หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 352 กลอุบายของหลานจิ่นเอ๋อ

บทที่ 352 กลอุบายของหลานจิ่นเอ๋อ

บทที่ 352 กลอุบายของหลานจิ่นเอ๋อ

พบว่าเทพธิดาได้เดินออกมาจากด้านในแล้ว ตอนนี้กำลังมองเขา ด้วยสายตาที่จับจ้อง……

เขาหลบสายตาอย่างละอาย

ในตอนนี้ถึงได้พบว่า ที่แท้เป็นเพราะเทพธิดาต้องการจะออกมา และเขายืนอยู่หน้าประตูเหล็กพอดี จึงกลายเป็นขวางทางออกเอาไว้

ดังนั้น!

ลมหายใจที่เยือกเย็นนั่นคือ……

ยู่หลิวซูได้หันหน้าไปมองอ๋องเย่ ยังไม่ทันได้เห็นสภาพการณ์ของอ๋องเย่ เขาก็ได้ถูกลมพัดปลิวไปแล้ว

เมื่อเห็นท่าทางเย่หลีเฉินที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ก็มองไปที่อ๋องเย่อย่างแปลกประหลาด

ไม่รู้ว่าในใจกำลังคิดอะไรอยู่

หลังจากสองสามคนได้ออกจากห้องขัง

หลานเยาเยาก็บอกกับเย่หลีเฉิน ว่าให้เขาส่งคนไปปิดผนึกตัวอย่างที่นำออกมาจากท้องของฉินหลิงเจียวก่อน จากนั้นก็ออกจากศาลต้าหลี่

และเย่หลีเฉินยังคงอยู่ในศาลต้าหลี่ต่อไป เพื่อจัดการกับเรื่องที่สำคัญบางอย่าง

เย่แจ๋หยิ่งไม่ได้พูดอะไรเลย เมื่อออกจากประตูทางเข้าของศาลต้าหลี่ ก็ได้ถูกองครักษ์ลับของจวนอ๋องเย่เรียกไปแล้ว

ตอนนี้เหลือเพียงหลานเยาเยาและยู่หลิวซูเท่านั้น

“เทพธิดา วันนี้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือไม่” ยู่หลิวซูถาม

“เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ”

มีก็ไม่บอกเขาหรอก!

สุดท้าย!

เขายังคงเป็นผู้ต้องสงสัยของตนเอง

เดิมทียู่หลิวซูก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้ ทันใดนั้นก็ยิ้มขึ้นอย่างเก้อเขิน “……ไม่ทราบ น่าจะมีเบาะแสแล้วสินะ!”

หลานเยาเยาชำเลืองมองเขาเล็กน้อย และไม่ได้พูดอะไร เมื่อลงบันไดไปจึงพูดขึ้นว่า

“แกล้งไปที่ตึกฟังงิ้วของพวกเจ้าดีกว่า!”

……

เมื่อมาถึงตึกฟังงิ้ว หลานเยาเยาปล่อยให้ยู่หลิวซูไปทำธุระของตนเอง และนางก็นั่งอยู่ในห้องโถง

ได้มีบทเรียนมาก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งนี้นางจึงสวมผ้าคลุมหน้าไว้ด้วย เพื่อปกปิดใบหน้าของตนเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือสิ่งที่ปกปิดบนใบหน้ามีลายพิมพ์ดอกไม้เป็นสัญลักษณ์

ผู้หญิงที่ชอบสวมชุดสีแดงบนโลกนี้ไม่ได้มีแค่นางคนเดียวไม่ใช่หรือ

ดังนั้น!

หลังจากนางสวมผ้าคลุม และยืนอยู่ในห้องโถง แม้ว่าคนที่ยืนอยู่ด้านในต่างมองมาที่นาง แต่ก็ไม่ถึงขั้นคุกเข่าลงเหมือนเมื่อก่อน

นางได้หาสถานที่นั่งลงแถวริมหน้าต่าง

ก้นได้นั่งยังไม่ทันร้อน น้ำชาและของว่างก็มาวางแล้ว

นางได้เห็นรถม้าสีฟ้าคันหนึ่งแล่นผ่านอยู่นอกหน้าต่าง เดิมทีแล้วรถม้านี้ก็ดูไม่มีอะไร

อย่างไรก็ตามอีกมุมหนึ่งของรถม้าได้ถูกเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย

หลานเยาเยางอมุมปาก และลุกขึ้นทันที

ริมทะเลสาบนอกเมือง

ทิวทัศน์ที่นี่งดงาม เสียงนกร้องดอกไม้ส่งกลิ่นหอม ยังมีศาลา และเรือเล็กของชาวประมง

เป็นสถานที่ที่ดีของการเที่ยวเล่น

รถม้าสีฟ้าหยุดลงอยู่ข้างทาง ผู้หญิงที่มีรูปร่างสง่างามหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านใน

รูปลักษณ์ของนางดูเหมือนดอกบัวที่เพิ่งบานโผล่พ้นน้ำ เมื่อลงจากรถก็ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินเที่ยวเล่นอยู่ริมทะเลสาบ

นอกจากจะตื่นตาตื่นใจแล้ว ทุกคนก็เริ่มวิจารณ์กันขึ้นมา

“นี่ไม่ใช่หลานจิ่นเอ๋อสตรีที่มีชื่อเสียงและมีความสามารถหรือ”

“ใช่ ก็คือนาง ลูกสาวของภรรยาเอกของจวนแม่ทัพ ในอนาคตยังเป็นพระชายาขององค์ชายสี่ อีกทั้งมีฐานะสูงศักดิ์มากเลยนะ!”

“เอ๊ะ ทำไมข้าถึงจำได้ว่านางเป็นลูกภรรยารอง เป็นลูกภรรยาเอกตั้งแต่เมื่อไหร่”

“นี่เจ้าไม่รู้อะไรสินะ! เมื่อสามปีก่อนหลังจากพวกนางสองคนแม่ลูกถูกรับกลับไปที่จวนแม่ทัพ แม่ของนางถูกแต่งตั้งเป็นภรรยาเอก นางจึงกลายเป็นลูกภรรยาเอกโดยธรรมชาติ”

“โอ้ อย่างนี้นี่เอง อุ๊ย หยุดพูด หยุดพูดได้แล้ว นางหันมามองแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ”

ถึงอย่างไรการวิจารณ์ผู้อื่นลับหลังก็เป็นเรื่องไม่ดี ดังนั้นหลังจากที่หลานจิ่นเอ๋อมองไปยังพวกเขา พวกเขาก็รีบเดินจากไปทันที

ขณะที่หลานจิ่นเอ๋อเฝ้ามองคนเหล่านั้นจากไป ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตาที่สวยคมก็เปล่งประกายขึ้น

เดิมทีนางต้องการจะเดินไปหาอีกคนหนึ่ง แต่ทันใดนั้นกลับพบว่า มีร่างสีแดงเลือดยืนอยู่ไม่ไกลจากภายในศาลา

ท่าทางค่อยๆ เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ดูเหมือนคิดถึงอะไรบางอย่าง

ริมฝีปากแดงค่อยๆ งอขึ้น แล้วก็เดินไปที่ศาลา

หลานเยาเยาได้รออยู่ในศาลาตั้งนานแล้ว!

ชำเลืองมองเห็นหลานจิ่นเอ๋อเดินเข้ามา ค่อยๆ สะบัดแขนเสื้อ จากนั้นนั่งลงบนม้านั่งหิน และรินชาไปสองถ้วย

หลานจิ่นเอ๋อยังไม่ได้เข้าไปในศาลา ในตอนนี้ก็ได้หยุดอยู่นอกศาลา และให้พรตนเอง

“หม่อมฉันได้เห็นเทพธิดา!”

“เขามานั่งเถอะ!” หลานเยาเยามองไปที่นาง

หลังจากหลานจิ่นเอ๋อเข้ามานั่ง หลานเยาเยาก็ดันถ้วยชาใบหนึ่งมาด้านหน้าของนาง ขยับอย่างเป็นธรรมชาติ

“ขอบคุณเทพธิดา!”

หลานจิ่นเอ๋อรับถ้วยชามา แล้วถือเอาไว้ในมือ

หลานเยาเยาได้จิบชา และพูดนำขึ้น

“คิดไม่เลยว่าพระชายาขององค์ชายสี่ในอนาคตจะมีงานอดิเรกที่น่าสนใจเช่นนี้ ชอบไปที่ชานเมืองเพื่อท่องเขาลำเนาไพร”

เมื่อได้ยินคำว่าองค์ชายสี่ไม่กี่คำ สีหน้าของหลานจิ่นเอ๋อก็นิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นท่าทางก็งุนงงเล็กน้อย

“โธ่ ร่างกายขององค์ชายสี่กำลังเจ็บป่วย เดิมแล้วหม่อมฉันอยากจะไปวัดเพื่อจุดธูปขอพรให้กับเขา จะทำอย่างไรได้ตอนนี้วัดไม่ให้เข้าไปข้างใน

ได้ยินมาว่าที่ริมทะเลสาบมีหมอดูท่านหนึ่งที่วิเศษมาก หม่อมฉันจึงมาที่นี่เพื่อมาลองเสี่ยงโชค ลองดูว่าจะได้พบกับหมอดูหรือไม่ เพื่อดูพยากรณ์ให้กับองค์ชายสี่”

คนอื่นยังไม่รู้เรื่องที่องค์ชายสี่ถูกวางยาพิษ หลานจิ่นเอ๋อรู้ว่าเทพธิดาจะต้องรู้แน่นอน

ดังนั้น!

นางก็ไม่ได้พูดไปอย่างชัดเจนว่าองค์ชายสี่ถูกวางยาพิษ พูดเพียงว่าร่างกายเจ็บป่วย

นอกจากนี้ยังเป็นการอธิบายโดยอ้อมว่านางไม่ได้มาที่ริมทะเลสาบเพื่อเที่ยวเล่น แต่มาเพื่อองค์ชายสี่

หลานเยาเยาได้แสดงท่าทีรอยยิ้มของเทพธิดา และแง้มริมฝีปากเบาๆ

“เจ้าดีกับองค์ชายสี่มากๆ แต่ทำไมข้าเห็นว่าลักษณะท่าทางของเจ้าเป็นทุกข์ หรือองค์ชายสี่ไม่ดีกับเจ้าหรือ”

หลานจิ่นเอ๋อยิ้มเจื่อน และได้ส่ายหน้า ด้วยสีหน้าที่โศกเศร้า

“มันเป็นหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อสามีในอนาคตของตนเอง และก็เพื่อวันหลังเมื่อแต่งเข้าไปในตำหนักองค์ชายสี่ จะได้อาศัยอย่างไร้กังวล

ถึงอย่างไร!

องค์ชายสี่เป็นคนเสเพลรักสนุก ด้านหลังของตำหนักเต็มไปด้วยกลุ่มนางบำเรอ ไม่เหมือนกับอ๋องเย่ ที่มีอารมณ์มั่นคง ปฏิบัติต่อพระชายาเย่อย่างหลงใหล ไม่เคยแปรเปลี่ยน

หากหม่อมฉันไม่ใส่ใจให้มาก วันหลังจะยืนหยัดอยู่ในสวนหลังบ้านได้อย่างไร”

พูดจบ หลานจิ่นเอ๋อก็ค่อยๆ มองไปยังเทพธิดา

จากนั้นก็นำถ้วยชาที่อยู่ในมือเคลื่อนเข้าไปที่ปาก และค่อยๆ จิบไปหนึ่งคำ

ปิดตาลงเบาๆ ในส่วนที่ที่เทพธิดามองไม่เห็น ดวงตาก็เปล่งประกาย

“โอ้ อ๋องเย่หลงใหลหรือ”

“ใช่! เทพธิดาคงยังไม่รู้สินะ! อดีตพระชายาของอ๋องเย่ก็เป็นน้องหกสุดที่รักของหม่อมฉัน

น้องหกมีความงามร่ำลือกันทั่วเมือง แม้กระทั่งความงามของพี่ถังคนงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ก็ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของนาง

ด้วยความรักของอ๋องเย่ที่มีต่อน้องหกทำให้ผู้หญิงทุกคนต่างอิจฉาไม่หยุด ทำไมอ๋องเย่จึงได้พิศวาสน้องหก เอาใจนางทุกอย่าง

ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีนางบำเรอในสวนหลังบ้าน รักนางเพียงคนเดียว ถึงแม้น้องหกได้จากโลกนี้ไปสามปีแล้ว อ๋องเย่ยังคงมั่นคงไม่แปรเปลี่ยน

กลัวว่า ทั้งชีวิตนี้ของอ๋องเย่คงจะไม่ตกหลุมรักใครอื่นอีก”

นางพูดได้ชัดเจน บางครั้งทุกข์เจ็บปวดใจ บางครั้งก็เสียดาย

พูดจบ ก็ยังชำเลืองไปมองเทพธิดาอีกครั้ง

ดูเหมือนว่ากำลังสังเกตสีหน้าของนาง หลังจากได้เห็นดวงตาที่เปล่งประกายอย่างไม่มีความสุข หลานจิ่นเอ๋อก็รีบพูดขึ้นเบาๆ อีกครั้ง

“ทำให้เทพธิดาต้องหัวเราะเยาะแล้ว เพียงแค่คิดว่าเทพธิดามีความสนิทสนม จึงได้พูดมากไปหน่อย หากทำให้เทพธิดาไม่สบายใจ ก็ขอเทพธิดาโปรดให้อภัยด้วย”

“ไม่มีอะไรที่ไม่สบายใจ!”

หลานเยาเยาพูดเบาๆ แต่สีหน้าเยือกเย็นลง

สายตาของหลานจิ่นเอ๋อได้มองไปยังสีหน้าของนาง จดจำเอาไว้ในใจ จากนั้นก็ทอดสายตามองไประยะไกล

หลานเยาเยามองตามสายตาของนางไป

ในระยะไกลมีคนลักษณะเหมือนหมอดูคนหนึ่ง เงยหน้าขึ้นตัวตรงผ่าเผย เดินเข้าไปในโรงน้ำชาอย่างช้าๆ……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท