หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 365 ข่าวลือในตลอดไม่แน่ว่าจะต้องเป็นความจริง

บทที่ 365 ข่าวลือในตลอดไม่แน่ว่าจะต้องเป็นความจริง

บทที่ 365 ข่าวลือในตลอดไม่แน่ว่าจะต้องเป็นความจริง

“ใช่น่ะสิ! เดือนก่อน ข้าเห็นองค์ชายสี่บังคับขืนใจหญิงชาวบ้านล่ะ!

พูดไปก็น่าสงสาร แม่นางผู้นั้นไม่ยินยอม เขาก็ใช้อำนาจบีบบังคับลากแม่นางผู้นั้นเข้าไปในป่า ยังจะไม่ยอมรับหลังจากเกิดเรื่อง”

“ใช่ใช่ใช่ เรื่องนี้ข้าก็ได้ยินมาแล้ว ได้ยินว่าพ่อแม่ทั้งสองของบ้านแม่นางโดนองค์ชายสี่ทุบตีไม่พอ ยังทำร้ายจนแม่นางผู้นั้นต้องแขวนคอฆ่าตัวตายอีก

คนชราสองคนนั้นหาที่จะโต้แย้งไม่ได้ จึงคิดมาฟ้องร้องที่เมืองหลวง กลับคิดไม่ถึง เมื่อสิบวันก่อน พวกเขาโดนทำโทษจนตายในที่สาธารณะอย่างไร้เหตุผลแล้ว”

“คิดๆแล้วก็น่ากลัวจริงๆ ดูเหมือนว่าผู้หญิงงามเหล่านั้นที่ลานหลังตำหนักองค์ชายสี่ มีครึ่งหนึ่งเป็นล้วนเป็นผู้ที่แย่งมา

มีคนยังเห็นว่า ประตูหลังตำหนักองค์ชายสี่ จะเห็นองครักษ์หามศพออกมาอยู่เสมอ โยนเข้าไปที่สุสานที่ไม่มีคนดูแลล่ะ!”

บรรดาผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา

ทั้งหมดที่วิพากษ์วิจารณ์ล้วนเป็นเรื่ององค์ชายสี่บังคับขืนใจหญิงชาวบ้านและทำร้ายทารุณราษฎร ยังมีพูดถึงขนาดว่า แม้แต่สนมของฮ่องเต้องค์ชายสี่ก็ยังไม่เว้น

พูดถึงเรื่องเหล่านี้ ปกติเหล่าราษฎรล้วนก็โมโหแต่ก็ไม่กล้าปริปากเอ่ย

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยาก็ทำได้เพียงยิ้มๆเท่านั้น

ช่วยอะไรไม่ได้ คำวิพากษ์วิจารณ์เมื่อครู่นั้นของประชาชนดูเหมือนจะไม่อยากให้นางไปตำหนักองค์ชายสี่จริงๆ จึงขวางทางถนนมาตลอด ไม่ให้รถม้าของนางผ่านไป

ดังนั้น รถม้าสีแดงของหลานเยาเยาที่อยู่ในฝูงชนดำเนินไปได้อย่างลำบาก

คนขับรถม้ารู้สึกร้อนใจขึ้นมานิดหน่อยแล้ว

“เทพธิดา เช่นนี้จะทำยังไงดีขอรับ? เป็นเช่นนี้ต่อไป คาดว่าฟ้ามืดก็ยังไม่ถึงตำหนักองค์ชายสี่ขอรับ”

“ไม่เป็นไร!”

เสียงเบาๆดังออกมาจากรถม้า ราวกับว่าไม่รีบร้อนแม้สักนิด

ในเวลานี้

จากในฝูงชนก็มีคนที่แต่งตัวเหมือนองครักษ์ผู้หนึ่งเบียดออกมา เขามาถึงข้างรถม้า ยกมือทำความเคารพต่อรถม้ากล่าวว่า

“เทพธิดา ข้าน้อยเป็นองครักษ์ของจวนแม่ทัพ รถม้าของคุณหนูสามบ้านข้าน้อยก็อยู่ด้านหน้า เส้นทางตรงนั้นไม่ติดขัดพอดี

ดังนั้น คุณหนูสามให้ข้าน้อยบุ่มบ่ามมานี่เพื่อเชิญเทพธิดาไปตำหนักองค์ชายสี่พร้อมกัน ไม่ทราบว่าเทพธิดาจะให้เกียรติหรือไม่ขอรับ?”

ตอนนี้ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?

เกียรติก็ต้องให้แน่นอน

ด้วยเหตุนี้!

หลานเยาเยาค่อยๆแหวกม่านรถม้าออก พยักหน้ากับองครักษ์ผู้นั้น จากนั้นก็พูดกับคนขับรถม้า

“อีกเดี๋ยวเจ้ากลับตำหนักได้เลย ไม่ต้องมารับข้าแล้ว”

“ขอรับ!”

หลานเยาเยายกม่านผืนใหญ่ออก เดินออกมา มองดูรถม้าหลังหนึ่งที่อยู่ที่ไกลๆ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

จากนั้น ปลายเท้าจรดพื้นเบาๆ เหาะไปจากรถม้าอย่างรวดเร็ว

เหาะผ่านช่วงถนนที่แออัด ก็เหาะมาถึงบนรถม้าของหลานจิ่นเอ๋อ

เสียงที่นางเหาะลงมาที่รถม้าเบามาก เบาจนถึงเวลาที่นางยืนอย่างมั่งคงบนรถม้าแล้ว คนขับรถม้าของหลานจิ่นเอ๋อถึงได้รู้ถึงความคงอยู่ของนาง

“เจ้า…….คารวะเทพธิดา”

คนขับรถม้าผู้นั้นทีแรกยังคิดจะต่อว่าคนที่มา หลังจากที่เห็นว่าเป็นเทพธิดาก็ยกมือคารวะ และองครักษ์ผู้นั้นที่ไปเชิญเทพธิดาก็เพิ่งจากมุดออกมาจากฝูงชน

เมื่อเห็นเทพธิดาอยู่ที่รถม้าแล้ว ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกอย่างรวดเร็ว

ขณะนี้!

ด้านในรถม้าของหลานจิ่นเอ๋อมีความเคลื่อนไหว ดูเหมือนว่าเป็นเสียงคุกเข่า จากนั้นก็เป็นน้ำเสียงที่หวานไพเราะดังออกมา

“หลานจิ่นเอ๋อทำความเคารพ เชิญเทพธิดารีบเข้ามาเจ้าค่ะ”

“อืม!”

หลานเยาเยาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แหวกม่านผืนใหญ่แล้วเดินเข้าไป

หลานจิ่นเอ๋อคุกเข่าอยู่จริงๆ หลังจากให้นางลุกขึ้น รถม้าก็เริ่มดำเนินช้าๆ

ความเร็วของรถมาช้ามาก แม้ว่าจะไม่ถึงกับช้าจนคนเดินถนนสามารถเดินแซงรถม้าได้ แต่ก็เร็วว่าคนเดินถนนนิดเดียวเท่านั้น

ในรถม้ามีกลิ่นหอม

ราวกับว่าเพียงแค่เป็นรถม้าที่คุณหนูเหล่านั้นใช้โดยเฉพาะ ในรถม้าก็ล้วนมีกลิ่นหอม และแตกต่างออกไปตามความชอบของแต่ละคน กลิ่นหอมในรถม้าก็ไม่เหมือนกัน

แต่ว่า!

ในรถม้าของหลานจิ่นเอ๋อกลิ่นหอมแต่ไม่หอมฉุย ความเข้มข้นกำลังพอดี

ตัวของหลานจิ่นเอ๋อเองนี้ก็เหมือนกัน การแต่งหน้าบนใบหน้างดงามและสุภาพ เป็นแบบบริสุทธิ์สดใสเหมือนไร้การตกแต่งประเภทนั้น

เพียงแต่……

หน้าตาเช่นนี้นั้น จะทำให้คนคิดเชื่อมโยมยังไง นางจะซับซ้อน เกี่ยวข้องกับคำที่มีความหมายถึงอันตรายต่างๆได้ล่ะ?

“เทพธิดากำลังมองอะไรเจ้าคะ? บนหน้าของหม่อมฉันมีสิ่งสกปรกอะไรอยู่หรือเจ้าคะ”

หลานจิ่นเอ๋อลูบที่ใบหน้าของตัวเองด้วยความอายนิดหน่อย

“สิ่งสกปรกน่ะไม่มี แต่ข้ากลับมองเห็นความลุกลี้ลุกลนในดวงตาเจ้า ทำไมหรือ? เห็นข้าแล้วตื่นเต้นหรือ?”

หลานเยาเยามองไปรอบๆนางด้วยความสนใจ มุมปากมีรอยยิ้มที่เป็นแบบสัญลักษณ์ของเทพธิดาแขวนไว้

“ไม่ ไม่มีเจ้าค่ะ”

หลานจิ่นเอ๋อประหม่านิดหน่อย แต่ซ่อนสีหน้าได้อย่างรวดเร็ว

“เช่นนั้นน่าจะไม่เชื่อมั่นในวิชาการรักษาของข้า เพราะเป็นกังวลกับอาการป่วยขององค์ชายสี่สินะ!”

“วิชาการรักษาของเทพธิดาสามารถช่วยคนตายให้ฟื้นได้ หม่อมฉันมีอะไรให้ต้องกังวลเจ้าคะ”

จากนั้นนางเปลี่ยนการสนทนา กล่าวอย่างเป็นห่วง :

“เมื่อครู่หม่อมฉันได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่ไร้ศีลธรรมที่ผ่านมาขององค์ชายสี่ ในใจเกิดความกลัวมาก

หากว่าหลังจากที่เขาฟื้นมา ก็บังคับขู่เข็ญหญิงชาวบ้านอีก ทำร้ายประชาชน เช่นนี้จะไม่ขัดกับความตั้งใจเดิมของเทพธิดาที่ให้ความสุขสวัสดิ์แก่ประชาชนหรือเจ้าคะ?”

พูดเหมือนกับความคิดแทนนางอย่างที่สุด

แต่หลานเยาเยากลับรู้ว่า หลานจิ่นเอ๋อเพียงแค่คิดอย่างจะหยุดยั้งการไปช่วยองค์ชายสี่ของนางเท่านั้น

หึ!

จะทำให้นางสมปรารถนาได้เช่นไร?

“คำลือในตลาดก็ล้วนเป็นข่าวที่ไม่มีมูลซะส่วนใหญ่ แม้ว่าจะจริง ก็เป็นหลังจากโดนผู้คนปากต่อปากแต่งเติมจากความจริงมานับไม่ถ้วน ถึงจะส่งต่อมาถึงหูของพวกเรา

เรื่องราวความเป็นจริงยังต้องรอให้พิจารณา หาว่าองค์ชายสี่เป็นพวกนั้นที่กดขี่ข่มเหงราษฎร เช่นนั้นก็ต้องใช้หลักฐานความจริงถึงจะสามารถมัดตัวเขาส่งเข้าดำเนินตามกฎหมายได้

หากว่าข้าเพื่อเรื่องส่วนตัวแล้ว ละทิ้งการรักษาช่วยคน ท้ายที่สุดปกปิดเรื่องจริงบางอย่าง เช่นนั้นก็จะได้ไม่คุ้มเสีย”

พูดจาระมัดระวังรอบคอบ ก็ทำให้โต้แย้งไม่ได้

เมื่อพูดจบ หลานเยาเยาก็มองเห็นว่าในดวงตาของหลานจิ่นเอ๋อมีแววความเศร้าโศกฉาบผ่านไป

แต่หลานจิ่นเอ๋อก็ผลิยิ้มขึ้นอย่างรวดเร็ว พยักหน้าที่ได้รับการสั่งสอนอย่างมาก

“เทพธิดากล่าวได้ถูกต้องเป็นที่สุด กลับเป็นหม่อมฉันที่ฟังคำร่ำลือ เพียงแต่คิดไม่ถึง เทพธิดาเพื่อองค์ชายรัชทายาทแล้วยินยอมที่จะลดตัวลงมาทำการรักษาให้องค์ชายสี่

เฮ้อ! หากอ๋องเย่รู้ว่าเทพธิดาเอาใจใส่องค์ชายรัชทายาทขนาดนี้ ในใจจะต้องเป็นทุกข์มากแน่ๆเจ้าค่ะ!”

แผนหนึ่งไม่สำเร็จก็มาอีกแผนหนึ่งแล้ว

หลายจิ่นเอ๋อยังคงมีความมานะไม่ท้อจริงเลย!

“ข้าไม่เคยปฏิบัติหน้าเพื่อคนอื่นมาก่อน เพียงแค่เพื่อตัวเอง ช่วยองค์ชายสี่เกี่ยวข้องอะไรกับองค์ชายรัชทายาทและอ๋องเย่?”

นางเข้ามาร่วมอยู่ในคดีการตายของฉินหลิงเจียว และไม่ใช่เพราะคำพูดของฮ่องเต้ที่ให้นางช่วยเหลือ และก็ไม่ใช่เพราะเย่หลีเฉิน

แต่เป็นเพราะเป้าหมายในระยะเวลาอันใกล้ของตัวเอง—โค่นล้มหลานเฉินมู๋

สำหรับคำพูดของนาง

เห็นได้ชัดว่าหลานจิ่นเอ๋อชะงักไปครู่หนึ่ง ดึงสติกลับมาได้ก็รีบกล่าวว่า :

“แม้ว่าจะพูดเช่นนี้ แต่ทุกคนก็ล้วนมองออก อ๋องเย่เข้าไปอยู่ที่ตำหนักเทพธิดาอย่างกระจ่างแจ้งก็เพื่อขอคำอธิบายเกี่ยวกับรถม้า อย่างลับๆก็เพราะโดนเทพธิดาดึงดูด ถึงได้เป็นเช่นนี้

และตอนนี้ เทพธิดาและองค์ชายรัชทายาททำงานด้วยกันอย่างสนิทสนม เลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้คนจินตนาการ อ๋องเย่ก็ต้องคิดว่าคนที่เทพธิดามีใจให้เป็นองค์ชายรัชทายาทแน่นอนเจ้าค่ะ!”

หลานจิ่นเอ๋อไม่เต็มใจที่จะพูดเช่นนี้

นางยอมที่จะเชื่อว่าอ๋องเย่เข้าไปอยู่ที่ตำหนักเทพธิดาเพื่อจะตรวจสอบเทพธิดา ก็ไม่ยอมเชื่อว่า อ๋องเย่คิดอะไรกับเทพธิดา

แต่ว่า!

เพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง นางจะไม่พูดเช่นนี้ไม่ได้

ดวงตาที่พราวเสน่ห์ของหลานเยาเยาหรี่ลงเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:

“ดังนั้น เจ้าก็คิดอยากจะเตือนข้าว่าอย่าเปลี่ยนแปลงโลเลไปมาใช่หรือไม่?”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป!

“สีหน้าของหลานจิ่นเอ๋อก็ซีดเผือด รีบคุกเข่าลงตรงนั้น สีหน้าร้อนรนกระวนกระวายขึ้นมาในพริบตา

“เทพธิดาโปรดระงับความโกรธ หม่อมฉันไม่ได้หมายความเช่นนั้นเจ้าค่ะ”

“ช่างเถอะ รถม้าของเจ้าช้าเกินไป ข้าจะขี่ม้าไปตำหนักองค์ชายสี่ละกัน!”

“ขี่ม้า?”

หลานจิ่นเอ๋อตกใจ!

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท