หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 232 อยากเป็นฮูหยินเจ้าของเรือหรือ?

บทที่ 232 อยากเป็นฮูหยินเจ้าของเรือหรือ?

บทที่ 232 อยากเป็นฮูหยินเจ้าของเรือหรือ?

สวรรค์

โดนหานแสก่อกวนทุกวัน ไม่ต้องพูดถึงที่นางนอนไม่พออย่างหนัก แถมยังมีขอบตาดำเป็นแพนด้าทุกวัน

ตอนนี้นางสามารถนอนในขณะนั่งได้

นางง่ายหรือไง?

ไม่มีทางอื่น นางทำได้เพียงยกมือสองข้างประกบกันขอความเมตตา : “เจ้าของเรือ ได้โปรดปล่อยเถอะ”

ได้ยินดังนั้น!

ดวงตารูปดอกท้อที่ทรงเสน่ห์ของหานแสก็ค่อยๆเปิดขึ้น เหมือนกับว่ากำลังพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง

“ปล่อยเจ้าไปก็ได้ เจ้าอธิบายมาก่อน ทำไมเจ้าจึงไม่มีผลข้างเคียง?”

หานแสนั่งลงบนเก้าอี้ ยกถ้วยน้ำชาแล้วค่อยๆจิบ คิดจะพูดคุยอีกกันอีกยาวๆ

“ข้าจะรู้ได้เช่นไร? อาจจะเป็นเพราะข้าเป็นคนดี!”

ขณะพูด

ดวงตาของนางก็กะพริบเล็กน้อย นึกถึงฝันร้ายที่เพิ่งฝันเมื่อสักครู่อีกครั้ง

บางที ฝันร้ายที่ตามนางอยู่ทุกคืนอาจจะเป็นผลข้างเคียงก็เป็นได้!

“หึ!”

หลานเยาเยากำลังพูดว่าเขาเป็นคนไม่ดีอยู่กลายๆ คิดว่าเขาไม่รู้หรือ?

หานแสไม่พอใจขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง

จากนั้นก็ทำหน้าบึ้ง หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากหน้าอกแกว่งไปมา

“ข้าหาเบาะแสของราชครูใหญ่เจอแล้ว” ขณะที่พูดคำนี้ น้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้ฟังดูเจ้าเล่ห์อีก แต่เป็นความเยือกเย็นที่แทงทะลุถึงกระดูก

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกไป!

หลานเยาเยาหรี่ตาลง

สืบมาตั้งนาน ในที่สุดก็รู้เบาะแสของราชครูใหญ่แล้ว

ดังนั้น นางแม้แต่รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ ก็ลงจากเตียง “ตึ่งตึ่งตึ่ง” วิ่งมาข้างๆหานแส ยืดคอไปดูเนื้อหาบนกระดาษ

พอกำลังจะได้เห็น ก็ถูกหานแสเก็บเข้าไปไว้ที่หน้าอก

หลานเยาเยากระวนกระวายครู่หนึ่ง จ้องหน้าเขาทันที กลับเห็นเขามองนางและยิ้มอย่างชั่วร้าย!

“ทำไมหรือ ตอนนี้มีแรงแล้วหรือ?”

คราวนี้

หลานเยาเยากรอกตาขาวใส่เขา นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามเขาด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก

“เตรียมหมากรุกและขนมให้พร้อม พวกเรามารบกับสักสามร้อยรอบเถอะ!”

เพียงแต่ยังไม่ทันที่จะสิ้นสุดเสียงของนาง ก็เห็นหานแสปรบมือ

วินาทีต่อมา ก็เห็นป่ายเม่ยเซิง ซาหมั่นเฉิงและชายชุดเขียวเดินเรียงกันเข้ามา

ป่ายเม่ยเซิงถือถาดหมากรุก อีกสองคนก็ถือขนมและเมล็ดธัญพืชห้าอย่าง รวมๆแล้วก็คือของที่นางชอบกิน

“…….”

ทันใดนั้น หลานเยาเยามุมปากกระตุกขึ้นสองสามครั้ง

ที่แท้คนอื่นเขาเตรียมเหยื่อไว้ตั้งนานแล้ว แค่รอนางมาติดกับ!

แผนการ!

แผนการเต็มไปหมด

“ตั้งหนึ่งปีแล้ว ที่อยู่บนเรือลำนี้ทำไมถึงไม่พัฒนาขึ้นสักนิด? พุ้ยพุ้ย ไม้แก่ดัดยาก”

หานแสยิ้มอย่างชั่วร้าย

มองนางด้วยหน้าตาหยิ่งผยอง ภูมิใจสุดๆ

บ้าเอ้ย!

ยังจะดัด ดัดกับบ้าอะไรล่ะ!

รู้สึกว่าตั้งแต่เช้าจรดค่ำทั้งวันเขาไม่มีอะไรจะทำ จึงหาเรื่องแกล้งนางเพื่อหาความสุข

สนุกมากหรือไง?

หลานเยาเยาอดกลั้นความโมโหไว้ แกล้งทำเป็นไม่สะทกสะท้าน รับถาดหมากรุกมา

ภายใต้ความสงสารของป่ายเม่ยเซิง หลานเยาเยาวางหมากรุกลง แต่รอมาพักหนึ่ง กลับไม่เห็นหานแสเดินหมาก จึงอดไม่ได้ที่จะมองไปทางเขา

เห็นเพียงเขากวาดสายตาที่เย็นชามองไปทางสามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร :

“พวกเจ้าจะอยู่กินอาหารว่างตอนค่ำที่นี่?”

ได้ยินดังนั้น!

ชายชุดเขียวท่าทางดีใจเหมือนได้รับการอภัยโทษ ปลีกตัวออกไปในพริบตาเดียว

แอบดีใจ โชคดีที่มีหลานเยาเยาอยู่เจ้าของเรือจึงไม่ต้องให้พวกเขาคอยผลัดกันมาอยู่เป็นเพื่อน ไม่เช่นนั้น เขาจะต้องอดนอนอีกแน่

ไม่ได้ ต้องรีบไปนอนชดเชย……

ซาหมั่นเฉิงที่สะลึมสะลือง่วงนอน หาวอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ได้ยินคำที่เจ้าของเรือพูด

ก็ตื่นขึ้นทันที จากนั้นก็มองหลานเยาเยาด้วยความเห็นใจ ยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินจากไป

กลับเป็นป่ายเม่ยเซิง ที่มีสีหน้าอาลัยอาวรณ์

ตอนนี้อยู่ในทะเล ไม่มีลูกค้าขึ้นเรือ ทั้งวันเขาจึงไม่มีเรื่องให้ทำ

หลังจากที่หลานเยาเยามา โลกของเขาก็กลับมามีสีสันอีกครั้ง ราวกับว่าเพียงหลานเยาเยามองเขาแวบหนึ่ง เขาก็สามารถดีใจจนนอนไม่หลับไปหลายคืน

แต่ว่า……

หลานเยาเยาของเขาโดนเจ้าของเรือยึดไปแล้ว

กลางวันกลางคืนก็ไม่ยอมปล่อย โอ้ดวงใจของเขา! แทบจะสลายแล้ว

ในที่สุดวันนี้ก็ได้เจอนางแล้ว เจ้าของเรือยังเห็นว่าพวกเขาขวางหูขวางตาอีก

ฮือฮือฮือ……

“เยาเยา เจ้าต้องอยู่ดีดีนะ! อย่าเหนื่อยเกินไป”

เมื่อเห็นสายตาที่แสดงความรู้สึกรักของป่ายเม่ยเซิง

หานแสหรี่ตาลง พูดคำหนึ่งคำออกมาอย่างเยือกเย็นทันที : “ไป!”

ในใจป่ายเม่ยเซิงรู้สึกผิดหวัง นึกว่าเจ้าของเรือรำคาญที่เขาเอะอะ จึงรีบจ้องมองไปที่ขอบตาดำๆ ถอยหลังไปสามก้าวด้วยความอาวรณ์แล้วออกจากห้องไป

หลานเยาเยาที่อยู่ในระหว่างที่พวกเขาคุยกัน ก็หยิบขนมกินเรื่อยๆไปหลายชิ้น

อืม อร่อย!

สำหรับอารมณ์ไม่คงที่ของหานแส นางคุ้นชินไปนานแล้ว

ต่อจากนั้น ทั้งสองคนก็ตั้งใจเดินหมาก

ทุกครั้งที่หลานเยาเยากำลังตั้งใจคิดว่าควรเดินหมากยังไง นั่นเป็นเวลาที่สิ้นเปลืองขนมมากที่สุด

มือหนึ่งของนางถือขนมไว้ อีกมือถือหมากไว้ ในปากที่มีขนมก็ยังจะเรียกสั่งของกิน ในสมองก็ไตร่ตรองอย่างรวดเร็วว่าจะวางหมากอย่างไร

แล้วก็ไม่รู้ว่าเดินหมากไปกี่รอบแล้ว

รอบนี้ ในขณะที่กำลังจะตัดสินแพ้ชนะ หลานเยาเยาตัดสินใจกัดขนมหนึ่งคำเพื่อเพิ่มพลัง

ใครจะรู้ กัดลงไปหนึ่งคำ……

“อ้า……”

ให้ตายสิ!

ขนมอะไรแข็งชะมัด?

หยิบออกมาดู หลานเยาเยาอยากจะบ้าตายทันที บ้าเอ้ย กัดโดนหมากรุกอีกแล้ว

และต่อหน้าหานแส กลับยิ้มเขินๆขึ้นมาเล็กน้อย

เขาชอบท่าทางที่หลานเยาเยาดูเซ่อซ่า ยิ่งชอบที่นางเอาหมากรุกมากินแทนขนม น่ารักจนทำให้คนต้องหัวเราะ

“ยังหัวเราะ ยังหัวเราะอีกข้าจะกินท่านซะ”

“ได้ ให้เจ้ากิน!”

หานแสโยนหมากทิ้ง จากนั้นยื่นมือให้หลานเยาเยากัด หลานเยาเยาไม่เกรงใจ คว้ามือเขาแล้วเอามาที่ปากทันที จากนั้นก็ออกแรงกัด

เห็นหานแสขมวดคิ้ว จึงได้ปล่อย

อ่อนหัด คิดว่านางไม่กล้าหรือไง?

“เหอะ เจ้ากลับไม่รู้จักอาย ไม่รู้หรอกหรือไงชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน?

“เป็นท่านที่ให้ข้ากัด ตอนนี้กลับบอกว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน จะสร้างเรื่องหรือไง?”

รูปลักษณ์ผิวพรรณเขาดูดีขนาดนี้ แม้แต่ผู้หญิงก็อิจฉาเสน่ห์ที่ร้ายกาจนี้

อีกทั้ง!

แรกเริ่มเดิมทีนางก็ไม่ได้มองเขาเป็นผู้ชาย

หานแสมองดูแขนที่โดนหลานเยาเยากัด บนนั้นปรากฏรอยฟันลึกๆสองแถว กะพริบตาเล็กน้อย จากนั้นก็มองที่นาง

“เจ้ากล้าล่วงเกินแม้กระทั่งแขนของข้า ไม่งั้น……เจ้าก็รับตำแหน่งฮูหยินเจ้าของเรือด้วยเลยสิ!”

คำพูดนี้ทำให้หลานเยาเยาอ้าปากกว้างได้สำเร็จ

นางถามอย่างไม่เชื่อว่า :

“เจ้าของเรือ คงไม่ใช่เพราะท่านเจอข้าถึงได้รู้จักคน ทั้งกล้าหาญมีไหวพริบ ทั้งยังมีวิชาการรักษาที่เป็นเลิศ คิดจะใส่ร้ายข้า ยกเรือแห่งความสิ้นหวังให้ข้าหรอกนะ?”

หากเป็นเช่นนี้ นางจะเต็มใจเป็นอย่างมาก

ในความคิดของนาง

ฮูหยินเจ้าของเรือและเจ้าของเรือไม่มีอะไรต่างกัน

ดังนั้น ในเวลานี้แววตาของนางเปล่งประกายวิววับ

“เจ้ายังจะกล้าพูดอีก!” หานแสกุมขมับ

หากเรือแห่งความสิ้นหวังตกอยู่ในมือของหลานเยาเยา คาดว่าไม่เกินสามปีก็โดนนางกินจนถึงขั้นอับจนเป็นแน่

“ไม่ได้เป็นไปตามความหมายที่ข้าเข้าใจหรอกหรือ?”

“เจ้าคิดเช่นไรล่ะ?”

เห็นสีหน้าที่น่ากลัวของหานแส หลานเยาเยารีบหยุดพูดทันที

ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ!

จะเปลี่ยนสีหน้าทำไม?

เงียบไปสักพัก

หานแสกวาดตามองนางแวบหนึ่ง ก็หยิบเอากระดาษที่อยู่ตรงหน้าอกออกมาแล้วโยนไปตรงหน้านาง

“ดูเถอะ! พวกเราจำเป็นต้องไปเมืองหลวงของประเทศก่วงส้ากันแล้ว”

หลานเยาเยาอยากเห็นเนื้อหาบนกระดาษนั้นมานานแล้ว เมื่อหานแสเอาออกมา นางก็ไม่รอช้าที่จะอ่านทันที

ยิ่งดูสีหน้านางก็ยิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ

ในที่สุดก็พบเบาะแสที่อยู่ราชครูใหญ่แห่งราชวงศ์เก่าสักที……

ที่แท้ หลังจากที่เขาโดนผลสะท้อนกลับของวิชาการควบคุมพิษกู่แล้วหายตัวไป ก็กลับไปที่ประเทศก่วงส้า ยังใช้แผนการจนได้เป็นราชครูใหญ่ในปัจจุบันอีก

เหอะเหอะ!

ช่างน่าสนุกจริงๆ

ราชครูใหญ่แห่งราชวงศ์เก่ากลายเป็นราชครูใหญ่ในปัจจุบัน ดูจากความมักใหญ่ใฝ่สูงของเขา เขาจะต้องก่อเรื่องขึ้นในราชสำนักอีก

“เมื่อไหร่จะออกเดินทาง?”

“พรุ่งนี้เช้า” จากนั้น เขาก็หันกลับมาถามว่า : “เจ้าเตรียมตัวพร้อมที่จะเจอเขาแล้วหรือ?”

เขา?

เย่แจ๋หยิ่งหรอ?

แววตาของหลานเยาเยาแสดงออกถึงความแค้นคิดอยากจะฆ่าขึ้นมาทันที

“เตรียมพร้อมมาตั้งนานแล้ว”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท