หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 251 กระอักเลือดอีกแล้ว

บทที่ 251 กระอักเลือดอีกแล้ว

บทที่ 251 กระอักเลือดอีกแล้ว

“ของของเจ้า? เหอะ! บนโลกใบนี้มีมุกเย่หมิงเพียงแค่เม็ดเดียวหรือไง?”

พูดจบ หลานเยาเยาก็คิดที่ผละออกจากมือของเย่แจ๋หยิ่ง แต่จนปัญญาเย่แจ๋หยิ่งแรงมากเกินไป นางจะดิ้นเช่นไรก็ไม่หลุด

“แม้ว่าโลกนี้จะมีมุกเย่หมิงเป็นหมื่นเป็นพัน แต่เม็ดนั้นที่เป็นข้า ข้าต้องจำได้เป็นธรรมดา” ในทางกลับกัน ดวงตาของเขาหรี่ลง

“เจ้าเป็นใครกันแน่?”

ใบหน้าที่ดำดั่งหมึกของเย่แจ๋หยิ่ง น้ำเสียงเย็นยะเยือก

“ชิ! ข้าเป็นใครเกี่ยวอะไรกับท่าน แล้วก็ ขอร้องท่านอย่าขี้ลืมจนเกินไป มุกเย่หมิงเม็ดนี้ไม่ใช่ของท่านตั้งนานแล้ว”

คนอะไรกัน!

ทำไมเขาถึงไม่ถามตัวเขาเอง ของของตัวเองทำไมถึงหายไปได้?

แต่ทว่า……

เย่แจ๋หยิ่งไม่เชื่อคำพูดของนางแม้แต่น้อย แรงที่จับมือนางไว้ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

“รีบปล่อยข้า ไม่เช่นนั้นข้าจะตะโกนว่าลวนลาม”

ยังไงซะตอนนี้นางก็ปิดหน้าอยู่ ใส่ชุดยามราตรี แม้ว่าจะถูกคนอื่นพบเห็นก็จำนางไม่ได้

แต่เย่แจ๋หยิ่งไม่เหมือนกัน

เขาใส่ชุดเสื้อคลุมยาวสีดำทั้งตัว เพียงแค่มีแสงสว่างนิดหน่อย แค่แวบเดียวก็สามารถมองออกว่าเขาเป็นใครแล้ว

“เจ้ากล้าข่มขู่ข้า?”

สีหน้าของเขาเคร่งขรึมอีกครั้ง น้ำเสียงแฝงไปด้วยแรงสังหาร

เหอะ!

คนคนนี้ยังเป็นเหมือนเดิมจริงๆ

กระหายเลือดเป็นชีวิต ป่าเถื่อนบ้าอำนาจ ไม่ทันไรก็คิดจะฆ่าคน

แต่ว่า หลานเยาเยายิ้มมุมปาก พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “ข้าข่มขู่ท่านแล้วจะเป็นเช่นไร? แน่จริงท่านก็ฆ่าข้าสิ!”

แม้ว่าในเวลานี้ไม่ควรจะใช้ความแข็งชนความแข็ง แต่หลานเยาเยาก็เกลียดท่าทีเช่นนี้ของเขา

ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะพูดเพิ่มไปอีกหนึ่งประโยค

แต่ว่า……

พูดจบนางก็รู้สึกเสียใจ

ท่าทีของนางในตอนนี้ เย่แจ๋หยิ่งจำนางไม่ได้แล้ว นางจะมีอะไรให้โมโหอีก

เช่นนี้กลับจะทำให้เขาเกิดความสงสัยขึ้นมา

“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้า?”

เย่แจ๋หยิ่งรู้สึกถึงว่า อำนาจของตัวเองกำลังโดนท้าทาย

ก็แค่โจรสาวที่แอบสังเกตการณ์ตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์คนหนึ่งไม่ใช่หรือไง?

คิดไม่ถึงว่าจะกล้าอวดดีต่อหน้าเขา ชั่งไม่รู้จักความเป็นความตายจริงๆ!

เขาเกิดแรงสังหารขึ้นมาในทันที

จากนั้นก็จับไปที่คอของหลานเยาเยาที่ใส่ชุดยามราตรีทันที เมื่อออกแรง ในสมองของเขาก็ปรากฏภาพภาพหนึ่งออกมากะทันหัน

ข้างหุบเหวแห่งหนึ่ง……

ทะเลดอกไม้สีแดงแห่งหนึ่ง……

เขาบีบคอผู้หญิงคนหนึ่งไว้เหมือนกัน เพียงแต่ไม่ว่าจะมองเช่นไรเขาก็มองหน้าหญิงผู้นั้นไม่ชัด……

แต่ว่า!

หัวใจของเขากลับเจ็บปวดมาก เจ็บปวดมาก……

เย่แจ๋หยิ่งตกตะลึง ทันใดนั้นก็ปล่อยคอของนางพร้อมสีหน้าที่แสดงออกถึงความทุกข์ทรมาน จากนั้นก็มองไปที่มือของตัวเอง แล้วถอยหลังไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว

“ทำไมจึงเป็นเช่นนี้?”

ทำไมขณะที่บีบคอนางนั้น หัวใจเขาก็เหมือนกับถูกมีดกรีด?

หลานเยาเยามองดูเย่แจ๋หยิ่งที่เมื่อครู่คิดจะฆ่านางแล้วอีกครู่หนึ่งก็มีสีหน้าที่ทุกข์ทรมาน ในใจเกิดความสงสัย

ยังไม่ทันรอให้นางได้ลงมือ

วินาทีต่อมา นางก็เห็นมุมปากของเย่แจ๋หยิ่งมีรอยเลือดไหลล้นออกมา

เอ่อ……

กระอักเลือดอีกแล้ว……

นี่เป็นครั้งที่สองที่เจอเขาหลังจากสามปีก่อน และเป็นครั้งที่สองแล้วที่เห็นเขากระอักเลือด

คงไม่ใช่ว่าเป็นโรคอะไรที่รักษาไม่หายหรอกนะ?

อย่างที่คิด คนชั่วจะถูกสวรรค์จัดการเอง

หลานเยาเยาเอาระเบิดแสงที่อยู่ในแขนเสื้อ และมุกเย่หมิงที่อยู่ในมืออีกข้างหนึ่งเก็บกลับเข้าไปในระบบ จากนั้นก็คิดจากปลีกตัวจากไป

แต่ว่า……

แขนกลับถูกฝ่ามือที่แข็งแกร่งและมีแรงเยอะจับไว้ จากนั้นก็ถูกเย่แจ๋หยิ่งดันไว้กับต้นไม้

ทันใดนั้น ก็ได้กลิ่นคาวเลือดจางๆอยู่ที่ปลายจมูก……

ไม่มีแสงสว่างจากมุกเย่หมิง

ตอนนี้นางจึงมองเห็นสีหน้าของเย่แจ๋หยิ่งไม่ค่อยชัดเจน เพียงสังเกตได้ว่าการหายใจของเขาค่อนข้างไม่คงที่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง!

ในขณะที่นางกำลังไตร่ตรองอยู่ เขาก็ได้ลงมือ

และนางในขณะที่เย่แจ๋หยิ่งลงมือในพริบตานั้น ก็ได้เอาระเบิดแสงออกมาจากระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บใหม่อีกครั้ง และโยนไปที่พื้น

แต่ว่า……

นางก็ยังรู้สึกได้ถึงสีหน้าที่ตกตะลึง ในขณะเดียวกัน ผ้าสีดำที่ปิดหน้าไว้ก็ถูกเอาออกไปแล้ว……

เพราะว่ามีการเตรียมตัวมาก่อน

หลานเยาเยาจึงได้ปิดตาลงก่อน รอจนให้ระเบิดแสงทำงานแล้ว

เมื่อนางลืมตาขึ้นมา ก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งใช้แขนปิดบังตาเอาไว้ น่าจะเป็นการตาบอดชั่วคราว แต่อีกมือข้างหนึ่งยังคงจับแขนนางเอาไว้อย่างเหนียวแน่น

หลานเยาเยาจึงตัดสินใจ

เมื่อยื่นมือ กลางฝ่ามือก็ปรากฏมีดสั้นด้ามหนึ่งขึ้นมา จากนั้นก็ปาดไปที่มือใหญ่ๆที่จับนางเอาไว้

“ฉึก……”

เมื่อมีดสั้นปาดผ่านไป เย่แจ๋หยิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย คลายมือออกด้วยสัญชาตญาณ

หลานเยาเยาก็ใช้โอกาสนี้ ผละออกจากมือของเขาทันที จากนั้นก็หายตัวจากไป

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่

เย่แจ๋หยิ่งค่อยๆเอามือที่บังตาลง หลังจากพบว่ามองเห็นสิ่งต่างๆแล้ว เขาจึงมองดูรอยบาดแผลที่มือแวบนึง

จากนั้นก็เคลื่อนสายตาไปยังมืออีกข้างหนึ่ง

พูดให้ถูก คือดูผ้าสีดำในมือ ริมฝีปากบางๆที่ปิดสนิทค่อยๆเปิดขึ้น :

“เป็นนาง?”

แม้ว่าจะมองเห็นหน้านางไม่ชัดเจน แต่กลับมองเห็นว่าบนหน้าของนางเหมือนกับมีรอยรูปของดอกไม้อยู่……

……

หลานเยาเยาที่เพิ่งข้ามมานอกกำแพงวัง เมื่อถึงพื้นก็เห็นเงาร่างคนสองคนเหาะลงมา

หลานเยาเยาคลายคิ้วลง มุมปากมีรอยยิ้มบางๆ

ไม่ต้องดูให้ละเอียดนางก็รู้ว่าเป็นจื่อซีและจื่อเฟิง

พวกเขาทั้งสองคนหน่ะ!

ก็เหมือนสาวใช้แก่สองคน ถนอมนางไว้ในฝ่ามือก็กลัวแตก อมไว้ในปากก็กลัวละลาย มองไว้ในสายตาก็กลัวหาย

กล่าวโดยรวม!

ตรงไหนๆก็ไม่ไว้วางใจเป็นห่วงไปซะหมด

นี่ไง เมื่อมาถึงหน้านาง ก็มองไปรอบๆสังเกตอย่างละเอียดว่ามีเรื่องอะไรหรือไม่

จื่อเฟิงยังดี แม้ว่าจะเป็นห่วง แต่ก็เพียงแค่สังเกตพินิจด้วยสายตา

แต่จื่อซีไม่เหมือนกันแล้ว

วนรอบตัวนางหลายรอบ หลังจากที่มั่นใจแล้วว่านางไม่เป็นไรจริงๆ

ถึงได้เอาสายตามาไว้บนตัวนาง แล้วถึงได้ทำมือเคารพสอบถามด้วยความสงสัย :

“เจ้านาย บนหน้าท่าน……”

“ที่นี่ไม่เหมาะที่จะอยู่นาน ไปเถอะ!”

ได้ยินคำพูดนี้ของนาง จื่อซีก็ไม่พูดอะไรอีก จากนั้นพวกเขาทั้งสามก็กลับจวนอย่างรวดเร็ว

หลังจากกลับถึงจวน หลานเยาเยาก็ไม่ได้พูดว่าเกิดอะไรขึ้นในพระราชวัง พูดเพียงว่าไม่มีปัญหา จากนั้นก็ไล่ให้พวกเขาไปนอน

หลังจากที่พวกเขาเดินไป

หลานเยาเยาก็ถอนหายใจอีกครั้ง!

โทษตัวเองที่ประมาทเลินเล่อ ไม่ว่าเย่แจ๋หยิ่งจะจำนางได้หรือไม่ นางก็ควรจะคิดวิธีการรับมือให้ดี ไม่เช่นนั้นถูกจับผิดได้ เช่นนั้นก็จะลำบากแน่

“เอี๊ยด……”

นางเปิดประตูเดินเข้าห้องของตัวเอง ขณะที่กำลังปิดประตู มือของนางก็ชะงักเล็กน้อย

จากนั้นก็หมุนตัวกลับมา มือสองข้างทาบอก ยืนพิงประตูห้องไว้ อ้าปากค้างกับห้องที่มืดสนิท น้ำเสียงที่น่าฟังและมีเสน่ห์ดังขึ้น

“ในเมื่อมาแล้ว ทำไมถึงไม่จุดเทียนสักแท่งล่ะ? มืดมิดไร้แสงไฟ ท่านคิดจะทำอะไรเจ้าของเรือ?”

นางเลิกคิ้ว รอให้ในห้องมีแสงสว่างจากเทียน

เป็นไปดั่งคาด!

เมื่อคำพูดของนางหลุดออกไป

“ฉึบ” เสียงหนึ่ง ห้องที่ยื่นมือออกไปก็มองไม่เห็นนิ้วทั้งห้า สว่างไสวขึ้นมาด้วยแสงเทียนในพริบตา

หานแสในชุดคลุมยาวสีม่วงเข้ม ยืนอยู่ข้างเชิงเทียน ยิ้มให้นางอย่างเจ้าเล่ห์

“ไม่เจอกันสองปี เริ่มมีพัฒนาการด้านความระวังตัวขึ้นเรื่อยๆแล้ว”

ทั้งๆที่พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม แต่หลานเยาเยากลับรู้สึกถึงความหนาวสะท้านไปถึงกระดูก

ไม่เจอกันไม่กี่ปี?

ไม่ใช่หรอกมั้ง!

นางไม่เชื่อ คืนนั้นที่นางไปถึงโรงเตี๊ยมหานแสจะไม่เห็นนาง

“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว หากข้าไม่พัฒนา ท่านก็คงจะผิดหวังแย่? ท่านว่าใช่ไหมล่ะ!

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท