หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 215 ที่แท้ท่านก็รู้ทุกอย่างหมดแล้ว

บทที่ 215 ที่แท้ท่านก็รู้ทุกอย่างหมดแล้ว

บทที่ 215 ที่แท้ท่านก็รู้ทุกอย่างหมดแล้ว

” นี่เป็นสิ่งที่ประมุขเผ่าท่านเก่าเคยเขียนเอาไว้ ข้าไม่เข้าใจเรื่องวิชาการรักษา ข้าดูไม่รู้หรอกว่าบนกระดาษเขียนสิ่งใดไว้ แต่ข้าคิดว่าคงจะเกี่ยวข้องกับคนโดนมนต์ดำ ดังนั้นจึงเอามาให้เจ้าลองดู หวังว่าจะมีประโยชน์แก่เจ้า ”

หลานเยาเยาหันไปจ้องมองกระดาษในมือของผู้อาวุโสสามยื่นมาให้ สิ่งที่อยู่ในมือของผู้อาวุโสสามนั้นถือเป็นร่องรอยของกาลเวลาที่หลงเหลืออยู่

หากไม่หันไปมองดวงตาอันเจ้าคิดเจ้าการของเขา นางก็คงจะคิดว่าเขาก็เป็นเพียงชายชราที่อยู่เฝ้ารอความตายเท่านั้น

ในตอนที่ลักพาตัวผู้อาวุโสใหญ่หนังสือทำเนียบบรรพชนเล่มนั้นพวกเขาไม่ได้หยิบเอามาด้วย แต่กลับวางมันกลับไปยังช่องลับดังเดิม

แล้วกระดาษสีเหลืองซีดที่อยู่ในมือของผู้อาวุโสสามตอนนี้นั้น ดูก็สามารถรู้ได้เลยว่ามันเป็นกระดาษแบบเดียวกับหนังสือทำเนียบบรรพชนทุกอย่าง ดังนั้นจึงกล้ามั่นใจว่ากระดาษแผ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกฉีกออกมาจากหนังสือทำเนียบบรรพชน

ก่อนนี้ตอนอยู่ในห้องของผู้อาวุโสใหญ่ บทสนทนาของเขาและผู้อาวุโสรองพวกเขาล้วนได้ยินหมดแล้ว ตอนนี้ดูแล้วเขาคงกำลังหลอกล่อให้พวกเขาเข้าไปหาความตายในหุบเขาจิ้น

แล้ว !รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลานเยาเยาทันที จากนั้นก็ยื่นมือไปรับกระดาษนั้นอย่างทะนุถนอม จากนั้นก็กวาดตาดูอยู่ครู่หนึ่งพลางแววตาก็ประกายขึ้นมา

“สิ่งนี้นับว่าเป็นประโยชน์ยิ่งนัก ”

ผู้อาวุโสสามมองดูปฏิกิริยาของนางแล้วก็รู้สึกพอใจอย่างมาก จากนั้นจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะพาผู้อาวุโสรองเดินจากไป

พอพวกเขาจากไป ภายในห้องก็เงียบขึ้นมาทันที

รอยฟกช้ำบนใบหน้าของหานแสยังไม่หายดี หลังจากที่หันไปมองเย่แจ๋หยิ่ง เขาก็รู้สึกอยากจะออกห่างจากเขา

ส่วนเย่แจ๋หยิ่งก็ยืนอยู่ข้างหน้าต่าง ไม่ได้กลับไปยังห้องของตัวเอง และไม่ได้กล่าวสิ่งใด เพียงสายตากำลังจ้องมองไปยังกระดาษสีเหลืองซีดในมือของหลานเยาเยา

หลานเยาเยาในตอนนี้เองจะมีอารมณ์จากไหนมาสนใจพวกเขากัน?

ขนาดแม้แต่เรื่องที่หานแสพาผู้อาวุโสใหญ่ไปซ่อนไว้แห่งใดนางก็ไม่ได้ถาม แต่กลับหันไปอ่านกระดาษที่อยู่ในมืออย่างรวดเร็ว

“เป็นไปไม่ได้ นี่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ไม่มีทางเป็นไปได้……” สำหรับปฏิกิริยานี้ของนางทั้งเย่แจ๋หยิ่งและหานแสต่างก็คาดไม่ถึง

เย่แจ๋หยิ่งไปก่อนหานแสก้าวหนึ่ง ดังนั้นในไม่ช้าจึงไปถึงข้างกายของหลานเยาเยา ก่อนจะมองไปยังกระดาษแผ่นนั้น

เพียงแต่……

ทันทีที่ดู เย่แจ๋หยิ่งกลับตะลึงงัน

ตัวอักษรที่เขียนไว้บนนั้น เขาอ่านไม่ออกเลยสักนิด แต่กลับมีความรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่จากปฏิกิริยาของหลานเยาเยาแล้วก็ทำให้รู้ได้เลยว่านางอ่านเข้าใจทั้งหมด

หานแสเองก็เข้ามาดูแต่ก็อ่านไม่เข้าใจเลย แต่บนหน้ากระดาษมีภาพวาดอธิบายอยู่ ในนั้นมีภาพวาดดอกไม้หนึ่งดอกอยู่สองภาพ ส่วนอีกภาพเป็นภาพเส้นทาง พูดได้ชัดเจนเลยว่าด้านหลังของแท่นบูชายัญจองชนเผ่านั้นก็คือหุบเขาจิ้น

” บนหน้ากระดาษเขียนสิ่งใดไว้หรือ? ” หานแสถาม

หลานเยาเยาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าพลางเอ่ยปากอย่างเบาๆ

” ดอกกระดูกขาว ยาต้นกำเนิดตัวสุดท้ายอยู่ในหุบเขาจิ้น ”

” เจ้าเข้าใจทั้งหมดเลยงั้นหรือ? ” สิ่งนี้ทำให้หานแสรู้สึกประหลาดใจอย่างหนัก

“เพียงบางส่วนเท่านั้น!”

มากกว่านั้นเพียงเล็กน้อย นางสามารถเข้าใจทุกตัวอักษรเลย

แต่เพราะด้วยเหตุนี้ ไม่ใช่แค่นางไม่มีความสุข แต่ยังมีความกังวลอีกด้วย

พิษกู่จิ้นในตอนนี้ไม่ใช่พิษกู่จิ้นดั้งเดิมอีกแล้ว พิษกู่จิ้นดั้งเดิมนั้นถึงแม้จะสามารถควบคุมจิตใจของคนได้ ทำให้คนเปลี่ยนราวกับคนตายทั้งเป็น แต่มันกลับไม่สามารถทำให้ผู้ที่โดนพิษกินเลือดกินเนื้อได้ และยิ่งไม่สามารถเป็นโรคติดต่อได้ด้วย

“ลายมือนี้ไม่ใช่ลายมือของอดีตประมุขเผ่า ”

ลายมือของท่านพ่อของฮัวหยู่อันหานแสเคยเห็นมาก่อน ดังนั้นเขากล้ารับรองเลยว่าลายมือบนกระดาษแผ่นนี้ไม่ใช่ท่านพ่อของฮัวหยู่อันเป็นคนเขียน

“คาดว่าน่าจะเป็นลายมือของราชครูที่หายตัวไปท่านนั้น” หลานเยาเยาเอ่ยอย่างเบาๆ

ผู้ที่มาจากต่างแดนคนหนึ่ง มาอาศัยตั้งรกรากในหมู่บ้านประมง ต่อมาหลังจากที่จากหมู่บ้านไปก็ได้ขึ้นครองตำแหน่งราชครู อีกทั้งการครองตำแหน่งราชครูครั้งหนึ่งก็ใช้เวลาถึงห้าหกสิบปี แล้วสี่ห้าปีก็ยังกลับมาที่ชนเผ่า ซึ่งในทุกครั้งที่กลับมาก็มีอาการเจ็บป่วยหนัก และทุกครั้งก็มักมีผู้ตามมาลอบสังหาร แล้วผู้คนในชนเผ่าก็จำเป็นต้องเสียสละเพื่อปกป้องเขา

ดังนั้น! ทุกครั้งที่เขากลับมาก็ต้องมีคนตาย

เป้าหมายที่แท้จริงของราชครูคืออะไรกันแน่?

ชนเผ่าหยินไห่จะยังมีความลับแบบไหนอีก ?

” ที่แท้พวกเขาก็ใช้วิธีการเช่นนี้มาหลอกล่อให้พวกเราเข้าไปในหุบเขาจิ้นนี่เอง ในเมื่อมียาต้นกำเนิด เช่นนั้นก็จำเป็นต้องไป”

ไม่ว่าข้างในนั้นจะอันตรายเพียงใด เขาก็จะต้องไป

ถูกพิษกู่จิ้นทรมานมาแล้วยี่สิบปี หากไม่สำเร็จก็ขอตายอย่างมีเกียรติ

ถึงอย่างนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามเขาจะต้องให้ชนเผ่านี้ถูกฝังไปพร้อมกับเขา

“ได้ เช่นนั้นก็ไป! ”

หลังจากตัดสินใจ หานแสก็ไม่ได้อยู่ต่อ หลังจากที่เขาออกไป ก็เอาร่างผู้อาวุโสใหญ่ที่ซ่อนอยู่บนต้นไปด้วย

ผ่านไปไม่นาน เขาก็มาถึงสถานที่ที่เขาเคยอาศัยอยู่เมื่อยังเด็ก ที่นี่เขาลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว มอสที่ขึ้นเต็มไปหมดกับกำแพงที่แตกหัก

เขายืนนิ่งอยู่หน้ากำแพงอันทรุดโทรม ก่อนจะปล่อยผู้อาวุโสใหญ่ที่ยังสลบไม่ตื่นลงกับพื้นด้วยความรังเกียจ จากนั้นก็เป่านกหวีด

แล้วยิงจวนอย่างเฮย-ไป๋อู่ฉาง(ยมทูตขาวดำ)ก็ปรากฏมาตรงหน้าของเขา พร้อมกับทำความเคารพ

” ขอคารวะเจ้านาย ”

” รวบรวมคนจนครบแล้วหรือ? ” หานแสกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำอย่างชั่วร้าย

” เรียนเจ้านาย ตอนนี้ได้ทำการแฝงตัวเข้าไปในชนเผ่าเรียบร้อยแล้ว ” เฮย-ไป๋อู่ฉาง(ยมทูตขาวดำ)กล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน

” เช่นนั้นก็ดี วันพรุ่งนี้ข้าจะเข้าไปในหุบเขาจิ้น หากว่าวันมะรืนไม่เห็นข้าออกมา ก็สังหารทุกคนในชนเผ่าแห่งนี้ให้หมด อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว ”

“ขอรับ!”

——

ภายในห้อง

หลานเยาเยาใช้มือทั้งสองข้างกุมศีรษะไว้ ดวงตาจ้องมองไปบนโต๊ะด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนอย่างมาก

จนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มีคนส่งชาร้อนมาให้จากที่นั่งตรงข้าม จากนั้นเสียงทุ้มๆก็ดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา

“ไม่ควรจะไปหุบเขาจิ้น! ”

เสียงที่เบาบางแต่หนักแน่น และก็ปฎิเสธไม่ได้

หลานเยาเยาไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมอง เพราะนางรู้ว่าในช่วงเวลาเช่นนี้มีเพียงเย่แจ๋หยิ่งเท่านั้นที่อยู่ข้างกายของนาง แต่ครั้งนี้ นางจะไม่เชื่อฟังเขาอีกแล้ว

“เย่แจ๋หยิ่ง ท่านรู้หรือไม่? ตอนนี้สิ่งที่ข้าหมกมุ่นอยู่ไม่ใช่เพียงยาถอนพิษหนอนกู่จิ้นเท่านั้น แต่ข้าต้องการที่จะเข้าใจคนคนหนึ่ง คนที่สามารถทำให้พิษกู่จิ้นแพร่ในดินแดนที่ไม่ใช่แหล่งของพิษ กล่าวให้ชัดเจนเลยก็คือเขาอาจจะเป็นเหมือนกับข้า และข้าต้องการที่จะรู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา ดังนั้นหุบเขาจิ้นที่อยู่ตรงหน้าจึงถือเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว ”

นางไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่าเป็นคนเช่นไร แต่นางรู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งเข้าใจความหมายของนาง

นางจะไปหุบเขาจิ้นนั้นแน่ชัดแล้ว

ผู้ใดก็ขัดขวางนางไม่ได้ นอกจากนางตายเท่านั้น

” ไม่เคยมีผู้ได้รอดออกมาจากข้างในนั้น ” เย่แจ๋หยิ่งกล่าวด้วยความตั้งใจอย่างผิดปกติ

” บางทีอาจมีปาฏิหาริย์! ”

หลานเยาเยาหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นกล่าวถาม

“ท่านรู้จักน้ำปรโลกหรือไม่? ”

ทันใดนั้น เย่แจ๋หยิ่งก็นิ่งงัน

เขาคิดไม่ถึงว่าจู่ๆหลานเยาเยาจะถามสิ่งนี้ จึงพยักหน้าอย่างไม่ตั้งตัว

“รู้จัก!”

“ข่าวคราวที่ว่าตราหยกของราชวงศ์เก่าอยู่ในชนเผ่าหยินไห่ ผู้ใดเป็นคนปล่อยข่าวท่านรู้หรือไม่?”

ในตอนที่ถามสิ่งเหล่านี้ นางแสดงใบหน้าที่มีรอยยิ้มอยู่ตลอด ท่าทางเช่นนี้ของนางทำให้เย่แจ๋หยิ่งปวดใจ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถปิดบังนางได้อีกแล้ว

“ข้ารู้ ! ”

” เช่นนั้นท่านก็รู้ว่าข้ากำลังตามหาองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่ามาโดยตลอด? ” น้ำตาเม็ดโตร่วงลงมาจากดวงตาของหลานเยาเยา แต่นางก็ยังดึงริมฝีปากขึ้นอย่างเข้มแข็ง

“ข้ารู้”

เขาเอื้อมมือออกไปหวังจะเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของนาง แต่นางกลับปัดมือเขาทิ้ง

“เหอะๆๆ…”

แล้วหลานเยาเยาก็หัวเราะออกมาอย่างเจ็บปวดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเศร้าและอ้างว้าง

สุดท้ายนางก็ถามราวกับเสียงคำรามว่า ” เช่นนั้นท่านก็คงจะรู้ว่าตราหยกของราชวงศ์เก่าอยู่ในมือข้าตลอด ? ”

ในเวลานี้เอง เย่แจ๋หยิ่งถึงกับตัวเกร็ง ดวงตาค่อยๆปิดลงแล้วปากบางๆก็เอ่ยขึ้นมา

“รู้ ข้ารู้ทุกอย่าง” เสียงของเขาแหบลงและเบาจนเกือบจะไม่ได้ แต่หลานเยาเยาก็ยังได้ยิน

“ที่แท้ท่านก็รู้ทุกอย่าง แต่กลับอยู่ข้างกายข้าเพื่อมองดูข้าค่อยๆเข้าสู่สนาม ดูแล้วข้าช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ทุกอย่างข้าล้วนคิดผิด ไม่ว่าท่านจะใช้ประโยชน์จากข้าหรือไม่ แต่อย่างน้อยในใจของท่านก็มีพื้นที่เพียงเล็กๆน้อยๆที่เป็นของข้า

แต่แล้ว…… ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเรื่องจอมปลอม ข้ามีชีวิตมาแล้วสองชาติ ครั้งแรกก็ถูกคนคนหนึ่งเล่นกับความรู้สึกเช่นนี้ แต่ข้ากลับเกลียดเขาไม่ลง ท่านว่า ข้าน่าสมเพชหรือไม่ เหอะๆๆๆ….”

นางที่กำลังหัวเราะอยู่ ก็ค่อยๆร้องไห้อย่างเงียบๆ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท