บทที่ 232 อยากเป็นฮูหยินเจ้าของเรือหรือ?
สวรรค์
โดนหานแสก่อกวนทุกวัน ไม่ต้องพูดถึงที่นางนอนไม่พออย่างหนัก แถมยังมีขอบตาดำเป็นแพนด้าทุกวัน
ตอนนี้นางสามารถนอนในขณะนั่งได้
นางง่ายหรือไง?
ไม่มีทางอื่น นางทำได้เพียงยกมือสองข้างประกบกันขอความเมตตา : “เจ้าของเรือ ได้โปรดปล่อยเถอะ”
ได้ยินดังนั้น!
ดวงตารูปดอกท้อที่ทรงเสน่ห์ของหานแสก็ค่อยๆเปิดขึ้น เหมือนกับว่ากำลังพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง
“ปล่อยเจ้าไปก็ได้ เจ้าอธิบายมาก่อน ทำไมเจ้าจึงไม่มีผลข้างเคียง?”
หานแสนั่งลงบนเก้าอี้ ยกถ้วยน้ำชาแล้วค่อยๆจิบ คิดจะพูดคุยอีกกันอีกยาวๆ
“ข้าจะรู้ได้เช่นไร? อาจจะเป็นเพราะข้าเป็นคนดี!”
ขณะพูด
ดวงตาของนางก็กะพริบเล็กน้อย นึกถึงฝันร้ายที่เพิ่งฝันเมื่อสักครู่อีกครั้ง
บางที ฝันร้ายที่ตามนางอยู่ทุกคืนอาจจะเป็นผลข้างเคียงก็เป็นได้!
“หึ!”
หลานเยาเยากำลังพูดว่าเขาเป็นคนไม่ดีอยู่กลายๆ คิดว่าเขาไม่รู้หรือ?
หานแสไม่พอใจขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง
จากนั้นก็ทำหน้าบึ้ง หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากหน้าอกแกว่งไปมา
“ข้าหาเบาะแสของราชครูใหญ่เจอแล้ว” ขณะที่พูดคำนี้ น้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้ฟังดูเจ้าเล่ห์อีก แต่เป็นความเยือกเย็นที่แทงทะลุถึงกระดูก
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกไป!
หลานเยาเยาหรี่ตาลง
สืบมาตั้งนาน ในที่สุดก็รู้เบาะแสของราชครูใหญ่แล้ว
ดังนั้น นางแม้แต่รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ ก็ลงจากเตียง “ตึ่งตึ่งตึ่ง” วิ่งมาข้างๆหานแส ยืดคอไปดูเนื้อหาบนกระดาษ
พอกำลังจะได้เห็น ก็ถูกหานแสเก็บเข้าไปไว้ที่หน้าอก
หลานเยาเยากระวนกระวายครู่หนึ่ง จ้องหน้าเขาทันที กลับเห็นเขามองนางและยิ้มอย่างชั่วร้าย!
“ทำไมหรือ ตอนนี้มีแรงแล้วหรือ?”
คราวนี้
หลานเยาเยากรอกตาขาวใส่เขา นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามเขาด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก
“เตรียมหมากรุกและขนมให้พร้อม พวกเรามารบกับสักสามร้อยรอบเถอะ!”
เพียงแต่ยังไม่ทันที่จะสิ้นสุดเสียงของนาง ก็เห็นหานแสปรบมือ
วินาทีต่อมา ก็เห็นป่ายเม่ยเซิง ซาหมั่นเฉิงและชายชุดเขียวเดินเรียงกันเข้ามา
ป่ายเม่ยเซิงถือถาดหมากรุก อีกสองคนก็ถือขนมและเมล็ดธัญพืชห้าอย่าง รวมๆแล้วก็คือของที่นางชอบกิน
“…….”
ทันใดนั้น หลานเยาเยามุมปากกระตุกขึ้นสองสามครั้ง
ที่แท้คนอื่นเขาเตรียมเหยื่อไว้ตั้งนานแล้ว แค่รอนางมาติดกับ!
แผนการ!
แผนการเต็มไปหมด
“ตั้งหนึ่งปีแล้ว ที่อยู่บนเรือลำนี้ทำไมถึงไม่พัฒนาขึ้นสักนิด? พุ้ยพุ้ย ไม้แก่ดัดยาก”
หานแสยิ้มอย่างชั่วร้าย
มองนางด้วยหน้าตาหยิ่งผยอง ภูมิใจสุดๆ
บ้าเอ้ย!
ยังจะดัด ดัดกับบ้าอะไรล่ะ!
รู้สึกว่าตั้งแต่เช้าจรดค่ำทั้งวันเขาไม่มีอะไรจะทำ จึงหาเรื่องแกล้งนางเพื่อหาความสุข
สนุกมากหรือไง?
หลานเยาเยาอดกลั้นความโมโหไว้ แกล้งทำเป็นไม่สะทกสะท้าน รับถาดหมากรุกมา
ภายใต้ความสงสารของป่ายเม่ยเซิง หลานเยาเยาวางหมากรุกลง แต่รอมาพักหนึ่ง กลับไม่เห็นหานแสเดินหมาก จึงอดไม่ได้ที่จะมองไปทางเขา
เห็นเพียงเขากวาดสายตาที่เย็นชามองไปทางสามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร :
“พวกเจ้าจะอยู่กินอาหารว่างตอนค่ำที่นี่?”
ได้ยินดังนั้น!
ชายชุดเขียวท่าทางดีใจเหมือนได้รับการอภัยโทษ ปลีกตัวออกไปในพริบตาเดียว
แอบดีใจ โชคดีที่มีหลานเยาเยาอยู่เจ้าของเรือจึงไม่ต้องให้พวกเขาคอยผลัดกันมาอยู่เป็นเพื่อน ไม่เช่นนั้น เขาจะต้องอดนอนอีกแน่
ไม่ได้ ต้องรีบไปนอนชดเชย……
ซาหมั่นเฉิงที่สะลึมสะลือง่วงนอน หาวอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ได้ยินคำที่เจ้าของเรือพูด
ก็ตื่นขึ้นทันที จากนั้นก็มองหลานเยาเยาด้วยความเห็นใจ ยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินจากไป
กลับเป็นป่ายเม่ยเซิง ที่มีสีหน้าอาลัยอาวรณ์
ตอนนี้อยู่ในทะเล ไม่มีลูกค้าขึ้นเรือ ทั้งวันเขาจึงไม่มีเรื่องให้ทำ
หลังจากที่หลานเยาเยามา โลกของเขาก็กลับมามีสีสันอีกครั้ง ราวกับว่าเพียงหลานเยาเยามองเขาแวบหนึ่ง เขาก็สามารถดีใจจนนอนไม่หลับไปหลายคืน
แต่ว่า……
หลานเยาเยาของเขาโดนเจ้าของเรือยึดไปแล้ว
กลางวันกลางคืนก็ไม่ยอมปล่อย โอ้ดวงใจของเขา! แทบจะสลายแล้ว
ในที่สุดวันนี้ก็ได้เจอนางแล้ว เจ้าของเรือยังเห็นว่าพวกเขาขวางหูขวางตาอีก
ฮือฮือฮือ……
“เยาเยา เจ้าต้องอยู่ดีดีนะ! อย่าเหนื่อยเกินไป”
เมื่อเห็นสายตาที่แสดงความรู้สึกรักของป่ายเม่ยเซิง
หานแสหรี่ตาลง พูดคำหนึ่งคำออกมาอย่างเยือกเย็นทันที : “ไป!”
ในใจป่ายเม่ยเซิงรู้สึกผิดหวัง นึกว่าเจ้าของเรือรำคาญที่เขาเอะอะ จึงรีบจ้องมองไปที่ขอบตาดำๆ ถอยหลังไปสามก้าวด้วยความอาวรณ์แล้วออกจากห้องไป
หลานเยาเยาที่อยู่ในระหว่างที่พวกเขาคุยกัน ก็หยิบขนมกินเรื่อยๆไปหลายชิ้น
อืม อร่อย!
สำหรับอารมณ์ไม่คงที่ของหานแส นางคุ้นชินไปนานแล้ว
ต่อจากนั้น ทั้งสองคนก็ตั้งใจเดินหมาก
ทุกครั้งที่หลานเยาเยากำลังตั้งใจคิดว่าควรเดินหมากยังไง นั่นเป็นเวลาที่สิ้นเปลืองขนมมากที่สุด
มือหนึ่งของนางถือขนมไว้ อีกมือถือหมากไว้ ในปากที่มีขนมก็ยังจะเรียกสั่งของกิน ในสมองก็ไตร่ตรองอย่างรวดเร็วว่าจะวางหมากอย่างไร
แล้วก็ไม่รู้ว่าเดินหมากไปกี่รอบแล้ว
รอบนี้ ในขณะที่กำลังจะตัดสินแพ้ชนะ หลานเยาเยาตัดสินใจกัดขนมหนึ่งคำเพื่อเพิ่มพลัง
ใครจะรู้ กัดลงไปหนึ่งคำ……
“อ้า……”
ให้ตายสิ!
ขนมอะไรแข็งชะมัด?
หยิบออกมาดู หลานเยาเยาอยากจะบ้าตายทันที บ้าเอ้ย กัดโดนหมากรุกอีกแล้ว
และต่อหน้าหานแส กลับยิ้มเขินๆขึ้นมาเล็กน้อย
เขาชอบท่าทางที่หลานเยาเยาดูเซ่อซ่า ยิ่งชอบที่นางเอาหมากรุกมากินแทนขนม น่ารักจนทำให้คนต้องหัวเราะ
“ยังหัวเราะ ยังหัวเราะอีกข้าจะกินท่านซะ”
“ได้ ให้เจ้ากิน!”
หานแสโยนหมากทิ้ง จากนั้นยื่นมือให้หลานเยาเยากัด หลานเยาเยาไม่เกรงใจ คว้ามือเขาแล้วเอามาที่ปากทันที จากนั้นก็ออกแรงกัด
เห็นหานแสขมวดคิ้ว จึงได้ปล่อย
อ่อนหัด คิดว่านางไม่กล้าหรือไง?
“เหอะ เจ้ากลับไม่รู้จักอาย ไม่รู้หรอกหรือไงชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน?
“เป็นท่านที่ให้ข้ากัด ตอนนี้กลับบอกว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน จะสร้างเรื่องหรือไง?”
รูปลักษณ์ผิวพรรณเขาดูดีขนาดนี้ แม้แต่ผู้หญิงก็อิจฉาเสน่ห์ที่ร้ายกาจนี้
อีกทั้ง!
แรกเริ่มเดิมทีนางก็ไม่ได้มองเขาเป็นผู้ชาย
หานแสมองดูแขนที่โดนหลานเยาเยากัด บนนั้นปรากฏรอยฟันลึกๆสองแถว กะพริบตาเล็กน้อย จากนั้นก็มองที่นาง
“เจ้ากล้าล่วงเกินแม้กระทั่งแขนของข้า ไม่งั้น……เจ้าก็รับตำแหน่งฮูหยินเจ้าของเรือด้วยเลยสิ!”
คำพูดนี้ทำให้หลานเยาเยาอ้าปากกว้างได้สำเร็จ
นางถามอย่างไม่เชื่อว่า :
“เจ้าของเรือ คงไม่ใช่เพราะท่านเจอข้าถึงได้รู้จักคน ทั้งกล้าหาญมีไหวพริบ ทั้งยังมีวิชาการรักษาที่เป็นเลิศ คิดจะใส่ร้ายข้า ยกเรือแห่งความสิ้นหวังให้ข้าหรอกนะ?”
หากเป็นเช่นนี้ นางจะเต็มใจเป็นอย่างมาก
ในความคิดของนาง
ฮูหยินเจ้าของเรือและเจ้าของเรือไม่มีอะไรต่างกัน
ดังนั้น ในเวลานี้แววตาของนางเปล่งประกายวิววับ
“เจ้ายังจะกล้าพูดอีก!” หานแสกุมขมับ
หากเรือแห่งความสิ้นหวังตกอยู่ในมือของหลานเยาเยา คาดว่าไม่เกินสามปีก็โดนนางกินจนถึงขั้นอับจนเป็นแน่
“ไม่ได้เป็นไปตามความหมายที่ข้าเข้าใจหรอกหรือ?”
“เจ้าคิดเช่นไรล่ะ?”
เห็นสีหน้าที่น่ากลัวของหานแส หลานเยาเยารีบหยุดพูดทันที
ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ!
จะเปลี่ยนสีหน้าทำไม?
เงียบไปสักพัก
หานแสกวาดตามองนางแวบหนึ่ง ก็หยิบเอากระดาษที่อยู่ตรงหน้าอกออกมาแล้วโยนไปตรงหน้านาง
“ดูเถอะ! พวกเราจำเป็นต้องไปเมืองหลวงของประเทศก่วงส้ากันแล้ว”
หลานเยาเยาอยากเห็นเนื้อหาบนกระดาษนั้นมานานแล้ว เมื่อหานแสเอาออกมา นางก็ไม่รอช้าที่จะอ่านทันที
ยิ่งดูสีหน้านางก็ยิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดก็พบเบาะแสที่อยู่ราชครูใหญ่แห่งราชวงศ์เก่าสักที……
ที่แท้ หลังจากที่เขาโดนผลสะท้อนกลับของวิชาการควบคุมพิษกู่แล้วหายตัวไป ก็กลับไปที่ประเทศก่วงส้า ยังใช้แผนการจนได้เป็นราชครูใหญ่ในปัจจุบันอีก
เหอะเหอะ!
ช่างน่าสนุกจริงๆ
ราชครูใหญ่แห่งราชวงศ์เก่ากลายเป็นราชครูใหญ่ในปัจจุบัน ดูจากความมักใหญ่ใฝ่สูงของเขา เขาจะต้องก่อเรื่องขึ้นในราชสำนักอีก
“เมื่อไหร่จะออกเดินทาง?”
“พรุ่งนี้เช้า” จากนั้น เขาก็หันกลับมาถามว่า : “เจ้าเตรียมตัวพร้อมที่จะเจอเขาแล้วหรือ?”
เขา?
เย่แจ๋หยิ่งหรอ?
แววตาของหลานเยาเยาแสดงออกถึงความแค้นคิดอยากจะฆ่าขึ้นมาทันที
“เตรียมพร้อมมาตั้งนานแล้ว”