หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 239 อำพรางช่วยเหลือศัตรู?

บทที่ 239 อำพรางช่วยเหลือศัตรู?

บทที่ 239 อำพรางช่วยเหลือศัตรู?

นี่คือจังหวะที่ลาภลอยมาจากสวรรค์แล้วจริงๆงั้นหรือ?

เป็นไปไม่ได้

คุณหนู จะต้องเป็นการหลอกล่อพวกเขาแน่ๆ เขาไม่ได้โง่เหมือนจื่อเฟิง ที่โดนหลอกตลอด

“พวกเจ้าอึ้งอะไรกันอยู่? รีบกินสิ! กินเยอะๆหน่อย ไม่คิดเงิน ไม่ต้องใช้ไก่ย่างมาชดเชย หลังจากนี้เมล็ดแตงโมนี่ พวกเจ้ายิ่งกินเยอะ ข้าก็จะให้เงินเดือนเพิ่มขึ้นเท่านั้น”

ได้ยินดังนั้น!

จื่อซีตกใจจนไม่กล้ารับเมล็ดแตงโมมา

คุณหนูบ้าไปแล้วหรือ?

ทำไมถึงได้มีปัญหากับเมล็ดแตงโมได้?

มองกลับไปที่จื่อเฟิง ในเวลานี้ยังคงเงียบสงบเป็นปกติ รับเมล็ดแตงโมมาก็เริ่มกิน

จื่อซีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

ตายก็ตายเถอะ!

หากว่าคุณหนูหลอกลวงพวกเขา เขาก็เสียเปรียบเพียงแค่ไก่ย่างตัวหนึ่งเท่านั้น

หากเป็นจริง เช่นนั้นเงินเดือนเขาก็จะต้อง……เพิ่มขึ้นเยอะมากสุดๆ?

เพียงแค่คิดจื่อซีก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุด

ดังนั้น!

เขาจึงคว้าเมล็ดแตงโมขึ้นมาแล้วเริ่มกินอย่างรวดเร็ว

ด้านล่างของตึกการฆ่าฟันกันเริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างนั้น มีนักฆ่าเห็นพวกเขาสามคนดูพวกเขาฆ่าฟันกันอย่างสบายใจ จึงอดไม่ได้ที่จะเกิดโทสะ

คิดจะขึ้นไปฆ่าพวกเขา แต่ยังไม่ทันจะได้ลงมือก็กลับโดนองครักษ์ลับของเย่แจ๋หยิ่งฆ่าตายซะก่อน

จากนั้น!

พวกเขาสามคนที่นั่งด้วยท่าทางของเจ้ายศเจ้าอย่าง ได้ปลุกกระตุ้นให้พวกนักฆ่าเกิดความชัง

พวกเขาทำการลอบสังหารโดยแลกด้วยชีวิต

แต่พวกเขาทั้งสามคนล่ะ?

มองดูดั่งเช่นพวกเขาเป็นลิง พูดคุยหัวเราะกันเป็นครั้งคราว

เจ้าคิดว่าน่าโมโหหรือไม่?

ดังนั้นพวกเขาจึงแบ่งเจ็ดคนออกมา ขึ้นไปชั้นสองเพื่อฆ่าพวกเขาสามคนโดยเฉพาะ

ใครจะรู้……

สองคนที่อยู่ด้านหน้าสุด ขึ้นไปบนบันไดด้วยความรวดเร็ว เมื่อขึ้นไปได้ครั้งหนึ่ง สีหน้าก็เปลี่ยนไป และแยกเป็นสองส่วนทันที เกิดเป็นดั่งเสาเลือดในพริบตา ทำให้นักฆ่าด้านหลังอีกสี่ห้าคนตกใจ

หลังจากที่มองดูอย่างละเอียด

พวกเขาพบว่า บันไดทางขึ้นชั้นสอง มีด้ายสีเงินบางๆยาวๆกั้นอยู่ ด้ายสีเงินในตอนนี้เต็มไปด้วยรอยเลือด

และด้ายสีเงินเช่นนี้ไม่ได้มีเพียงเส้นเดียว

ไม่มีทางจะขึ้นไปทางบันไดได้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงคิดจะใช้วิชาตัวเบาเหาะขึ้นไป

ด้วยเหตุนี้ นักฆ่าสองคนจึงได้ยกฝีเท้าด้วยความเบาทันที ถือดาบพุ่งไปด้านหน้า คิดจะเหาะไปทางหลานเยาเยาเยาพวกเขา

แต่ทว่า!

หลานเยาเยาไม่มีท่าทีจะขยับแม้แต่น้อย แทะเมล็ดแตงโมอยู่ตลอด ราวกับว่าไม่รู้ว่าพวกเขาได้เหาะขึ้นมา

แต่ว่า

เมื่อพวกเขาเหาะมาได้ครึ่งหนึ่ง……

“สวบสวบ……”

อาวุธลับสองชิ้นพุ่งผ่านอากาศไป โจมตีไปที่ระหว่างคิ้วในพริบตา จากนั้นก็ตกลงไป

ขณะที่พวกเขาตกลงไปที่พื้น ก็ไม่หายใจแล้ว

นักฆ่าที่เหลือออีกสามคนตกใจ!

บุกขึ้นไปทางบันไดก็ตาย เหาะขึ้นไปก็กลายเป็นเป้าลูกดอกที่มีชีวิต

ไม่มีทางแล้ว ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงใช้กำลังภายในส่งไปยังดาบ จากนั้นก็ให้ดาบพุ่งโจมตีไปยังทั้งสามคนบนชั้นสองอย่างบ้าระห่ำ

ใครจะรู้……

เพิ่งจะเริ่มดึงกำลังภายใน พวกเขาก็รู้สึกทันทีว่าปากจมูก ตาหูของพวกเขามีของเหลวไหลออกมา ยกมือขึ้นไปลูบ เป็นเลือดสีดำ

พวกเขาโดนยาพิษแล้ว

เมื่อตระหนักถึงจุดนี้ พวกเขาสามคนก็ล้มลงไป

จนถึงตอนตายพวกเขาก็ไม่รู้ว่าไปโดนยาพิษได้ยังไง……

เห็นนักฆ่าหกเจ็ดคนนั้นตายไปอย่างรวดเร็ว หลานเยาเยาก็อดไม่ได้ที่จะแบะปาก

“ตายเร็วเกินไปแล้ว ไม่สนุก”

เอ๊ะ?

ไม่ถูก!

เช่นนี้ไม่ใช่ว่านางอำพรางช่วยเหลือเย่แจ๋หยิ่งอยู่หรอหรือ?

เมื่อคิดถึงจุดนี้ สีหน้านางก็เริ่มครุ่นคิดขึ้นมาทันที ไม่มีกระจิตกระใจจะดูของสนุกแล้ว

เดิมทีเพียงแค่คิดอยากจะดูเรื่องสนุกเท่านั้น คิดไม่ถึง แค่ดูเรื่องสนุกก็สามารถช่วยศัตรูได้ครั้งหนึ่ง สวรรค์จริงๆเลย

ด้วยเหตุนี้นางจึงรีบลุกขึ้น เดินไปทางห้องของตัวเอง

จื่อซีที่ไม่เข้าใจความเป็นจริง มองดูหลานเยาเยา จากนั้นก็หันไปมองจื่อเฟิง ถามอย่างสงสัย :

“นี่คุณหนูเป็นอะไร?”

ไม่ใช่ว่าดูอยู่ดีดีหรือไง? ทำไมจึงเดินไปอย่างกะทันหัน?

แต่ทว่า!

ที่ตอบเขากลับมาเป็นเพียงเสียงแทะเมล็ดแตงโมของจื่อเฟิง

“นี่ จื่อเฟิง หยุดกินได้แล้ว คุณหนูไม่พอใจแล้ว ยังจะกินอะไรอีก? หากว่าคุณหนูไม่พอใจขึ้นมาจริงๆ เมล็ดแตงโมเมล็ดหนึ่งให้พวกเราชดใช้เป็นไก่ย่างตัวหนึ่งจะทำเช่นไร?”

คราวนี้ จื่อเฟิงหันหน้ามาเหมือนกับหุ่นยนต์

ราวกับว่ากำลังคิดว่าเขากินเมล็ดแตงโมไปเท่าไหร่แล้ว จากนั้นก็เบิกตาโพลง เมล็ดแตงโมที่เพิ่งเข้าปากไปเมล็ดหนึ่งถูกเขาเอาออกมา

“วางใจเถอะ! ยิ่งกินเมล็ดแตงโมเยอะ เงินเดือนก็ยิ่งสูง พวกเจ้าวางใจกินให้ตายไปเลย”

เสียงของหลานเยาเยาดังมาจากทางด้านหลังกะทันหัน

จื่อซีโดนขู่จนตกใจ สันหลังตรงขึ้นมาทันที หน้าผากมีเหงื่อละเอียดๆผุดขึ้นมา

อย่าคิดว่าปกติแล้วคุณหนูมีท่าทีที่เข้าหาง่าย

หากทำให้นางโมโหแล้ว เวลาตายก็ไม่รู้ว่าตายเช่นไร?

ได้ยินดังนั้น!

จื่อเฟิงกลับไปแทะเมล็ดแตงโมอีกครั้ง แต่จื่อซีไม่ได้ผ่านไปได้ด้วยดีเช่นนั้น

พูดกล่าวหาคุณหนูไปในทางไม่ดีตอนลับหลัง แถมยังโดนจับได้คาหนังคาเขา จบกัน เขาต้องโดนทำโทษเป็นแน่แล้ว

เป็นไปดังคาด!

หลานเยาเยาที่กลับมานั่งลงอีกครั้ง เหลือบมองเขาด้วยแววตาที่เย็นชา จากนั้นก็โยนเมล็ดแตงโมให้เขาถุงหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า :

“คืนนี้ต้องกินเมล็ดแตงโมถุงนี้ให้หมด ไม่เช่นนั้น เมล็ดแตงโมถุงนี้มีเท่าไหร่ เจ้าก็ต้องชดใช้ไก่ย่างให้ข้าเท่านั้น”

นี่คือการลงโทษ?

จื่อซีไม่สามารถเชื่อหูของตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย

“ทำไม ไม่ยอมรับ?” นางได้เหลือบมองเขาอีกครั้ง

“ยอมรับ ยอมรับแน่นอนของรับ คุณหนู ท่านช่างใจกว้างมากขอรับ”

จื่อซีทราบซึ้งจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ออก จากนั้นก็แทะเมล็ดแตงโมอย่างเต็มที่

แต่ว่า!

กินไปเรื่อยๆ เขาปากเปราะ อดไม่ได้ที่จะถามไปประโยคหนึ่ง : “คุณหนู ไม่ใช่ว่าท่านไปพักผ่อนแล้วหรือ? ทำไมถึงได้กลับมาอีกขอรับ?”

“เจ้าไม่พอใจ? หืม?”

เมื่อพูดถึงนี่ หลานเยาเยาก็ปวดหัวขึ้นมา

ห้องของนางสามารถกล่าวได้ว่าแย่จนทนดูไม่ได้ กำแพงทางด้านหลังก็โดนยิงพรุนจนเหมือนรังแตน และหน้าต่างด้านหน้ากลายเป็นแม่น

บรรยากาศน่ากลัวขนาดนี้ ยังจะให้นางพักผ่อนบ้าอะไรล่ะ!

“พอใจ พอใจมากขอรับ!” จื่อซีสีหน้ายิ้มเจื่อนๆ

“เพิ่มเมล็ดแตงโมอีกหนึ่งถุง” ให้เจ้าพูดมาก

“……”

จื่อซีทำหน้าตาหัวเราะฮาฮาอย่างฝืนๆทันที

เมล็ดแตงโมหนึ่งถุง เขายังสามารถฝืนกินให้หมดได้ แต่เมล็ดแตงโมสองถุง เขาก็จบเห่แล้ว

ได้

คำพูดที่คุณหนูมักจะบอกเสมอว่าไม่ทำก็ไม่ตาย เขาได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้ว

ในไม่ช้า นักฆ่าก็ถูกฆ่าอย่างราบคาบ

เลือดไหลนองเหมือนเป็นแม่น้ำในโรงเตี๊ยมหยิงไหล กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแสบจมูก และศพที่ล้มตายนอนกองอยู่ที่พื้น กำลังถูกองครักษ์ลับจัดการสะสาง

เถ้าแก่และพนักงานร้านที่แอบอยู่ตรงชั้นสอง หลังจากไม่ได้ยินเสียงฆ่าฟันกันแล้ว ก็เดินออกมาอย่างสั่นกลัว

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยเห็นคนตาย

แต่กลับไม่เคยเห็นการตายที่โหดร้ายทารุณจนทนดูไม่ได้เหมือนครานี้

เหตุการณ์เช่นนี้ พวกเขามองแวบหนึ่ง ก็ขาอ่อนแล้ว

แต่ว่า!

นอกจากพวกเขา คนอื่นนอกเหนือจากนั้นก็เหมือนกับว่าจะคุ้นชินเป็นเรื่องปกติ จัดการสะสางศพก็จัดการไป ทำความสะอาดรอยเลือดก็ทำความสะอาดรอยเลือดไป นั่งชมก็นั่งชมไป

เพียงแต่……

ที่ทำให้เถ้าแก่ตกตะลึงก็คือ

เพียงแค่ดูก็ไม่เป็นไร คาดไม่ถึงว่าพวกเขายังจะมีความอยากกินอาหารอีก ทั้งหญิงชุดแดงนั้นที่ยิ้มเป็นระยะระยะ เหตุการณ์นั้นสามารถแปลกประหลาดได้มากแค่ไหนก็แปลกได้เท่านั้น

ทันใดนั้น!

หลานเยาเยาลุกขึ้นยืน มองมาด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมเอามากๆ ทำให้เถ้าแก่กลัวจนวิญญาณแทบกระเจิง

“ลูก ลูกค้า มีเรื่องอะไรหรือขอรับ?”

“จัดเตรียมห้องพักชั้นดีให้ข้าใหม่อีกห้องหนึ่ง”

ขณะพูด

หลานเยาเยาได้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปทางเถ้าแก่ทีละก้าว……

“ได้ได้ได้ ข้าจะรีบไปขอรับ”

เถ้าแก่เดินนำ หลานเยาเยาตามอยู่ด้านหลัง แล้ว

เมื่อเกือบจะถึงมุมโค้ง

นางก็หันกลับไป พูดเบาเบา :

“เอาด้ายเงินออกแล้ว ล้างลูกกรงบันไดด้วยน้ำสะอาด”

บนลูกกรงมียาพิษ นางเป็นผู้ทาเอาไว้

และคนที่ตายเพราะยาพิษก่อนหน้านี้ ก็เพราะโดนลูกกรง จึงทำให้เลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดจึงตาย……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท