หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 219 รังสีอันตราย

บทที่ 219 รังสีอันตราย

บทที่ 219 รังสีอันตราย

“ชิ!”

ยังจะฆ่าคนดับอารมณ์!

หากจะฆ่าใครสักคนเพื่อดับความโกรธ ในตอนที่เห็นซิ่วซิ่วก็คงฆ่าไปแล้ว เหตุใดจะต้องรอจนถึงตอนนี้ด้วยเล่า ?

อีกอย่างสองคนที่แอบตามมานั้น ตั้งแต่ที่นางก้าวเท้าของจากประตูห้องก็ได้เริ่มตามนางมาแล้ว

ในตอนที่นางออกจากประตูก็รับรู้ว่ามีคนตามนางแล้ว มีหรือที่หานแสจะไม่รู้ ? เหตุผลที่ทำเช่นนั้นในตอนนี้ หลานเยาเยาที่เห็นหานแสไม่ยอมลงมือเสียที จึงถามด้วยความสงสัย

” ทำไม ประตูหินแค่นี้เจ้าจัดการไม่ได้งั้นหรือ? ”

” ก้าวร้าวให้น้อยๆหน่อยเถอะ”

ดวงตาอันขุ่นมัวของหานแสหรี่ลงเล็กน้อย แววตาประกายความโกรธออกมา จากนั้นมุมปากก็ยกขึ้นอย่างชั่วร้าย แล้วพลังภายในที่ปรากฏขึ้นอย่างไร้เหตุก็พุ่งผ่านไป

“ปัง……” หลังจากเกิดเสียงดัง ประตูหินก็ไม่มีการขยับเขยื้อนใดๆ

หานแส “……”

มุมปากของหลานเยาเยากระตุกพร้อมกับส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้

” โอ้โห พลังภายในอันยอดเยี่ยม ! ”

หลังจากพูดจบ ก็ถูกหานแสจ้องมองจนหลานเยาเยาถึงกับเงียบไปในทันที แต่กลับทำท่าทางเชิญหานแส ราวกับจะกล่าวว่า ‘ เชิญเจ้าทำต่อไปเถอะ’

สำหรับที่อารมณ์ไม่แน่ไม่นอนเช่นนี้ ให้ลงมือแค่พอเหมาะก็เพียงพอแล้ว มิเช่นนั้นจะเละเทะไปเสียหมด จนไม่มีอะไรดี

” ฮึ! ”

หานแสไม่เคยมีความสงสัยในความสามารถพลังภายในของเขาเลย พลังเมื่อกี้นี้เขา เขาใช้พลังระดับห้าเท่านั้น ตอนนี้เขาจะใช้พลังภายในระดับสิบ มีหรือที่ประตูหินนั้นจะไม่แตกเป็นผุยผง?

สำหรับพลังภายในระดับเต็มของเขาถูกปล่อย มันก็เป็นดังเครื่องจักรที่กระแทกเข้ากับประตู

” ปัง” หลังจากที่เกิดเสียงดัง กลุ่มฝุ่นควันก็ตลบอบอวลไปรอบด้านอยู่เป็นเวลานาน

หลังจากรอจนกลุ่มฝุ่นจางหายไป ประตูหินกลับมีรอยเป็นดั่งรอยใยแมงมุมจุดเดียวเพียงเท่านั้น มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เกิดการแตกร้าว แต่ส่วนมากกลับไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

เมื่อเห็นเช่นนั้น ! หลานเยาเยาก็ถึงกับขยิบตาพลางยิ้มออกมา ทั้งยังผิวปากออกมาพอดี

“ฟู่…”

“ใช่ว่าทัพของเราไร้ความสามารถ แต่เพราะข้าศึกแข็งแกร่งเกินไป ”

พอประโยคนี้พูดออกมาก็ทำให้หานแสโกรธจนรู้สึกอยากจะสังหารนางเสียในทันทีขึ้นมา

” หากเจ้าคิดว่าชีวิตมันยาวเกินไป ข้าก็ไม่ถือสาที่จะส่งเจ้าไปยังสวรรค์เสียในตอนนี้ ”

หลานเยาเยายกนิ้วชี้ขึ้นมาจากนั้ยก็ส่ายหน้ากับเขา

” ฮิๆๆ อย่าโกรธไปเลยหน่ะ! เจ้าจัดการไม่ได้ ไม่ใช่ว่ายังมีข้าอยู่หรือยังไง? เจ้า หลบทางหน่อย ข้าจะปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่แล้ว ”

ประโยคนี้ทำให้หานแสยิ้มออกมา

หลานเยาเยา ผู้หญิงที่ไม่มีแม้แต่พลังภายใน จะสามารถจัดการกับประตูหินที่เขายังไม่สามารถทำได้เช่นนั้นหรือ? แม้ว่าตอนนี้พลังภายในของเขาจะยังไม่ฟื้นสภาพสมบูรณ์ แต่ในโลกใบนี้จะมีสักกี่คนกันที่สามารถชนะเขาได้?

แต่ตอนนี้หลานเยาเยากลับบอกว่านางสามารถจัดการประตูนี้ได้ ? น่าขำสิ้นดี !

วันนี้เขาได้ยินคำพูดน่าขำที่ไร้สาระที่สุดแล้ว

ถ้าเกิดนางสามารถจัดการกับประตูหินนี้ได้ เขาก็จะกินหินแตกๆเหล่านั้น

” ทำไม ? ดูสีหน้าเจ้าแล้ว กำลังคิดว่าข้าทำไม่ได้งั้นรึ? ”

หลังจากที่หลานเยาเยานำสิ่งของบางสิ่งไปวางไว้ด้านข้างของประตูหิน ก็ได้เริ่มนับเวลา แล้วในตอนที่นางเดินมาถึงข้างกายหานแส ก็มองเห็นท่าทางที่เย้ยหยันของหานแส

ระเบิดชั้นสูงอันล้ำสมัย อย่าว่าแต่จะระเบิดประตูหินเลย ให้ระเบิดถ่ำทันอันก็ยังเป็นได้

” หากเจ้าสามารถทำให้ประตูเปิดได้ ข้าก็จะ….”

เขาที่ยังกล่าวไม่ทันจบ ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังลั่น จนฟ้าและพื้นดินสั่นสะเทือนในทันที

ถือว่าเป็นเวลานานแล้วที่หลานเยาเยาไม่ได้ใช้ระเบิดชั้นสูงเช่นนี้ นางอุตส่าห์ยืนอยู่ไกลขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่พ้นได้รับผลกระทบอยู่ดี

หากไม่ใช่เพราะสายตาและมือที่รวดเร็วของนางที่ไปจับกางเกงของหานแสไว้ก่อนจะเกิดการสั่นสะเทือน คาดว่าตอนนี้นางก็คงได้รับบาดเจ็บบ้าง

ฝุ่นควันยังคงหนาแน่นอยู่เป็นเวลานาน

เมื่อมองเห็นแววตาที่ตะลึงงันของหานแส หลานเยาเยาจึงยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

“เป็นอย่างไรเล่า ?ข้าสุดยอดหรือไม่?”

พอมองเห็นดขาไม่กล่าวสิ่งใด นางจึงกล่าวต่อ

” สักครู่เจ้ากล่าวสิ่งใดออกมา ข้าเหมือนจะได้ยินไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่”

” หลาน! เยา! เยา! ”

นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นหานแสหมดท่าเช่นนี้ จนถึงขนาดต้องขบฟันพูดแล้ว

” เอ๊ะ ว่ายังไงเล่า? ”

” ทางที่ดีปล่อยมือของเจ้าซะ ”

อ๊า? มือ ? มือของนางเป็นอะไร ? เหตุใดต้องปล่อยด้วยเล่า ?

ไม่ถูกต้องๆ

สักครู่นี้ตอนเกิดการระเบิด นางตั้งหลักได้ไม่ดี จึงได้จับกางเกงของเขาเอาไว้ ตอนนี้เหมือนว่ากำลังจับมันไว้แน่นอยู่…… พอนึกได้อย่างนี้หลานเยาเยาก็รีบหันไปมองยังมือของตัวเอง….

แม่เจ้า! ทันใดนั้นก็ถึงกับตกใจจนเหงื่อไหลออกมา

สองมือของนางยังคงจับกางเกงของเขาเอาไว้แน่น อีกทั้งยังดึงกางเกงลงมาเกือบครึ่งแล้ว จนกางเกงในสีแดงด้านในโผล่ออกมาต่อหน้า

” ข้า ข้า อันนี้ คือว่า…ไม่คิดว่ากางเกงในของเจ้าจะยังเป็นสีแดง ! ”

พอรู้ตัวว่าตัวเองกำลังพูดสิ่งใดอยู่ หลานเยาเยาก็อยากจะเอาหัวหลบเข้าไปในรอยแยกเลยทันที

“……”

หลานเยาเยาเกร็งมือเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆดึงกางเกงของเขาขึ้น หลังจากที่ทำเสร็จ นางก็ยังไม่ลืมที่จะหัวเราะเยาะใส่เขา

” แฮะๆๆ ดูดีๆ ”

เพียงแต่ว่า ! สีหน้าของหานแสดำราวกับหมึก ตัวแข็งทื่อราวกับปูนแข็ง

แล้วรังสีแห่งการสังหารอันเยือกเย็นก็ลอยปกคลุมตามรอบตัวนาง

“เจ้า….”

เขาที่เพิ่งกล่าวออกมาเพียงคำเดียวก็เห็นนางวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วดังลมกระโชกแรง ราวกับเจอภูติผีเสียอย่างนั้น

มือที่กุมไว้จนกำหมัดแน่น อย่างไม่ยอมคลาย

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสะกดใจอย่างหนักที่จะไม่ฆ่าคน แต่หลังจากที่นิ่งอยู่นาน เขาก็กลับหัวเราะออกมา

“เหอะๆๆ…”

และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาหมดหนทางที่จะจัดการกับคนคนหนึ่ง หลานเยาเยา เจ้าห้ามตายเป็นอันขาด ! หากเจ้าตายก็คงไม่สนุกแล้ว

……

ในหุบเขาจิ้น มีหน้าผาสูงตระหง่านอยู่ทั้งสองด้านและบนพื้นดินก็เต็มไปด้วยต้นไม้โบราณสูงตระหง่าน พื้นที่ขนาดใหญ่มีวัชพืชและดอกไม้ป่าอยู่เต็มไปหมด

เพียงแต่ว่า ! สีสันในหุบเขาจิ้น ราวกับว่าจะสลัวยิ่งกว่าสีสันของด้านนอกเป็นอย่างมาก

ตั้งแต่ที่เดินเข้ามา ก็มีถนนปูหินที่เดิมทีนั้นเคยกว้างขวาง แต่เพราะหญ้าที่ขึ้นมาตลอดเวลาหลายปี จึงทำให้สามารถเห็นถนนปูหินเพียงเลือนลางเท่านั้น

หลานเยาเยาที่กำลังเดินอยู่บนทางก็ระวังตัวอยู่ตลอดเวลา แต่จะดูอย่างไรที่นี่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่เหมือนกับว่าจะมีสัตว์ร้ายหรือพิษภัยเสียเลย

แต่ว่านางกลับรู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ

สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกสงสัยอย่างอดไม่ได้

ทิวทัศน์ตรงหน้านี้งดงามราวกับภาพวาดก็ไม่ปาน ภูเขาอันงดงาม ต้นไม้ก็งดงาม ต้นหญ้าเองก็งดงาม แต่กลับไม่เห็นนกบินบนท้องฟ้าเลยสักตัว และไม่มีสัตว์เล็กที่วิ่งอยู่ตามพื้นดินเสียเลย

เห็นได้ชัดว่าที่นี่นั้นเต็มไปด้วยพลัง แต่กลับไร้ซึ่งความมีชีวิตชีวา

ทันใดนั้น บรรยากาศก็เกิดการเคลื่อนไหว จากนั้นด้านหลังของนางก็ปรากฏร่างของใครบางคนขึ้นมา

หลานเยาเยาไม่ได้หันหลังกลับไปดู ก็สามารถรู้ได้ว่าผู้ที่ปรากฏตัวมาตอนนี้คือใคร นอกจากหานแส ยังจะมีผู้ใดที่จะเข้ามากับนางอีก?

แต่ทันทีที่นึกถึงหานแส ก็นึกถึงกางเกงในสีแดงที่นางเพิ่งได้เห็นมาเมื่อสักครู่นี้ จนนางอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา คิดไม่ถึงว่าเขาเป็นคนช่างแสดงออก ที่ชื่นชอบในการใส่กางเกงในสีสันงดงาม

แต่แล้ว ! รอยยิ้มบนใบหน้าของหลานเยาเยาก็ค่อยๆ นิ่งงัน เมื่อรับรู้ถึงลมอันเยือกเย็นที่พัดโชยมา

ลมนี้ช่างประหลาดยิ่งนัก

เห็นได้ชัดว่าที่นี่อากาศปลอดโปร่ง แสงอาทิตย์สาดส่อง ใบไม้ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แล้วจะมีลมได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่าลมที่พัดมาก็เต็มไปด้วยหมอกชื้น ราวกับลมชื้นพัดในยามที่ฝนตก

” เจ้ารู้สึกแล้วหรือไม่? ว่าที่นี่ค่อนข้างประหลาด” หลานเยาเยากล่าวถาม

” แปลกเสียยิ่งกว่าแปลก กล่าวได้อย่างชัดเจนเลยว่านี่คือรังสีอันตราย ” หานแสสำรวจไปรอบๆ พลางกล่าวด้วยความเกียจคร้าน

หืม ?

อันตราย ?

เห็นได้ชัดว่าทิวทัศน์ที่นี่งดงามราวกับภาพวาด อย่าว่าแต่เสือหรือสุนัขจิ้งจอก เพราะแม้แต่กระต่ายตัวเดียวก็ยังมองไม่เห็น จะมีมืออันตรายมาจากที่ใด ?

มีกับดักงั้นรึ?

“อ๊า……”

“บู้ม

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท