หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 196 อย่าทำร้ายเด็กในท้องจะดีกว่า

บทที่ 196 อย่าทำร้ายเด็กในท้องจะดีกว่า

บทที่ 196 อย่าทำร้ายเด็กในท้องจะดีกว่า

“เอา……เออะ เอาอาหารเมนูแนะนำของโรงเหล้ามาอีกหนึ่งจาน เออะ ……เจ้าเอามาให้ในเวลาที่สั้นที่สุดจะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นข้าจะเอาเจ้ามาเป็นอาหารแทน” สายตาของหลานเยาเยาจ้องมองอยู่ที่อาหารรสเลิศ บ่นคำสาบานพึมพรำ : “กินพวกเจ้าไม่หมด ข้าจะคุกเข่าลงรองเพลงเพื่อเอาชนะ!”

นึกถึงเมื่อสองสามวันก่อน ถ้าไม่ใช่หนีตายก็เก็บคนมารักษา ดูเหมือนว่าจะไม่ได้กินอาหารดีๆมื้อใหญ่ๆเลย

วันนี้นางจะต้องกินอาหารเลิศรสชดเชยสองสามวันที่ผ่านมาที่ขาดหายไป

ถ้าไม่ได้ชดเชยคืนมา สาบานว่าจะไม่เป็นคนอีก!

พนักงานร้านกลืนน้ำลาย หน้าตาแสดงออกถึงความหวาดกลัว เหลือบมองชุดผ้าไหมคุณภาพสูงบนตัวนางอีกครั้ง จึงได้หลบออกจากห้องส่วนตัวไป

เจ้านายที่ร่ำรวย ไม่สามารถหาเรื่องได้

พนักงานเพิ่งออกไป หลานเยาเยาก็เอามือลูบท้องที่พองขึ้นของนาง ถึงแม้ว่าจะกินจะจุกแล้ว แต่มืออีกข้างหนึ่งของนางก็ยังคงคีบอาหาร คำแล้วคำเล่าใส่เข้าไปในปาก

“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ ใครก็ได้รีบช่วยเขาหน่อย ขอร้องพวกท่านล่ะ……”

เสียงร้องไห้ของหญิงผู้หนึ่งดังมาจากทางหน้าต่าง นางร้องไป พร้อมทั้งส่งเสียงขอร้องไปทางกลุ่มคน

“อาฝู เจ้ารีบไป อย่าห่วงข้า ไม่งั้นพวกเราทั้งคู่ต้องตายที่นี่แน่” เสียงที่หนักแน่นของชายผู้หนึ่งที่ดูอ่อนแอดังขึ้น

“ข้าไม่ไป เจ้าตายข้าก็จะไม่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ถ้าต้องโดนพวกเขาจับไปเผาบนแท่นบูชาให้ตายทั้งเป็น เช่นนั้นตายพร้อมเจ้าที่นี่ยังดีซะกว่า”

เมื่อได้ยินสิ่งเหล่านี้ที่น่าเศร้าสลด เสียงของการเกิดการตายการจากลา หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเข้าหากัน จากนั้นก็เอาเอวไปค้ำไว้กับขอบหน้าต่าง มองหาที่มาของต้นเสียง

เห็นเพียงชายหญิงสองคนแต่งตัวแบบต่างชาติ นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ใต้ชายคาของโรงเหล้าฝั่งตรงข้าม

บนตัวของผู้ชายมีบาดแผลจากมีดหลายรอย บาดแผลที่ร้ายแรงที่สุดสุดอยู่ตรงท้อง บนคอและที่ข้อมือมีรอยโดนมัด ผู้หญิงดูดีกว่าผู้ชายมาก แม้ว่าที่คอที่มือและเท้าจะมีรอยโดนมัดอย่างชัดเจน แต่นางไม่ได้รับบาดเจ็บ เพียงแต่ผมเผ้ารุงรังดูน่าสังเวช

และเจ้าของร้านเหล้า ไม่เพียงแต่ไม่สงสารพวกเขา ยังจะรังเกียจความซวยของพวกเขาทั้งคู่ด้วย สั่งให้คนไล่พวกเขาไป

แต่ทว่า!

ที่น่าแปลกมากก็คือ เมื่อพวกเขาโดนไล่ไปบนถนนใหญ่ ผู้คนบนถนนเมื่อเห็นการแต่งตัวของพวกเขา ก็ต่างตกใจแล้วหลบหนีไปอยู่ไกลๆ

หลานเยาเยารู้สึกคันไม่คันมือขึ้นมานิดหน่อย คู่รักที่แสนจะเหมาะสมกันที่น่าสงสารเช่นนี้ หากนางไม่ยื่นมือเข้าช่วย ภายในจิตใจต้องรู้สึกไม่สบายใจแน่!

แต่ว่านางไม่สามารถช่วยคนสุ่มสี่สุ่มห้าได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพาคนกลับไปที่โรงเตี๊ยมเลย

เย่แจ๋หยิ่งจะต้องฆ่านางแน่ๆ

จังหวะนี้พอดี พนักงานร้านวิ่งยกอาหารเมนูแนะนำของร้านเข้ามา ยังไม่ทันรอให้พนักงานร้านวางอาหารลงดีๆ หลานเยาเยาก็จับเขาไปถาม

“มองเห็นคนสองคนนั่นที่แต่งตัวแปลกๆบนถนนหรือไม่?”

พนักงานร้านโดนการกระทำที่กะทันหันของหลานเยาเยาขู่ให้ตกใจ ในใจคิดเพียงว่าในมือที่เขายกมาต่างหากที่อร่อย ไม่ใช่เขา!

หลังจากที่รู้ว่าหลานเยาเยาไม่ได้คิดจะกินเขา เขาจึงได้มองไปยังทิศทางที่หลานเยาเยาชี้ไป

“มอง มองเห็นแล้วขอรับ”

“พวกเขาเป็นใคร? ทำไมทุกคนต่างกลัวพวกเขา?”

“คุณชาย ท่านคงจะไม่รู้ คนปกติธรรมดาจะไม่แต่งตัวเช่นนี้ ที่แต่งตัวเช่นนี้ก็จะมีเพียงเด็กชายเด็กหญิงในชนเผ่าเท่านั้น พวกเขาเป็นคนที่ต้องถวายให้กับหุบเขาจิ้น พูดให้กระจ่างก็คือเป็นเครื่องเซ่นไหว้

ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาถูกเลือกให้เป็นเครื่องเซ่นไหว้เป็นต้นมา ก็จะถูกลิขิตว่ามีความโชคร้ายติดตัว จนกว่าจะถึงเวลาเซ่นไหว้ ตอนนี้พวกเขาหนีออกมาแล้ว หากใครที่กล้าเข้าไปยุ่งกับพวกเขาก็จะเท่ากับว่าเข้าไปพบกับความโชคร้ายด้วย”

เด็กชายเด็กหญิง?

ความโชคร้ายติดตัว?

หลานเยาเยาไม่เชื่อเรื่องที่พูดว่าความโชคร้ายจะติดตัว นี่เป็นเพียงแค่ประเพณีและก็ข่าวลือก็แค่นั้น

นางไม่ใช่นักปราชญ์ ไม่สามารถไปแก้ไขทัศนคติของผู้อื่นได้ และก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของคนหมู่มากได้

ช่วยคนนี่สิ……

งั้นก็ช่างมันละกัน!

นางไม่อยากจะสร้างปัญหาเพิ่มโดยไม่จำเป็น บนโลกนี้เรื่องไม่ยุติธรรมเต็มไปหมด นางจัดการไม่ได้ และไม่อยากจัดการ

ด้วยเหตุนี้!

หลานเยาเยาจึงได้กลับไปยังที่นั่งทันที แล้วก็ปิดหน้าต่างลง

บนถนน ผู้หญิงที่ชื่ออาฝู เห็นการตอบสนองของกลุ่มคน ก็รู้ว่าหมดความหวังในการขอความช่วยเหลือแล้ว จึงได้พยุงผู้ชายที่อยู่ข้าง ก้าวทีละก้าวเดินไปในทิศทางที่ไกลออกไป

คิดไม่ถึง……

“พวกเขาอยู่ตรงนี้ เร็วเข้า จับพวกเขากลับมา พวกผู้อาวุโสกำลังรอเซ่นไหว้อยู่!”

“หยุดนะ อาฝู โม่ซาง รีบกลับไปกับพวกข้า พวกเจ้าอยากจะให้ชนเผ่าเผชิญกับความวิบัตหรือไง?”

คนที่มาจับกุมพวกเขา รีบมาทางพวกเขาทั้งคู่เพื่อสกัดไว้อย่างรวดเร็ว ผู้เป็นผู้นำเต็มไปด้วยความโกรธและคำตำหนิ

ทำไมพวกเขาจึงคิดไม่ถึง หลายปีที่ผ่านมานี้ของเด็กชายเด็กหญิง ผู้ใดบ้างที่ไม่ได้รอคอยการถูกนำมาเซ่นไหว้อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว?

พวกเขากลับดี คาดไม่ถึงเลยว่าจะหนีออกมาในวันเซ่นไหว้

“เซ่นไหว้? ทุกปีมีการเซ่นไหว้ แต่ความขัดแย้งกันในชนเผ่าเคยหยุดลงบ้างไหม? พวกเขาเพียงแค่ต้องการล้างแค้นเป็นการส่วนตัว อยากให้พวกข้าตายเท่านั้น” โม่ซางมองหน้าเพื่อนสนิทในอดีตด้วยความโกรธ ที่วันนี้เป็นศัตรูกัน

“หึ! ความตายมาอยู่ตรงหน้าแล้วยังจะพูดจาไร้สาระอีก หลอกลวงข้า นี่เป็นเพียงแค่ข้ออ้างของพวกเจ้าที่อยากมีชีวิตต่อเพราะกลัวความตายเท่านั้น”

“พวกข้าล้วนเป็นเพื่อสนิทที่เติบโตมาพร้อมกับหยู่อัน พวกข้าตายแล้ว หยู่อันจะต้องทวงความยุติธรรมให้กับพวกข้า” ดวงตาของอาฝูมีน้ำตา ที่พยายามอดกลั้นไว้ไม่ให้มันไหลออกมา

“นางไปแล้ว จะไม่กลับมาแล้ว แล้วจะทวงความยุติธรรมคืนให้พวกเจ้าได้เช่นไรอีก?”

ผู้นำที่พาคนที่มาจับกุมพวกเขาดูเหมือนจะไม่อยากพูดกับโม่ซางให้มากมายนัก เมื่อโบกมือ ก็สั่งให้คนอื่นไปจับพวกเขาเอาไว้

โม่ซางและอาฝูจะให้จับกุมมัดมือได้เช่นไร?

รู้ตัวดีว่าสู้ไม่ได้ อาฝูจึงพาโม่ซางเหาะขึ้นไปบนหลังคา

“พวกเขาหนีไปแล้ว”

“หึ! โม่ซางบาดเจ็บ พวกเขาหนีไปได้ไม่ไกล ตาม ตามมาให้ข้า”

……

อาฝูและโม่ซางวิ่งมาเป็นเวลานาน สุดท้ายก็โดนคนด้านหน้าที่ตามจับกุมพวกเขาตามทัน

“วิ่งสิ! พวกเจ้าวิ่งต่อไปสิ ทำไมไม่วิ่งแล้วหล่ะ?”

“ถึงพวกข้าจะต้องตายที่นี่ ก็จะไม่กลับไปเป็นเครื่องเซ่นไหว้” ขณะพูด อาฝูเอามีดสั้นออกมาจ่อไว้ที่คอของตัวเอง

โม่ซางก็เตรียมตัวฆ่าตัวตายไว้แล้ว

ใครจะรู้……

ผู้นำคนนั้นเอาหินขึ้นมาแล้วดีดไป ก็ทำให้มีดสั้นที่อยู่ที่คอของอาฝูตกลงมา จากนั้นเขาก็รีบขึ้นไปข้างหน้า หยุดยั้งการฆ่าตัวตายของโม่ซาง

“พวกเจ้าจะต้องตายบนแท่นบูชาเท่านั้น และยังต้องโดนไฟเผาให้ตายทั้งเป็น” คนที่เป็นผู้นำส่งเสียงหึออกมาอย่างเย็นชา จากนั้นก็ให้คนเอาเชือกมามัดพวกเขาไว้

ทันใดนั้น!

“ฉึบ……”

“ฉับ……”

เข็มเงินหลายเล่มลอยมาจากที่ลับ โจมตีไปยังคนที่เป็นผู้นำ คนที่เป็นผู้นำหลบหลีกอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บ

หลังจากนั้นก็ยังมีอาวุธลับอีกหลายด้ามโจมตีมาอีก บีบบังคับให้คนที่อยากจะมัดอาฝูและโม่ซางถอยล่นไป

สุดท้าย “ปั่ง” เสียงหนึ่ง มีอะไรบางอย่างระเบิดอยู่ตรงกลางกลุ่มคน จากนั้นก็มีควันสีขาวปะทุขึ้นมามากมาย พวกเขาทั้งหมดถูกปกคลุมอยู่ด้านใน

แล้วคนพวกนั้นก็เกิดความอลหม่านขึ้นมา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“ไม่รู้สิ! หมอกนี้มาอย่างน่าประหลาด”

“หึ! จะต้องมีคนมาก่อกวนแน่นอน ทุกคนระวังตัวด้วย”

รอจนหมอกขาวที่หนาแน่เริ่มจางลง ก็ไร้ร่องรอยอาฝูและโม่ซางแล้ว สีหน้าของคนที่เป็นผู้นำโกรธจนเขียวปั๊ด ปรากฏแววตาแห่งความโกรธ

ในบ้านหลังหนึ่งที่ดูทรุดโทรม อาฝูและโม่ซางนั่งอยู่ที่พื้นด้วยความมึนงง สายตาจับจ้องไปยังแผ่นหลังของชายที่สวมใส่เสื้อผ้าที่หรูหรา

เมื่อชายผู้นั้นเรอ แล้วหันกลับมาพร้อมลูบท้องของตัวเองที่ป่องขึ้นมาไปพลาง อาฝูและโม่ซางเกิดความสับสนขึ้นมาทันที

ผู้ชายก็สามารถท้องได้หรือ?

อาฝูไม่เคยได้ออกจากชนเผ่ามาก่อน ดังนั้นนางมองที่โม่ซางด้วยสีหน้าสงสัย โม่ซางก็ส่ายหัวให้

ผู้ชายตั้งท้อง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่เคยได้เห็นมาก่อน

แต่ว่า!

ไม่ว่าจะพูดเช่นไร คุณชายตรงหน้าที่ตั้งท้องผู้นี้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ อาฝูพูดด้วยความซาบซึ้งในบุญคุณอย่างยิ่งว่า : “ขอบคุณคุณชายที่ช่วยชีวิต ไม่สามารถตอบแทนพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของคุณชายได้ หวังเพียงแค่จะไม่ทำให้เด็กในท้องของคุณชายบาดเจ็บจะดีที่สุด

หลานเยาเยา : “……”

นางตั้งท้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมตัวนางเองจึงไม่รู้?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท