หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 266 เสน่ห์ของม้ารูปงาม

บทที่ 266 เสน่ห์ของม้ารูปงาม

บทที่ 266 เสน่ห์ของม้ารูปงาม

เย่แจ๋หยิ่งละสายตาไปทางอื่นอย่างเยือกเย็น ซึ่งชัดเจนว่าไม่อยากจะคุยอะไรกับนางอีก

ถังมู่หวั่นผิดหวังอยู่ภายในใจ ทำได้แค่ถอนตัวกลับไป

หลังดื่มชาไปถ้วยหนึ่ง ในที่สุดองครักษ์ลับก็นำม้าสุดที่รักของเย่แจ๋หยิ่งมาถึง

ม้าของเย่แจ๋หยิ่ง ชื่อว่าเล่หก

มิเคยมีผู้ใดได้เห็นม้าเยี่ยงเล่หกมาก่อน ร่างกายของมันแข็งแกร่ง โดดเด่นเทพเท่ห์ วิ่งเร็วดั่งเปลวเพลิงเป็นปกติ ซึ่งความสามารถในความเร็วนั้นเหนื่อกว่าม้าเหงื่อโลหิตเป็นไหนๆ

อีกทั้ง!

โดยปกติแล้วม้าตัวนี้ เย่แจ๋หยิ่งจะไม่เอาออกมาขี่ง่ายๆ

ยังไงเสียนี่ก็เป็นเพียงแค่การแข่งขันล่าสัตว์ เหตุใดถึงได้ใช้ม้าที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาในสมรภูมิอันดุเดือดอย่างเล่หกล่ะ?

อย่างไรก็ตาม……

ขณะที่อยู่บนหน้าผาได้เห็นม้าเหงื่อโลหิตของเทพธิดาเข้า เขาก็ได้เปลี่ยนสิ่งที่สนใจ

ใช้เสน่ห์ของชายชาญ คงไม่ได้ผลเท่าใช้เสน่ห์ของม้างาม

เย่แจ๋หยิ่งวางถ้วยน้ำชาในมือ ทันทีที่เหาะไปบนหลังเล่หก ก็ลงแส้ไปหนึ่งที เล่หกก็วิ่งไปด้วยความว่องไว

……

ระยะเวลาของการแข่งขันคือสองชั่วยาม

ขณะนี้ได้ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยามแล้ว

หลานเยาเยาที่ควบสวนหยู่อยู่ในป่าทึบ นี่ก็เป็นครั้งที่สองแล้วที่นางได้วางเหยื่อให้กับองครักษ์ผู้นับคะแนน

จิ๊จิ๊!

คิดไม่ถึงเลยนะเนี่ยว่าสนามล่าสัตว์ของราชวงศ์จะมีให้ล่าเยอะเพียงนี้ ทั้งยังอุดมสมบูรณ์อีกด้วย

วันนี้ล่ะจะล่าให้เกลี้ยง!

เอ๋?

บนต้นไม้ที่ห่างไกลมีนกบินอย่างเกรี้ยวกราดอยู่ตัวหนึ่ง ราวกับว่าถูกขับไล่

นางเผยยิ้มออกมาในทันใด

นกตัวนี้ไม่รอดจากเงื้อมมือนางแน่

ในขณะนี้เอง ก็ได้ยินเสียงเกือกม้ามากมายแว่วเข้าหู ซึ่งเสียงมาจากทางขวา

“ฮึ่ย……”

“ฮึ่ย……”

“ฮึ่ย……”

“ต้นไม้ข้างหน้ามีนกบินอยู่ตัวนึง มันบินรวดเร็วมาก พวกเรามาดูกันว่าผู้ใดจะยิงมันร่วงก่อนเอาไหม?”

“งั้นคงต้องบอกละ ว่าเป็นข้าแน่นอน ยิงโดนทุกดอก ยิงร้อยนัดก็โดนร้อยนัด คอยดูไว้ละกันว่าข้าล่ามันบนหลังม้า เดี๋ยวก็ได้รู้ว่านกที่บินอยู่นั่นมันจะมาอยู่ในกระเป๋าข้าอย่างง่ายดาย”

“เจ้าก็โม้เก่งเหลือเกิน คะแนนเหยื่อของเจ้ายังไม่เท่าเสี้ยวหนึ่งของเทพธิดาด้วยซ้ำ ดูเข้า นั่นเทพธิดา หรือว่านางจะเห็นนกบินแล้วเหมือนกันล่ะนั่น?”

“พวกเราเร็วเข้า อย่าให้เทพธิดาล่าได้อีก”

เมื่อเห็นว่าเทพธิดามีเป้าหมายเดียวกันกับพวกเขา พวกเขาก็กระสับกระส่ายกันในทันที

เพราะสุดท้าย!

คนที่ยิงร้อยนัดโดนร้อยนัด ยิงแม่นโคตรจริงๆก็คือนาง

ในตอนที่มีโอกาสเหมาะเจาะเกือบจะยิงโดนอยู่สองสามครั้ง แต่แล้วก็โดนเทพธิดาที่อยู่ไกลโพ้นตัดหน้าไปก่อนตลอด

ดังนั้นในขณะนี้ที่ได้เห็นเทพธิดา ใจของพวกเขาก็ตุ้มๆต่อมๆ

เช่นนั้น ทุกๆคนจึงทุ่มพลังกันอย่างเต็มเปี่ยม จะต้องไปคว้านกตัวนั้นก่อนเทพธิดาให้ได้

แต่แล้ว!

ความเร็วของม้าพันธุ์ดีที่พวกเขาควบอยู่ จะไปเร็วกว่าม้าเหงื่อโลหิตได้อย่างไรกัน?

ไม่ถึงครู่หนึ่ง ม้าเหงื่อโลหิตของเทพธิดาก็แซงพวกเขาไป แต่พวกเขายังไม่ยอมแพ้

จะอย่างไร!

คนเราก็มักจะมีจุดอ่อนเสมอ

การล่าเหยื่อของเทพธิดาบนพื้นดินนั้นแม่นยำ แต่สิ่งที่บินอยู่บนฟ้าก็คงจะไม่แม่นแล้วล่ะมั้ง?

งั้นพูดอีกรอบ หากสุดท้ายแล้วเทพธิดายิงโดนนกที่บินอยู่ได้ พวกเขาก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เพราะมันแปลว่าทักษะการยิงธนูของเทพธิดานั้นยอดเยี่ยมกว่าพวกเขาจริงๆ

สมมติว่า สุดท้ายแล้วนกมันตกมาอยู่ในมือของพวกเขา แบบนั้นพวกเขาก็คงจะโม้ไปได้พักใหญ่เลยล่ะ

แต่ในขณะนี้

นกยังบินห่างจากพวกเขาอีกค่อนข้างไกล แต่พวกเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า เทพธิดาได้วาดคันธนูแล้ว

“ฟิ้ว……”

ลูกธนูอันแหลมคมทะลุผ่านอากาศ ยิงเข้าจังๆไปทางนกที่กำลังบินอยู่

สุดท้ายก็ไม่ต้องแปลกใจ นกส่งเสียงกรีดร้อง แล้วก็ร่วงลงมา

หลานเยาเยายกมุมปาก พลางเดินหน้ามาอย่างไม่รีบร้อน

ท่านชายเหล่านั้นที่แย่งชิงนกกัน หลังเห็นเทพธิดายิงนกได้ ในใจก็ไม่บ่นแต่อย่างใด ซึ่งได้เหาะไปยังที่ที่นกตกลงมา อยากจะช่วยนางเก็บ

แต่มันกลับทำให้พวกเขาต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า

ที่นกตัวนี้มีลูกธนูอยู่สองดอก ดอกหนึ่งเป็นของเทพธิดา งั้นอีกดอกหนึ่งก็เป็น……

เมื่อมองดูการซุบซิบกันของพวกเขา หลานเยาเยาก็มีข้อสงสัยจึงถามมาก่อนว่า:

“กระไรรึ?”

“คนที่ยิงโดนนกยังมีอีกคน”

หนึ่งในท่านชายนำนกมาให้นางดูตรงหน้า

ขณะที่ได้เห็นสัญลักษณ์บนลูกธนูอีกหนึ่งดอกนั้น ดวงตาของหลานเยาเยาหรี่ลงเล็กน้อย จากนั้นก็หันดูรอบๆ

“เป็นลูกธนูของอ๋องเย่” เพียงแต่……ตัวเขาล่ะ?

ทุกๆคนต่างเป็นสงสัย

ในเมื่ออ๋องเย่ก็ยิงโดนนกเหมือนกัน แล้วเหตุใดถึงไม่เห็นตัวคนยิง?

อย่างไรก็ตาม!

ความสงสัยของพวกเขาก็กระจ่างแจ้ง

ในขณะนี้ได้ยินเพียงเสียงของเกือกม้า อ๋องเย่ควบม้ามาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด

“ว้าว……อ๋องเย่ควบเล่หกมารึนั่น?

“ใช่ นั่นเป็นเล่หก เล่หกที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับอ๋องเย่ในสมรภูมิอันดุเดือดมานานแสนนาน”

“เมื่อก่อนได้เห็นแค่จากที่ไกลๆ ไม่นึกเลยว่าพอได้เห็นใกล้ๆ เล่หกมันจะหล่อเหลาเอาการจริงๆ ว่องไวราวกับฟ้าผ่าแหน่ะ!”

เล่หก?

โด่งดังมากเลยงั้นรึ?

เร็วกว่าสวนหยู่อีกรึ?

มองดูเย่แจ๋หยิ่งที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สายตาของหลานเยาเยาจึงจับจ้องไปยังเล่หกที่วิ่งด้วยความว่องไว สุดท้ายก็หันกลับมามองสวนหยู่ที่อยู่ด้านล่าง

ก็อดไม่ได้ที่จะเม้มปาก

ไม่นึกเลยว่าจะมีม้าพันธ์ุดีที่เทพกว่าสวนหยู่อยู่จริงๆ!

เมื่อเย่แจ๋หยิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าหลานเยาเยา เขาก็เหลือบมองไปที่นก มุมปากก็ยกขึ้น

“เทพธิดา ยิงได้สวยดีนี่”

“อ่าห้ะ! ทั้งคู่แหล่ะทั้งคู่” หลานเยาเยาหมดคำจะพูด

คนสองคนยิงโดนนกตัวเดียวกัน แต่เย่แจ๋หยิ่งกลับชมนางว่ายิงได้สวย หรือว่านี่เขาจะชมตัวเอง?

“ข้าไม่ได้อะไรกับนกตัวนี้สักเท่าไหร่ แล้วเทพธิดาเองก็ยิงโดนเหมือนกัน เช่นนั้นก็ให้เทพธิดาเอาไปแล้วกัน!”

ให้?

หึ!

นางไม่ได้ต้องการให้เขาให้นางสักหน่อย!

เขาไม่ได้อะไรกับนกตัวนี้ แต่เขาก็ยิงมันเนี้ยนะ? เหยื่อที่นางยิงได้ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่เหล่านั้นก็มีตั้งหลายตระกร้าแล้ว!

เพียงแต่……

สิ่งที่แปลกคือ สวนหยู่ที่นางขี่อยู่จู่ๆก็กระสับกระส่าย ขาทั้งสี่ข้างขยับไปข้างหน้าอย่างช่วยไม่ได้

หลานเยาเยาเหลือบมองเล่หกของเย่แจ๋หยิ่ง ที่อยู่ตรงข้ามใกล้ๆกับสวนหยู่ มันได้แผ่ความสง่างามออกมา

มันทำให้นางไม่สบอารมณ์กับสิ่งที่นางหวังเอาไว้

ยัยม้าโรคจิต!

แค่เห็นม้าหล่อก็ไม่รู้จักอายแล้ว ไม่เห็นรึไงว่าเขาไม่ได้สนใจอ่ะ?

ดังนั้น!

นางจึงฟาดหัวของสวนหยู่ไปอย่างรุนแรง สวนหยู่ก็กลับมาเชื่อฟังทันใด

เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมาก็สบสายตากับเย่แจ๋หยิ่ง ได้เห็นสายตาที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของเขา ทั้งยังคงแสยะยิ้มอยู่ที่มุมปาก

“อะแฮ่มๆ” นางไอออกมาเบาๆ เพื่อปกปิดความอับอายภายในใจ

“อันที่จริงก็ยิงโดนในเวลาเดียวกัน เช่นนั้นมันจึงไม่ใช่ของของข้า”

จากนั้น!

หลานเยาเยาหันไปยิ้มแย้มให้กับท่านชายที่ถือนกอยู่ จากนั้นก็พูดอย่างตรงไปตรงมา: “นกเป็นของท่านแล้วล่ะ”

ท่านชายผู้นั้น: “จริงรึ?”

ความสุขเอ่อล้นขึ้นมาในทันใด นกก็ได้ แล้วยังได้รอยยิ้มจากเทพธิดาอีก

ใจดวงน้อยๆของเขาเต้น “ตุ๊บตั๊บๆ” รวดเร็วปานจะทะลุออกมา

ท่านชายคนอื่นๆเผยใบหน้าเศร้าใจด้วยความเสียดาย

งี้ก็ได้หรอ?

พวกเขาก็อยากได้เหมือนกันนะ!

เวลามีจำกัด หลังพวกเขาได้นกไป ก็ไปล่าเหยื่อตัวอื่นกันอย่างสุขสำราญใจ

“สวนหยู่ ไป!”

หลานเยาเยาหันหัวม้า ตั้งใจจะไปล่าเหยื่ออีกทาง

แต่กลับพบว่าสวนหยู่มิแม้แต่จะขยับ มันยืนนิ่งมิไหวติง จะเดินหน้าไปทางเล่หกก็ไม่ไป จะไปล่าสัตว์อีกทางตามที่นางบอกก็ไม่ไปเหมือนกัน

“……”

สวนหยู่ ยัยม้าโรคจิตตัวนี้นี่

ก็แค่ม้าที่หล่อเหลาไปนิดหน่อยเองมิใช่รึไง? ถึงกับก้าวขาไม่ออกกันเลยเชียว

ในช่วงเวลานี้!

เสียงต่ำที่สุขุมนุ่มลึกของเย่แจ๋หยิ่งก็ดังขึ้น: “เทพธิดา ข้าไล่ตามเจ้าอยู่นะ”

“อะไรนะ?” หลานเยาเยาผงะไป ไม่ค่อยเข้าใจว่าเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท