หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 288 มือที่วางอยู่บนเอว

บทที่ 288 มือที่วางอยู่บนเอว

บทที่ 288 มือที่วางอยู่บนเอว

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปโดยพลัน มือข้างหนึ่งแตะเข็มขัดอย่างรวดเร็ว และด้วยพลังความรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ เขาล้วงซองผงยาออกมาจากเอวของเขา สาดเข้าใส่เย่หลีเฉินตรงๆ

จากนั้นก็รีบแฝงกายเข้ามาข้างหลังพวกเขา ดึงกระบี่พกออกจากเอวขององครักษ์คนหนึ่ง และสังหารองครักษ์ที่ไร้การป้องกันทั้งสองอย่างรวดเร็ว

เขาเป็นองครักษ์ประจำพระองค์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชิดฮองเฮา แน่นอนว่า วรยุทธและเทคนิคการพลิกแพลงของเขาย่อมไม่ธรรมดา

ฆ่าองครักษ์คนสองคน สำหรับเขาแล้ว เพียงแค่ต้องจู่โจมโดยไม่ให้ระวังตัวก็แค่นั้น

“เจ้า······”

เขาเป็นองครักษ์ประจำพระองค์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชิดฮองเฮา แน่นอนว่าวรยุทธและเทคนิคการพลิกแพลงของเขาย่อมไม่ธรรมดา

ฆ่าองครักษ์คนสองคน สำหรับเขาแล้ว เพียงแค่ต้องจู่โจมโดยไม่ให้ตั้งตัวก็เท่านั้น

“เจ้า······”

ทันทีที่เขาเห็นผงยาถูกสาดเข้ามาตรงหน้า เขาก็รีบหลบเลี่ยงโดยสัญชาตญาณ

แต่ว่า!

กลิ่นของผงยานั้นแพร่กระจายออกมาเร็วเกินไป เพียงเขาไม่ทันระวัง ก็เผลอสูดเข้าไปแล้ว

เมื่อเห็นองครักษ์ถูกฆ่าตาย เขาคิดจะใช้วรยุทธเข้าจู่โจม แต่กลับไม่อาจเค้นพลังออกมาได้เลยแม้แต่น้อย

“เมื่อครู่นี้คือยาหมดแรงสือเซียง องค์ชายรัชทายาท ทรงอย่าได้พยายามดิ้นรนต่อไปจะดีกว่า คนตายก็เพราะทรัพย์ นกตายก็เพราะเหยื่อ ข้าน้อยขอลา!”

การที่ครั้งหนึ่ง เคยทำงานเป็นองครักษ์ใกล้ชิดพระองค์ของฮองเฮา ทำให้เขาเองก็ไม่คิดลงมือสังหารองค์ชายรัชทายาท

ถึงอย่างไรสุดท้ายแล้ว!

เขาก็เป็นถึงองค์ชายผู้งามสง่าของประเทศหนึ่ง

เมื่อพูดจบ!

ชายคนนั้นเตรียมจะใช้กำลังภายในเหาะเหินจากไป ปล่อยทิ้งให้เย่หลีเฉิน กระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดเองอยู่ที่นี่

แต่กลับกลายเป็นว่า …

หลังจากเหินขึ้นห่างจากพื้นไปไม่ถึงสองเมตร ก็ได้ยินเสียง “ฟิ้ว” ดังขึ้นเสียงหนึ่ง พลันปรากฏประกายแสงสีเงินสว่างวาบ อาวุธลับก็พุ่งตรงเข้าใส่ชายคนนั้น

ชายคนนั้นร่วงตกลงพื้นไปทันที

แต่เขาไม่ถึงตาย ยกมือขึ้นกุมที่หัวใจค่อยๆยืนขึ้นอย่างช้าๆ กวาดสายตามองไปรอบทิศ พบว่าไม่มีใครอยู่ จึงคิดจะเหาะหนีไปอีกครั้ง

แต่ทว่า······

“พลั่ก…”

ทันทีที่เขาเหินขึ้นจากพื้น เขาก็ร่วงตกลงไปอีกครั้ง

เย่หลีเฉินเห็นว่าชายคนนั้นเหินบินไม่ไหว จึงหันมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าสับสนงุนงงทันที แต่กลับไม่เห็นเงาใครเลยแม้เพียงครึ่งคน

คนที่แอบช่วยเหลือผู้นี้ เป็นศัตรูหรือเป็นมิตรกันแน่ ?

เมื่อชายคนนั้นร่วงตกลงพื้นไปอีกครั้ง เขาจึงมองไปรอบๆด้วยความตื่นตระหนก ในดวงตาอัดแน่นไปด้วยความระแวดระวัง ตื่นตัวเต็มที่

เขารู้ว่า คนที่ลอบทำร้ายเขามีวรยุทธที่สูงมาก เขาไม่ใช่คู่มือของคนผู้นี้

ดังนั้นจึงรีบร้องตะโกนด้วยเสียงดังก้องทันทีว่า:

“เจ้าเป็นใคร? ออกมาเดี๋ยวนี้! รีบโผล่หัวออกมา! ”

เมื่อสิ้นเสียงของเขา

เสียงหัวเราะที่น่าหลงใหลดังขึ้นอย่างช้าๆ เสียงนั้นไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป แต่กลับแทรกซึมเข้าไปในใจ ทำให้ผู้คนรู้สึกวูบโหวงว่างเปล่า ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าใกล้ความตายไปทุกขณะ

“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า …… ”

“เรียกเสียงดังขนาดนั้นไปทำไมกัน? อย่างไรก็ประหยัดพลังงาน เก็บเอาไว้ไปรับการพิจารณาโทษที่นรกขุมที่สิบแปดจากท่านยมราชจะดีกว่า!”

ทันทีที่สิ้นเสียงอันทรงเสน่ห์นั้น

ก็ปรากฏร่างของคนผู้หนึ่งในชุดคลุมสีแดงตัวใหญ่ เดินออกมาให้เห็นแก่สายตา

ผมยาวดำขลับ ราวความมืดมิดยามราตรีเจือด้วยน้ำหมึกเข้มข้น ถูกม้วนขึ้นสูง รัดด้วยกวานหยกรวบไว้ด้านหลัง ลาดเอียงลงไปด้านหนึ่ง เครื่องหน้าทั้งห้างดงามลงตัว ทำให้ใครที่ได้เห็นแม้เพียงครั้ง ล้วนต้องประทับใจจนไม่อาจลืมเลือนได้ลง

หลังจากเย่หลีเฉินได้เห็นเข้า

อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงจนผงะ!

เป็นนางนั่นเอง – เทพธิดา!

เหตุใดนางจึงมาอยู่ที่นี่ได้?

แม้ชายคนนั้นจะบินไม่ได้แล้ว แต่ยังรอโอกาสที่จะหาทางหลบหนีให้ได้ หลังจากเห็นหลานเยาเยาก็หรี่ตาลงอย่างดุร้าย

คาดไม่ถึงว่าแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง จะมีกลิ่นไอที่น่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้ ความรู้สึกนี้ ช่างเหมือนกับหลานเยาเยาเมื่อสามปีก่อนไม่มีผิด

เพียงแต่ว่า……

หลานเยาเยาตายไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงที่แต่งกายด้วยชุดผู้ชายตรงหน้าผู้นี้ มีแววตาที่คมกริบ แผ่กลิ่นไอที่ทำให้คนหวาดกลัว ราวกับว่าเพียงนางขมวดคิ้วหรือแย้มยิ้ม ก็ล้วนเผยให้เห็นความชิงชัง เบื่อหน่ายต่อโลกใบนี้ จนอยากเข่นฆ่าสังหารคนให้หมดสิ้น

“นี่เจ้าคือใครกันแน่!?”

“โองการแห่งฟ้า อวยพรทวยราษฎร์” ชื่อเสียงอันเกรียงไกรของเทพธิดา ไม่น่าจะไม่มีใครไม่รู้จักคำโปรยอันเลื่องลือนี้หรอกกระมัง?

เป็นดังที่คิดจริงๆ!

นางเอ่ยพูดขึ้นมาเพียงแปดคำ คนคนนั้นก็ตกใจจนหน้าถอดสี ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาว น้ำเสียงยามเอ่ยออกมาก็สั่นเทาจนรู้สึกได้

“เจ้าคือเทพธิดา”

“เป็นคนมีชื่อเสียงนี่มันดีจริง ๆ หนอ แค่บอกใบ้คำโปรยนิดหน่อย คนก็รู้กันหมดแล้ว ว่ามาเถอะ! เจ้าอยากตายอย่างไร?”

หลานเยาเยายื่นมือออกมา เกี่ยวเส้นผมที่ระตกอยู่บนหน้าอกของตน มาพันเล่นรอบปลายนิ้ว จากนั้นจึงยกยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ที่เพียงพอจะดึงดูดสิ่งมีชีวิตทั้งหมด แต่กลับแผ่รังสีสังหารออกมาอย่างไม่ปิดบัง

“ข้ากับเจ้าไม่มีบุญคุณความแค้นใดต่อกัน เหตุใดเจ้าจึงไม่ปล่อยข้าไปสักครั้งล่ะ”

“เทพธิดาเช่นข้าไม่ได้พูดไว้หรอกหรือ? อวยพรทวยราษฎร์นั้น เป็นพรที่มีไว้เพื่อประโยชน์สุขของประชาราษฎร์ทั้งปวง เจ้าคือบ่อนทำลายที่ทำร้ายประชาชนตาดำๆ ด้วยเหตุนี้จึงยากจะรอดพ้นความไปได้ ”

เหตุผลในการสังหารคนข้อนี้ทั้งยิ่งใหญ่และสูงส่งยิ่งนัก

เหมาะสมกับตัวตนในฐานะเทพธิดาของนางอย่างมาก

“อวยพรทวยราษฎร์ ? ทำเป็นพูดจาสร้างภาพลักษณ์เสียดูดี แต่จริงๆแล้วก็แค่เอามาใช้เป็นข้ออ้าง ปลอบประโลมพวกชาวบ้านหน้าโง่ทั้งหลายก็เท่านั้นแหล่ะ โฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้าก็เหมือนกับข้าไม่ใช่หรือ? มือเจ้ามันก็อาบเปื้อนไปด้วยเลือดไม่ต่างจากข้าตั้งนานแล้ว”

ต่างก็สองมืออาบเปื้อนไปด้วยเลือดกันทั้งคู่ ไม่มีใครประเสริฐไปกว่าใคร สักเท่าไรหรอกกระมัง?

หลานเยาเยาได้ฟังคำ ก็เผยรอยยิ้มอย่างยั่วเย้า

“ เจ้าก็พูดได้ถูกต้องจริงๆนั่นล่ะ แม้ว่าจะพูดจาเสียสวยหรู แต่ความเป็นจริง ผลมันก็เหมือนกันอยู่วันยังค่ำ

แม้ว่ามือของเทพธิดาเช่นข้าจะเปื้อนเลือดเลือด แต่ว่าเลือดเหล่านั้น ต่างก็เป็นเลือดสกปรก ทั้งสิ้น จะเปื้อนสักหน่อยมันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ

เจ้าว่าจริงหรือไม่?”

ในชาติก่อนหน้านี้ นางเป็นหมอทหารของหน่วยรบพิเศษ นางทั้งฆ่าคนและช่วยชีวิตผู้คน

ในชาตินี้ นางก็ยังฆ่าคนไปนับไม่ถ้วน แล้วก็ช่วยชีวิตผู้คนมากมายมหาศาลอีกเช่นกัน

ความหมายเหมือนกันแต่คุณค่ากลับต่างกัน นางเข่นฆ่าคนชั่วที่ก่อกรรมทำเข็ญ และช่วยชีวิตคนดีที่ไม่สมควรตาย

“เจ้าคิดว่าข้าจะนั่งรอความตายอย่างนั้นหรือ?” ดวงตาของชายคนนั้น ฉายแววโหดเหี้ยมมืดทะมึน

“แน่นอนว่าไม่อยู่แล้ว แต่เจ้าไร้หนทางจะทำอะไรได้”

หลานเยาเยายกยิ้มอีกครั้ง รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความลึกลับ แฝงความหมายบางอย่างที่ลึกซึ้ง

หลังจากนั้น!

หลานเยาเยายกเท้าขึ้น ก้าวเดินทีละก้าวตรงเข้ามา ชายคนนั้นคิดว่า นางจะเข้ามาฆ่าเขาแน่แล้ว เขาจึงก้าวถอยหลังหนีไปทีละก้าวเช่นกัน …

กลับคาดไม่ถึงว่า หลังจากที่หลานเยาเยาเดินมาถึงข้างตัวเขา กลับไม่ได้ลงมือทำอะไร เพียงเดินผ่านเฉียดไหล่เขาไป ตรงไปหยุดอยู่เบื้องหน้าเย่หลีเฉิน

“ องค์ชายรัชทายาทยังไหวไหม?”

“ไม่เป็นไร ขอบคุณเทพธิดาที่ช่วยเหลือ”

เย่หลีเฉินประสานมือกำหมัดคำนับ แสดงท่าทางขอบคุณ แต่ในขณะที่เพิ่งสิ้นเสียง ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก

“ ระวังข้างหลัง!”

แต่ทว่า!

การร้องเตือนของเขา ไม่มีความหมายโดยสิ้นเชิง เพราะหลานเยาเยาทำเหมือนว่าไม่ได้ยิน นางไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วด้วยซ้ำ เพียงยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มทรงเสน่ห์ ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเท่านั้น

เงาร่างของชายที่อยู่ข้างหลังนาง พลันเคลื่อนไหวเข้ามา เขาตัดสินใจสังหารนางในดาบเดียว

ในพริบตา กลับเกิดเรื่องที่น่าเหลือเชื่อขึ้น

“ อ๊ะ … อั๊ก … ”

“ แค่ก แค่ก แค่ก … ”

ดาบในมือยังไม่ทันฟันลงมา ชายคนนั้น ก็ล้มลงกับพื้นอาเจียนเป็นเลือด ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

“อะ … เจ้าทำอะไรกับข้า?”

ชายคนนั้นตื่นตระหนกอย่างยิ่ง

เทพธิดารู้ทั้งรู้ว่าเขาคิดจะฆ่านาง ไม่ต้องพูดถึงการหันกายเพื่อหลบการโจมตี แม้แต่หันหน้ากลับมามอง นางก็ยังไม่หันด้วยซ้ำ หรือจะพูดง่ายๆก็คือ นางไม่ได้สนใจว่าเขาจะลอบโจมตีหรือไม่ตั้งแต่แรกแล้ว

หลานเยาเยาผู้ซึ่งรอยยิ้มค่อยๆเลือนหายไป ไม่ได้มองไปที่ชายคนนั้น ทั้งยังขี้เกียจจะตอบคำถามของเขา ยังคงมองตรงไปที่เย่หลีเฉิน

“เจ้าทำได้อย่างไรกันน่ะ?” เย่หลีเฉินถามอย่างฉงนสงสัย

หลังจากหายกังวล สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือความสงสัยแล้ว

“ง่ายมาก ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ!”

“ อะไรนะ” เขารู้สึกเหลือเชื่อ

ในระหว่างที่คนคนนั้นลอบโจมตีนาง เขาเห็นอยู่ชัดๆ ว่านางไม่ได้ลงมือเคลื่อนไหวใดๆเลย นางชิงลงมือก่อนได้อย่างไรกันนะ?

จะเป็นไปได้ไหมว่า ทักษะฝีมือของเทพธิดา มาถึงขั้นที่เขามองไม่ออกแล้ว?

“รู้ไหมว่าเหตุใดเมื่อครู่นี้เขาถึงบินไม่ได้ ? นั่นก็เป็นเพราะ ข้าแอบลงมือในที่ลับอย่างไรล่ะ”

หลานเยาเยาเอ่ยไปพลางค่อยๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้เย่หลีเฉิน เอื้อมมือออกไปแตะที่เอวของเขา ทำให้เขาเผลอถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

“เอ่อ!” เรื่องพวกนี้ เขาก็รู้อยู่ เพียงแต่ตอนนี้เขารู้สึกไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง เป็นเพราะนางมีการเคลื่อนไหวที่ออกจะกะทันหันเกินไปสักหน่อย

“ เทพธิดา นี่เจ้า….

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท