หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 252 เข้าห้องหญิงสาวในตอนค่ำ

บทที่ 252 เข้าห้องหญิงสาวในตอนค่ำ

บทที่ 252 เข้าห้องหญิงสาวในตอนค่ำ

หลานเยาเยายืดตัวตรง จากนั้นก็เดินไปทางตู้เสื้อผ้า ถอดชุดยามราตรีออกด้วยความรวดเร็ว โดยที่ไม่คิดเลยสักนิดว่าการทำเช่นนี้ต่อหน้าผู้ชายนั้นเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี

ยังไงซะข้างในก็ยังมีเสื้อผ้าอยู่

นางไม่ได้เปลือยสักหน่อย

นางจะกลัวอะไร?

“แน่นอน! ข้าต้องดีใจเป็นธรรมดา”

หานแสก็ดูเหมือนว่าจะไม่คิดอะไร

สองปีก่อน ตอนที่หลานเยาเยาอยู่ที่เรือแห่งความสิ้นหวัง เขาก็ไปก่อกวนนางทุกคืน แม้ตอนที่นางใส่ชุดนอนก็เห็นมาแล้ว

ตอนนี้เรื่องนี้จะไปถืออะไร?

“เช่นนั้นเจ้าของเรือมาในเวลาดึกดื่นมีปัญหาอะไรหรือ?”

หลังจากที่ถอดชุดยามราตรีแล้ว นางก็สวมใส่ชุดสีแดงเลือดที่เป็นสัญลักษณ์ของเทพธิดาอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ใส่เสื้อผ้าชุดนี้ นางก็รู้สึกว่าตัวเองมีเสน่ห์ชวนหลงใหลมากขึ้นในพริบตา!

คนก็ต้องพึ่งเสื้อผ้าจริงๆ!

“ไม่มีปัญหา ข้าคิดถึงเจ้าแล้ว ดังนั้นจึงมาพบเจ้า”

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยามุมปากกระตุก

คิดถึงบ้าอะไรล่ะ!

คาดว่าคงจะมาเพราะเรื่องของตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่าล่ะสิ!

อย่างไรเสีย กำจัดคนสนิทของราชครู ก็เป็นเรื่องของส้าวชิงจากศาลต้าหลี่เฉียนตุ้น นางไม่ได้หารือกับหานแสมาก่อน แต่เพียงแค่บอกเขา ให้เขากระจายข่าวเรื่องการปรากฏตัวของตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่าเท่านั้น

สำหรับ……

นางรู้ว่าภายนอกแล้วเฉียนตุ้นเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ แต่เบื้องหลังกลับเป็นคนที่ราชครูของราชวงศ์เก่าให้มาเป็นหูเป็นตาในเรื่องนี้

รวมถึงรู้เรื่องจดหมายที่เฉียนตุ้นและราชครูของราชวงศ์เก่าติดต่อกัน

ทั้งยังรู้ว่าเฉียนตุ้นก็กำลังสืบหาเบาะแสของตราราชลัญจกรแห่งราชวงศ์เก่าอยู่อย่างลับๆ

เรื่องเหล่านี้ได้มาผ่านคนคนสอดแนมของนางเองที่ได้ไปตรวจสอบมา

ดังนั้นนางจึงได้วางแผน ผ่านการยืมมือของหลานเฉินมู๋ฆ่าคน

และเหล่านี้ นางได้เคยได้ปริปากพูดต่อเขาสักคำ

ดังนั้น!

คืนนี้หานแสจะ เป็นตามที่นางคาด

“เช่นนั้นก็เป็นเกียรติมากจริงๆ ที่เจ้าของเรือต้องมาลำบากคิดถึง”

ในเมื่อหานแสไม่เริ่มพูดก่อน เช่นนั้นนางก็ไม่จำเป็นต้องไปอธิบายอะไร ไม่ว่าอย่างไรก็ตามหากนางเริ่มพูดก่อน ก็จะตกเป็นเบี้ยล่าง

“หึ!”

หานแสหึออกมาเสียงหนึ่งด้วยความเยือกเย็น แววตาเข้มขรึม ดับเทียนที่เพิ่งจุดขึ้นไม่นานด้วยมือเปล่า จากนั้น “ฉึบ” เสียงหนึ่ง เทียนอีกเล่มหนึ่งบนเชิงเทียนก็ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง

จากนั้นเสียงที่มีเสน่ห์ชั่วร้ายของเขาก็ดังขึ้น :

“เจ้าดู เทียนที่อยู่บนเชิงเทียนเหมือนกัน เพียงแค่ข้าชอบ ก็สามารถจุดมันได้ และสามารถดับมันได้

เยาเยา เจ้าอย่าทำเหมือนเทียนเล่มนั้นที่ไม่เหมือนกัน ถึงเวลานั้น ถึงข้าจะทำใจไม่ได้เช่นไร ก็ต้องลงมืออยู่ดี”

จากคำพูดของหานแส

หลานเยาเยารู้ว่า เขารู้เรื่องที่นางมีกองกำลังของตัวเอง ดังนั้นตอนนี้เขาจึงเตือนนาง จากนี้ไปทำเรื่องอะไรต้องบอกให้เขารู้ทั้งหมด

ด้วยเหตุนี้!

หลานเยาเยาเลิกคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มอย่างแพรวพราว

“ได้ได้ได้ ข้ารู้แล้ว” แต่นางทำไม่ได้! แล้วนางก็ไม่ใช่คนหัวโบราณเช่นนั้นด้วย

ไม่เช่นนั้น ภายในเวลาสองปีที่อยู่ภายนอก นางจะสามารถไปคบหาสมาคมกับคนตั้งมากมายได้เช่นไร ทั้งยังยินยอมให้ตาแก่สร้างสำนักหงอีให้นางอีก?

แม้ว่าการเป็นเจ้าสำนักสำนักหงอีของนางเป็นไปอย่างน่าอนาถจนทนดูไม่ได้ แต่นั่นก็เป็นกองกำลังของนางนะ!

ดังนั้น!

นางต้องการกองกำลังของตัวเอง

นางไม่อยากพึ่งพาอาศัยคนอื่น

เช่นนี้ทำเรื่องขึ้นมา นางก็จะได้ไม่ต้องพะวงใจเรื่องข้างหลัง

หลังจากที่ได้ยินคำของนาง หานแสกลับใช้สีหน้าที่ไม่เข้าใจมองดูนาง

เงียบไปสักพัก จึงได้พูดเบาเบา :

“ตอนนี้ความเป็นไปภายในเมืองหลวงซับซ้อน ราชครูก็จะกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว ตอนนี้เจ้าก็มีเพียงผู้ช่วยสองคน เกรงว่าจะไม่เพียงพอ พรุ่งนี้ข้าจะส่งอีกสองคนมาช่วยเจ้า”

ก็รู้ว่าจะต้องเป็นเช่นนี้

หานแสไม่เปิดโปงเรื่องที่นางเลี้ยงกองกำลังเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อจะได้จัดหาคนให้นางในตอนนี้

นางจะชี้แจงอะไรได้อีก?

อะไรก็ไม่สามารถพูดได้!

แต่ว่า……

“ได้สิ! เจ้าของเรือท่านไม่บอก ข้าก็จะต้องขอจากท่าน! ข้าสามารถเลือกคนเองได้หรือไม่?”

แทนที่จะให้เขาจัดเตรียมมาให้ ก็ไม่เท่ากับให้นางเลือกเอง

“ได้ เจ้าพูด”

หานแสกลับอยากดูว่า นางจะเลือกใครกันแน่?

“ข้าเอาซาหมั่นเฉิงกับป่ายเม่ยเซิง”

นางคิดก็ไม่คิด ก็พูดชื่อของทั้งสองคนออกไปตรงๆ

“เจ้ากลับช่างเลือกจริงๆ พวกเขาสองคนเป็นคนที่เรือแห่งความสิ้นหวังจะขาดไปไม่ได้ พูดมาสิ ว่าทำไมถึงเลือกพวกเขา?”

มือขาวๆของหานแสอยู่บนเชิงเทียน สำหรับหลานเยาเยาที่เอ่ยปากขอสิ่งที่สำคัญมากๆไปนั้น แสดงออกถึงความไม่มีทางเลือก

เดิมทีเขาได้เลือกคนสองคนที่มีความสามารถมากที่สุดจากยิงจวนมาเป็นผู้ช่วย กลับคิดไม่ถึง ความสนใจของหลานเยาเยานั้นจะอยู่ที่สมาชิกคนสำคัญที่เป็นหลักของเรือแห่งความสิ้นหวัง

หลานเยาเยาเห็นว่ามีหวัง

ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมาทันที!

“ซาหมั่นเฉิงเป็นคนอารมณ์ขัน วิทยายุทธดี คนทั้งฉลาด และพูดจาทำการใดก็มีเหตุผล เป็นคุณลุงที่รู้ใจ ข้าพูดคุยเข้ากับเขาได้”

ที่สำคัญสุดสุดสุดก็คือ ฝีมือการทำอาหารของซาหมั่นเฉิงก็เลิศที่สุดในโลก

เมื่อตอนที่อยู่บนเรือแห้งความสิ้นหวัง

นางวิ่งไปที่อาณาบริเวณของซาหมั่นเฉิงทุกวัน วันนี้ให้เขาทำอาหารนี้ พรุ่งนี้ให้เขาทำกับข้าวอันนั้น และเขาไม่ทำก็ไม่ได้

เพราะเวลานั้น หลังจากที่ถอนพิษกู่จิ้นของหานแสแล้ว ผลข้างเคียงรุนแรงมาก มีอาการนอนไม่หลับถึงขนาดในหนึ่งปีก็ไม่ได้นอนเลยสักครั้ง

เวลานั้นหานแสชอบบุกเข้าห้องนางในตอนเที่ยงคืนตีหนึ่งอยู่บ่อยๆ มาพูดคุยกับนาง เล่นหมากรุก จิบชา

ด้วยเหตุนี้!

นางก็ได้กลายเป็นบนเรือแห่งความหวัง เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่เจ้าของเรือโปรดปรานที่สุด

นางกวนให้ซาหมั่นเฉิงทำอาหารให้นางกิน ซาหมั่นเฉิงไม่ทำ นางก็จะไปรายงาน

ซาหมั่นเฉิงกลัวสิ!

จึงทำได้เพียงทำอาหารอร่อยๆให้นางกินทุกวัน เพื่อปลอบโยนความคิดที่ชั่วร้ายของนาง

ดังนั้น!

ช่วงเวลานั้น ซาหมั่นเฉิงเจอหลานเยาเยาก็ราวกับเจอผี หลบก็หลบไม่ทัน

เพียงแค่หานแสส่งเขามาอยู่ข้างกาย นางรับรองว่าจะให้เขาเหมาห้องครัว

เมื่อคิดถึงอาหารที่เลิศรสที่สุดในโลกเหล่านั้น

ตอนนี้น้ำลายในปากของหลานเยาเยาก็กำลังเอ่อล้นออกมา

“รู้ใจ? พูดจาทำการใดก็มีเหตุผล? เหอะ! พูดจนข้าแทบจะเชื่อแล้ว”

หานแสจนปัญญามาก!

ความคิดของหลานเยาเยาตรงจุดนี้หานแสจะไม่เข้าใจได้เช่นไร?

เขาเพียงคิดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดๆหลานเยาเยาก็จะไม่ปล่อยให้กระเพาะอาหารของตัวเองต้องอดอยาก

การกินสำคัญถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?

แต่ว่า!

ซาหมั่นเฉิงก็เป็นตัวเลือกอีกตัวเลือกหนึ่งที่ไม่เลวเลยทีเดียว

แต่เมื่อคิดถึงป่ายเม่ยเซิง หานแสก็ขมวดคิ้วด้วยความครุ่นคิดเล็กน้อย

“เช่นนั้นป่ายเม่ยเซิงล่ะ? ทำไมถึงเลือกเขา?”

หากว่าเขาจำไม่ผิด

หลานเยาเยาไม่ชอบป่ายเม่ยเซิง แต่ป่ายเม่ยเซิงชอบที่จะตามติดนาง

นางได้เลือกป่ายเม่ยเซิง กลับทำให้เขารู้สึกคาดไม่ถึง

“เขาหรอ? ดีมากนะ! รูปหล่อ ปล่อยวางได้ แล้วยังเข้าได้ง่ายกับทั้งชายหญิง ก่อนจะลงมือทำการจะต้องมีการทำข่าวกรอง ให้เขาไปทำเหมาะสมที่สุดแล้ว”

แม้ว่าป่ายเม่ยเซิงจะชอบเกาะติดนาง ชอบพูดในสิ่งที่ทำให้คนตกไปอยู่ในจินตนาการ

แต่นางรู้ว่า เขาเก่งกาจมาก รับมือกับเรื่องต่างๆได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะมีมีดมาตั้งอยู่บนคอของเขา เขาก็ยังสามารถยิ้มแล้วพูดจาไปเรื่อยได้

คนที่ความสามารถเยี่ยงนี้ ไม่ใช้ประโยชน์สักหน่อยก็เสียดายแย่!

ยิ่งไปกว่านั้น……

คนที่สามารถเป็นสมาชิกหลักของเรือแห่งความสิ้นหวังได้ จะเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีความสำคัญได้เช่นไร?

หานแสมองตรงไปยังเชิงเทียน เล่นเทียนไปพลาง แล้วก็เอ่ยอย่างไม่ได้ตั้งใจ :

“เจ้ากลับเข้าใจเลือก เสาหลักของเรือสองสามอันของข้า เพียงแวบเดียวโดนเจ้าย้ายไปแล้วสองต้น เจ้าจะให้ข้าทำเช่นไร?”

เดิมทีบนเชิงเทียนมีเทียนเพียงเล่มหนึ่งที่ส่องสว่างอยู่ ตอนนี้ถูกหานแสจุดขึ้นทีละเล่มทีละเล่ม ด้านในห้องเริ่มสว่างไสวขึ้นเรื่อยๆแล้ว แต่หานแสก็ยังคงยืนอยู่ข้างเชิงเทียนตลอด…..

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท