บทที่ 218 สั่งสอนซิ่วซิ่ว
“เจ้าๆๆ….ผู้หญิงชั้นต่ำ วันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนเจ้าเสียหน่อยแล้ว”
เสียงที่ดังออกมา!ดวงตาของซิ่วซิ่วก็ประกายความชั่วร้ายออกมา จากนั้นก็ฟาดกำหมัดหวังจะทำร้ายหลานเยาเยาด้วยกำลังที่มีทั้งหมดของตัวเอง
คนที่คิดว่าจะทำร้ายนางสำเร็จอย่างซิ่วซิ่ว แต่มันกลับชะงัก ก่อนที่หมัดของนางจะไปโดนหลานเยาเยา
นางเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ พลางมองไปรอบๆเพื่อหาตัวหลานเยาเยาที่ไม่อยู่กับที่แล้ว พร้อมกับพึมพำกับตัวเอง
“เป็นไปไม่ได้ มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
เพียงไม่นาน นางก็ได้ยินเสียงใครบางคนผิวปากเรียกสุนัขมาจากด้านหลัง จึงรีบหันหน้าไปดู ก็เห็นหลานเยาเยาที่กำลังมองมาด้วยความนิ่งเฉย ดวงตาเต็มไปด้วยความหยอกเย้า
เมื่อสักครู่นี้หลานเยาเยาเป็นคนผิวปากเรียกสุนัขออกมา ส่วนคนที่ถูกแทนเป็นสุนัขก็คือนางเอง แถมนางก็ยังหันหน้ามาอย่างเชื่อฟังเสียด้วย น่ารังเกียจจริงๆ!
นางถูกแทนเป็นสุนัข
“ช่างเชื่อฟังเสียจริงๆ!”
เมื่อเห็นใบหน้าที่แดงด้วยความโกรธ และท่าทางราวกับกำลังเดือดจนใกล้ระเบิดของซิ่วซิ่ว หลานเยาเยาก็ยิ่งยิ้มออกมาอย่างสดใส
“โกรธงั้นรึ? โกรธนั้นถูกแล้วหล่ะ”
คนที่โกรธจนยากจะอธิบายอย่างซิ่วซิ่ว ก็ดึงมีดซึ่งไม่รู้ว่ามาจากไหนออกมาด้ามหนึ่ง แล้วพุ่งไปยังหลานเยาเยา โดยจงใจชี้ไปยังใบหน้าของนาง ราวกับว่าใบหน้าขอหลานเยาเยาไปสะกิดใจของนางเสียอย่างนั้น
“ตอนนี้ข้าจะฉีกปากเจ้าทิ้งเสีย ทำลายใบหน้าของเจ้า ดูสิว่าเจ้ายังจะไปยั่วยวนท่านชายเย่อย่างไร ? ”
สำหรับซิ่วซิ่วแล้ว คนที่นางถูกใจเขาก็จะต้องเป็นของนาง อีกทั้งตอนนี้นางก็ได้คิดว่าเย่แจ๋หยิ่งเป็นผู้ชายของนางแล้ว
แต่ว่า! ไม่ว่านางจะลงมืออย่างไร ก็ไม่มีทางที่จะแตะต้องหลานเยาเยาได้เลยแม้แต่ปลายขน
จนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใด! จู่ๆก็มีเสียงอันเจ้าเล่ห์ดังขึ้นมา
“เยาเยา นี่กี่ยามแล้ว เจ้ายังมีอารมณ์มาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้อีกหรือ”
หานแสที่กำลังพิงหลังอยู่กับต้นไม้ใหญ่ มองดูพวกนางทั้งสองต่อสู้กันอย่างเบื่อหน่าย
ทันทีที่ได้ยินหานแสเรียกชื่อหลานเยาเยา
ซิ่วซิ่วก็ถึงกับมึนงงในทันที
ที่แท้ก็คือหลานเยาเยา คนที่เดินอยู่ใกล้ตัวท่านชายเย่
คิดไม่ถึงว่านางจะเป็นสตรี
พอนึกถึงแววตาของท่านชายเย่ทุกครั้งที่มองนางนั้นล้วนเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและหลงใหล
ความหึงหวงอย่างบ้าคลั่งก็หยั่งรากลึกในใจของซิ่วซิ่ว….
ท่านชายเย่เป็นของนาง นางชอบใครคนนั้นต้องเป็นของนางคนเดียวเท่านั้น
หลานเยาเยานับว่าเป็นใครกัน ไม่ว่าใครก็จะเอาคนที่นางชอบใจไปไม่ได้
ดังนั้น ! ซิ่วซิ่วจึงชี้มีดพุ่งไปยังหลานเยาเยาอีกครั้งปลายมีดครั้งนี้ไม่ได้เล็งที่ใบหน้าของหลานเยาเยาอีกแล้ว แต่เป็นคอของนาง
เมื่อเห็นเช่นนั้น! หลานเยาเยาก็หรี่ตาลง จนซิ่วซิ่วมาถึงตรงหน้า นางก็ขยับตัวไปข้างๆก่อนฟาดฝ่ามือออกไป
“เพี้ยะ…”
การตบที่…… ทำให้ซิ่วซิ่วล้มลงไปกับพื้น
แล้วนางก็นิ่งอึ้งไปในทันที
คงเป็นเพราะว่า ยังไม่เคยมีผู้ใดกล้าตีนางเช่นนี้มาก่อนสินะ ! เพียงเท่านี้อย่างไม่จบ หลานเยาเยายังตบใส่นางต่ออีกหลายครั้งหลายครา
ใบหน้าของซิ่วซิ่งบวมขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับหัวหมูอย่างเห็นได้ชัด
” ไอ้ย๊า! เหนื่อยเสียจริงๆ ภารกิจสำเร็จ”
หลานเยาเยาสะบัดมือ ก่อนจะมองไปยังซิ่วซิ่วอย่างเกียจคร้าน แล้วพลางเดินไปหาหานแส
“คิดว่าเจ้าจะไม่มาเสียแล้ว” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ตำหนิ ไม่มีความประหลาดใจ เพียงพูดออกมาอย่างเรียบเฉย
ใครจะรู้ว่า…. หานแสจะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับกล่าวอย่างติดตลก
” คนที่มาเป็นข้า ไม่ใช่เขา เจ้าคงผิดหวังมากสินะ? ”
“ไปกันเถอะ! ”
คำถามที่ไม่จำเป็นต้องตอบ นางจะตอบไปเพื่อสิ่งใด
แต่แล้ว ! ทันทีที่พวกเขาหันหลังไป ก็มีคนที่โง่จนไม่รู้จักประมาณตน แสงแห่งความชั่วร้ายประกายขึ้นมาในดวงตาของซิ่วซิ่ว นางค่อยๆลุกขึ้นมา แล้วหยิบมีดที่ตกอยู่บนพื้นตรงไปยังหลังของหลานเยาเยา ด้วยเจตนาที่จะสังหารเสีย
แววตาของหลานเยาเยาฉายแววความหมดหนทางขึ้นมา ก่อนจะหลังกลับมาคว้าข้อมือของซิ่วซิ่ว จากนั้นก็พับข้อมือก็เสียงกระดูกจะหักดัง ” แคร็ก….”
” อ๊า….”
” เจ็บ เจ็บจริงๆ นังผู้หญิงชั้นต่ำ ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะทำให้เจ้าแหลกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ได้ตายดี….”
ซิ่วซิ่วที่เจ็บปวดจนน้ำตาไหลนองหน้า มองไปยังดวงตาของหลานเยาเยาด้วยความโกรธและความเกลียดชัง
” เหอะ! ฆ่าข้างั้นรึ ? เกรงว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสนั้นแล้ว ”
หักมือข้างหนึ่งของนาง มันเป็นเพียงแค่การสั่งสอนเท่านั้น ถ้าหากยังมีครั้งต่อไปก็ให้นางไปรายงานตัวกับยมราชแล้วกัน
หลานเยาเยาและหานแสเดินมุ่งหน้าไปยังหุบเขาจิ้นโดยที่ไม่สนใจต่อซิ่วซิ่วที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก
……
ทางเข้าไปยังหุบเขาจิ้นนั้นอยู่ด้านหลังของแท่นบูชา ชั้นหินล้อมรอบหุบเขาจิ้นไว้ยาวไกลอย่างไร้ที่สิ้นสุด ไกลจนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
จะมีก็เพียงแต่ทางเข้าเล็กๆไว้เท่านั้น เล็กราวกับสามารถเดินเข้าไปเพียงแค่คนสองคนเท่านั้น
อีกทั้งทางเข้าถูกปิดด้วยประตูหิน ซึ่งคนปกติทั่วไปจะไม่สามารถเข้าไปได้ รวมทั้งยังข่าวลืออันน่าสะพรึงกลัวจึงไม่มีผู้ใดกล้าที่จะเข้าไปหาตัวตายด้านในนั้น
หลานเยาเยามองไปยังประตูหินหนา พลางคิดอยู่เป็นเวลานานก่อนจะหันไปพูดกับหานแส
” สิ่งนี้ เจ้าจัดการได้หรือไม่? ”
ใครจะรู้ว่า…หานแสกลับไม่ได้สนใจที่จะมองไปยังประตูหิน แต่กลับมองกลับไปยังด้านหลังของพวกเขาทั้งสองแทน
ด้านหลังนอกจากถนนที่ปูด้วยหินแล้ว ก็มีเพียงหญ้าและต้นไม้ที่หนาแน่น
” นี่ หานแส ทางนี้ มัวมองสิ่งใดอยู่?”
หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่เขา
ด้านหลังมีอะไรน่าดูนักเล่า
ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ประตูหินนี้หรือยังไงกัน?
“ข้างหลังมีสายลับตามมาสองคน เจ้าไม่เห็นหรือ? ”
หานแสกล่าวด้วยรอยยิ้ม พลางรวบรวมพลังภายในไว้ในมือเรียบร้อบแล้ว
“เห็นแล้วจะเป็นอันใดเล่า? ”
ก็เพียงแค่มีคนเพิ่มมาสองคนหรือยังไง มีอะไรน่าแปลกใจกัน
เพียงแต่! ท่าทางของหานแส ราวกับฉายแววสังหารออกมา จนนางถลึงตาพลางรีบถาม
“เจ้าคิดจะทำสิ่งใด? ”
” ยังจะทำสิ่งใดเล่า? ก็ช่วยเจ้าตัดหางทิ้งหน่ะสิ ทำไม? เจ้าจะปกป้องพวกเขางั้นรึ? รู้หรือไม่ว่าพวกเขาเป็นคนเช่นไร ? ”
หานแสพูดด้วยเสียงหัวเราะเล็กน้อย หากไม่รู้จักเขานางก็คงคิดว่าเขาเพียงเล่นหยอกเย้าเท่านั้น แต่หลานเยาเยาเข้าใจเป็นอย่างชัดเจนว่าเขาอยากจะฆ่าคนจริงๆ
ดังนั้นหลานเยาเยาจึงรีบกล่าวโน้มน้าวเขาทันที
” พวกเขาเพียงแค่แอบอยู่ในที่ลับ ไม่ได้ต่อต้านเจ้า แล้วยังไม่ได้ยุ่งกับเจ้าด้วย เจ้าจะฆ่าพวกเขาไปเพื่อสิ่งใด ? ” เขากินยาผิดแล้วหรือเปล่า!
” เหอะๆๆ ดูเหมือนเจ้าจะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนของใคร เห้อ เขาใช้ประโยชน์จากเจ้ามาตลอด แล้วสุดท้ายยังตัดสัมพันธ์กับเจ้าอย่างใจร้ายอีก นี่เจ้าไม่เกลียดเขาสักนิดเลยหรือ? ข้าเห็นว่าเจ้าเป็นผู้ที่มีเหตุผล ตอนนี้เจ้าไม่จำเป็นจะต้องลงมือ เจ้าเพียงยืนมองเฉยๆอยู่ข้างๆก็พอแล้ว คิดไม่ถึงว่าเจ้า…จะไม่ได้การ ไม่เกลียดผู้ชายใจร้ายคนนั้นก็เพียงเท่านั้นประไร แต่ยังจะปกป้องคนที่เขาส่งมาอีก ”
น้ำเสียงของเขาแม้จะปกติ แต่กลับดูโหดเหี้ยม พร้อมกับคำพูดประชดประชันที่ฟังได้อย่างชัดเจน
” เรื่องของข้าไม่จำเป็นให้เจ้ามายุ่มย่าม”
สำหรับเย่แจ๋หยิ่ง ……เกลียดหรือเปล่า?
ไม่ใช่ไม่เกลียด แต่เพราะเกลียดไม่ลงต่างหาก
ระหว่างนางกับเย่แจ๋หยิ่งมีเพียงแค่เรื่องราวในอดีต ไม่มีปัจจุบัน อนาคตนั้นก็ไม่มีแล้วเช่นกัน
แต่นางรู้ ว่าสายลับสองคนที่อยู่ด้านหลังพวกเขาในตอนนี้ เป็นคนที่เขาส่งมา ไม่ว่าเขาคิดจะทำสิ่งใด
แต่สัญชาตญาณบอกนางว่าเขาจะไม่ทำร้ายนางแน่นอน เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว…..
ในขณะที่นางกำลังคิดอยู่ หานแสก็กระแอมออกมา
“หื้ม! ”
” ยุ่งกับเจ้า? เจ้าคิดว่าข้าบ้าไปแล้วหรือไร ? ข้าเพียงแค่อยากจะฆ่าคนไม่กี่คนก่อนที่ข้ากำลังจะไปตายก็เพียงเท่านั้น ”
หานแสมองดูมือของตัวเองก่อนจะส่ายหน้า จากนั้นก็ดึงพลังภายในกลับ จากนั้นก็มองไปยังประตูหิน