หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 326 เรื่องเช่นนี้ต้องรีบจัดการ

บทที่ 326 เรื่องเช่นนี้ต้องรีบจัดการ

บทที่ 326 เรื่องเช่นนี้ต้องรีบจัดการ

เตียงหยกนี้อบอุ่นนัก ถ้าหากมีผ้าห่มก็คงจะดี

น่าเสียดายที่ผ้าห่มในระบบรักษาโรคภัยไข้เจ็บถูกหยิบออกมาใช้จนหมดแล้ว แล้วผ้าห่มเหล่านั้นก็ถูกทิ้งไว้ในอุโมงค์ด้านนอกนั้น

คิดจะใช้ผ้าห่มหึความอบอุ่นแก่เย่แจ๋หยิ่งคงจะไม่ได้เสียแล้ว

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง แววตาของหลานเยาเยาก็ประกายขึ้น แล้วสั่งให้เย่แจ๋หยิ่งนอนลงไป จากนั้นก็ไม่คิดอะไรมากนัก นางก็เริ่มปลดเสื้อผ้าออก ……

ส่วนคนที่นอนอยู่บนเตียงหยกอย่างเย่แจ๋หยิ่งนั้น ก็ถึงกับตาสว่าง พลางกลั้นลมหายใจ โดยที่ลูกกระเดือกของเขาขยับไปมา

“เยาเยา เจ้าคิดดีแล้วงั้นหรือ?”

“คิดดีแล้ว!แน่นอนว่าคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เรื่องเช่นนี้ต้องรีบจัดการ”

หลานเยาเยาที่ถอดชุดออก พลางตอบคำถามเย่แจ๋หยิ่ง ด้วยใจที่มีความบางอย่างแฝงเอาไว้

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมอบความอบอุ่นให้กับเขา ร่างของเขาเย็นขนาดนั้น ในเมื่อไม่มีผ้าห่ม นางก็ทำได้เพียงใช้ร่างกายของตัวเองในการมอบความอุ่นให้กับเขาแล้ว

ถึงจะเสียเปรียบก็เสียเปรียบเพียงนิด

ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นอะไร เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เย่แจ๋หยิ่งเห็นนางในสภาพเปลื้องผ้าเสียหน่อย

เสื้อผ้าถูกถอดออกจนหมดในเวลาอันรวดเร็ว เพื่อที่จะไม่เขินอาย หลานเยเยาก็ยังคงเหลือผ้าตู้โตวชั้นในสีแดงสดเอาไว้ชิ้นหนึ่ง

นางสูดหายใจเข้าลึกๆ กำลังจะโน้มตัวลงไปมอบความอุ่นให้กับเย่แจ๋หยิ่ง ก็กลับถูกแขนอันเรียวยาวของเย่แจ๋หยิ่งดึงนางลงไปเสียก่อน

ดูแล้วเย่แจ๋หยิ่งจะตัวเย็นจริงๆจนรอให้นางถอดเสื้อผ้าให้หมดก็มิได้

ใครจะรู้ว่าสิ่งที่ทำให้หลานเยาเยาตกใจ ก็คือการที่เย่แจ๋หยิ่งใช้มือทั้งสองกอดรัดนางเอาไว้ไม่ใช่เพื่อที่จะให้นางมอบความอุ่นให้กับเขา

แต่เพื่อที่จะเพิ่มระยะการเข้าใกล้ของทั้งสอง แล้วก็ประทับรอยจูบบนริมฝีปากของนาง……

“อือ……”

หลานเยาเยาถึงกับอึ้ง

ไม่ใช่ว่าจะอุ่นร่างกายหรือไร?ทำไม ……ทำไมถึงได้จูบซะแล้วหล่ะ?

ในขณะที่นางกำลังตะลึง มุมปากของเย่แจ๋หยิ่งก็ยกขึ้นมา แล้วค่อยๆลิ้มรสริมฝีปากสีแดงระเรื่อนั้นอย่างเบาบาง จากนั้นเขาก็ขยับตัวของนาง เย่แจ๋หยิ่งจับกดมือของนางเอาไว้ แล้วดันตัวเองขึ้นไป

“เดี๋ยวๆ อุ่นร่างกายไม่ใช่เช่นนี้นี่ ……อือ……”

ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกชายหนุ่มเลือดร้อนกลืนกินเข้าไปเสียแล้ว

หลังจากเกิดอาการโลกหมุนอย่างหลานเยาเยา ก็ยิ่งตะลึงมากขึ้น นางจ้องมองไปยังเย่แจ๋หยิ่งด้วยความประหลาดใจ ดวงตาเบิกกว้าง

นี่ผู้ใดกำลังมอบความอบอุ่นให้กับผู้ใดกันแน่?

ตอนนี้เธอไม่รับรู้ถึงความเหน็บหนาวเลยแม้แต่น้อย มีแต่เพียงร้อนที่มันระอุขึ้นมา

“อุ่นร่างกายเช่นนี้ได้ผลมากกว่า”

หลานเยาเยา“……”

หลังจากที่เย่แจ๋หยิ่งพูดจบ ริมฝีปากของเขาก็ประกบลงมาอีกครั้ง

ริมฝีปากบางอันอ่อนนุ่ม ค่อยๆลิ้มรสชาติริมฝีปากของหลานเยาเยาอย่างละเมียดละไม พร้อมกับความรู้เสียวซ่านแล่นไปทั่วร่ากาย

แต่เย่แจ๋หยิ่งที่อยากจะลิ้มลองเข้าไปในปากของหลานเยาเยาเพื่อที่จะรู้สึกได้ลึกซึ้งกว่านี้ แต่กลับไม่สามารถที่จะทำได้

เพราะว่าหลานเยาเยากัดฟันเอาไว้แน่น ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรก็งัดมันไม่ออก

เย่แจ๋หยิ่งจึงค่อยๆคลายริมฝีปากออกจากนาง แล้วมองดูสภาพของนางที่พยายามกัดฟันแน่น เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเย้ยออกมา

“เหอะๆๆ……”

“……”หัวเราะอะไรกัน?

บ้าไปแล้ว?

แต่ก็ดูไม่เหมือน!เขากำลังหัวเราะอะไรกันแน่?

พอเห็นเย่แจ๋หยิ่งยังคงยิ้มอยู่ ทั้งยังยิ้มอย่างมีความสุขมากด้วย หลานเยาเยาจึงหรี่ตาลงทันที พร้อมกับทำถามอย่างไม่เป็นมิตรนัก

“มีอะไรน่าขำนัก?พวกเราสภาพนี้น่าขำงั้นหรือ?”

ได้ยินอย่างนั้น!เย่แจ๋หยิ่งไม่ได้ตอบกลับคำถามของนาง แต่กลับยอมหยุดหัวเราะ

ทว่า ปากของเขาถึงจะหุบนิ่ง แต่สีหน้าก็ยงคงยิ้มอยู่

เมื่อเห็นใบหน้าที่ราวกับกำลังยิ้มของเขา หลานเยาเยาก็ยิ่งไม่พอใจ

“ยิ้ม?ยังยิ้มอีก?ท่านลองยิ้มอีกครั้งดู?”หลานเยาเยากำหมัดขึ้น

“ก็ได้ ข้าไม่ยิ้มแล้ว แต่ว่าเจ้าจะกัดฟันทำไมกัน?ข้าจูบเจ้า ทำให้เจ้าไม่พอใจอย่างนั้นรึ?”

สิ่งนี้ทำให้เย่แจ๋หยิ่งสงสัยเป็นอย่างมาก

ถ้าหากนางไม่ยินยอม ก็คงจะผลักไสเขาอย่างครั้งที่แล้วแน่ แต่ครั้งนี้นางไม่ได้ผลักเขาถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

แต่ว่า……

กัดฟันนี่มันหมายความว่าอะไร?

“ท่านบอกเองไม่ใช่หรือไรกันว่าแบบนี้สามารถอบอุ่นร่างกายได้?ดังนั้นข้าจะกัดฟันให้ท่านจูบ!ถ้าไม่กัดฟันเอาไว้เกิดท่านจูบเข้าไปจะทำอย่างไรเล่า?”หลานเยาเยาเองก็รู้สึกเอือมระอา!

จูบก็จูบไปแล้ว

ยังจะถามสิ่งนี้เพื่ออะไร?

การพูดออกไปโดยตรงก็ถามให้รู้สึกประหม่าได้ แต่หากไม่พูดคนบางคนก็คงไม่เข้าใจ

เพื่อความบริสุทธิ์ของตัวเอง นางต้องพูดแล้ว

“เหอะๆๆ เยาเยา เจ้าเป็นถึงชายาของข้า ถ้าเจ้ายังบริสุทธิ์อยู่ คนอื่นคงจะว่าข้าไร้ความสามารถ”

ได้ยินดังนั้น!หลานเยาเยามองไปยังเย่แจ๋หยิ่งด้วยความแปลกใจ แววตาบ่งบอกถึงความสงสัย ก่อนจะพูดออกมาอย่างเรียบเฉย

“……ท่านไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนั้นก็เป็นเรื่องราวเมื่อสามปีก่อน การตกลงเมื่อสามปีก่อนพวกเราไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว”

ถึงแม้ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองจะดีขึ้นมาก

แต่ปัญหาบางเรื่องหากต้องทำให้ชัดเจน ก็สมควรที่จะจัดการให้มันชัดเจน

ราวกับรู้อยู่แล้วว่านางจะพูดเช่นนี้ออกมา ดวงตาของเย่แจ๋หยิ่งก็หรี่ลงเล็กน้อย โดยไม่ได้ตอแยอะไร เพียงแต่ค่อยๆโน้มตัวเข้าใกล้นางพร้อมกับกระซิบ

“แต่พวกเราได้มีความสัมพันธ์ต่อกันแล้ว”

หลานเยาเยาหน้าแดงก่ำ พลางตอบกลับ

“ก็แค่การสัมผัสผิว ไม่ใช่การมีสัมพันธ์ร่วมกันสักนิด”

กล้าบิดเบือนข้อเท็จจริงได้อย่างไร ไอ้บ้า!

ความแตกต่างของทั้งสองคำนี้อยู่เป็นหมื่นๆลี้เข้าใจหรือไม่?

นางกับเขายังไม่ได้ทำเรื่องเช่นนั้นสักหน่อย ก็แค่จูบปาก อย่างมากก็นับว่าเป็นการสัมผัสผิวภายนอกเท่านั้น จะเป็นการร่วมสัมพันธ์กันได้อย่างไร

ในตอนท้าย นางก็ได้กล่าวเพิ่มอีกว่า“สิ่งที่เกิดเมื่อครู่นี้ ข้าไม่ได้ยินยอม”

เดิมทีคิดว่าหากพูดเช่นนี้ เย่แจ๋หยิ่งจะยอมถอยหรือรับรู้ถึงแรงกระตุ้น

กลับคิดไม่ถึงว่า เขาจะนิ่งไปเพียงครู่เดียว ก่อนที่จะขยับปากพูด

“เจ้าไม่ได้ผลักข้า เช่นนั้นก็ชัดเจนแล้วว่าเจ้ายินยอมแล้ว”

ไม่ทันรอให้นางได้ตอบกลับ เย่แจ๋หยิ่งก็ได้ดึงนางขึ้นมา พร้อมกับพานางเดินไปยังหน้าหีบใส่ชุดอภิเษกโดยไม่พูดไม่กล่าวสิ่งใด

หยิบเอาชุดแต่งวางบนมือของนางอย่างระมัดระวัง

“สวมมันเสีย”

“ไม่ใช่ของข้า ข้าไม่สวม”มงกุฎฟีนิกซ์งดงามไร้ที่ติอันนี้ นางชอบเป็นอย่างมาก แต่นั่นไม่ใช่ของของนาง

เย่แจ๋หยิ่งวางมือบนไหล่ของนางพลางสบตานาง แล้วพูดออกมาอย่างจริงจัง

“มงกุฎฟีนิกซ์นี้เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุด มันถูกออกแบบมาเพื่อเจ้า เช่นนั้นมันเป็นของเจ้า”

“……หากท่านยังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก?”

ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่านี่เป็นของผู้อื่น

อีกทั้งพระราชวังน้ำแข็งแห่งนี้ก็มีอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว สิ่งของทุกอย่างที่อยู่ในนี้ รวมทั้งชุดอภิเษกที่แสนโดดเด่นสองชุดอีก ทุกอย่างอาจจะถูกเก็บเอาไว้ที่ตอนที่นางยังไม่เกิดก็เป็นได้

จะเป็นไปได้อย่างไรที่มันจะถูกสร้างมาเพื่อนาง?

หากเย่แจ๋หยิ่งคิดที่จะหลอกนาง ก็ควรจะใช้วิธีการที่ชาญฉลาดกว่านี้

นี่มันหลอกเด็กเงินไปแล้ว!

“เจ้าไม่เชื่องั้นหรือ?”เย่แจ๋หยิ่งขยับปากถาม

หลานเยาเยามองดูมงกุฎฟินิกซ์ในมือ แล้วหันไปดูกล่องอันงดงามที่เพิ่งเปิดออกมาเมื่อสักครู่นี้ พลางหันมามองหน้าอันจริงจังของเย่แจ๋หยิ่งอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมาด้วยความเอือมระอา

“ท่านคิดว่าข้าควรเชื่อหรือเปล่าล่ะ?”

“เช่นนั้นเจ้าก็ต้องลองดู ว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อเจ้าหรือไม่ หลังจากที่สวมแล้ว เจ้าค่อยตอบคำถามนี้อีกครั้ง เจ้าว่ายังไง?”

เมื่อเห็นท่าทางที่หนักแน่นของเย่เจ๋หยิ้ง การตัดสินใจของหลานเยาเยาก็เริ่มสั่นคลอน

นางก็ถอนหายใจแล้วพูดออกมาอย่างสง่า

“ก็ได้!ลองก็ลอง เดี๋ยวดูสิว่าท่านยังมีอะไรจะพูดพล่ามอีก”

ลองสวมก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร

อย่างไรเสียตอนที่เห็นมงกุฎฟินิกซ์ครั้งแรก นางก็คิดอยากที่จะใส่อยู่แล้ว

ตอนนี้ก็จะลองสวมให้ดู จะได้ให้เย่แจ๋หยิ่งได้รู้ไว้ด้วยว่าการพูดจาเหลวไหลนั้นสมควรที่จะโดนต่อยหน้า

และแล้ว!

หลานเยาเยาก็เดินถือมงกุฎฟินิกซ์เดินไปด้านหลังห้องกั้น

ทันทีที่สวมมงกุฎฟินิกซ์เข้าไป หลานเยาเยาก็ถึงกับประหลาดใจ

พอดี……

สวมได้พอดี?

กลายเป็นว่าถูกสร้างมาอย่างพอดี!

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท