าวถึง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจี่ยวอ่อนแอเกินไปหรือเปล่า ยังไงก่อนหน้านี้ก็เป็นปีศาจสัตว์ที่อยู่ขั้นเจ็ด ยังไม่ถึงขั้นเป็นพื้นที่หวงห้าม
ฟางผิงอ่านอยู่พักหนึ่ง ขมวดคิ้วว่า “ดูท่าสถานที่ที่พวกเราเข้าไปถึงยังเป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น สถานที่พวกนี้ยังไม่เคยไปมาก่อนเลย”
ฉินเฟิ่งชิงทำหน้าดูแคลน นายต้องไม่เคยไปอยู่แล้ว!
นายเพิ่งไปถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้กี่ครั้งกัน?
สองครั้งเท่านั้น!
เบ้ปากเล็กน้อย ฉินเฟิ่งชิงทำหน้าเรียบนิ่ง เอ่ยอย่างเนิบนาบ “ฉันยังพอพูดได้ ป่าร้อยอสูรที่หนังสือพูดถึง ฉันน่าจะเคยไปครั้งหนึ่งแล้ว…”
ถังเฟิงหันไปมองเขา ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “อันที่จริงฉันรู้จักป่าร้อยอสูรเหมือนกัน ในนั้นมีสัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วน เธอเคยไปมาก่อน?”
ฉินเฟิ่งชิงพอเห็นว่าถูกสงสัยก็เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เคยไปจริงๆ ครับ ผมยังล่อสัตว์ประหลาดออกมาเป็นร้อยตัว ไม่เชื่อก็แล้วแต่!”
เขาเคยไปมาครั้งหนึ่งจริงๆ แน่นอนว่าแค่รอบนอกเท่านั้น
ทางนั้นมีสมุนไพรมากมาย ฉินเฟิ่งชิงเดินเตร่ไปทั่ว บังเอิญเจอสมุนไพรอยู่กองใหญ่…ผลปรากฏว่าเพิ่งคิดจะเก็บก็ถูกสัตว์ประหลาดค้นพบซะก่อน ไล่ฆ่าเขาอยู่หนึ่งวัน ครั้งนั้นฉินเฟิ่งชิงไม่ได้ขุดดิน แต่ไปหลบบนต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่สามวัน กลัวแทบจะตายอยู่แล้ว
หลังจากนั้นมาเขาก็ไม่ได้ไปทางป่าร้อยอสูรอีก น่ากลัวเกินไป!
ฉินเฟิ่งชิงพูดแบบนี้ ถังเฟิงจึงเชื่ออยู่บ้าง เว้นช่วงไปเล็กน้อย เหมือนจะชั่งน้ำหนักว่าควรพูดยังไงดี
เนิ่นนาน ถังเฟิงค่อยเอ่ยว่า “เธอไม่ตายในถ้ำใต้ดิน ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว!”
เขายังจะพูดอะไรได้?
ในเมื่อป่าร้อยอสูรถูกเรียกว่าสถานที่อันตราย งั้นก็ย่อมมีอันตรายอยู่แล้ว ในนั้นเกรงว่าจะมีพืชปีศาจและสัตว์ปีศาจระดับสูงอยู่จำนวนมาก ขั้นเก้าก็ต้องมีอย่างแน่นอน สถานที่ที่คุกคามขั้นเก้าไม่ได้คงไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นสถานที่อันตราย
แม้ฉินเฟิ่งชิงจะตระเวนอยู่แค่รอบนอก มีชีวิตรอดกลับมาได้ นี่ก็ถือเป็นความสามารถแล้ว
สองปีนี้เจ้าเด็กนี้ลงถ้ำใต้ดินไม่ต่ำกว่าสามสิบครั้ง ถังเฟิงยังนับถือเขาอยู่บ้าง
ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางทั่วไป หนึ่งปีลงถ้ำใต้ดินสี่ห้าครั้งก็ถือว่าค่อนข้างเยอะแล้ว
ฉินเฟิ่งชิงไม่โต้แย้งอะไร ถึงกระทั่งภาคภูมิใจในตัวเองอยู่บ้าง ฉันตายไม่ได้หรอก ยอมได้หรือยัง?
ไม่สนใจถังเฟิงอีก ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “เมืองเยาขุยมีเมล็ดทานตะวัน กินแล้วเพิ่มพูนพลังจิตใจ เมืองเยาจู๋มีไผ่หมื่นปีที่อายุยืนต้นหนึ่ง นำลำต้นมาสร้างอาวุธ เรียกได้ว่าเป็นอาวุธวิเศษ ทั้งยังกินหน่อไม้ได้ แม้ไม่รู้ว่าให้ผลลัพธ์อะไร แต่ต้องเยี่ยมยอดอย่างแน่นอน! เมืองเยาหลันมีดอกกล้วยไม้ที่กลายเป็นภูติต้นหนึ่ง เป็นที่รู้กันว่าสามารถรวบรวมน้ำแร่แห่งฟ้าดิน…ฉันเดาว่าฟางผิงน่าจะขโมยของดีอย่างน้ำแร่แห่งชีวิตนั้นมาได้ เมืองเยามู่หรือก็คือเมืองเทียนเหมิน ช่างไร้ค่าสิ้นดี ต้นเทียนเหมินของพวกเขาเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรเป็นพิเศษเลย…”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พูดแบบนี้ไม่ได้ ยังไงพืชปีศาจขั้นเก้าก็นับว่าเป็นของดี! พืชที่กลายเป็นภูตพวกนี้ ฉันคิดว่าล้ำค่ามากกว่าพวกสัตว์ที่เป็นภูตซะอีก อย่างต้นหลิวยักษ์ของเมืองจู้หลิว ดูเหมือนไม่มีประโยชน์อะไร แต่ทั้งร่างเป็นของล้ำค่าทั้งนั้น!”
ระหว่างที่พูด ฟางผิงเอ่ยต่อว่า “ครั้งก่อนบอกว่าเมืองเทียนเหมินอาจจะย้ายเมืองไปรวมกับเมืองเยาขุย อาจารย์ เรื่องนี้เชื่อถือได้หรือเปล่าครับ?”
ถังเฟิงพยักหน้าว่า “มีแนวโน้มเหมือนกัน แน่นอนอาจไม่ได้เร็วขนาดนั้น ยังไงก็เป็นเมืองใหญ่ที่มีคนนับล้าน อยากจะอพยพ ไม่ใช่ง่ายๆ การแบ่งอำนาจภายในนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน เจ้าเมืองเทียนเหมินยังมีชีวิตอยู่ ต้นเทียนเหมินก็ไม่ได้ตาย แม้จะอพยพจริงๆ ก็อาจไม่เสร็จสิ้นภายในแปดถึงสิบปีนี้เสมอไป”
ฟางผิงเคาะโต๊ะชาเบาๆ เอ่ยว่า “ตอนนี้เมืองเทียนเหมินมีแต่เจ้าเมืองขั้นเก้า พืชปีศาจผู้พิทักษ์ขั้นเก้า แม่ทัพใหญ่ขั้นแปดหนึ่งคน แม่ทัพขั้นเจ็ดห้าคน ความสามารถนี้ ไม่ได้แข็งแกร่งจนเกินไป…”
สงครามครั้งก่อน เมืองเทียนเหมินสูญเสียอย่างหนัก ขั้นเจ็ดขั้นแปดบาดเจ็บล้มตายไปกว่าครึ่งใหญ่ ระดับกลางก็เจ็บตายไปนับไม่ถ้วน
ตอนนี้เมืองเทียนเหมินไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ
แน่นอนว่าไม่ได้แข็งแกร่งเกินไปเป็นแค่คำเปรียบเทียบ ยังไงก็มีขั้นเก้าตั้งสองคน
แต่นอกจากขั้นเก้าสองคน พลังระดับสูงที่เหลืออยู่ อาจเทียบกับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ได้เสมอไป
ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยเบาๆ “บางที…อาจจะทำลายเมืองเทียนเหมินได้จริงๆ! อาจารย์ถัง รอคุณทะลวงถึงขั้นปรมาจารย์แล้ว หากสามารถเรียกผู้บังคับการอู๋และเจ้าสำนักจ้าว รวมถึงผู้เฒ่าฟ่านของถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้…คุณว่า…”
ถังเฟิงขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “ตอนนี้เมืองเทียนเหมินและเมืองเยาขุยร่วมมือกัน หากจะโจมตีเมืองเทียนเหมินจริงๆ อีกฝ่ายต้องให้การสนับสนุนแน่”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “อาจไม่ต้องทำลายเมืองเทียนเหมินเสมอไป อันที่จริงผมนับว่ามองออกแล้ว ทางถ้ำใต้ดิน…ขั้นเก้าคือราชา ต่ำกว่าขั้นเก้า พูดได้แค่ว่าเป็นลูกมือ ฆ่าขั้นเก้าเป็นปัญหาใหญ่! แต่ฆ่าขั้นเจ็ดขั้นแปด พูดตามตรง ตายก็แค่ตาย หาโอกาสทำลายระดับสูงหกคนของเมืองเทียนเหมินที่เหลืออยู่…ถือว่าเป็นการแก้แค้นให้อธิการเฒ่าได้เหมือนกัน!”
ที่นั่นใกล้กับเมืองความหวังเกินไป!
แน่นอนว่าประเด็นหลักยังอยู่ที่ผลประโยชน์ หากทำลายเมืองเทียนเหมินจริงๆ อย่างอื่นไม่พูดถึง สายแร่ใต้ดินถูกชิงมาได้ นั่นก็รวยเละจริงๆ แล้ว!
เห็นฟางผิงเอาแต่พูดถึงเมืองเทียนเหมิน ฉินเฟิ่งชิงก็เอ่ยอย่างไม่พอใจอยู่บ้าง “ฟางผิง ฉันว่านะ ไปเมืองเยาขุยจะดีกว่า เมล็ดทานตะวันเพิ่มพลังจิตใจได้!”
ฟางผิงถลึงตาใส่เขา คร้านจะสนใจ
พลิกดูหนังสือหน้าอื่นต่อ ในนั้นฟางผิงยังอ่านเจอสิ่งที่คล้ายกับบันทึกประจำวัน
นี่น่าจะเป็นบันทึกของยอดฝีมือที่เขาหัวหมาป่าคนนั้น!
ฟางผิงพลิกดูผ่านๆ จู่ๆ กลับหยุดสายตาลง
“เมื่อวานราชามู่ประทานคำสั่งของเทพมู่ลงมา…ลังเลครั้งแล้วครั้งเล่าจึงมอบให้ลูกชาย แม้เขตหวงห้ามจะอันตรายก็มีโอกาสอยู่เช่นกัน วันที่ลูกชายกลับมา บางที…อาจจะถูกแต่งตั้งเป็นราชาได้?”
ฟางผิงชะงักไปเล็กน้อย พลิกดูต่ออีกหน่อย ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “ราชามู่คือเจ้าเมืองเทียนเหมินสินะครับ? เจ้าเมืองพวกนี้สามารถเข้าไปในเขตหวงห้ามได้ ทั้งยังมีอำนาจส่งคนเข้าไปในเขตหวงห้ามด้วย…”
ฟางผิงเอ่ยต่อเบาๆ “เจ้าเมืองพวกนี้ต่างแต่งตั้งราชาเอง…ไม่สิ บางทีเขตหวงห้ามอาจจะแต่งตั้งราชา? เขตหวงห้ามคือพื้นที่ใจกลางที่พวกเราพูดถึงกันสินะครับ?”
ถังเฟิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง “น่าจะใช่ ทั้งก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดกับทุกคนเหมือนกัน อันที่จริงถ้ำใต้ดินก็มีผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะ มีพวกอัจฉริยะอยู่ แต่พวกเธอเคยเจอหรือเปล่า? พวกเราเจอแค่ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำในระดับเดียวกัน เหมือนจะแย่กว่าอัจฉริยะมนุษย์ไปอยู่บ้าง หรือถ้ำใต้ดินอ่อนแอขนาดนั้นจริงๆ? ก่อนหน้านี้พวกเราคาดเดาว่าคนพวกนี้อาจจะเข้าสู่ถ้ำใต้ดินเมืองอื่นเพื่อฝึกประสบการณ์…ตอนนี้มาคิดดูแล้ว อาจจะเข้าไปอยู่ในเขตหวงห้ามมากกว่า”
“เขตหวงห้าม…”
ฟางผิงพึมพำ พูดตามตรง ในถ้ำใต้ดินจนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยเจอผู้ฝึกยุทธ์ในระดับเดียวกันมาก่อน
แต่ยอดฝีมือถ้ำใต้ดินมีจำนวนนับไม่ถ้วน ผู้ฝึกยุทธ์มากมาย ทำไมถึงอ่อนแอขนาดนั้นกันหมด?
ผู้ฝึกยุทธ์เยอะขนาดนี้น่าจะต้องมียอดฝีมือในระดับเดียวกันอยู่หลายคนสิ แต่ฟางผิงไม่เคยเจอมาก่อน
ตอนนี้พอจะรู้แล้ว ไม่อยู่ทางนี้เลยต่างหาก
ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรหนานชีหรือหนานจิ่ว อาจจะเป็นพื้นที่ห่างไกลความเจริญจริงๆ
ยอดฝีมือขั้นเก้าสุดยอดพวกนั้นน่าจะอยู่ในเขตหวงห้ามทั้งหมดเช่นกัน
ฟางผิงถอนหายใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ก็ดี เร็วๆ นี้ต้องไปดูเขตหวงห้ามสักหน่อยแล้ว ผมกลับอยากเห็นว่าอัจฉริยะของถ้ำใต้ดินจะแข็งแกร่งแค่ไหนกันเชียว!”
—
อ่านหนังสือพร้อมทั้งพูดคุยกันไปอยู่พักใหญ่
สุดท้ายฟางผิงก็มองไปยังถังเฟิง “อาจารย์ถัง คุณต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่ถึงจะทะลวงเป็นปรมาจารย์ได้?”
ถังเฟิงเงียบไปพักหนึ่ง เอ่ยอย่างครุ่นคิดว่า “ต้องดูว่าราบรื่นหรือเปล่า ถ้าราบรื่นคงประมาณหนึ่งปี ไม่ราบรื่น หากพลังจิตใจติดอยู่ขั้นจับต้องได้ งั้นก็พูดยากแล้ว”
พลังจิตใจหนึ่งพันเฮิรตซ์สามารถจับต้องได้
แต่มีโอกาสติดอยู่ที่เก้าร้อยเฮิรตซ์เช่นกัน พลังจิตใจจับต้องได้ เป็นด่านยากของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกหลายคน
ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ตาเฒ่าหลี่ หลู่เฟิ่งโหรว ถังเฟิง สามคนนี้ต่างมีปราณพรั่งพร้อมตั้งนานแล้ว ขาดแค่พลังจิตใจเท่านั้น
ในนั้นมีหลู่เฟิ่งโหรวที่พลังจิตใจแข็งแกร่งที่สุด เก้าร้อยเฮิรตซ์ ถังเฟิงรองลงมา ตอนนี้อยู่ที่หกเจ็ดร้อยเฮิรตซ์ สามารถเพิ่มได้รวดเร็วอย่างมาก ตาเฒ่าหลี่ด้อยที่สุด จนถึงตอนนี้ยังไม่แตะห้าร้อยเฮิรตซ์ขั้นที่ปลดปล่อยได้เลย
“พลังจิตใจ…”
ฟางผิงพึมพำเบาๆ ดังคาด พลังจิตใจเป็นอุปสรรคที่ยากที่สุดของการเป็นปรมาจารย์
เมล็ดทานตะวันของเมืองเยาขุย บางทีอาจต้องเอากลับมาสักหน่อยจริงๆ แล้ว