หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 300 ท่านอ๋องได้โปรดระวังตัว

บทที่ 300 ท่านอ๋องได้โปรดระวังตัว

บทที่ 300 ท่านอ๋องได้โปรดระวังตัว

หลานเยาเยาสีหน้ามีโทสะเล็กน้อย

“อ๋องเย่ ที่นี่เป็นตำหนักเทพธิดา ไม่ใช่จวนอ๋องเย่ของท่าน ตำหนักเทพธิดามีกฎของตำหนักเทพธิดา ไม่ใช่ว่าจะเข้าไปที่ใดก็ได้ตามใจ”

เย่แจ๋หยิ่งไม่ได้ตอบคำถามของนาง

แต่เป็น เดินไปด้านหลังนาง วนรอบเตารอบหนึ่ง

จึงเดินมาด้านหน้านางอีกครั้ง หัวเราะออกมาเบาๆเสียงหนึ่ง

“เหอะ สามารถซ่อนได้เก่งจริงๆ”

“อะไร?” หลานเยาเยาไม่เข้าใจ

“ข้าพูดอะไร……” ทันใดนั้นเย่แจ๋หยิ่งก็เข้าไปใกล้นาง พูดด้วยเสียงต่ำ : “เจ้าเข้าใจ”

นางถอยหลังก้าวหนึ่งตามธรรมชาติ ตอบอย่างเฉยชา “ไม่เข้าใจ”

ดวงตากลับหรี่ลงเล็กน้อย ใจก็คิดหนักอย่างอธิบายไม่ได้

หรือว่าเขารู้แล้ว?

“ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจก็ได้แล้ว”

พูดไป เขาก็ยังยื่นมือไปบีบที่คางของนางเบาๆ นิ้วมือก็มีเค้าลางที่ปรารถนาจะวาดผ่านริมฝีปากนางไป

“ท่าน……”

หลานเยาเยาสะบัดหัวเบาๆ แล้วถอยไปอีกหนึ่งก้าว กล่าวว่า :

“ยังไงก็ขอให้ท่านอ๋องระมัดระวังตัวเอง”

เจ้าบ้าเอ๊ย!

ไม่เจอกันไม่กี่วัน นักเลงนี่กล้าลงไม้ลงมือแล้ว

ไม่ได้!

นางต้องคิดวิธีดีดีวิธีหนึ่ง ทำให้เขาว่าต้องสำรวมหน่อยถึงจะได้

“ข้าทำเช่นนี้กับเจ้าแค่เพียงผู้เดียวเท่านั้น”

“ไม่ต้องการ!” หลานเยาเยากุมขมับ

“ไม่ต้องการไม่เป็นไร ข้าต้องการก็ได้แล้ว” เย่แจ๋หยิ่งเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

เอ่อ……

ทำไมประโยคนี้ถึงได้คุ้นหูนักนะ?

และในเวลานี้

ด้านนอกมีเสียงของฝีเท้าเบาๆดังมา ในไม่ช้า สาวใช้ที่เพิ่งได้รับได้มอบหมายให้มาทำงานในวันนี้ก็มารายงาน :

“เทพธิดา องค์ชายรัชทายาทลงมาแล้วเจ้าค่ะ”

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยามาไปทางสาวใช้ พยักหน้า

ลักษณะท่าทางเป็นธรรมชาติ กริยาเรียบร้อย ไม่ต้องเรียนรู้กฎเกณฑ์ ก็ทำตัวถูกกฎมากแล้ว

อืมอืม ไม่เลวไม่เลว

สมกับที่เป็นคนที่ตัวเองเลือกมาจากคนนับพันหมื่น ไม่ใช่เพราะตาแก่จัดการมาดีอย่างแน่นอน

“ได้จังหวะพอดี ข้ามีเรื่องอยากหารือกับเขา รีบไปเชิญองค์ชายรัชทายาทเข้ามา”

“เจ้าค่ะ!”

สาวใช้รับคำสั่งแล้วจากไป

และรอยยิ้มบนหน้าของเย่แจ๋หยิ่ง ก็หายไปแล้ว กลับถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่แสนจะเย็นชา

“เจ้าหาเขาทำอะไร?”

“มีเรื่องจะหารือ!”

“ข้ามาหาเจ้า ก็มีเรื่องหารือพอดี” เย่แจ๋หยิ่งขมวดคิ้ว

เชอะ!

เมื่อเขามาถึงก็ลงไม้ลงมือกับนาง ต้องเกิดความสงสัยเรื่องข้าวต้มเป็นแน่ ดังนั้นจึงอยากจะใช้โอกาสนี้มาทดสอบ

อย่าคิดว่านางจะไม่รู้

“ยังไงซะอ๋องเย่ก็อาศัยอยู่ที่นี่ หากมีเรื่องหารือ เช่นนั้นก็รอให้ข้ากับองค์ชายรัชทายาทหารือกันเสร็จเรื่องก่อน แล้วค่อยหาเวลาหารือกันเถอะ!”

“ข้าจะหารือตอนนี้” น้ำเสียงไม่สามารถปฏิเสธได้

“เหอะ เช่นนั้นท่านก็อยู่ที่นี่หารือไปช้าๆละกัน!”

หลานเยาเยาไม่สนใจเย่แจ๋หยิ่งแม้แต่น้อย หลังจากที่มองเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง ก็เดินออกจากประตูห้องไป

มองดูเงาหลังนางที่ไกลออกไป เย่แจ๋หยิ่งค่อยๆกำหมัดแน่นขึ้น จากนั้น ก็เคลื่อนสายตาไปอยู่ที่เตา เดินเข้าไป

หลังจากที่สังเกตอย่างละเอียด

เขาก็พบวัสดุปรุงยาเศษเล็กๆละเอียดบนเตา มุมปากก็ยกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

จากนั้นก็พูดเบาๆว่า :

“วันนี้นางไปที่ใด?”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป

ในอากาศก็มีความเคลื่อนไหวทันที องครักษ์ลับผู้หนึ่งเหาะเข้ามา จากนั้นก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง รายงานว่า :

“รายงานเจ้านาย เทพธิดาไปตลาดดำ วันนี้ในตำหนักมีสาวใช้และองครักษ์เพิ่มมาใหม่ ล้วนเป็นคนที่ซื้อมาจากในนั้นขอรับ”

“อืม!”

ไม่แปลกใจเลยที่แม้สาวใช้ก็ยังเป็นวิทยายุทธ

ในช่วงเวลาสั้นๆก็ได้ส่งพ่อครัวในห้องภัตตาหารออกไป สักครู่หนึ่งก็ไปซื้อสาวใช้และองครักษ์มา นางคิดจะทำอะไรกันแน่?

ในห้องรับแขก!

หลานเยาเยาและองค์ชายรัชทายาทเย่หลีเฉินนั่งคนละด้านกัน

สาวใช้ยกน้ำชาที่เพิ่งจะต้มเสร็จมา

เย่หลีเฉินรับน้ำชา หลังจากที่ทักทายกันสองสามประโยค ก็จิบน้ำชาเบาๆหนึ่งอึก กล่าวชมว่า :

“รสชาติของน้ำชานี่นุ่มนวล หวานสดชื่น หากว่าไม่ได้เดาผิด น่าจะเป็นยู่กวนยินชั้นดี

ได้ยินว่า ยู่กวนยินของเขาชิงเหลียน……”

เขายังมีคำชมอีกเป็นกองที่ไม่ได้พูด ก็ถูกขัดจังหวะแล้ว

น้ำเสียงที่ดึงดูดดังขึ้นในห้องอย่างสบายๆ

“ข้าไม่เคยรู้เลยว่า องค์ชายรัชทายาทที่ชื่นชอบการดื่มเหล้าสังสรรค์มาตลอด คาดไม่ถึงว่าจะสนใจเกี่ยวกับเรื่องใบชาด้วย ทำการบ้านมาไม่น้อยล่ะสิ?”

เมื่อสิ้นสุดเสียง คนก็มาถึง

เย่แจ๋หยิ่งที่อยู่ในชุดสีดำงามตระการตามาอย่างน่าเกรงขาม เขาก้าวอย่างช้าๆ แต่กลับมีรัศมีแผ่ไปทั่ว

หลังจากที่เข้ามา

ก็นั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆหลานเยาเยา มองดูเย่หลีเฉินด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้ยิ้ม

“แฮะแฮ่ม……”

เมื่อถูกเสด็จอาเปิดโปงในเวลาอันสั้น เย่หลีเฉินเกือบจะเสียหน้า

ในความจริง!

ได้ยินมาว่าเทพธิดาชื่นชอบการดื่มชา เขาจึงได้อ่านหนังสือหลายเล่มอย่างตั้งใจ ทำการบ้านมาอย่างเพียงพอ ทีแรกอยากจะอวดสักหน่อย ทำให้เทพธิดาคิดว่าเขาก็ชอบดื่มชา

เช่นนี้ระหว่างพวกเขาก็จะมีเรื่องเหมือนๆกันให้สนทนากันเพิ่มขึ้นอีกหน่อย

ไหนจะรู้เลยว่า เสด็จอาจะมาถึงกะทันหัน ยังจะเปิดโปงเขาอย่างไร้ความปรานี……

“อ๋องเย่เสด็จมาด้วยเรื่องอันใดเพคะ?”

ไม่ใช่บอกว่า มีเรื่องอะไรให้รอก่อนค่อยมาหารือกันหรือไง? เขาจะที่นี่ทำอะไร?

“ไม่มีอะไร มานั่งเฉยๆ”

“……” หลานเยาเยาแอบกัดฟัน

นี่ยังจะต้องให้เขามาคอยควบคุมด้วยตัวเองหรือ?

แม้ว่าระหว่างนางกับเย่หลีเฉินจะมีความลับหารือกัน เขานั่งอยู่ตรงนี้ ความลับก็กลายเป็นไม่ลับ

ขี้เกียจจะใส่ใจคนข้างๆที่ไม่มีธุระอะไรนี้ เจ้านี่ทำเหมือนตำหนักเทพธิดาของนางเป็นตลาดของสดไว้เดินเล่น

ด้วยเหตุนี้!

หันกลับมามองเย่หลีเฉิน พูดเบาๆว่า :

“องค์ชายรัชทายาทล่ะ?”

“ผ่านไปอีกสองสามวันก็จะเป็นงานวัดที่ยิ่งใหญ่ประจำปี เสด็จพ่อให้ข้ามาเรียนเชิญเทพธิดาไปร่วม ไม่ทราบว่าเทพธิดาจะให้เกียรติไปหรือไม่?”

พูดจบ

เขาก็รอคำตอบของเทพธิดา

แม้ว่าจะมาเพื่อบอกต่อความหมายของเสด็จพ่อ แต่งานวัดประจำปี ก็เหมือนกับเทศกาลวันแห่งความรัก

เพียงแต่เทศกาลวันแห่งความรักคือวัยรุ่นชายหญิงบนถนนที่มีโคมไฟหลากสี แลกเปลี่ยนกระเป๋าเงินกัน เป็นวันที่บอกความในใจต่อกัน

แต่งานวัดไม่ได้มีจำกัดเพียงเท่านี้

นอกจากวัยรุ่นหนุ่มสาวจะไปวัดไปขอพรขอเนื้อคู่ใต้ต้นไม้แล้วนั้น ยังสามารถระลึกถึงบรรพบุรุษในงานวัดได้ด้วย จุดธูปขอพร ชมการแสดงที่ยิ่งใหญ่อึกทึก

พูดโดยรวมแล้ว

งานวัดจะยิ่งใหญ่กว่าเทศกาลวันแห่งความรักมาก

“แม้ว่าข้าจะมาที่ประเทศประเทศก่วงส้าเป็นครั้งแรก แต่กลับได้ยินว่า งานวัดของประเทศก่วงส้าน่าสนใจมาก ไปเปิดประสบการณ์สักหน่อยก็ดี เปิดหูเปิดตา”

ก่อนหน้านี้จื่อซีมาบอกนางเรื่องข่าวสารที่ทางสำนักหงอีสืบมาได้

ก่อนที่ท่านแม่จะเสียชีวิต ได้หายสาบสูญไปช่วงเวลาหนึ่ง หลังจากกลับมาก็โดนวางยาพิษ

แต่ว่า!

ในช่วงเวลาที่หายไป ท่านแม่ได้อยู่ที่งานวัดมาโดยตลอด และยังได้กอดจิ่วเซียวหวงเพ่ยไปด้วยกัน

ดังนั้น นางจะต้องไปงานวัดเป็นแน่

ทันใดนั้น!

“ก๊อก……”

ข้างหูได้มีเสียงเคาะแก้วชาบนโต๊ะดังขึ้น ความเย็นยะเยือกเข้าคลุมนางไว้ทันที ทำให้นางหนาวสั่นอย่างไม่รู้ตัว

“เช่นนี้ก็ดี ถึงเวลานั้นข้าจะต้องมาก่อนเวลา ไปงานวัดพร้อมกับเทพธิดา”

“อืม!”

หลานเยาเยาพยักหน้าเล็กน้อย

และเพิกเฉยต่อความเย็นยะเยือกที่อธิบายไม่ได้นั่น

เย่หลีเฉินยังอยากจะพูดอะไรอีก หลังจากที่โดนเย่แจ๋หยิ่งกวาดตามองด้วยความเย็นชา ก็กลืนคำที่จะพูดกลับลงในท้อง

ลุกขึ้นขอตัวทันที

ไม่ว่าอย่างไรเทพธิดาก็ตกลงแล้ว เช่นนั้นเขาต้องรีบกลับพระราชวังไปรายงานสักหน่อย จากนั้นก็เตรียมจัดการเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ดี เพื่อป้องกันการตกหล่น

เย่หลีเฉินจากไปแล้ว

ขณะที่จากไป มองดูเย่แหยิ่งแวบหนึ่ง สีหน้าซับซ้อนเล็กน้อย

“อ๋องเย่ ท่านมีเรื่องหารือหรือ? พูดเถอะ!”

พูดจบ นางจะได้จากไป นางยังมีเรื่องอีกมากมายต้องทำ

ใครจะรู้……

เย่แจ๋หยิ่งเอาแก้วชาเมื่อครู่เคาะขึ้นอีกครั้ง และทำให้น้ำชากระเด็นไปโดนแขนเสื้อกระดิกเล็กน้อย โดยไม่ได้พูดอะไรเลย ลุกแล้วก็เดินจากไป

แม้แต่แววตาแวบหนึ่งก็ไม่มีให้นาง…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท