หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 297 ถิงเมี่ยนที่ไม่เหมือนเดิม

บทที่ 297 ถิงเมี่ยนที่ไม่เหมือนเดิม

บทที่ 297 ถิงเมี่ยนที่ไม่เหมือนเดิม

“เทพธิดา ท่านจำเป็นจะต้องช่วยเหลือข้า ข้าออกจากจวนอ๋องเย่ ก็เท่ากับว่าต้องตายเพียงทางเดียว เพราะว่าข้าใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกผู้เดียวไม่ได้จริงๆ อ้า…….เออะ”

คำพูดที่โหลวเย่วพูดออกมาทีแรก ทำให้คนเห็นใจ

แต่ว่า!

เสียงพูดยังไม่ทันจบ อาจจะเป็นเพราะกินอิ่มจนเกินไป จึงได้เรอออกมากะทันหัน

หลานเยาเยา : “……”

อาหารตุ๋นยาจีนถ้วยนั้น นางได้พยายามต้มให้วัสดุยาไม่มีกลิ่นแรง ต้มออกมาเป็นข้าวต้ม นางชิมแล้ว รสชาติใช้ได้

ก่อนหน้านี้นางยังกลัวว่าเย่แจ๋หยิ่งจะสังเกตอะไรได้

ดูท่าตอนนี้ ก็ไม่ได้มีความสงสัยอะไรเกิดขึ้น

ดังนั้น

นางไม่ได้พูดอะไร แต่ลุกขึ้น เดินออกจากห้องด้วยฝีเท้าที่ไม่ช้าไม่เร็วนัก

โหลวเย่วเห็นดังนั้น

ก็ร้อนใจ รีบตามออกไป

“เทพธิดา เทพธิดา ท่านรอข้าก่อน แม้ว่าข้าจะถูกเสด็จอาไล่ออกมาอย่างกะทันหัน ไม่ได้พกของดีอะไรติดตัวมา

แต่ว่า ข้าก็มีเครื่องประดับล้ำค่ามากมาย ทั้งยังมีเหรียญเงินมากมาย

ข้ารับรอง เพียงรอให้ข้ากลับไปที่จวนแล้ว ท่านจะเอาเท่าไหร่ ข้าก็จะให้ท่านเท่านั้น ท่านจะเอาทั้งหมดเลยก็ได้”

โหลวเย่วรู้สึกว่า อยู่ในจวนอ๋องเย่ ฐานะไม่ร่ำรวย นอกจากเงินทองเครื่องประดับแล้ว ก็ไม่มีอะไรอื่นอีก

หากว่าเทพธิดายินยอมช่วยเหลือนาง จะมอบพวกเงินทองเครื่องประดับเหล่านั้นให้นางทั้งหมด

ใครจะรู้……

หลานเยาเยาหันกลับมา มองนางด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง : “เจ้าคิดว่าข้าจะพอใจกับของไร้รสนิยมเหล่านั้น?”

นางเป็นคนที่มองเงินเฉกเช่นมองสิ่งสกปรกเช่นนั้น จะถูกหลอกล่อด้วยทรัพย์สินได้เช่นไร?

“เช่นนั้นจะต้องทำอย่างไรท่านถึงจะช่วยข้า?”

โหลวเย่วคว้าผมด้วยความขึ้นมาด้วยความกลัดกลุ้มใจ

ใช่สิ!

เทพธิดาฐานะสูงส่ง ได้รับความเคารพศรัทธาจากประชาชนนับหมื่น ประชาชนให้ความรักใคร่ เพียงแค่รถม้าคันเดียว ก็หรูหราอย่างที่สุดแล้ว

จะพอใจกับเครื่องประดับเงินทองแค่เล็กน้อยของนางได้อย่างไรกันล่ะ?

“ข้ายุ่งมาก”

ความหมายคือ ไม่มีเวลาสนใจเจ้า

ล้อเล่นอะไรกัน

เวลาของนางล้ำค่ามาก จะมีเวลามากมายที่ไหนไปต้มข้าวต้ม?

จากนั้น แม้แต่แวบเดียวก็ไม่มองโหลวเย่ว ก็แฉลบตัวจากไปแล้ว ทำให้นางคิดอยากจะตามก็ตามไม่ทัน

ไม่รู้จะทำเช่นไร

โหลวเย่วไปดูที่ห้องภัตตาหารครู่หนึ่ง

เดิมทีนางคิดอยากจะไปดูว่าคนที่ควบคุมดูแลห้องภัตตาหารคือใคร และหาพ่อครัวที่ทำอาหารได้อร่อยไปด้วยเลย ให้เขาช่วยต้มข้าวต้ม

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าห้องภัตตาหารจะไม่มีใครอยู่สักคน นางจึงทำได้เพียงไปที่ประตูใหญ่ของตำหนักเทพธิดา นั่งอยู่ตรงกลางประตู รอเทพธิดากลับมา

ตลาดดำ

แหล่งซื้อขายของใต้ดินที่โหดร้าย

หลานเยาเยารู้กฎของในนี้ดี หลังจากที่แต่งตัวแล้ว

ถนนหนทางทางที่คุ้นเคยนางก็หาถิงเมี่ยนพบ

ถิงเมี่ยนเป็นเจ้าถิ่นที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ไม่ว่าจะทางขาวดำก็เอาหมด มีคนรู้จักเยอะมาก และรับรู้เรื่องข่าวสารได้ไวมาก

เวลานี้!

เขาเอนกายอยู่บนเก้าอี้อย่างสบายใจ ขาสองข้างวางอยู่บนโต๊ะ กระดิกไม่หยุด ข้างๆขากระจัดกระจายเต็มไปด้วยเมล็ดแตงโม บนพื้นก็ล้วนเป็นเปลือกของเมล็ดแตงโม

“ก๊อกก๊อกก๊อก…..” ประตูห้องถูกเคาะดังขึ้น

“ใครกัน?”

เขามีน้ำเสียงที่ค่อนข้างหงุดหงิด เพราะมีคนมารบกวนการกินเมล็ดแตงโมของเขา

“ท่านถิง เป็นข้าเอง! มาหาท่านมีการค้ามาเรื่องหนึ่ง”

“ไม่รับ”

ช่วงนี้ไม่อยากทำการค้า อยากทำเพียงกินๆนอนๆ ทำไปทั้งชีวิต

“อย่าสิ! เป็นการค้าขนาดใหญ่ ก็คือคนผู้นั้นที่มาหาท่านก่อนหน้านี้ ครั้งนี้มูลค่าการค้าสูงสุดๆ……”

ได้ยินดังนั้น!

การกินเมล็ดแตงโมก็ชะงักลง สีหน้าเปล่งประกาย และหลังจากที่เขายิ้มเยาะไปทีหนึ่ง ก็พูดด้วยความรำคาญอีกครั้ง :

“บอกแล้วว่าไม่ไปก็คือไม่ไป ให้เขาไปหาผู้อื่น”

“ท่านถิง ท่านจะลำบากไปทำไมกัน? โอกาสในการหาเงินดีขนาดนี้ เหรียญเงินหนึ่งพันตำลึงนะ! ไม่รับเสียดายแย่” ผู้ที่อยู่ด้านนอกก็โน้มน้าวต่อ

แต่ถิงเมี่ยนก็ยังคงไม่ได้มีความไหวติง

“ไปไปไป อย่ามารบกวนข้าอีก”

“เฮ้อ!” หนุ่มน้อยด้านนอกถอนหายใจ แล้วก็จากไป

แต่ว่า!

เพิ่งจะจากไปได้ไม่นาน ประตูห้องก็ถูกเท้าถีบให้เปิดออก จากนั้นหนุ่มน้อยเมื่อครู่ก็ถูกโยนเข้ามา อย่าว่าแต่จมูกหน้าที่เขียวช้ำ ยังมีทั้งร่างกายเต็มไปด้วยเลือดอีก

“ท่าน……ถิง รีบไป……” หนุ่มน้อยพูดอย่างยากลำบาก

ขณะที่ประตูโดนถีบ ถิงเมี่ยนก็ได้ยืนขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว

ตอนนี้เห็นลูกน้องของตัวเองโดนตีถึงขนาดนี้ ก็กำหมัดแน่นในทันใด พยายามอดกลั้นความโกรธในใจแล้วกล่าวขึ้น :

“ปล่อยเขา!”

ปะทะหน้ากับคนห้าคนที่เดินเข้ามา พวกเขาใส่เสื้อคลุมกระสอบ ที่หัวก็สวมใส่ผ้าคลุมกระสอบ ดูท่าทางแล้วเป็นผู้ที่รู้กฎของตลาดดำเป็นอย่างดี

คนที่เป็นผู้นำ พอเข้ามาก็เอาเท้าเหยียบไปที่หนุ่มน้อยที่มีเลือดทั่วตัว พูดอย่างเย่อหยิ่ง :

“เจ้านายให้พวกข้าเจรจาอย่างมีเหตุผลก่อนถ้าไม่ได้ค่อยใช้ไม้แข็ง เป็นเจ้าเองที่ไว้หน้าแต่ไม่เอาหน้าไว้

คิดว่าตัวเองเคยติดตามพระชายาเย่ช่วงเวลาหนึ่ง ก็เป็นคนของจวนอ๋องเย่แล้ว?

ถุย!

ไม่ดูว่าตัวเองรูปลักษณ์เช่นไร ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาเย่ก็ตายไปสามปีแล้ว จวนอ๋องเย่ก็ไม่ใช่ที่ที่คนต่ำต้อยอย่างเจ้าจะเอื้อมถึง

รู้สถานการณ์ความเป็นจริงหน่อย มาเป็นสุนัขให้เจ้านายของพวกข้า เจ้ายังได้ใช้ชีวิตดีๆ ไม่เช่นนั้นแล้ว……”

พูดไป คนที่เป็นผู้นำผู้นั้นก็ทำท่าทางแบบปาดไปที่ลำคอ

จากนั้นก็แสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายแบบควบคุมตัวเองไม่ได้ขึ้นมา

เจ้านายให้ความสำคัญตรงที่ถิงเมี่ยนเป็นเจ้าถิ่นในเมืองหลวง มีคนรู้จักพอประมาณ

หากว่าให้เขาแอบทำเรื่องลับๆบางอย่างในเมืองหลวง ผู้อื่นก็จะสังเกตได้ยากเป็นแน่

ถึงแม้จะจับสังเกตได้ก็ไม่เป็นไร คนเสเพลอันธพาลไร้เหตุผลผู้หนึ่ง จะสามารถไปเกี่ยวข้องกับเจ้านายได้เช่นไร?

เจ้านายเป็นถึงบุคคลฐานะสูงส่ง

ดังนั้นจึงให้พวกเขามาหาถึงสี่ห้าครั้ง

คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้จักให้เกียรติขนาดนี้ มีเงินเหรียญให้หาก็ไม่อยากได้ เช่นนั้นเขาทำได้เพียงให้เขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดสักหน่อย จะได้รู้ถึงความร้ายกาจของพวกเขา

“เจ้าฝันไปเถอะ!”

เขาถิงเมี่ยนแม้ว่าจะไม่ได้เป็นคนดีอะไร แต่ก็มีขีดจำกัดในการทำเรื่องต่างๆ

มีบางเรื่องแตะต้องได้ มีบางเรื่องแตะต้องไม่ได้ แม้ว่าตายเขาก็ไม่ยอมไปแตะต้องเด็ดขาด

ผู้ที่มาคิดไม่ถึงว่าเขาจะตอบกลับมาโดยไร้ความลังเล

ด้วยโทสะชั่ววูบ ก็ยกเท้าขึ้นคิดอยากจะเหยียบคนที่อยู่ใต้เท้าให้ตาย

เมื่อรู้ความตั้งใจของเขา ถิงเมี่ยนก็รีบพุ่งเข้าไป ปะทะกับพวกเขาขึ้นมา

เพียงแต่……

แม้ว่าเขาจะมีวิทยายุทธ แต่ฝีมือกลับธรรมดา

และฝีมือของทั้งห้าคนนั้นก็ไม่ดีไปกว่าเขาเท่าไหร่ เพียงแต่พวกเขามีคนเยอะ ห้าต่อหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ในไม่ช้าก็โดนพวกเขาตีจนล้มไปกองอยู่ที่พื้น ภายใต้หมัดต่อยมาและเท้าที่แตะมาของพวกเขา ถิงเมี่ยนปกป้องหนุ่มน้อยที่ใกล้จะตายเอาไว้ด้านล่างตัว

“จึจึจึ……”

เสียงที่ดูเหยียดหยามค่อยๆดังขึ้น แม้ว่าเสียงจะไม่ดัง แต่ก็ดังเสียดเข้าหูของทุกคนที่อยู่ในห้อง

“ใคร?”

ห้าคนนั้นหยุดการกระทำลง มองดูไปรอบๆอย่างรวดเร็ว กลับพบว่ามองไม่เห็นอะไรเลย

“ใครกัน? ใครอยู่ในนี้?”

คนที่เป็นผู้นำถามขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ว่า กลับไม่ได้คำตอบใดๆ

พวกเขาอดสงสัยไม่ได้ : หรือว่าหูฝาด

ด้วยเหตุนี้ คนที่เป็นผู้นำมองไปทางถิงเมี่ยน พูดอย่างดุร้าย : “ในห้องของเจ้าซ่อนคนไว้?”

ถิงเมี่ยนไม่ได้ตอบ เขาเองก็สงสัย

ทั้งที่ในห้องของเขาไม่มีคน หน้าต่างมีเพียงบานเดียว ประตูใหญ่ก็มีเพียงประตูเดียว ประตูห้องก็โดนคนที่อยู่ตรงหน้าพวกนี้ถีบออก และหน้าต่างก็ปิดสนิทอยู่

แม้ว่าจะไม่ได้ลงกลอนไว้ แต่หากมีความเคลื่อนไหวแปลกไปหน่อยเขาจะสังเกตไม่ได้หรือ?

“ดูท่าแล้วว่าไม่มีคน”

คนที่เป็นผู้นำก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น ทิ้งเรื่องเสียงเมื่อครู่ไป จ้องมองถิงเมี่ยนที่มีรอยเลือดอยู่ที่มุมปากด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตร

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท