หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 206 มีคนโดนมนต์ดำ

บทที่ 206 มีคนโดนมนต์ดำ

บทที่ 206 มีคนโดนมนต์ดำ

นี่คือเสียงของถ้วยน้ำชาที่กระแทกแตกลงบนพื้น…

ทำให้หลานเยาเยาหยุดชะงัก นางหยิบลูกกวาดออกมาให้เด็กสาว และให้นางกลับไปยังที่พำนักของฮัวหยู่อัน

จากนั้นก็หลบซ่อนตัว และคิดที่จะไปทางหน้าต่างด้านหลังของที่พำนัก

ใครจะรู้ว่า……

ที่ตรงนั้นจะมีคนอยู่ก่อนแล้ว ทั้งยังแอบฟังอยู่ตรงนั้นก่อนหน้านางเสียอีก

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า คนคนนั้นก็หันหน้ามาด้วยความตื่นตกใจ พอเห็นว่าเป็นหลานเยาเยา ก็หรี่ตาลง และพูดเบาๆว่า

“เจ้ามาทำการใดที่นี่?”

วันนี้ฮัวหยู่อันได้พาชายสามคนกลับมาด้วย เขาเห็นหมดแล้ว อีกสองคนมีราศีที่ทรงพลัง มีเพียงเขาเท่านั้นที่สงบเสงี่ยมเรียบร้อย แต่กลับเดินใกล้กับฮัวหยู่อันที่สุด นางก็คงอยากที่จะไม่สนใจแต่ก็ทำไม่ได้

เมื่อได้เห็นใบหน้าของคนผู้นั้น หลานเยาเยาก็เลิกคิ้วขึ้น ปรากฏว่าเป็นเขา

คนคนนั้นที่ไล่ล่าตามฆ่าอาฝูและโม่ซาง ซึ่งเหมือนจะเป็นคนเดียวกันที่เป็นดั่งคู่รักวัยใสของเสี่ยวฮัวที่เติบโตมาด้วยกัน

“มาดูเจ้าแอบฟังกระมัง! จะให้มาทำการใดเล่า? ถ้าไม่ใช่มาแอบฟังเหมือนเจ้าหน่ะ” ในตอนที่นางช่วยอาฝูและโม่ซาง คนตรงหน้าไม่แม้แต่จะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนาง

เช่นนั้น!

นางจึงไม่กลัวว่าเขาจะจำได้

“เจ้า……”

“ชู่…… เบาเสียงหน่อย เจ้ายังอยากจะอยู่ในชนเผ่าต่อไปหรือไม่?” เมื่อเห็นว่าคนคนนั้นยังจ้องมองนางด้วยความหวาดระแวง นางก็อดไม่ได้ที่จะยักไหล่ “การที่เสี่ยวฮัวร้องไห้ออกมาเช่นนั้น ทำให้ข้าเป็นห่วง! ข้าจึงได้มาดูนาง เจ้าเองก็เป็นห่วงนางเหมือนกัน?”

คนคนนั้นไม่ตอบกลับแต่อย่างใด หลานเยาเยาจึงอิงบานหน้าต่าง และมองดูอย่างตั้งใจ

“………” ไหนบอกไม่ได้มาแอบฟัง

แต่เขาเองก็คงอดทนมานาน ถึงได้ไม่ปริปากพูดอันใดเลย เพียงแค่แอบฟังอยู่ที่หน้าต่างอีกบาน เสียงของฮัวหยู่อันถามคำถามอยู่ในที่พำนักนั้น

“พ่อใหญ่ ท่านเคยพูดกับข้าไว้อย่างแจ่มแจ้ง ว่าอาฝูและโม่ซางจักไม่มีทางได้เป็น*เด็กชายและเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ แต่เพลานี้พวกเขานั้นไม่ใช่เพียงแค่ได้เป็น*เด็กชายและเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ แต่พวกเขายังถูกสังเวยไปแล้ว เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่ข้าไม่เคยได้รับรู้ ท่านจะให้ข้าสงบจิตสงบใจได้อย่างไรกัน?”

ในห้องยังคงเงียบสงัด ไร้เสียงใดๆ

“เห้อ……”

ไม่รู้เลยว่าผ่านไปนานเพียงใด ถึงได้มีเสียงถอนหายใจของผู้อาวุโสใหญ่ดังขึ้น

“หยู่อัน เจ้าแยกจากไปอยู่ช่วงหนึ่ง ขณะนั้นก็มีเรื่องเกิดขึ้น ทำให้คนในชนเผ่าต่างตื่นตระหนก ตกอยู่ในความหวาดกลัว

เช่นนั้นการสังเวยจึงรอช้าไม่ได้ ในตอนนั้นก็จำเป็นต้องคัดเลือก*เด็กชายและเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ ความบ้าคลั่งที่โหดร้าย ดั่งศพเดินได้ที่กัดกินเนื้อคน ทั้งยังดื่มเลือดเพื่อเลี้ยงชีพ

เพื่อปกป้องชาวเผ่า จึงต้องประหาร*เด็กชายและเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ อาฝูและโม่ซางเป็น*เด็กชายและเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ที่พระเจ้าทรงเลือก หาใช่เรื่องที่เราสามารถตัดสินใจได้เองไม่ เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้ ข้าและพ่อรองพ่อสามของเจ้าต่างก็คิดไม่ถึง

พวกเขาได้ถูกสังเวยไปเพื่อปกป้องความสงบสุขของชนเผ่า หยู่อัน ลูกสาวของข้า! หรือเจ้านั้นลืมไปเสียแล้ว? ว่าการสังเวยนั้นเป็นเรื่องศักสิทธิ์ อย่าได้เสียใจเพราะว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจ้า การสูญเสียนี้เป็นไปด้วยเหตุอันสมควร

หลังจากนี้เจ้าจะเป็นคนที่โตขึ้น เรื่องเหล่านี้เจ้าจะต้องค่อยๆปรับตัว ต่อจากนี้ไปไม่ควรทำเรื่องเหมือนในวันนี้อีก”

เมื่อเผชิญกับน้ำเสียงที่จริงจังของผู้อาวุโสใหญ่ ฮัวหยู่อันก็ทำได้แต่เพียงสะอึกสะอื้นอยู่เบาๆ

นางไม่รู้เลยวว่า พ่อใหญ่ที่นางเคารพรักมาตลอดจะโกหกหน้าตายต่อหน้าต่อตานาง โดยที่ตาไม่กระพริบเลย

หากนางไม่รู้ว่าอาฝูและโม่ซางยังคงมีชีวิตอยู่ หากนางไม่ตระหนักว่า*เด็กชายและเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ที่ถูกสังเวยในวันนี้ถูกคลุมไว้ นางก็คงจะเชื่อคำของเขาไปแล้ว

ทันใดนั้น!

ก็มีเสียงของฝีเท้าจากด้านนอกดังเข้ามา หลังเสียงดัง “แอ๊ด” ประตูห้องก็เปิดออก

“ท่านผู้อาวุโสใหญ่ ท่าไม่ดีแล้วขอรับ มีคนโดนมนต์ดำ มีลักษณะเหมือนกันกับ*เด็กชายและเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ ในคราวที่แล้วเลยขอรับ”

“เจ้าว่ากระไร?”

ผู้อาวุโสใหญ่ลุกลี้ลุกลน จากนั้นก็รีบพาฮัวหยู่อันออกไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อได้ยินคนพูดถึงมนต์ดำแล้ว ก็หวนนึกถึงที่ผู้อาวุโสคนก่อนเคยพูดไว้ คนที่โดนมนต์ดำก็คือคนถึงวาระที่จะโดน พวกเขาจะเป็นเหมือนผีดิบ จะดื่มเลือดเพื่อความอยู่รอด

นี่มันก็เหมือนกับที่เย่แจ๋หยิ่งพูดไว้เกี่ยวกับอาการของหนอนพิษกู่จิ้น……

เย่แจ๋หยิ่ง……

หลานเยาเยาลุกลี้ลุกลน รีบเปิดหน้าต่างและปีนเข้าไปในทันที จากนั้นก็ออกมาทางประตูใหญ่ และตะโกนเสียงดังให้กับคนที่เดินอย่างรวดเร็วอยู่ข้างหน้า:

“ช้าก่อน”

ฮัวหยู่อันและผู้อาวุโสใหญ่หันมาพร้อมๆกัน เห็นว่าหลานเยาเยาออกมาจากในที่พำนัก ก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย

“คุณหนู……” ฮัวหยู่อันตะโกนออกไปด้วยความสับสน

“เจ้า……”

ผู้อาวุโสใหญ่อยากที่จะถามบางอย่าง แต่ก็ถูกหลานเยาเยาโบกไม้โบกมือขัดจังหวะ

“ข้าไปกับพวกท่านด้วย!”

ผู้อาวุโสใหญ่หันไปมองฮัวหยู่อัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดฮัวหยู่อันถึงเรียกหลานเยาเยาว่าคุณหนู แต่ก็ยังพยักหน้ารับ

เมื่อพวกเขากำลังจะเดินต่อ ก็มีคนอีกคนออกมาจากในห้อง ฮัวหยู่อันและผู้อาวุโสใหญ่หันมองหน้ากันในทันที อดไม่ได้ที่จะเสียงดังออกมาอย่างพร้อมเพียง: “เจี่ยนหมิง”

เจี่ยนหมิงค่อยๆยิ้มแห้งออกมา

ฮัวหยู่อัน เจี่ยนหมิง อาฝูและโม่ซาง พวกเขาเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เล็กจนโต อาฝูกับโม่ซางก็เป็นกลุ่มหนึ่ง ส่วนเจี่ยนหมิงนั้นชอบฮัวหยู่อัน แต่ฮัวหยู่อันก็อยากที่จะเป็นอิสระ อยากจะไล่ตามความสุขของตัวเอง จึงไปจากชาวเผ่าหยินไห่ และปล่อยให้ความรักเป็นไปตามที่ธรรมชาติจะรังสรรค์

เพลานี้!

เมื่อเจี่ยนหมิงได้พบกับฮัวหยู่อัน ในใจก็รู้สึกผิดขึ้นมา เขาจึงไม่กล้าที่จะมองหน้านาง

“ไปกันเถอะ!”

ผู้อาวุโสใหญ่ไม่พูดสิ่งใดต่อ รีบเดินไปยังคนที่ถูกรายงานอย่างระมัดระวัง หลานเยาเยาเองก็ตามหลังมาติดๆ

ในทุกย่างก้าว นางรู้สึกลำบากยากเข็ญเหลือเกิน แต่นางก็พยายามอย่างเต็มที่ในการสงบสติอารมณ์ เลือดของเย่แจ๋หยิ่งนั้นไม่ธรรมดา อีกทั้งยาที่นางให้เขาก็ยังช่วยชะลอการแพร่กระจายพิษของหนอนพิษกู่จิ้น ดังนั้น จึงไม่มีทางเป็นเขาอย่างแน่นอน

จนกระทั่งมาถึงป่าที่ไม่ไกลจากแท่นบูชายัญมากนัก เสียงคำรามดั่งสัตว์ป่าก็ดังมาจากด้านหน้า เมื่อเดินเข้าไปดู หลานเยาเยาก็ได้เห็นภาพที่แสนโหดร้าย

เป็นคนคนหนึ่งที่แต่งตัวเหมือนชนเผ่า กำลังกัดแทะคอของหมาป่าอย่างเมามัน เหมือนกับว่าเขากำลังดูดเลือดของมัน กำลังกินหมาป่ามันทั้งเป็น โดยมีผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงและเลือดเกรอะกรังไปทั่วร่าง

และใบหน้าของเขานั้น ก็เหมือนดั่งผีดิบอันสยดสยอง มิหนำซ้ำยังมีดวงตาที่กลวงโบ๋

คนที่กำลังเมามันกับการกินเลือดกินเนื้อเหมือนจะรู้สึกถึงบางอย่าง จึงเงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งใบหน้าเหนอะหนะไปด้วยเลือด มีฟันโผล่ออกมาเต็มปาก พร้อมกับเลือดที่หยดอยู่ตรงมุมปากเล็กน้อย………

เพลานี้ หลานเยาเยาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ไม่ใช่เขา!

และนางก็กลับมาตั้งสติรู้พร้อมในทันที จากนั้นก็มองไปที่คนคนนั้นอย่างระมัดระวัง

ได้เห็นเขาค่อยๆยืนขึ้น พลางส่งเสียงเหมือนขากเสมหะเบาๆอยู่ในลำคอ และจ้องมองมาทางพวกเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ พร้อมยื่นมือทั้งสองข้างที่เปื้อนเลือดออกมา แม้ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าและสั่นๆเล็กน้อย แต่วินาทีต่อมาเขาก็มีปฏิกิริยาบางอย่าง พร้อมพุ่งเข้ามาหาพวกเราอย่างรวดเร็ว

ภาพอันสยดสยองตรงหน้า ทำให้ฮัวหยู่อันตัวสั่นระรัวด้วยความหวาดกลัวจนหน้าซีดเผือกไปก่อนแล้ว

แววตาของเจี่ยนหมิงที่ยืนอยู่ข้างๆนางก็เผยความกลัวออกมาเช่นเดียวกัน เขาพึมพัมกับตัวเองอย่างไม่เชื่อ: “หายนะมาแล้ว”

ท่าทางของผู้อาวุโสใหญ่นั้นดีกว่าพวกเขาสองคน แววตาที่ไร้ซึ่งความกลัวก็โบกไม้คธาเฆี่ยนไปที่เป้าหมาย เพียงครั้งเดียวก็กระแทกคนคนนั้นจนกระเด็นไปไกล

แต่ว่า…

คนคนนั้นเหมือนจะไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดใดๆ จึงเฆี่ยนไปอีกครั้ง ด้วยความถี่ที่เร็วขึ้น ความรุนแรงที่มากขึ้น

ผู้อาวุโสใหญ่เริ่มต่อสู้กับคนคนนั้นในพริบตา หลานเยาเยาที่มองดูอยู่ด้านข้าง พร้อมมันสมองที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นตาก็เป็นประกาย พร้อมหันหน้าไปทางเจี่ยนหมิงทันที

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท